ตอบคุณวริสราเรื่อง ผ้ายันต์องค์บรมครู ของ ท่านพระอาจารย์ติ๋ว

พรหมาศ · **โพสต์แล้ว:** อังคาร 31 มี.ค. 2009 7:23 pm

พี่ต่อคับ ทำไมองค์บรมครูที่อยู่ทั้ง 4 มุม นั้นมีลักษณะต่างกันอ่ะคับพี่

รณธรรม ธาราพันธุ์ · **โพสต์แล้ว:** อังคาร 31 มี.ค. 2009 7:49 pm

เรียนคุณพรหมาสตร์

ยันต์องค์บรมครูทั้ง 4 มุมนั้นแม้จะผูกกันขึ้นเป็นงรูป "ยันต์" แต่โดยความหมาย ก็หมายให้เป็นพระพุทธเจ้านั่นเองครับ ดังนั้น องค์บรมครูทั้ง 4 ก็หมายถึงพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ที่ได้มาตรัสรู้แล้วในภัทรกัปป์นี้ ยังเหลือก็เพียงพระศรีอาริยเมตตรัยบรมโพธิสัตว์ที่ยัง "รอ" เวลาอันเหมาะควรอยู่

นอกจากนั้น โดยตำราของหลวงปู่ศุข เกสโรเองนั้น พระพุทธเจ้า 4 พระองค์นี้มีพระพุทธมนต์กำกับคือ อิ ติ ปิ และ โส ซึ่งทั้งสี่คำมิได้จบอยู่แค่นั้น แต่ยังลงลึกไปถึงการกระจายออกเป็นบท "รัตนมาลา" ที่มีความสอดคล้องในภาษาอย่างไพเราะ มีความหมายโดยอรรถอย่างพิสดาร และมีอานุภาพที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง

แต่ความนัยและเคล็ดลับที่ลึกกว่านั้นยังคงมีอยู่อีกครับ ก็ต้องเป็นท่านผู้ที่เล่าเรียนศึกษามาโดยตรงอย่าง หลวงพ่อมหาโพธิ์ ญาณสังวโร หรือ ท่านพระอาจารย์ติ๋ว ฐิตวัฑฒโน นั่นแลจึงจะรู้ความ

พระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ในยันต์นั้นมีอุปเท่ห์การใช้และชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่น พระยันต์หนึ่งนามว่า ยันต์พระพุทธเจ้าเข้านิโรธสมาบัติ ก็ทรงอานุภาพในทางสะกดทัพ หลับผู้คนและม้าศึก ช้างศึก ตลอดจนเจ้าของเรือน และบ่าวไพร่ กระทั่งสุนัขหูไว ก็สามารถสยบให้หลับใหลจนหมดสิ้น แม้เอาเท้าเขี่ยปลุกก็ยังไม่อาจตื่นได้ ขึ้นเรือนแล้วเอาดินหม้อทาหน้าก็ยังไม่รู้สึกตัว

นอกจากนั้นก็สามารถพลิกแพลงใช้ในทางสะเดาะห์เคราะห์ต่อชะตาแก่คนที่กำลังทุกข์หนัก โดยเอาขันสัมฤทธิ์ใบใหญ่ใส่น้ำสะอาดให้เต็ม ลอยดอกบัวขาวลงไป 5 ดอก จุดธูปเทียนอย่างละ 5 บูชาคุณพระพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ให้จงดี ตั้งจิตน้อมเคารพในองค์บรมครูผู้เป็นครูของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นแล รำลึกถึงท่านพระครูวิมลคุณากร หลวงปู่ศุข เกสโร แห่ง วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อพระใบฎีกาบุญยัง คังคสโร หลวงพ่อมหาโพธิ์ ญาณสังวโร และท่านพระอาจารย์ติ๋ว ฐิตวัฑฒโน กับทั้งครูบาอาจารย์ทุกรูปทุกองค์ที่เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกพระมหายันต์นี้

จากนั้นก็กางผ้ายันต์ออกคลุมขันสัมฤทธิ์ แล้วประนมมือตั้งใจสวดพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แล้วต่อด้วยบทปิโยในรัตนมาลาดังนี้

"ปิโยเทวะมนุสสานัง ปิโยพรหมานะมุตตะโม ปิโยนาคะสุปัณณานัง ปินินทริยังนะมามิหัง"

หากมีเวลาสวดมากก็ให้สวดถึง 1 รอบประคำคือ 108 จบ แต่ถ้าไม่มีเวลามากก็สวด 9 จบ สวดครบแล้วพึงตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้น้ำพระพุทธมนต์นี้มีเดชมีฤทธิ์มีเดชานุภาพไปในทางใดก็ตั้งจิตพิษฐานเอา ย่อมสำเร็จได้ดังใจปรารถนาแล

หวังว่าคำตอบคงเป็นที่พอใจคุณพรหมาสตร์นะครับ หากมีผ้ายันต์นี้อยู่ก็ถือว่าเป็นวาสนาที่ได้ครอบครอง ขอให้รักษาไว้จงดีแล้วหมั่นบูชานะครับ จะเจริญรุ่งเรืองภิญโญยศสืบไป

พรหมาศ · **โพสต์แล้ว:** อังคาร 31 มี.ค. 2009 7:57 pm

ขอบคุณมากเลยคับ แล้วพระยันต์ที่ลงบนผ้าสีเหลืองที่ออกวัดยานาวาใช้พระยันต์พระพุทธเจ้าเข้านิโรธหรือเปล่าครับ แล้วใช่วิชาเดียวกันกับหลวงพ่อสาลีโขหรือเปล่าคับ

รณธรรม ธาราพันธุ์ · **โพสต์แล้ว:** อังคาร 31 มี.ค. 2009 8:05 pm

ใช่แล้วครับ ผ้ายันต์สีเหลืองที่ออกโดยวัดยานนาวาในวาระนั้น เป็นผ้าที่พิมพ์ขึ้นด้วยพระยันต์ "พระพุทธเจ้าเข้านิโรธสมาบัติ" ครับ และยังได้นำยันต์นี้มาสร้างเป็นเหรียญ "องค์บรมครู" ที่โด่งดังนั้นด้วย

ส่วนที่ว่าเหมือนกับยันต์ของหลวงพ่อสาลีโขหรือไม่ ? ผมเองนั้นยังไม่เคยเห็นหลวงพ่อสาลีโขใช้ยันต์พระพุทธเจ้าเข้านิโรธสมาบัติเลยครับ ผมคิดเชื่อเอาเองว่าท่านคงไม่มียันต์นี้ หรือถ้ามี ท่านก็คงไม่เคยเอาออกมาใช้ มาทำวัตถุมงคล

แต่สำหรับยันต์ที่หลวงพ่อสาลีโขนำมาทำผ้ายันต์หรือกระดาษยันต์รูปหลวงปู่เผือกนั้น มีนามว่า "ยันต์พระเจ้าเข้านิโรธ" ครับ เป็นตำรับของหลวงปู่รอดเสือ วัดประดู่ทรงธรรม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ครับ

พรหมาศ · **โพสต์แล้ว:** อังคาร 31 มี.ค. 2009 8:08 pm

ครับพี่ต่อ จะเรียนถามพี่ว่าแล้วยันต์พระเจ้าเข้านิโรธเป็นยังไงอีกก็เกรงใจ :shhy:

รณธรรม ธาราพันธุ์ · **โพสต์แล้ว:** อังคาร 31 มี.ค. 2009 8:14 pm

ถ้าหมายถึงว่า "เหมือน" กันไหม ? ในด้านพุทธคุณ ก็ตอบได้ว่า เหมือนกันทุกประการ จะต่างกันก็อยู่ที่กำลังของคนเสกแล้วล่ะครับ

ส่วนถ้าจะถามว่า "เหมือน" กันไหม ? ในด้านรูปลักษณ์ ก็ตอบได้ว่า ไม่เหมือนกันเลยสักประการครับ

พอดีผมอยู่กรุงเทพมิเช่นนั้นจะมีรูปดังกล่าวแล้วทั้งหมดโพสท์ให้ชม ตอนนี้คงได้แต่เรียกเจ้าของเว็บให้ลงมือทำแล้วกันนะครับ