Switch to full style
รวมบทความที่น่าสนใจต่าง ๆ จากนักเขียนชื่อดัง และ ผู้ที่ทรงภูมิความรู้มากมาย
ตอบกระทู้

ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง

พฤหัสฯ. 09 ต.ค. 2008 2:07 pm

ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง
โดย ศิษย์กวง จาก http://www.oknation.net/blog/sitthi/2008/01/25/entry-1
01.jpg
01.jpg (20.62 KiB) เปิดดู 2268 ครั้ง
ครูบากฤษดา สุเมโธ เจ้าอาวาสวัดสันพระเจ้าแดง ตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน

การเขียนบทความในเรื่องที่เกี่ยวกับพระสงฆ์ที่เราเคารพนับถือ ผมใช้วิธีนึกไปเขียนไปดังนั้นผมจึงไม่ใช่คนเขียนบทความที่ดีนัก ไม่มีหลักเกณฑ์เป็นมาตรฐาน นึกเรื่องไหนถึงหลวงพ่ออะไรได้ก็เขียน ไม่มีการเขียนแบบเรียบเรียงตั้งแต่รู้จักท่านเริ่มต้นจนถึงวันนี้ แต่เป็นลักษณะของการเขียนแบบเอาความทรงจำที่ผมจำได้ชัดเจนที่สุดมาเขียน (ขณะที่เขียนเรื่องนี้ เรื่องเก่าที่เคยเขียนถึงหลวงพ่อองค์อื่นไว้ยังเขียนไม่จบเลย)

พระเกจิอาจารย์ที่ผมเขียนถึงครั้งนี้คือครูบากฤษดา สุเมโธ เจ้าอาวาสวัดสันพระเจ้าแดง(ป่ายาง) ตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน วัดสันพระเจ้าแดงนี้ มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คือ ”พระเจ้าแดง” และอดีตเจ้าอาวาสที่มีชื่อเสียง คือ”ครูบาขันแก้ว “
02.jpg
02.jpg (17.01 KiB) เปิดดู 2269 ครั้ง

พระเจ้าแดง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์
03.jpg
03.jpg (26.6 KiB) เปิดดู 2269 ครั้ง
ครูบาขันแก้ว (อดีตเจ้าอาวาสวัดสันพระเจ้าแดง)
04.jpg
04.jpg (22.04 KiB) เปิดดู 2266 ครั้ง
อนุสาวรีย์ครูบาขันแก้ว
05.jpg
05.jpg (32.44 KiB) เปิดดู 2267 ครั้ง
รูปหล่อครูบาขันแก้ว
06.jpg
06.jpg (13.24 KiB) เปิดดู 2267 ครั้ง
ครูบากฤษดา สุเมโธ

ผมได้พบท่านครั้งแรกตอนที่ท่านได้รับนิมนต์มาศูนย์พระเครื่องแห่งหนึ่งบนห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ แว๊บแรกที่เห็นผมคิดในใจว่า พระหรือเณร กันเนี่ยแต่ช่างมันเถอะไหนๆก็มาแล้วเข้าไปหาซักหน่อย วันนั้นคนมาหาท่านเยอะมากแต่ด้วยการมีเส้นสายผมจึงได้มีโอกาสเสนอหน้าเข้าไปนั่งใกล้ๆ พอได้โอกาสจึงยื่นหัวเข้าไปให้ท่านเป่าตามความชอบ(ส่วนตัว) ท่านยื่นมือมารับมือผมไว้ ยิ้มให้และเป่าลงเบาๆที่หัว ผมรู้สึกเย็นวาบ ต้องยอมรับกับตัวเองว่าตั้งแต่เคยขอความเมตตาหลวงพ่อต่างๆเป่ากะหม่อม พึ่งจะมีองค์นี้แหละที่ทำให้มีอาการแบบนี้ ผมนึกในใจ ”เออ..ไม่ธรรมดานี่หว่า” หลังจากรับลูกศิษย์และผู้ศรัทธาได้ซักพักท่านก็ได้เดินทางไปบ้านของลูกศิษย์ที่ได้นิมนต์ท่านไว้ และก็ด้วยความมีเส้นสาย(อีกแล้ว) ผมจึงได้เสนอหน้านั่งรถไปกับเขาด้วย

ในระหว่างการสนทนาในห้องพักของท่าน ผมได้ยื่นพระของท่านที่ได้เช่ามาให้ท่านประสิทธิ์ประสาทให้ พร้อมกับโอดครวญว่าพระองค์นี้ชำรุดอยากได้องค์ใหม่ คำตอบของท่านที่ทำให้ผมอึ้งคือ “ไม่มีแล้ว แต่โยมจำไว้พระทุกองค์ที่อาตมาได้อธิษฐานจิตไว้ ถึงจะแตกหักหรือชำรุดก็จะยังคุ้มครองโยมได้ ขอเพียงโยมมีความมั่นใจ โยมนับถืออาตมา มีอาตมาในใจ อาตมาจะคุ้มครองโยมเสมอ ตลอดไป”

“พระเครื่องก็เช่นเดียวกัน อย่ามองเพียงแต่ว่า หัก ชำรุด แท้ หรือปลอม หากจิตศรัทธาและเชื่อมั่น ความเข้มขลังก็จะเกิดขึ้น ความศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่องค์พระเพียงอย่างเดียว อยู่ที่ใจของเราด้วย”


เพียงคำพูดของท่านเท่านี้ ทุกวันนี้ผมจึงได้นำพระองค์นั้นติดตัวไว้ตลอดและให้ความเคารพนับถือท่านจนถึงทุกวันนี้ และก็เป็นความเชื่อส่วนตัวครับ เวลามีปัญหาอะไรที่หนักหนา ผมจะนำพระของท่านมาใส่ในมือและสวดมนต์นึกถึงท่าน ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นได้บรรเทาและมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออยู่ตลอด

อย่างไรก็ตามครูบากฤษดา ท่านไม่ได้มุ่งเน้นในเรื่องของพระเครื่องหรือเครื่องรางของขลัง แต่การที่ท่านต้องทำพระเครื่องหรือเครื่องรางต่างๆ ขึ้นมามีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาปฏิสังขรวัดสันพระเจ้าแดง ซึ่งขณะนั้นชำรุดทรุดโทรมและต้องใช้ปัจจัยจำนวนมากมาบูรณะ ทุกครั้งที่มีโอกาสท่านมักจะบอกผมเสมอว่า

“วัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง หรือวิชาอาคมสามารถที่จะช่วยให้เรารอดพ้นจากภัยอันตรายได้ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถให้เราพ้นทุกข์ในวัฏสงสารเวียนวนนี้ได้ จริงๆแล้ว ควรเจริญภาวนา ศีล สมาธิและปัญญา ถึงจะพ้นทุกสิ่ง สุขที่แท้ต้องว่างเปล่า อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ความศักดิ์สิทธิ์ใดๆล้วนอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม”

ท่านไม่ได้บอกผมเฉยๆ ยังให้ผมจดไปท่องให้ขึ้นใจ ทุกครั้งที่มีโอกาสเจอท่าน ท่านจะให้ผมท่องข้อความข้างต้นนี้ให้ฟังเสมอ นอกจากนี้ท่านยังได้บอกกับผมว่า

“โยมกุ้งต้องปฏิบัติธรรมนะ ไม่อย่างนั้นไม่มีใครช่วยโยมได้ อย่างน้อยให้สวดมนต์ไหว้พระวันละหนึ่งชั่วโมง ในช่วงนั้นต้องปล่อยวางทุกสิ่ง ไม่มีตัวกู ไม่มีของกู ไม่มีอะไรทั้งสิ้น กำหนดจิตว่าทุกสิ่งล้วนเป็นอนัตตา ไม่มีอะไรแน่นอน ทุกชีวิตต้องก้าวไปสู่การแตกดับ ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้”

ยังงัยก็แล้วแต่สำหรับผมแล้วในเรื่องของพระเครื่องหรือเครื่องรางของขลัง ก็ยังเป็นหัวใจสำคัญของผมอยู่ดี พูดง่ายๆ คือผมยังมีกิเลสอยู่ครับ ทุกวันนี้มีคนถามผมว่าครูบากฤษดา ท่านเก่งด้านไหน เห็นทำพระประเภทขุนแผน บางคนก็ว่าท่านยังเป็นพระหนุ่มๆ บางคนก็ว่าท่านมีชื่อเพราะเขียนเชียร์กันขึ้นมา ความจริงไม่มีอะไร

ก็ว่ากันไปครับตามแต่จะนึกหรือจินตนาการกัน ผมอยากให้ท่านได้มาสัมผัส มารู้จักท่าน ด้วยตัวของท่านเองจะดีกว่าเชื่อตามที่คนอื่นเขาบอก เขาเล่า เอาเป็นว่าผมจะเล่าประสบการณ์ที่ผมเห็นกับตาสักเรื่องหนึ่ง

คือในการปลุกเสกพระขุนแผนรุ่นแรก(ช่วงนั้นพระเครื่องประเภทนี้กำลังเป็นที่นิยม) ผมก็งง งง ครูบาท่านเสกไป บางทีก็หยุดแล้วก็หันมาคุยกับพวกเรา ผมก็คิดว่านี่มันเป็นการเสกแบบไหน(ว่ะ)เนี่ย เกิดมาพึ่งจะเคยเห็น ถ้าจะไม่ขลังซะแล้ว ท่านทำแบบนี้สลับกันไปมาซักพักแล้วท่านจึงหลับตาลง ถึงตอนนี้พวกเราที่เฝ้าดูต้องกระโดดหลบกันให้วุ่น เพราะ บรรดาตัวตะขาบ แมงป่อง ไม่รู้ว่ามาจากไหนเต็มไปหมด คลานขึ้นไปอยู่บนตัวครูบา ครูบาท่านก็ใช้มือเปล่าๆ นี่แหละครับหยิบบรรดาแขกที่ไม่ได้รับเชิญเหล่านี้ออกไปวางไว้ในตะกร้า แล้วหันมายิ้มให้พวกเราก่อนจะพรมน้ำมนต์ลงบนพระขุนแผนชุดนั้น
07.jpg
07.jpg (19.45 KiB) เปิดดู 2268 ครั้ง
เรื่องของครูบากฤษดา สุเมโธ เจ้าอาวาสวัดสันพระเจ้าแดง ยังไม่จบลงแค่นี้นะครับ เพียงแต่ว่าโลกส่วนตัวของผมที่มันเคยกว้างๆ ตอนนี้ถูกความง่วงเข้ามากินพื้นที่จนแคบลงไปทุกที ผมจะต้องไปสวดมนต์ก่อนนอนครับ ก่อนพื้นที่ส่วนตัวจะหมดไป
ตอบกระทู้