นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พุธ 24 เม.ย. 2024 8:31 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 09 ต.ค. 2008 2:07 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 5:09 pm
โพสต์: 1368
ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง
โดย ศิษย์กวง จาก http://www.oknation.net/blog/sitthi/2008/01/25/entry-1
01.jpg

ครูบากฤษดา สุเมโธ เจ้าอาวาสวัดสันพระเจ้าแดง ตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน

การเขียนบทความในเรื่องที่เกี่ยวกับพระสงฆ์ที่เราเคารพนับถือ ผมใช้วิธีนึกไปเขียนไปดังนั้นผมจึงไม่ใช่คนเขียนบทความที่ดีนัก ไม่มีหลักเกณฑ์เป็นมาตรฐาน นึกเรื่องไหนถึงหลวงพ่ออะไรได้ก็เขียน ไม่มีการเขียนแบบเรียบเรียงตั้งแต่รู้จักท่านเริ่มต้นจนถึงวันนี้ แต่เป็นลักษณะของการเขียนแบบเอาความทรงจำที่ผมจำได้ชัดเจนที่สุดมาเขียน (ขณะที่เขียนเรื่องนี้ เรื่องเก่าที่เคยเขียนถึงหลวงพ่อองค์อื่นไว้ยังเขียนไม่จบเลย)

พระเกจิอาจารย์ที่ผมเขียนถึงครั้งนี้คือครูบากฤษดา สุเมโธ เจ้าอาวาสวัดสันพระเจ้าแดง(ป่ายาง) ตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน วัดสันพระเจ้าแดงนี้ มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คือ ”พระเจ้าแดง” และอดีตเจ้าอาวาสที่มีชื่อเสียง คือ”ครูบาขันแก้ว “
02.jpg


พระเจ้าแดง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์
03.jpg

ครูบาขันแก้ว (อดีตเจ้าอาวาสวัดสันพระเจ้าแดง)
04.jpg

อนุสาวรีย์ครูบาขันแก้ว
05.jpg

รูปหล่อครูบาขันแก้ว
06.jpg

ครูบากฤษดา สุเมโธ

ผมได้พบท่านครั้งแรกตอนที่ท่านได้รับนิมนต์มาศูนย์พระเครื่องแห่งหนึ่งบนห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ แว๊บแรกที่เห็นผมคิดในใจว่า พระหรือเณร กันเนี่ยแต่ช่างมันเถอะไหนๆก็มาแล้วเข้าไปหาซักหน่อย วันนั้นคนมาหาท่านเยอะมากแต่ด้วยการมีเส้นสายผมจึงได้มีโอกาสเสนอหน้าเข้าไปนั่งใกล้ๆ พอได้โอกาสจึงยื่นหัวเข้าไปให้ท่านเป่าตามความชอบ(ส่วนตัว) ท่านยื่นมือมารับมือผมไว้ ยิ้มให้และเป่าลงเบาๆที่หัว ผมรู้สึกเย็นวาบ ต้องยอมรับกับตัวเองว่าตั้งแต่เคยขอความเมตตาหลวงพ่อต่างๆเป่ากะหม่อม พึ่งจะมีองค์นี้แหละที่ทำให้มีอาการแบบนี้ ผมนึกในใจ ”เออ..ไม่ธรรมดานี่หว่า” หลังจากรับลูกศิษย์และผู้ศรัทธาได้ซักพักท่านก็ได้เดินทางไปบ้านของลูกศิษย์ที่ได้นิมนต์ท่านไว้ และก็ด้วยความมีเส้นสาย(อีกแล้ว) ผมจึงได้เสนอหน้านั่งรถไปกับเขาด้วย

ในระหว่างการสนทนาในห้องพักของท่าน ผมได้ยื่นพระของท่านที่ได้เช่ามาให้ท่านประสิทธิ์ประสาทให้ พร้อมกับโอดครวญว่าพระองค์นี้ชำรุดอยากได้องค์ใหม่ คำตอบของท่านที่ทำให้ผมอึ้งคือ “ไม่มีแล้ว แต่โยมจำไว้พระทุกองค์ที่อาตมาได้อธิษฐานจิตไว้ ถึงจะแตกหักหรือชำรุดก็จะยังคุ้มครองโยมได้ ขอเพียงโยมมีความมั่นใจ โยมนับถืออาตมา มีอาตมาในใจ อาตมาจะคุ้มครองโยมเสมอ ตลอดไป”

“พระเครื่องก็เช่นเดียวกัน อย่ามองเพียงแต่ว่า หัก ชำรุด แท้ หรือปลอม หากจิตศรัทธาและเชื่อมั่น ความเข้มขลังก็จะเกิดขึ้น ความศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่องค์พระเพียงอย่างเดียว อยู่ที่ใจของเราด้วย”


เพียงคำพูดของท่านเท่านี้ ทุกวันนี้ผมจึงได้นำพระองค์นั้นติดตัวไว้ตลอดและให้ความเคารพนับถือท่านจนถึงทุกวันนี้ และก็เป็นความเชื่อส่วนตัวครับ เวลามีปัญหาอะไรที่หนักหนา ผมจะนำพระของท่านมาใส่ในมือและสวดมนต์นึกถึงท่าน ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นได้บรรเทาและมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออยู่ตลอด

