นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 25 เม.ย. 2024 11:38 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 20 ม.ค. 2009 3:08 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 05 ธ.ค. 2008 12:39 am
โพสต์: 33
เมื่อรักษาศีลความทุกข์ก็จะหมดไป
สาธุชนทั้งหลายเราจะเห็นได้ว่าสิ่งที่มันสกปรกนั้นก็คือจิตของเราถ้าหากว่าเราทำความถูกต้องดีแล้ว ของที่สะอาดมันก็ยังมีอยู่ เหมือนพื้นศาลามันสกปรก หรืออะไรต่างๆ ที่มันได้สกปรกนั้นเมื่อมาเช็ดล้างสิ่งที่มันสกปรกนั้นออก ความสะอาดมันก็พ้นขึ้นมาอยู่ที่นั้น ที่ของสกปรกมันปกปิดอยู่นั่นเอง ความชั่วและความดีของเราทั้งหลายก็เหมือนกันฉันนั้นความชั่วทั้งหลายความดีของเราทั้งหลายก็เหมือนกันฉันนั้น ความชั่วอยู่ตรงไหนความดีก็อยู่ตรงนั้น ความผิดอยู่ตรงไหนความถูกก็อยู่ตรงนั้น ความสกปรกอยู่ที่ไหนความสะอาดก็อยู่ที่นั้น จิตใจเรานี้ก็เหมือนกันฉันนั้น
ธรรมชาติจิตของเราจริงๆ นั้นนะ มันเป็นจิตที่สม่ำเสมอเป็นจิตที่ไม่เศร้าหมอง เป็นจิตที่ผ่องใสขาวสะอาดอยู่อย่างนั้น ที่เศร้าหมองนั้นเพราะมันไปพบกับอารมณ์ พบกับธรรมารมณ์ที่ไม่ชอบของเรานั่นแหละก็ทำให้ใจเราขุ่นมัว ทำใจของเราให้เศร้าหมอง ทำใจของเราให้ไม่สะอาด ทำใจของเราให้สกปรกนี่เพราะอะไร ไม่ใช่จิตของเรามันสกปรกเพราะจิตของเรายังไม่แน่นอนไม่เชื่อมั่นในธรรมทั้งหลายนั่นเองเมื่อประสบกับอารมณ์ที่ไม่ชอบใจเราก็เศร้าหมองได้ อารมณ์ที่ชอบใจใจเราก็ผ่องใสมันก็เป็นอย่างนั้น
ฉะนั้นองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราท่านถึงได้ปฏิบัติไม่ให้พูดเฉยๆ ให้ปฏิบัติก็คือให้ทำความเป็นจริงเช่นว่า เราสมาทานซึ่งศีลอย่างนี้เป็นต้น ก็ว่า ปาณา.....อทินนา....กาเม.....มุสา.....สุรา นี่เรียกว่าศีลแต่เป็นเพียงคำพูดถึงศีลไม่ใช่ตัวของศีล สภาวะของศีลนั้นไม่ใช่ว่าการพูดมันเป็นการกระทำจริงๆ เช่นว่าไม่ฆ่าสัตว์อย่างนี้ เราก็ไม่ฆ่าสัตว์จริงๆ ไม่กินสุราเราก็ไม่กินจริงๆ ไม่พูดโกหกเราก็ไม่โกหกจริงๆ เราไม่ขโมยของๆ คนอื่นเราก็ไม่ขโมยจริงๆ ไม่ใช่แต่พูดดีเฉยๆ ศีลมันอยู่ที่ตรงนั้น อยู่ที่ตรงนื้ อยู่ที่ตรงการกระทำ ไม่อยู่ตรงที่คำพูด ที่พูดขึ้นเพื่อชี้ให้เห็นว่า อันนี้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เมื่อเราตกลงใจว่าเป็นเช่นนั้นแล้วก็ลงมือกระทำได้เลย ลงมือปฏิบัติได้เลยก็จะเกิดผลขึ้นมาอันนั้นท่านเรียกว่าก้อนศีล ที่เราพูดตามภาษาของเรานี้มันก็ลำบาก ถึงวันพระไปรักษาศีลความจริงนั้นมันเป็นคำพูดที่ต่อกันมาเรื่อยๆ เป็นประเพณีเมื่อเราเพ่งความหมายแล้ว ศีลนะเห็นว่าโง่กว่าเราเสียแล้วละมังถึงไปรักษาศีลคงจะไม่ดีขนาดเราถึงไปรักษามัน ถ้าพูดตามความเป็นจริงแล้วศีลนะไม่ต้องไปรักษาท่านหรอกท่านดีอยู่แล้วมารักษาตัวเรานี้เอง รักษากาย วาจา ใจ ของเรานี้ให้ดีศีลมันก็เกิดขึ้นมาเราก็ไม่ต้องไปรักษาศีลแต่รักษาตัวเรานี้คำพูดอันนี้มันพูดสูงเกินตัวไปเสียแล้วละมังว่าเราไปรักษาศีล บางคนไม่รู้จักศีลเลยก็เข้าวัดมา ถามไปไหนไปรักษาศีลก็คิดว่าศีลนะมันเป็นของยาก มันเป็นของลำบาก ความเป็นจริงมันสะท้อนกลับมาและก็มารักษาตัวเรานี้เอง เมื่อรักษาตัวดีไม่มีโทษศีลก็เกิดขึ้นมาที่ตรงนั้นฉะนั้นศีลนี้ไม่อยู่กับคำพูด แต่อยู่ที่การกระทำ องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านสอนให้ฟังอย่างนี้ ให้ความดีเข้าไปฝังในใจ ถ้าความดีเข้าไปฝังในใจแล้วความทุกข์มันก็หมดไป ห่างออกไปอย่างนี้เป็นต้น

หลวงปู่คำสุข ญาณสุโข
วัดป่าซับคำกอง ต.เพชรละคร อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO