ขออนุญาตคัดลอกบทความของท่านอาจารย์สู พรหมเชยธีระ ที่เขียนโดยท่าน อ.ทองทิว สุวรรณฑัต จากหนังสือ "เกิดแต่กรรม ภาคทำไมคนเราจึงเกิดมาแตกต่างกัน?" มานำเสนอให้เพื่อนๆ ชาว N ครับ
สรรพนาม
"ผู้เขียน" ในบทความข้างล่างนี้ จะหมายถึงตัวท่าน
อ.ทองทิว สุวรรณฑัต ครับผม
เซียนสู พรหมเชยธีระ ผู้เสมือนเป็นบิดาของ “ทมยันตี” เมื่อประมาณเกือบยี่สิบปีมาแล้ว
ผู้เขียน (อ.ทองทิว สุวรรณฑัต) ได้อ่านพบประวัติชีวิตของ ท่านอาจารย์สู ในนิตยสาร “แสงเทียน” ของสภายุวพุธิกสมาคมแห่งชาติ และต่อมาได้พบชีวประวัติของท่านอีกครั้งในหนังสือ “ปูชนียบุคคล” ซึ่งเขียนโดย คุณสมพร เทพสิทธา จึงมีความสนใจในตัวท่านอาจารย์สูเป็นอย่างยิ่ง ใคร่จะได้ไปกราบไหว้ท่านที่ จ.ชลบุรี แต่ก็หาโอกาสไม่ได้สักครั้ง
ผู้คลายทุกข์ให้ “ลูกนี” จนกระทั่งปี พ.ศ.2510 ลูกชะนีที่ภรรยาของผู้เขียนนำมาเลี้ยงดูตั้งแต่ขนยังเปียก เติบโตพอจะรู้ภาษาหลายอย่าง เกิดป่วยกะทันหันไม่ยอมกินอาหาร เวลานอนก็สะดุ้งผวา น่าเวทนาเป็นที่สุด ทั้งเราสองคนไม่มีบุตร จึงมีความรัก
“ลูกนี” เสมือนลูกแท้ๆ อันเป็นเหตุให้กลัดกลุ้ม เป็นทุกข์เป็นร้อนไปด้วย จนผู้เขียนอดรนทนไม่ไหว จำเป็นต้องหาทางช่วยเหลือลูกที่กำลังป่วยไข้ให้จนได้
เมื่อคิดดังนั้น ผู้เขียนก็มุ่งเดินทางไปยังจังหวัดชลบุรีทันที เพื่อจะไปขอความกรุณาจากท่านอาจารย์สู ให้ท่านรักษาลูกของเรา โดยที่ผู้เขียนเองยังไม่เคยรู้จักกับท่านมาก่อน และไม่ทราบว่าบ้านของท่านอยู่ที่ไหน แต่ในขณะที่นั่งรถ บขส. ไปนั้น ได้ตั้งจิตภาวนาว่า ขอให้ได้พบท่านอาจารย์สูสมความปรารถนาเถิด อย่าได้เสียเที่ยวเลย นึกไปเช่นนี้ภาวนาไปเช่นนี้ตลอดทาง
พอรถถึงชลบุรี ผู้เขียนก็เที่ยวสอบถามสามล้อที่มาคอยรับผู้โดยสารอยู่ 3-4 รายถึงบ้านของท่านอาจารย์สู ไปได้ความเอาคนสุดท้ายที่เป็นชายวัยกลางคน ก็ดีใจเป็นที่สุด จึงว่าจ้างให้ไปส่งที่บ้านท่าน บ้านของท่านอาจารย์เป็นตึก 2 ชั้น ตั้งอยู่ในบริเวณที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ บรรยากาศภายในบ้านมีแต่ความสงัด ไม่มีเสียงผู้คนเอะอะแม้แต่น้อย ผู้เขียนกดกริ่งที่หน้าประตูชั่วครู่เดียว ก็มีผู้หญิงวัย 40 เศษ ออกมาถามความประสงค์ของผู้เขียน เมื่อแจ้งให้ทราบแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็เปิดประตูเชิญให้เข้าไปข้างใน แล้วบอกให้ขึ้นไปชั้นบนของตึก