อย่างไรก็ตามครูบากฤษดา ท่านไม่ได้มุ่งเน้นในเรื่องของพระเครื่องหรือเครื่องรางของขลัง แต่การที่ท่านต้องทำพระเครื่องหรือเครื่องรางต่างๆ ขึ้นมามีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาปฏิสังขรวัดสันพระเจ้าแดง ซึ่งขณะนั้นชำรุดทรุดโทรมและต้องใช้ปัจจัยจำนวนมากมาบูรณะ ทุกครั้งที่มีโอกาสท่านมักจะบอกผมเสมอว่า

“วัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง หรือวิชาอาคมสามารถที่จะช่วยให้เรารอดพ้นจากภัยอันตรายได้ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถให้เราพ้นทุกข์ในวัฏสงสารเวียนวนนี้ได้ จริงๆแล้ว ควรเจริญภาวนา ศีล สมาธิและปัญญา ถึงจะพ้นทุกสิ่ง สุขที่แท้ต้องว่างเปล่า อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ความศักดิ์สิทธิ์ใดๆล้วนอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม”

ท่านไม่ได้บอกผมเฉยๆ ยังให้ผมจดไปท่องให้ขึ้นใจ ทุกครั้งที่มีโอกาสเจอท่าน ท่านจะให้ผมท่องข้อความข้างต้นนี้ให้ฟังเสมอ นอกจากนี้ท่านยังได้บอกกับผมว่า

“โยมกุ้งต้องปฏิบัติธรรมนะ ไม่อย่างนั้นไม่มีใครช่วยโยมได้ อย่างน้อยให้สวดมนต์ไหว้พระวันละหนึ่งชั่วโมง ในช่วงนั้นต้องปล่อยวางทุกสิ่ง ไม่มีตัวกู ไม่มีของกู ไม่มีอะไรทั้งสิ้น กำหนดจิตว่าทุกสิ่งล้วนเป็นอนัตตา ไม่มีอะไรแน่นอน ทุกชีวิตต้องก้าวไปสู่การแตกดับ ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้”

ยังงัยก็แล้วแต่สำหรับผมแล้วในเรื่องของพระเครื่องหรือเครื่องรางของขลัง ก็ยังเป็นหัวใจสำคัญของผมอยู่ดี พูดง่ายๆ คือผมยังมีกิเลสอยู่ครับ ทุกวันนี้มีคนถามผมว่าครูบากฤษดา ท่านเก่งด้านไหน เห็นทำพระประเภทขุนแผน บางคนก็ว่าท่านยังเป็นพระหนุ่มๆ บางคนก็ว่าท่านมีชื่อเพราะเขียนเชียร์กันขึ้นมา ความจริงไม่มีอะไร

ก็ว่ากันไปครับตามแต่จะนึกหรือจินตนาการกัน ผมอยากให้ท่านได้มาสัมผัส มารู้จักท่าน ด้วยตัวของท่านเองจะดีกว่าเชื่อตามที่คนอื่นเขาบอก เขาเล่า เอาเป็นว่าผมจะเล่าประสบการณ์ที่ผมเห็นกับตาสักเรื่องหนึ่ง

คือในการปลุกเสกพระขุนแผนรุ่นแรก(ช่วงนั้นพระเครื่องประเภทนี้กำลังเป็นที่นิยม) ผมก็งง งง ครูบาท่านเสกไป บางทีก็หยุดแล้วก็หันมาคุยกับพวกเรา ผมก็คิดว่านี่มันเป็นการเสกแบบไหน(ว่ะ)เนี่ย เกิดมาพึ่งจะเคยเห็น ถ้าจะไม่ขลังซะแล้ว ท่านทำแบบนี้สลับกันไปมาซักพักแล้วท่านจึงหลับตาลง ถึงตอนนี้พวกเราที่เฝ้าดูต้องกระโดดหลบกันให้วุ่น เพราะ บรรดาตัวตะขาบ แมงป่อง ไม่รู้ว่ามาจากไหนเต็มไปหมด คลานขึ้นไปอยู่บนตัวครูบา ครูบาท่านก็ใช้มือเปล่าๆ นี่แหละครับหยิบบรรดาแขกที่ไม่ได้รับเชิญเหล่านี้ออกไปวางไว้ในตะกร้า แล้วหันมายิ้มให้พวกเราก่อนจะพรมน้ำมนต์ลงบนพระขุนแผนชุดนั้น
07.jpg

เรื่องของครูบากฤษดา สุเมโธ เจ้าอาวาสวัดสันพระเจ้าแดง ยังไม่จบลงแค่นี้นะครับ เพียงแต่ว่าโลกส่วนตัวของผมที่มันเคยกว้างๆ ตอนนี้ถูกความง่วงเข้ามากินพื้นที่จนแคบลงไปทุกที ผมจะต้องไปสวดมนต์ก่อนนอนครับ ก่อนพื้นที่ส่วนตัวจะหมดไป


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO