นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พุธ 24 เม.ย. 2024 1:00 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 20 ม.ค. 2009 12:57 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 10:40 am
โพสต์: 369
พอดีมีข้อมูลที่คุณพี่รณธรรม ธาราพันธุ์ ผมได้เก็บเอาไว้ เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่คนทั่วไป เลยขอนำมาเผยแพร่ครับ เผื่อชาว น. คนไหนยังไม่ได้อ่านก็จะได้รับความรู้เพิ่มเติมครับ


1. เรื่องคาถาของท่านอาจารย์สู พรหมเชยธีระ

ตอบ อาเตียมีคาถาด้วยกับหลายสิบบท หลายสิบแบบ หากคาถาแต่ละชนิดนั้นท่านจะเป็นผู้มอบให้ศิษย์ตามที่ท่านเห็นสมควรเอง โดยแต่ละคาถาจะมีคำพูดอยู่ไม่กี่คำ ที่รู้..ส่วนใหญ่มักอยู่ระหว่าง 4 – 10 คำ และท่านจะสั่งเลยว่า ไม่ให้บอกกับใคร ห้ามจด ให้จำเอาเพียงอย่างเดียว ซึ่งที่พบเจอ เมื่อท่านจะให้คาถาใคร คาถานั้น ๆ มักเป็นสิ่งที่จะได้ใช้ในทันทีนั้น หรือในเวลาต่อมาไม่นาน จึงเชื่อกันว่าอาเตียมี ‘อนาคตังสญาณ’ รู้เหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะเกิด และคาถาที่ให้ก็จะเป็นเหมือนคาถาเฉพาะกิจ เมื่อไม่มีเหตุเช่นนั้นเกิดอีกก็แปลว่าจะไม่ได้ใช้อีกเลย มันไม่เหมือนกับเป็นคาถาทั่ว ๆ ไป เช่น คาถาสวดขอโชคลาภอย่างคาถาพระสิวลีซึ่งแพร่หลาย ใคร ๆ ก็หาสวดได้อะไรทำนองนี้ อาเตียไม่เคยให้คาถาอย่างนั้นครับ

2. ธรรมะของอาเตีย

ตอบ ท่านพูดธรรมะบ่อยก็จริง แต่การพูดของท่านไม่ได้มีลักษณะอย่างการเทศน์เป็นเรื่องเป็นราวยาว ๆ จึงไม่มีบันทึกไว้ในลักษณะนั้น แต่ท่านจะพูดเป็นประโยค ๆ กับแต่ละบุคคลที่มาสนทนาด้วย แม้เป็นคำพูดที่กินใจ มีความหมายลึกซึ้ง แต่ถ้าให้พูดขึ้นมาโดยไม่เท้าความก่อนก็มักไม่ค่อยเข้าใจ

ที่สำคัญเหนืออื่นใด อาเตียบอกเสมอว่า “ธรรมะของอั๊วสำหรับคนปฏิบัติเท่านั้น คนไม่ปฏิบัติไม่อาจเข้าใจ หากจะนำไปพูดต่อก็จะเป็นโทษมากกว่าเป็นประโยชน์”

แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคำแนะนำในเรื่องการปฏิบัติภาวนาที่เป็นสาธารณธรรม คือสามารถเผยแพร่แก่คนทั่วไปได้เพราะเป็นธรรมกลาง ๆ เช่นการแนะนำหลักเบื้องต้นของการภาวนาว่า

“เมื่อเข้ากัมมัฏฐานก็ขอให้มีความอดทนปฏิบัติไป ฉะนั้นเริ่มต้นเข้ากัมมัฏฐาน ถ้าก้าวแรกถูก ก้าวต่อไปก็ถูกด้วย ก้าวแรกผิด ปลายทางก็ผิดหมด สำเร็จหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง ขอก้าวแรกให้ถูก”

และท่านก็แนะวิธีปฏิบัติซึ่งให้ผลเร็วว่า

“เมื่อจะนั่งภาวนาหรือจะนอน ให้ตั้ง ‘สติ’ ให้แน่วแน่แล้วกำหนดไปเลยว่า ดีไม่คิด เลวไม่คิด ทำจิตให้สบาย ไม่ต้องภาวนาพุทโธ ธัมโม สังโฆ หรืออะไรทั้งนั้น มันช้าไป”

วิธีการนี้จะถือว่าเป็นทางลัดก็ว่าได้ ที่ว่าลัด ก็ลัดเข้ามาที่ใจนี้เอง

“นึกคิดปรุงแต่งหยุด กายหยุด ใจหยุด หายใจไม่มีเข้า-ออก เริ่มเข้าสมาธิได้ เขาถืออารมณ์ธรรมชาติเป็นสุดทาง พุทธเอาอารมณ์ธรรมชาติมาเข้ากัมมัฏฐาน อารมณ์ธรรมชาติไม่มีอะไรให้ผุดขึ้น ไม่มีแม้นอารมณ์ธรรมชาติ ไม่มีแม้นไม่มีอารมณ์ธรรมชาติ สมมุติเรียกอารมณ์ธรรมชาติ…”

นี่เป็นคำสอนของท่านครับ

3. มรดกขลังของอาเตีย

ตอบ ผู้มีอำนาจจิตแท้จริง ย่อมให้กำเนิดขลังเพื่อสงเคราะห์สรรพชีวิตที่ยังติดข้องอยู่ อาเตียแม้ไม่ใช่พระสงฆ์ แต่ข้อวัตรแล้ว...ยิ่งกว่าสงฆ์หลายรูปจะเทียบได้ อำนาจจิตที่ฝึกมาดีเลิศผนวกกับคนทุกข์ที่บากหน้ามาหา ทำให้ท่านจำต้อง ‘ผลิต’ มงคลวัตถุมาสงเคราะห์โลกจนได้ในที่สุด

3.1 พระปิดตาพิมพ์หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์

เรื่องพระปิดตานี้ต้องชี้แจงก่อนว่า ที่จริงแล้วไม่ใช่ท่านจะมุ่งทำพระเครื่องออกมาเหมือนอย่างครูบาอาจารย์รูปอื่น ๆ แต่อาเตียนั้นมีความสามารถรอบด้านโดยเฉพาะเรื่องยาสมุนไพร เตียมียาตัวหนึ่งซึ่งล้วนประกอบขึ้นด้วย ‘ยาพิษ’ ทั้งสิ้น ปรุงขึ้นเพื่อแก้พิษต่าง ๆ ที่ผู้เคราะห์ร้ายไปถูกเข้า ตรงกับลักษณะที่ว่า “ใช้พิษแก้พิษ” นั่นเอง ศิษย์เรียกยาขนานนี้ว่า

ยางู

ด้วยคุณสมบัติขจัดพิษไม่ว่า พิษงู ตะขาบ แมงป่อง ปลาดุกทะเล ปลาดุกน้ำจืดยักเงี่ยง ทำความเจ็บปวดให้ แม้กระทั่งถูกหมาบ้ากัด หากมียางูติดตัวอยู่รับรองที่จะตายก็ไม่ตาย ที่เจ็บปวดก็ทุเลาจนหายได้ในเวลาไม่นาน เพราะอานุภาพอย่างนี้ทำให้มีคนมาขอยาของเตียจากทุกสารทิศ และท่านก็แจกเป็นทานไม่เคยเอาเงินใคร

ต่อมาคนที่มาขอมากเข้า หลายคนก็เป็นชาวประมงที่ไม่สะดวกต่อการพกพา เตียจึงไปขอยืมพิมพ์พระปิดตาหลังแบบ จากเจ้าอาวาสวัดหนองตำลึงซึ่งคุ้นเคยกันดี แล้วเอายางูนี้แหละมากดพิมพ์ลงไป จึงเกิดเป็นพระปิดตาหลังแบบเนื้อยางูขึ้น เตียยังพูดขำ ๆ ว่า

“พระของคนอื่นกันมีดกันปืน แต่พระของอั๊วกันงู”

ดังนั้น ทุกวันนี้หากใครคิดหาพระปิดตาหลังแบบ ก็คงไม่ได้เจอของเตียง่าย ๆ ด้วยคนที่เคยได้รับอาจใช้กินใช้ทาไปหมดแล้วเพราะเป็นยาทั้งองค์

3.2 ผ้ายันต์แดง

อาเตียจะใช้ผ้าสีแดงมาลงอักขระเป็นภาษาจีนลงไป 6 ตัว แต่ละตัวจะอยู่ที่ตำแหน่งตา หู จมูก ปาก พอดี เตียบอกว่ายันต์นี้มีความหมายถึงอายตนะทั้ง 6 อยากให้รู้จักการควบคุมอายตนะซึ่งมีใจเป็นหัวหน้า ท่านจึงกำหนดคำบริกรรมสำหรับท่านและศิษย์ว่า “งาน มา นี ปะ มี ฮง” ซึ่งมาจากคาถาภาษาธิเบต คือ “โอม มณี ปัทเม หุม” แปลว่า ดวงแก้วเกิดแล้วในดอกบัว ความหมายก็คือ มีสติปัญญาเกิดขึ้นในจิต นั่นเอง

ผ้ายันต์นี้มีอานุภาพมากจริง ๆ ใช้ได้ครอบจักรวาลทีเดียว คนที่กำลังจะถูกเกณฑ์ทหารนี้ต้องการมากที่สุดถ้าไม่อยากจับได้ใบแดง หากขอผ้ายันต์นี้แล้วได้ไป อีกทั้งทำตามกรรมวิธีที่เตียสั่ง รับรองได้ว่าอย่างไรก็ไม่ต้องเป็นทหาร แต่เตียจะบอกให้บวชทดแทนเพราะการเป็นทหารก็คือรับใช้ชาติแทนคุณแผ่นดิน หากไม่เลือกหนทางหนึ่ง ก็ต้องเลือกอีกหนทางหนึ่งคือบวชเพื่อแทนคุณพ่อแม่และแผ่นดินเกิดได้เช่นกัน

ปกติเตียจะทำผ้ายันต์ตามที่มีผู้มาขอ หากครั้งสุดท้ายก่อนละขันธ์ เตียได้เอาผ้าแดงมาปึกใหญ่แล้วนั่งเขียนอักขระจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นได้นำไปวางไว้หน้าพระประธานในโบสถ์วัดนอก แล้วท่านก็ออกมานอกโบสถ์และยืนเพ่งดวงอาทิตย์ที่กำลังแผดแสงแรงกล้าในยามใกล้เที่ยงอยู่นานหลายสิบนาที แล้วเตียก็เดินกลับเข้าไปในโบสถ์ยืนจ้องผ้ายันต์ปึกใหญ่ตาไม่กะพริบ

น่าอัศจรรย์เหลือเกินที่ผ้าทั้งปึกเกิดกระพือขึ้นราวกับใครเปิดพัดลมอย่างแรงจ่อใส่ ส่วนไม้ครูนับสิบอันที่นำมาเสกพร้อมกันแล้ววางอยู่บนพาน ก็มีอาการงอลง ๆ แล้วดีดตัวขึ้นเองได้อย่างน่าขนลุก สิ่งดังกล่าวนี้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาที่เตียเพ่งกระแสจิตลงสู่ของนั้น กระทั่งท่านหยุดแล้วละสายตาออกมา ทุกอย่างก็กลับเป็นปกติ

เป็นที่น่าเสียดายว่าเมื่ออาเตียละสังขาร ท่านเจ้าคุณศรีนวลก็ได้มาถามหาไม้ครูและผ้ายันต์ชุดนี้พร้อมกับนำไปด้วยจนหมด จึงไม่เหลือตกหล่นที่จะพอหาได้โดยง่ายใน จ.ชลบุรี

3.3 ไม้ครู

ซึ่งที่จริงก็คือไม้อ้อซึ่งเตียไปตัดมาจากบนเขาปากแรด แล้วนำมาอธิษฐานจิตเป็นไม้ไล่ผี ตามที่เตียเรียก แต่ผมไม่อยากเรียกของดีแบบไม่สุภาพอย่างนั้น เตียจะเรียกก็ให้เป็นเรื่องของท่านไปเพราะท่านเป็นคนสร้าง แต่ผมสบายใจกว่าที่จะเรียกของสิ่งนี้ว่า ‘ไม้ครู’

ไม้ครูนี้เตียจะเพ่งด้วย ‘เตโชธาตุ’ จากดวงอาทิตย์ทุกอัน และเวลาที่ท่านจะ ‘มอง’ ก็ต้องอยู่ในช่วงเวลา 11.00 น. ถึงเวลา 13.00 น. เสียด้วย เรียกว่าแดดกำลังแรงเลยทีเดียว เป็นเรา ๆ ท่าน ๆ อย่าว่าแต่เบิ่งตามองเลย แค่จะแหงนหน้าสู้แล้วทำตายิบหยีแลมองก็หมดปัญญาแล้ว เห็นได้ชัดว่าท่านต้องบรรลุคุณธรรมอย่างน้อยก็ตามพระพุทธองค์กล่าวว่า ผู้ใดบรรลุถึงจตุตถฌานก็สามารถมองพระอาทิตย์ให้เย็นตาได้ดังมองพระจันทร์เมื่อวันเพ็ญ

ไม้นี้เป็นตัวแทนของเตียในรูปวัตถุ ใครได้ไปก็เท่ากับมีท่านอยู่ด้วยเสมอ ๆ ใช้ทำอะไรได้สารพัดตามแต่ผู้ครอบครองจะมีปัญญา เพราะเตียมักแกล้งบอกว่า “ใช้ยังไงไม่รู้ ลื้อลองเอาไปดู” คือท่านอยากจะให้รู้ได้ด้วยตัวเอง

3.4 ปรอทสำเร็จ

เตียได้วิธีการทำปรอทนี้จากคนแก่คนหนึ่ง แกว่าแกก็ทำไม่สำเร็จ เห็นแต่เซียนสูนี้เท่านั้นที่จะทำให้เป็นผลสำเร็จได้ แล้วเตียก็สามารถหุงปรอทได้ตามตำราเก่านั้นจริง ๆ

อันเม็ดปรอทนี้ถือได้ว่าเป็นของดีอันดับหนึ่งของท่านทีเดียว สมัยเตียยังมีชีวิตอยู่ใครก็ต่างมุ่งหน้ามาขอปรอทสำเร็จจากเตีย และเตียก็เลือกคนมอบให้ทุกรายไป แม้บางคนจะกดดันเตียจนได้ไป แต่ยังไม่ถึงบ้านก็อันตรธานหายหมด และไม่ต้องสงสัยว่ามันก็จะกลับมาอยู่บนโต๊ะพระ หรือแถวที่นั่งรับแขกของเตียทุกครั้งไป ท่านบอกว่า เขาไม่มีบารมีพอที่จะรักษามัน

ปรอทของเตียใช้ได้สารพัดอย่าง โดยเฉพาะการรักษาโรคมะเร็ง และแก้พิษทุกชนิด ส่วนคงกระพัน กันมีด กันปืน นี้ไม่ต้องสงสัย คนที่มีอยู่ในครอบครองต่างพากันหวงแหนยิ่งชีวิต

การทำปรอทของเตียนั้นยากเย็นที่สุด ต้องใช้น้ำปลาร้า และน้ำต่าง ๆ ที่เหม็นสุดยอดสามอย่างมาบดกับปรอทให้มันกิน แล้วท่านก็จะสุมไฟพร้อมกับบริกรรมเพ่งจนปรอทแข็งตัว เมื่อสำเร็จทุกขั้นตอนแล้วถือได้ว่าปรอทนั้นมีฤทธิ์มากจนเทวดาบางจำพวกยังอยากได้ ต้องแอบมาขโมยไปจากศิษย์ของท่านบ่อย ๆ ท่านจึงต้องสอนคาถาครอบปรอทให้ศิษย์ เพื่อป้องกันตัวโกง

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของอาเตียที่ผมทราบ ที่จริงก็ยังมีอีกมากแหละครับ แต่ด้วยเวลาและเนื้อที่ ทำให้ผมคงเล่าได้เพียงเท่านี้ ท่านใดที่มีความเคารพนับถืออาเตียจากใจจริง ก็ขอจงพากเพียรทำสมาธิภาวนาตามที่ท่านพร่ำสอนเถิดครับ แม้ว่าจะภาวนากันคนละแบบ คนอย่างก็ตาม ไม่จำเป็นต้องทำสมาธิตามวิธีที่ท่านสอนเป๊ะ ๆ หรอกครับ

ผมเชื่อว่ามรดกที่แท้จริงซึ่งเตียให้ไว้ ก็คือคำสอนที่มีค่าซึ่งพวกเราสามารถปฏิบัติตามได้ในทุกที่ทุกแห่งไม่ว่างเว้น ทุกคนสามารถใกล้ชิดและเป็นศิษย์เตียได้ด้วยธรรมครับ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 22 ม.ค. 2009 6:26 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 10:41 am
โพสต์: 1599
ถ้าคุณพี่becknui มีรูปประกอบด้วยก็จะแหล่มมากๆฮะ

_________________
ชาตินี้ไม่จริง ชาติไหนก็ไม่จริง


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 24 ม.ค. 2009 10:40 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 02 พ.ย. 2008 10:36 am
โพสต์: 114
เรียนท่านพี่ becknui คุณอารณธรรม คุณพี่เด็กลึกลับ :P
น้องอยากเห็นภาพของท่านเซียนสู และภาพของวัตถุมงคลที่ท่านทำขึ้น
แล้วเรื่องราวที่ว่ามีผีผู้หญิงดุๆ ในเมืองชล เป็นมายังไงฮับ
ปัจจุบันมีศิษย์ที่ได้รับสืบทอดวิชาจากท่านเซียนสูอยู่บ้างไหมฮับ
ขอบพระคุณฮับ
:ilu:

_________________
....สูซอบเพลงฝรั่ง ข้าซอบฟังเสียงซึง
เอ๊า...ตึง ตึง ต๊ะ ติด ตึง ข้าดีดซึงก้องป่า....@


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 25 ม.ค. 2009 1:21 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ผมขออนุญาตให้ตาอิน กับ ตานา ผู้อยู่หัวและท้ายตอบก่อนนะครับ :lol: :lol: :lol:

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 25 ม.ค. 2009 10:25 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 10:41 am
โพสต์: 1599
เด็กลึกลับไม่มีข้อมูลนี้ฮะ

เฮ่อ

ไปกินเตี๋ยวเรือดีกว่า

_________________
ชาตินี้ไม่จริง ชาติไหนก็ไม่จริง


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 25 ม.ค. 2009 11:29 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ไปด้วย ไปด้วย

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 26 ม.ค. 2009 8:29 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 29 ก.ย. 2008 12:53 pm
โพสต์: 754
ไปแล้วไม่ชวนกันบ้างนะพี่น้อง :lol: :lol:

_________________
.........ถ้าเจ้าได้ทุกอย่างอย่างที่คิด
ชั่วชีวิตจะเอาของกองที่ไหน
จะได้บ้างเสียบ้างจะเป็นไร
ช่างหัวใครช่างหัวมันเท่านั้นเอง ..........


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 30 ม.ค. 2009 5:27 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 13 ต.ค. 2008 1:09 pm
โพสต์: 139
ขออนุญาตคัดลอกบทความของท่านอาจารย์สู พรหมเชยธีระ ที่เขียนโดยท่าน อ.ทองทิว สุวรรณฑัต จากหนังสือ "เกิดแต่กรรม ภาคทำไมคนเราจึงเกิดมาแตกต่างกัน?" มานำเสนอให้เพื่อนๆ ชาว N ครับ
สรรพนาม "ผู้เขียน" ในบทความข้างล่างนี้ จะหมายถึงตัวท่าน อ.ทองทิว สุวรรณฑัต ครับผม :ilu:

เซียนสู พรหมเชยธีระ ผู้เสมือนเป็นบิดาของ “ทมยันตี”

เมื่อประมาณเกือบยี่สิบปีมาแล้ว ผู้เขียน (อ.ทองทิว สุวรรณฑัต) ได้อ่านพบประวัติชีวิตของ ท่านอาจารย์สู ในนิตยสาร “แสงเทียน” ของสภายุวพุธิกสมาคมแห่งชาติ และต่อมาได้พบชีวประวัติของท่านอีกครั้งในหนังสือ “ปูชนียบุคคล” ซึ่งเขียนโดย คุณสมพร เทพสิทธา จึงมีความสนใจในตัวท่านอาจารย์สูเป็นอย่างยิ่ง ใคร่จะได้ไปกราบไหว้ท่านที่ จ.ชลบุรี แต่ก็หาโอกาสไม่ได้สักครั้ง

ผู้คลายทุกข์ให้ “ลูกนี”
จนกระทั่งปี พ.ศ.2510 ลูกชะนีที่ภรรยาของผู้เขียนนำมาเลี้ยงดูตั้งแต่ขนยังเปียก เติบโตพอจะรู้ภาษาหลายอย่าง เกิดป่วยกะทันหันไม่ยอมกินอาหาร เวลานอนก็สะดุ้งผวา น่าเวทนาเป็นที่สุด ทั้งเราสองคนไม่มีบุตร จึงมีความรัก “ลูกนี” เสมือนลูกแท้ๆ อันเป็นเหตุให้กลัดกลุ้ม เป็นทุกข์เป็นร้อนไปด้วย จนผู้เขียนอดรนทนไม่ไหว จำเป็นต้องหาทางช่วยเหลือลูกที่กำลังป่วยไข้ให้จนได้

เมื่อคิดดังนั้น ผู้เขียนก็มุ่งเดินทางไปยังจังหวัดชลบุรีทันที เพื่อจะไปขอความกรุณาจากท่านอาจารย์สู ให้ท่านรักษาลูกของเรา โดยที่ผู้เขียนเองยังไม่เคยรู้จักกับท่านมาก่อน และไม่ทราบว่าบ้านของท่านอยู่ที่ไหน แต่ในขณะที่นั่งรถ บขส. ไปนั้น ได้ตั้งจิตภาวนาว่า ขอให้ได้พบท่านอาจารย์สูสมความปรารถนาเถิด อย่าได้เสียเที่ยวเลย นึกไปเช่นนี้ภาวนาไปเช่นนี้ตลอดทาง

พอรถถึงชลบุรี ผู้เขียนก็เที่ยวสอบถามสามล้อที่มาคอยรับผู้โดยสารอยู่ 3-4 รายถึงบ้านของท่านอาจารย์สู ไปได้ความเอาคนสุดท้ายที่เป็นชายวัยกลางคน ก็ดีใจเป็นที่สุด จึงว่าจ้างให้ไปส่งที่บ้านท่าน บ้านของท่านอาจารย์เป็นตึก 2 ชั้น ตั้งอยู่ในบริเวณที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ บรรยากาศภายในบ้านมีแต่ความสงัด ไม่มีเสียงผู้คนเอะอะแม้แต่น้อย ผู้เขียนกดกริ่งที่หน้าประตูชั่วครู่เดียว ก็มีผู้หญิงวัย 40 เศษ ออกมาถามความประสงค์ของผู้เขียน เมื่อแจ้งให้ทราบแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็เปิดประตูเชิญให้เข้าไปข้างใน แล้วบอกให้ขึ้นไปชั้นบนของตึก

_________________
ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร อยู่ในภพที่สูงส่งเพียงไร ก็หนีความทุกข์ไม่พ้น


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 30 ม.ค. 2009 5:31 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 13 ต.ค. 2008 1:09 pm
โพสต์: 139
ผู้เขียนเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง ที่มีห้องโถงติดกับห้องนอนของท่านอาจารย์ ซึ่งกรุด้วยมุ้งลวด มีเก้าอี้ไม้มะเกลือสีดำเป็นมัน กับโต๊ะเล็กๆ ตั้งอยู่หน้าประตู ผู้เขียนจึงทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งเพื่อรอพบท่าน ชั่วครู่เดียวเท่านั้น ชายจีนวัยหกสิบ รูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้ากลม ศีรษะโล้นเกรียน ผิวขาวสะอาด ในชุดเสื้อขาว กางเกงขาว แววตาเต็มไปด้วยความเมตตา ก็เปิดประตูเดินออกมาหาผู้เขียน พลางถามด้วยภาษาไทยที่ไม่สู้ชัดเจนนักว่า

“คุณมีอะไร ?”

ผู้เขียนรีบทำความเคารพ เพราะแน่ใจว่าท่านผู้นี้คือท่านอาจารย์สู ที่ตนปรารถนาจะมาพึ่งท่าน แล้วเล่าความทุกข์ของผู้เขียนกับภรรยาเกิดจากการเจ็บป่วยของ “ลูกนี” ให้ท่านฟัง
ท่านอาจารย์สูฟังจบท่านก็ยิ้มบอกว่า

“รักสัตว์ทั้งผัวทั้งเมีย”

ผู้เขียนรับคำแล้วนิ่งอยู่ จากนั้นท่านอาจารย์ก็สั่งผู้เขียนว่า

“ชูนิ้วของคุณมาซิ! นิ้วไหนก็ได้ เอานิ้วเดียว!”

ผู้เขียนงง เพราะยังไม่ทราบว่าอะไรเป็นอะไร แข็งใจถามไปว่า

“มือไหนครับ?”

“มือขวา!”

ผู้เขียนกลั้นใจยกนิ้วชี้ ท่านอาจารย์สูเห็นแล้วหัวเราะบอกว่า

"ไม่มีอะไร ลูกชะนีของคุณไม่ได้เจ็บป่วยเป็นอะไร เขาอยากเที่ยว กลับไปนี่คุณพาเขาออกเที่ยวตามสวนที่มีต้นไม้มากๆ เดี๋ยวก็หาย!”

ผู้เขียนกลับกรุงเทพฯ ในบ่ายวันนั้น รุ่งเช้าก็พาภรรยากับ “ลูกนี” ขึ้นรถขับไปเที่ยวบ้านคนรู้จัก ที่ในสวนบางขุนนนท์ พอลูกนีเห็นต้นไม้ที่มีอยู่ดาษดื่นก็ร้องกรี๊ดกร๊าด ลงจากสะเอวแม่ได้ก็ปราดเข้าไปปีนป่ายด้วยความสนุกสนานสำราญใจ จนเย็นค่ำจึงกลับบ้าน นับแต่นั้นมาลูกนีของเราก็หายป่วยเป็นปลิดทิ้ง กินได้นอนหลับเป็นอันดี! ผู้เขียนกับภรรยายังระลึกถึงพระคุณของท่านอาจารย์สูจนทุกวันนี้และมิลืมเลย!

_________________
ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร อยู่ในภพที่สูงส่งเพียงไร ก็หนีความทุกข์ไม่พ้น


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 30 ม.ค. 2009 5:33 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 13 ต.ค. 2008 1:09 pm
โพสต์: 139
ย้อนรอยชีวประวัติอาจารย์สู

เมื่อผู้เขียนไปสำรวจป่าเขาเขียว ชลบุรี เพื่อหาเนื้อที่สำหรับก่อตั้งสวนสัตว์เปิดขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ก็ได้แวะไปกราบท่านอาจารย์อีกหลายครั้ง และทุกครั้งท่านได้ให้ความเมตตาต้อนรับ สนทนาปราศรัยเป็นอย่างดี ถึงขนาดเคยชักชวนให้ผู้เขียนพาผู้ใต้บังคับบัญชาไปขุดสมบัติบนเขาเขียวกับท่าน แต่วาสนาของผู้เขียนมีน้อย จึงไม่สามารถพาใครไปร่วมกับท่านได้ ก็เป็นอันล้มเลิกไป

บัดนี้ท่านอาจารย์สูสิ้นแล้ว ถึงกระนั้นผู้เขียนยังอดคิดไม่ได้ว่า จะหาฆราวาสปฏิบัติธรรมและได้ผลระดับท่านนั้น คงจะยากยิ่งนัก อีกประการหนึ่ง คุณวิมล ศิริไพบูลย์ เจ้าของนามปากกา “ทมยันตี” อดีตวุฒิสมาชิกหญิง ซึ่งรักนับถือกับผู้เขียน (อ.ทองทิว สุวรรณทัต) ประดุจน้องพี่ร่วมอุทร ได้เล่าให้ผู้เขียนฟังถึงความสัมพันธ์ระหว่างท่านอาจารย์สูกับเธอ ที่มีความเคารพเสมือนพ่อกับลูก เกี่ยวกับประสบการณ์แปลกๆ ที่เธอได้พบมาด้วยตัวเองอีกด้วย จึงขอถือโอกาสนำชีวประวัติของท่านอาจารย์สู มาเผยแพร่เพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติทั่วไป และเพื่อเป็นการบูชาพระคุณที่ท่านได้เมตตากรุณาต่อผู้เขียนดังต่อไปนี้

ท่านอาจารย์สู พรหมเชยธีระ เป็นคนจีนโดยแท้ ท่านเกิดที่มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม 2450 ท่านได้ออกจากบ้านเพื่อแสวงหาความรู้ทางธรรม และแพทย์แผนโบราณตามสำนักเต๋า, ขงจื๊อ และศาสนาพุทธ โดยมอบสมบัติให้น้องชายดูแล แล้วออกจากประเทศจีนท่องเที่ยวหาความรู้ต่างๆ ในอินโดจีน จนในที่สุดเข้ามาตั้งรกรากที่จังหวัดชลบุรี ด้วยการประกอบอาชีพทอดปาท่องโก๋และขายขนมเป็นหลัก เมื่ออายุ 34 ปี ได้แต่งงานกับ คุณสุนันท์ บุญประเวศ จึงได้ภรรยามาแบ่งเบาภาระ ทำให้ท่านมีเวลาฝึกกัมมัฏฐาน และช่วยเหลือผู้อื่นได้เต็มที่

_________________
ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร อยู่ในภพที่สูงส่งเพียงไร ก็หนีความทุกข์ไม่พ้น


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 30 ม.ค. 2009 5:40 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 13 ต.ค. 2008 1:09 pm
โพสต์: 139
ฝากตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์เหนือโลก

ครั้นท่านมีอายุ 41 ปี ก็ได้พบพระรูปหนึ่งอยู่วัดราษฎร์บำรุง ชื่ออาจารย์เชย ซึ่งมากำกับท่านขณะนั่งกัมมัฏฐานในนิมิตอยู่เสมอมิเคยขาด เมื่ออาจารย์สูได้พบกับท่านอาจารย์เชยที่ตรงกับตนเห็นในนิมิต จึงเกิดความเลื่อมใสได้เข้ามอบตัวเป็นศิษย์แต่นั้นมา

พระอาจารย์เชย มีวัตรปฏิบัติแปลกกว่าภิกษุอื่นๆ ปกติท่านไม่ค่อยพูด ในบางครั้งขุดดินอยู่ใต้พื้นดินขังตัวเอง ทำแต่ปล่องอากาศสำหรับหายใจเหมือนเรือดำน้ำ ท่านจะครองแต่จีวรเก่าๆ จำวัดอยู่ในโกดังเก็บศพ และชอบนอนในโลงศพเป็นนิจศีล! บางทีก็ออกไปนั่งอยู่กลางนา ฝนจะตก แดดจะออกขนาดไหน ท่านก็นั่งเฉยอยู่อย่างนั้น วันหนึ่งเด็กเลี้ยงควายไปเห็นพื้นที่อาจารย์เชยนั่งอยู่ท่ามกลางแสงแดดกลับร่มเป็นวงกลมคล้ายมีกลดมาบัง! ครั้งถึงคราวฝนตกเด็กก็ไปเห็นฝนไม่ตกเฉพาะพื้นที่ที่พระอาจารย์เชยนั่ง! เด็กๆ จึงโวยวายเอาไปเล่าให้ผู้ใหญ่ฟัง เลยมีผู้คนแห่ไปขอหวยเป็นการใหญ่ จนโดนท่านด่าเปิดไปตามๆ กัน

เมื่อท่านอาจารย์สูไปขอมอบตัวเป็นศิษย์นั้น พระอาจารย์เชยสั่งให้นำดอกไม้ 5 ชนิดไปถวาย แล้วท่านได้สอนวิชากำหนดลมหายใจเข้าออก หรืออานาปาณสติ แล้วไล่อาจารย์สูไปปฏิบัติเอง ท่านอาจารย์สูเคยเล่าว่า พระอาจารย์เชยชอบทำอะไรแผลงๆ เช่น

คราวหนึ่งท่านปีนขึ้นไปบนยอดตาลแล้วเอาใบตาลเสียบแขน 2 ข้าง เป็นปีกกระพือขึ้นลง พลางตะโกนว่า “กูจะเหาะแล้วโว้ย !” ทันใดนั้นก็กระโดดลงมาจากยอดตาลถึงพื้นดิน เดินขึ้นกุฏิหน้าตาเฉย! ถ้าเป็นคนธรรมดาขาคงหักป่นปี้กองอยู่ตรงนั้น

มีอยู่อีกคราวหนึ่ง อาจารย์สูไปหาพระอาจารย์เชยทั่ววัดก็ไม่พบ ไปเจอท่านกำลังยืนพิงเจดีย์ หัวเราะอยู่คนเดียว อาจารย์สูเข้าไปถามว่ามาทำอะไรอยู่ที่นี่ พระอาจารย์เชยตอบว่า กำลังดูละครสนุกสนุก อาจารย์สูสงสัยถามว่าละครที่ไหน ท่านบอกว่าละครที่กรุงเทพฯ อยากดูไหม?

ว่าแล้วพระอาจารย์เชยก็ชี้ให้อาจารย์สูดูที่กำแพง ปรากฏว่าท่านยกละครมาทั้งโรงมาแสดงให้ดูจริงๆ เป็นภาพปรากฏออกมาเหมือนเขาถ่ายโทรทัศน์กระนั้น !

ครั้นท่านอาจารย์สูไปค้างกับพระอาจารย์เชยบนเขาปากแรดนั้น ท่านเล่าว่าเมื่อพระอาจารย์เชยฉันข้าวเสร็จ ท่านจะเอาข้าวสุกกองไว้กลางแจ้ง ปากก็เรียก

“หนูจ๋า มากินข้าว”

สักครู่ก็เห็นหนูนับร้อยๆ ตัวออกมาแย่งกินข้าวกันเจี๊ยวจ๊าวไปหมด พระอาจารย์เชยเห็นดังนั้นก็สั่ง

“เข้าแถวเรียงหนึ่งกินทีละตัว !”

พวกหนูก็จะเข้าแถวกินทีละตัวจนอิ่ม

เมื่ออาจารย์สูปฏิบัติอานาปาณสติสำเร็จแล้ว เช้าวันหนึ่งพระอาจารย์เชยก็เรียกเข้าไปหาแล้วบอกว่า

“ภารกิจของอาตมาเสร็จสิ้นแล้ว !”

พลางชูนิ้วมือ 3 นิ้วให้ดู ท่านอาจารย์สูได้ฟังดังนั้นก็ก้มกราบ แล้วรีบลงจากภูเขาเป็นการด่วน เที่ยวไปซื้อจีวรครองทั้งชุดมาเปลี่ยนให้พระอาจารย์ของตน

พอครบ 3 วันตามที่ท่านบอก พระอาจารย์เชยก็ถึงแก่มรณภาพในท่านั่งสมาธิ ป่าทั้งป่าที่เคยมีเสียงสัตว์ร้องวุ่นวายไปทั้งดงก็เงียบกริบ เหมือนไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ แม้แต่ใบไม้ก็ไม่ไหวติง หลังจากเผาศพท่านแล้ว อัฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุหมด มีอยู่ชิ้นหนึ่งเป็นสามกษัตริย์คือ เงิน นาค ทองทั้งแท่ง !

_________________
ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร อยู่ในภพที่สูงส่งเพียงไร ก็หนีความทุกข์ไม่พ้น


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 30 ม.ค. 2009 10:28 pm 
ออฟไลน์
Administrator
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 11:37 am
โพสต์: 6391
ขอบคุณครับ คุณ ultrachai

_________________
089 969 9445 @ anytime
line ID navaraht


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 30 ม.ค. 2009 11:22 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 11:16 pm
โพสต์: 1786
:ilu: :ilu:
ขอบพระคุณ คุณ ultra chai มากเลยครับ ที่นำเรื่องของท่านเซียนสู มาโพส์ให้พวกเรา
ได้อ่านกัน ผมกำลังสนใจอยู่พอดี คุณ ultra chai สบายดีนะครับ?
สำหรับผมแล้ว เชื่อว่าคุณ ultra chai เป็นคนหนึ่งที่มีความรู้ดีๆ เกี่ยวกับพระเกจิอาจารย์
ว่างๆ ก็นำเรื่องราวดีดีมาฝากพวกเราอีกนะครับ :P :P


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 31 ม.ค. 2009 12:59 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 9:48 am
โพสต์: 937
ศิษย์กวง เขียน:
:ilu: :ilu:
ขอบพระคุณ คุณ ultra chai มากเลยครับ ที่นำเรื่องของท่านเซียนสู มาโพส์ให้พวกเรา
ได้อ่านกัน ผมกำลังสนใจอยู่พอดี คุณ ultra chai สบายดีนะครับ?
สำหรับผมแล้ว เชื่อว่าคุณ ultra chai เป็นคนหนึ่งที่มีความรู้ดีๆ เกี่ยวกับพระเกจิอาจารย์
ว่างๆ ก็นำเรื่องราวดีดีมาฝากพวกเราอีกนะครับ :P :P

เห็นด้วยครับ นำเรื่องราวดีดีมาฝากพวกเราอีกนะครับ ;)

_________________
อันความสุขทางใจนั้นหายาก คนส่วนมากไม่ชอบแสวงหา
หวังแต่สุขเพื่อสนุกเพียงหูตา มันจึงพาชักจูงให้ยุ่งใจ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 31 ม.ค. 2009 2:19 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 13 ต.ค. 2008 1:09 pm
โพสต์: 139
ทมยันตี เล่าถึงอาเตีย

เมื่ออาจารย์สูได้ฝากตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์เชยแล้ว ท่านก็หมั่นกระทำความเพียรโดยมานะ ครั้นมีอายุได้ 44 ปี ก็เริ่มปฏิบัติอย่างจริงจัง ด้วยการแยกที่นอนกับภรรยาอย่างเด็ดขาด เพื่อประพฤติพรหมจรรย์แต่นั้นมา

ต่อมาท่านอายุได้ประมาณ 50 ปีเศษ หลังจากพระอาจารย์เชยมรณภาพไม่นานนัก อาจารย์สูได้พาครอบครัวย้ายมาอยู่บ้านที่สร้างขึ้นใหม่ในที่ดินที่เช่าจากวัดกำแพง เลิกประกอบอาชีพทำขนมปัง และเริ่มให้การรักษาโรคแก่คนทั่วไปตามตำรายาจีน ซึ่งถ่ายทอดมาจากตระกูล ประกอบกับการศึกษาความรู้เพิ่มเติมด้วยตนเอง

นอกจากนี้ยังได้สอนธรรมะและวิธีปฏิบัติกัมมัฏฐานแก่ผู้ที่สนใจ ทั้งยังแนะนำช่วยเหลือผู้อื่นที่แบกทุกข์มาหาท่าน นับเป็นที่พึ่งแก่คนทั้งปวงแต่บัดนั้น ซึ่งเรื่องนี้ คุณวิมล ศิริไพบูลย์ เจ้าของนามปากกา “ทมยันตี” ได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า

“อาเตีย เป็นอาจารย์คนแรกที่สอนอี๊ดให้ปฏิบัติในทางที่ถูกต้อง เพราะเดิมอี๊ดชอบเล่นกสิณ แต่อาเตียสอนให้อี๊ดจับลมหายใจเข้าออก อันเป็นแบบอาณาปาณสติ กำหนดจิตดูลมหายใจของตนเอง”

คำว่า “อาเตีย” นี้เป็นสรรพนามที่คุณวิมลเรียกท่านอาจารย์สู ด้วยความเคารพรักอย่างลึกซึ้ง ทั้งนี้เพราะในบั้นปลายของชีวิตท่านอาจารย์สู ได้ใช้เวลาอบรมสั่งสอนลูกหลาน และบรรดาศิษย์เป็นส่วนใหญ่

และในบรรดาศิษย์ทั้งหมดนั้น คุณวิมลเป็นศิษย์ที่ท่านยอมรับเป็นลูกสาวของท่านเพียงคนเดียวเท่านั้น

_________________
ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร อยู่ในภพที่สูงส่งเพียงไร ก็หนีความทุกข์ไม่พ้น


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 31 ม.ค. 2009 2:23 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 13 ต.ค. 2008 1:09 pm
โพสต์: 139
สูงต่ำแค่ไหน ศักดิ์เท่าเทียมกัน

คุณวิมลได้เล่าให้ฟังว่า ท่านอาจารย์สูได้สงเคราะห์ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อื่นด้วยดีเสมอมา โดยไม่ต้องการชื่อเสียงเกียรติยศหรืออามิสใดๆ ท่านปฏิบัติเช่นนี้จนกระทั่งท่านจากไป

และถ้าจะพูดในด้านสงเคราะห์ประชาชนคนทั่งไปแล้ว ท่านอาจารย์สูได้สงเคราะห์ตั้งแต่รัฐมนตรี ลงมาจนถึงคนขับแท็กซี่โดยเสมอกัน ท่านไม่เคยกระตือรือร้นเมื่อรัฐมนตรีหรือนายพลไปหาท่าน เหมือนท่านอาจารย์บางรูปที่ประพฤติในปัจจุบัน

ขนาดคุณหญิงของรัฐมนตรีในสมัยนั้นไปหาท่าน อาจารย์สูยังเรียก “เจ๊” หน้าตาเฉย ท่านไม่ได้ถามเสียด้วยซ้ำว่า ผู้ที่ไปหาท่านชื่ออะไร ตำแหน่งอะไร ท่านไม่สนใจ บางคนมอบนามบัตรให้ท่านก็ยังไม่รับ ขัดไม่ได้ก็มอบให้ลูกสาวคนโตเก็บไว้

มีนายตำรวจผู้หนึ่งมาขอให้ท่านช่วยรักษาโรคเบาหวานจนหาย เมื่อหายแล้วก็มอบนามบัตรไว้ให้ และบอกว่าถ้าท่านอาจารย์มีธุระอะไรขอให้ได้รับใช้ แต่ท่านอาจารย์สูคืนนามบัตรไป แล้วบอกว่า

“ผมไม่ได้ตั้งบ่อนไพ่ ไม่ได้เป็นเจ้ามือหวย จึงไม่มีอะไรจะต้องพึ่งตำรวจ”

มีอยู่รายหนึ่งมาขอให้ท่านรักษาเกลื้อน ท่านอาจารย์สูถามว่า ถ้ารักษาหายจะให้ค่ารักษาเท่าใด คนผู้นั้นตอบว่าจะให้ 2 พันบาท ท่านถามอีกครั้งว่าพูดเล่นหรือพูดจริง คนนั้นยืนยันว่าพูดจริง
ท่านอาจารย์สูจึงบอกว่า ถ้าเช่นนั้นเอาเพียง 2 บาท แล้วเขียนตัวยาซึ่งมีราคาเพียง 2 บาท ให้ไปซื้อด้วยตัวเอง

_________________
ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร อยู่ในภพที่สูงส่งเพียงไร ก็หนีความทุกข์ไม่พ้น


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 31 ม.ค. 2009 2:28 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 13 ต.ค. 2008 1:09 pm
โพสต์: 139
สั่งสอนคนพาล ปกป้องคนดี

นอกจากการสงเคราะห์คนทั่วไปเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บดังกล่าวแล้ว ท่านอาจารย์สูยังเคยช่วยลูกศิษย์ของท่านที่ถูกกลั่นแกล้งให้รอดพ้นจากคนพาลบางกลุ่มอีกด้วย

เรื่องมีอยู่ว่า มีลูกศิษย์คนหนึ่งซึ่งท่านอาจารย์เมตตาเขามาก ถูกคนข้างบ้านมาขโมยตัดกล้วยไม้ทั้งต้นทั้งดอกไปหลายสิบกระถาง เนื่องจากสามีไปราชการต่างจังหวัด ต้องอยู่ตามลำพังกับคนรับใช้ผู้หญิง ไม่รู้จะหาทางแก้ไขอย่างใด จึงนำความไปปรึกษาท่านอาจารย์สู ท่านได้ฟังดังนั้นก็พูดว่า

“มันแกล้งกันมากไป อย่าให้มันอยู่เลย !”

แล้วนำผ้าแดงมาเขียนอักษรจีน เอามือของท่านวางทับบนผ้าแดงผืนนั้น เพ่งอยู่ชั่วครู่ก็สั่งให้ลูกศิษย์กลับบ้าน แต่ให้เผาผ้าแดงที่ท่านให้ไปก่อนจะเข้าบ้าน โดยให้เผากลางแจ้ง

ลูกศิษย์ผู้นั้นกลับบ้านแล้วเผาผ้าแดงตามที่ท่านสั่ง พอตกกลางดึกได้ยินเสียงคนข้างบ้านหลังนั้น ขนข้าวของเอะอะก่อนจะไปมันออกมายืนพูดดังๆ ว่า

“อยู่ไม่ไหวแล้ว มาจ้องหน้าจ้องตายังกะแม่มดทั้งคืน”

มีอยู่รายหนึ่งที่เป็นลูกศิษย์ของท่าน ขับรถยนต์จากบางแสนจะกลับกรุงเทพฯ เผอิญมีเด็กวิ่งตัดหน้ากระชั้นชิด ถึงจะเบรกก็ไม่มีทางรอดพ้นจากการชนได้ และถ้าชนเด็กก็คงจะตายอย่างแน่นอน แต่ทันใดนั้นก็เกิดความอัศจรรย์! จู่ๆ เด็กคนนั้นก็ลอยไปข้างหลังเหมือนถูกใครกระชาก แล้วค่อยๆ ล้มลงริมถนนไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย

ลูกศิษย์ของท่านมือไม้สั่นขับรถไปหาท่าน พอโผล่หน้าเข้าไป ท่านอาจารย์สูก็พูดลอยๆ ขึ้นมาว่า

“เมื่อกี้นี้ได้ช่วยชีวิตเด็กไว้คนหนึ่ง มันจะถูกรถชนอยู่แล้ว”

_________________
ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร อยู่ในภพที่สูงส่งเพียงไร ก็หนีความทุกข์ไม่พ้น


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 31 ม.ค. 2009 2:37 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 13 ต.ค. 2008 1:09 pm
โพสต์: 139
:ilu: สวัสดีครับทุกๆ ท่าน

ผมสบายดีครับพี่ศิษย์กวง ขอขอบคุณในคำชมขอรับ
แต่หากเทียบกับพี่ศิษย์กวงแล้ว ข้าน้อยยังห่างอยู่อีกไกลโขครับ :shhy:

คงยังต้องขอคำชี้แนะจากพี่ศิษย์กวงอีกเยอะครับ
ไว้ว่างๆ จะหาโอกาสโทรไปขอความรู้เพิ่มเติมจากพี่ครับ :rbb:

สำหรับบทความในส่วนที่เหลือจะนำมาเสนอต่อในวันจันทร์นะครับ :hhero:

_________________
ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร อยู่ในภพที่สูงส่งเพียงไร ก็หนีความทุกข์ไม่พ้น


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 01 ก.พ. 2009 1:41 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 11:16 pm
โพสต์: 1786
:o :o
โอ้...มิบังอาจชี้แนะหรอกครับคุณ ultra chai
นอกจากความรู้ในเรื่องต่างๆ ที่เรามีไม่เหมือนกันแล้ว
โลกนี้ยังคงมีอะไรอีกมากมายที่เรายังต้องเรียนรู้
เอาเป็นว่าพวกเรามาแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น
ด้วยความจริงใจ เอื้อเฟื้อและเคารพซึ่งกันและกัน
ผมว่าน่ารักดีนะครับ :ilu:


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
 หัวข้อกระทู้: Re: เซียนสู พรหมเชยธีระ
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 01 ก.พ. 2009 11:46 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 29 ก.ย. 2008 12:53 pm
โพสต์: 754
ศิษย์กวง เขียน:
:o :o
โอ้...มิบังอาจชี้แนะหรอกครับคุณ ultra chai
นอกจากความรู้ในเรื่องต่างๆ ที่เรามีไม่เหมือนกันแล้ว
โลกนี้ยังคงมีอะไรอีกมากมายที่เรายังต้องเรียนรู้
เอาเป็นว่าพวกเรามาแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น
ด้วยความจริงใจ เอื้อเฟื้อและเคารพซึ่งกันและกัน
ผมว่าน่ารักดีนะครับ :ilu:



น่ารักดีนะครับ....................ฟังแล้วดูดีเลยนะครับ :lol: :lol:

_________________
.........ถ้าเจ้าได้ทุกอย่างอย่างที่คิด
ชั่วชีวิตจะเอาของกองที่ไหน
จะได้บ้างเสียบ้างจะเป็นไร
ช่างหัวใครช่างหัวมันเท่านั้นเอง ..........


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO