วิชาพรหมศาสตร์ กับ ท่านพระครูสมุทรมงคล

รณธรรม ธาราพันธุ์ · **โพสต์แล้ว:** ศุกร์ 27 มี.ค. 2009 3:47 am

ในปี พ.ศ. 2508 หนุ่มใหญ่นายหนึ่งชื่อ นายสรรเสริญ ไชโย เจ้าของร้าน “แม่เล็ก” หลังสถานีรถไฟสมุทรสงคราม ผู้ซึ่งป่วยเป็นโรคประสาทมานานประมาณ 10 ปีเศษ และได้เคยรักษาหมดเงินทองไปเป็นจำนวนมากแต่อาการของโรคก็ไม่ทุเลาลง ต่อมานายสรรเสริญได้ทราบถึงความสามารถของอาจารย์ฝ่ายวิชาพรหมศาสตร์จึงพยายามสืบค้นจนพบตัวอาจารย์สุดจิตต์ เบญจาทิกุล อาจารย์ท่านหนึ่งของฝ่ายพรหมศาสตร์ จึงได้ขอความช่วยเหลือให้ช่วยรักษาโรคประสาทให้ และอาจารย์สุดจิตต์ก็ได้ดำเนินการรักษาอาการโรคของนายสรรเสริญจนหายขาด สามารถประกอบอาชีพทางการค้าได้เป็นปกติเช่นเคย

จากกรณีที่นายสรรเสริญ ไชโย พ่อค้าที่มีชื่อของตลาดแม่กลองได้หายขาดจากโรคประสาทด้วยความสามารถของอาจารย์พรหมศาสตร์ดังกล่าว ได้ทำให้ท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎก เจ้าคณะภาค 7 สำนักวัดเพชรสมุทรวรวิหาร (วัดบ้านแหลม) ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ต้องการให้นายสรรเสริญมาติดต่อกับอาจารย์พรหมศาสตร์ในกรุงเทพอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ช่วยรักษาโรคทางประสาทให้กับ ท่านพระครูสมุทรมงคล (สาย สุมังคโล) วัดจันทร์เจริญสุข ต.บ้านปรก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม

เนื่องจากท่านพระครูอาพาธเป็นโรคทางเส้นประสาทมาเป็นระยะเวลานาน ทำให้งานก่อสร้างอุโบสถในวัดของท่านต้องพลอยชะงักงันมาช้านานด้วย หากท่านพระครูหายป่วยลงเมื่อใด งานสร้างอุโบสถของท่านก็คงจะดำเนินต่อไปได้ด้วยดี

ในการนี้ทางฝ่ายอาจารย์พรหมศาสตร์ ซึ่งมีท่านอาจารย์ทองแถม ศาสตระรุจิ เป็นอาจารย์ใหญ่ ได้มอบหมายให้นาวาอากาศโท เริง เวชประสิทธิ์ อาจารย์พรหมศาสตร์อีกท่านหนึ่งซึ่งเป็นผู้ผ่านการศึกษามาจากประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ทำหน้าที่รักษา แต่ปรากฏว่าหลังจากอาจารย์ น.ท. เริง เวชประสิทธิ์ ได้ไปตรวจสอบดูแล้ว กลับพบเงื่อนงำอันมหัศจรรย์ยิ่ง ดังจะได้กล่าวในตอนต่อไป

แต่ก่อนจะนำเสนอเรื่องราวอันชวนตื่นใจ ขอแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักกับท่านพระครูสมุทรมงคล (สาย สุมังคโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดจันทร์เจริญสุขพอสังเขป ท่านพระครูสมุทรมงคล หรือ หลวงพ่อสาย สุมังคโล รูปนี้ เป็นพระเถระสำคัญรูปหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม เนื่องจากท่านเป็นศิษย์ใกล้ชิดรูปหนึ่งในหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์คง ธัมมโชโต วัดบางกะพ้อม ต.อัมพวา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมต่าง ๆ มาเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ท่านพระครูโกวิทสมุทรคุณ (เนื่อง โกวิโท) วัดจุฬามณี ต.บางช้าง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ศิษย์อีกรูปหนึ่งของคุณพ่อคงได้เอ่ยปากว่า

“ท่านสายเขามีดีกว่าฉันอีกนะ”

อาจหมายรวมได้ว่า หลวงพ่อเนื่องมีดีอย่างไร อย่างน้อยหลวงพ่อสายก็ต้องมีอย่างนั้นเหมือนกัน

ครั้งหนึ่ง หลวงพ่อสายเคยนั่งวิปัสสนาเป็นเวลานานติดต่อกันถึง 5 วัน จนลูกศิษย์ลูกหาต้องพาท่านเดินทางมาส่งยังโรงพยาบาลประสาทและพักอยู่ที่โรงพยาบาลอีก 2 วันจึงฟื้น เมื่อท่านฟื้นขึ้นมาก็ไม่มีอาการผิดปกติอย่างใด และครั้งนั้นแพทย์โรงพยาบาลประสาทก็ตรวจไม่พบว่าท่านเป็นโรคอะไร เพียงลงความเห็นว่าท่านหลับอย่างธรรมดาเท่านั้น แต่ต่อมาท่านพระครูก็ถูกผู้คนพากันเข้าใจผิดว่าท่านได้ถูกวิญญาณมาสิงร่างอยู่ แต่บางคนก็เชื่อว่าท่านเป็นโรควิกลจริต เพราะบางครั้งมีคนเคยเห็นเคยได้ยินท่านพูดคุยของท่านองค์เดียว แต่ทำสุ้มทำเสียงเป็นคนสองคน และความเข้าใจดังกล่าวก็ยังปรากฏอยู่ตราบเท่าทุกวันนี้

เมื่ออาจารย์ น.ท. เริง เวชประสิทธิ์ ได้ไปพบกันท่านพระครูสมุทรมงคลในวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2508 นั้น ทันทีที่เรือหางยาวซึ่ง น.ท.เริง โดยสารไปจอดเทียบท่าที่หน้าวัดจันทร์เจริญสุข น.ท.เริง ก็ตรวจพบจากทางในว่าหญิงสาวผมตัดสั้น แต่งกายอย่างสตรีโบราณคนหนึ่งนั่งอยู่ภายในบริเวณวัดนั้น

ครั้นเมื่อ น.ท.เริง ได้พบกันท่านพระครูและสอบถามถึงอาการอาพาธ ท่านพระครูก็ตอบว่าท่านอาพาธเป็นโรคระบบประสาทและโรคปอดถึงสองโรค แต่เมื่อ น.ท.เริง ได้ตรวจดูทางในอีกครั้งหนึ่งก็เห็นร่างของหญิงสาวโบราณไว้ผมตัดซึ่งเห็นครั้งแรกที่ท่านน้ำมาซ้อนอยู่ในร่างของท่านพระครู น.ท.เริง จึงทราบทันทีว่าท่านพระครูได้ปิดบังอำพรางความจริงบางอย่างไว้แต่จะเพื่อผลอันใดยังไม่ทราบชัด และท่านก็ไม่ได้เจ็บป่วยตามที่บอกแต่ประการใด

ทว่าเพื่อความแน่ใจ น.ท. เริง ได้พยายามตรวจถึง 5 ครั้ง ก็เห็นร่างของสตรีโบราณซ้อนอยู่ในกายของท่านพระครูดังเดิม จึงแน่แก่ใจว่าร่างของท่านพระครูสมุทรมงคลนี้เป็นภาพซ้อนภาพหรือภาวะซ้อนภาวะ นับเป็นปรากฏการณ์แปลกประหลาดอย่างที่ไม่เคยพบเห็นที่ใดมาก่อน ด้วยเหตุนี้กระมัง ท่านพระครูจึงไม่บอกกับใคร ๆ เพราะเกรงคนจะไม่เชื่อและอาจยิ่งกล่าวหาท่านว่าท่านเป็นบ้าก็จะยิ่งไปกันใหญ่

หลังจากอาจารย์ น.ท. เริง เวชประสิทธิ์ ตรวจพบความจริงและแน่ใจดังนั้นแล้ว จึงได้ถามจี้จุดสำคัญขึ้นว่า ท่านพระครูไม่ได้ป่วยเป็นโรคประสาทหรือโรคใด ๆ ทั้งสิ้น หากแต่มีภาวะซ้อนภาวะหรือมีแฝดในตัวใช่หรือไม่ ?

ซึ่งเมื่อท่านพระครูสมุทรมงคลได้ยินคำถามเช่นนั้นท่านก็ทึ่งใจยิ่งนัก จึงออกปากรับว่าเป็นความจริง พร้อมทั้งเปิดเผยความลับให้ทราบว่า โยมผู้หญิงของท่านพระครูที่ถึงแก่กรรมไปแล้วนั้นก็มีภาวะซ้อนภาวะ คือมีร่างสองร่างซ้อนอยู่ในตัวคน ๆ เดียวกัน สำหรับองค์ท่านเองนั้นมีภาพซ้อนภาพมาตั้งแต่อายุได้ประมาณ 5 ขวบ

เมื่อท่านพระครูเล่ามาถึงตอนนี้และหยุดลงชั่วขณะนั้นเอง ทั้งน.ท. เริง และกลุ่มชาวบ้านที่มาชุมนุมกันอยู๋ในที่นั้นก็ได้ยินเสียงอึกอักดังออกจากลำคอของท่านพระครู โดยท่านมิได้เผยอริมฝีปากแต่อย่างใด แล้วก็มีเสียงพูดดังออกมาเป็นประโยคอย่างชัดเจนว่า

“อย่าไปเล่าให้เขาฟังมากนัก”

และทันทีนั้น ไม่ว่าท่านพระครูจะพูดอะไรออกมาก็จะมีเสียงลึกลับดังออกมาจากคอของท่านเป็นคำกล่าวห้ามบ้าง คำสนับสนุนบ้างสลับกันไป ซึ่งทำให้ทุกคนในที่นั้นถึงกับตื่นเต้นเป็นอันมาก

ท่านพระครูสมุทรมงคลได้เปิดเผยความจริงต่อไปอีกว่า คำกล่าวของอีกภาพหนึ่งที่ซ้อนอยู่ในร่างของท่านนนั้นเป้นไปโดยที่ท่านก็ไม่รู้สึกตัวและบางครั้งก็ค้านกับความรู้สึกของท่านเอง ตัวเอย่างเช่น ครั้งหนึ่งในระหว่างที่บ้านเมืองยังอยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีชาวบ้านมาถามท่านว่าสงครามจะยุติเมื่อใด ซึ่งท่านก็ตอบชาวบ้านผู้นั้นไปว่าไม่ทราบ แต่สิ้นประโยคคำตอบของท่านก็ปรากฏมีเสียงผ่านลำคอออกมาว่า

“อีกสองวันสงครามก็เลิก”

ในตอนนั้น แม้แต่องค์ท่านเองก็ยังมีความคิดว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่สงครามจะยุติลงง่าย ๆ เช่นนั้น แต่พออีก 2 วันต่อมาก็ปรากฏว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงจริง ๆ ชาวบ้านชาวเมืองจึงพากันเคารพเลื่อมใสท่านยิ่งขึ้นว่าท่านทำนายทายทักเหตุการณ์อนาคตได้แม่นยำราวกับตาเห็น

เมื่อท่านพระครูได้เมตตาเล่าเรื่องราวอันแปลกประหลาดของท่านจบลงแล้ว อาจารย์ น.ท. เริง จึงได้กราบเรียนถามท่านขึ้นว่า ทราบหรือไม่ว่าวัดจันทร์เจริญสุขที่ท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่นี้สร้างขึ้นเมื่อใดและใครเป็นคนสร้าง ?

ท่านพระครูตอบว่าไม่ทราบ อาจารย์ น.ท. เริง จึงได้เล่าให้ท่านฟังตามที่ตรวจเห็นจากทางในว่า วัดจันทร์เจริญสุขนี้สร้างมาได้หลายร้อยปีแล้วโดยหญิงสาวสองพี่น้องคู่หนึ่ง คนพี่ชื่อ จันทร์ คนน้องชื่อ สุข

และปัจจุบันนี้ดวงวิญญาณของนางสุขผู้น้องได้ไปเกิดใหม่แล้ว ยังเหลือแต่นางจันทร์ซึ่งขณะนี้ได้มาอาศัยร่วมร่างกับท่านอยู่ และเมื่อเล่ามาถึงตอนนี้ น.ท. เริง ก็ได้เกิดความคิดขึ้นมาว่า อยากจะทำพิธีแยกร่างนางสุขออกไปเสียจากร่างของท่านพระครู แต่เพียงอาจารย์ น.ท. เริง คิดขึ้นในใจเท่านั้น สีหน้าของท่านพระครูสมุทรมงคลก็เปลี่ยนไปทันทีราวกับว่าล่วงรู้ในความคิด

ทำให้อาจารย์ น.ท. เริง ทราบว่าภาวะทั้งสองนี้จะแยกจากกันไม่ได้ หากแยกเมื่อใดก็หมายถึงว่าท่านพระครูจะต้องมรณภาพลงทันที และก่อนที่จะกราบนมัสการลาท่านพระครูกลับสู่กรุงเพท อาจารย์ น.ท. เริง ได้ถวายมงคล 108 เพื่อร่วมในการสร้างอุโบสถของท่าน

และจากการสอบถามจากท่านอาจารย์ทองแถม ศาสตระรุจิ อาจารย์ใหญ่ในวิชาพรหมศาสตร์ผู้ซึ่งมอบหมายให้อาจารย์ น.ท. เริง เวชประสิทธิ์ ไปเป็นเจ้าพิธีในเรื่องนี้ ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า เรื่องของภาพซ้อนภาพหรือภาวะซ้อนภาวะ หรือมีแฝดในตัวเช่นกรณีของท่านพระครูสมุทรมงคลนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในสมัยพุทธกาลซึ่งปรากฏอยู่ในพระสูตร กล่าวคือได้มีผู้ไปกราบทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าเหตุใดพระมหากัจจายนะจึงมีท้องพลุ้ยใหญ่โตผิดกับคนทั้งปวง ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสตอบว่า เพราะมีเด็กอยู่ในท้องของพระมหากัจจายน์ คือมีภาพหรือมีแฝดในตัวซ้อนลงไปด้วยบุพพกรรม ด้วยเหตุนี้พระมหากัจจายนะหรือพระสังกัจจายน์จึงเป็นที่นับถือกันทั่วไปว่าให้คุณทางด้านโชคลาภเงินทอง โภคทรัพย์และการขอบุตร ธิดา ดังนี้แล

สุรเทพ · **โพสต์แล้ว:** ศุกร์ 27 มี.ค. 2009 8:40 am

เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากครับ :grt:

อาร์ต · **โพสต์แล้ว:** ศุกร์ 27 มี.ค. 2009 12:47 pm

ขอบคุณครับ. :grt:

แต่นี่คือภาวะซ้อนภาวะของคุณอู๊ดดี๊อะฮะ

Monny · **โพสต์แล้ว:** เสาร์ 28 มี.ค. 2009 12:24 am

มีต่ออีกไหมครับ อยากอ่านอีกอ่ะครับ

รณธรรม ธาราพันธุ์

ถ้าหมายถึงต่อจากเรื่องข้างบนคงไม่มีแล้วครับ เพราะมีอยู่เท่านั้น นอกจากผมจะ "สร้างเรื่อง" ขึ้นเองล่ะก็มีแน่นอน :lol:

แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นที่ว่าด้วยวิชาพรหมศาสตร์ผมจะทยอยลงเรื่อย ๆ ครับ

อันภาวะของคุณอู๊ดดี้ถ้าเปลี่ยนเป็นน้องหมูทะเลก็จะดูเข้าทีกว่านะครับคุณอาร์ต :lol:

อู๊ด อู๊ด

becknui · **โพสต์แล้ว:** พุธ 01 เม.ย. 2009 4:11 pm

ร่างซ้อน!!!! ...เรื่องนี้อ่านแล้วได้ความรู้มากเลยครับ ขอบพระคุณพี่รณธรรมมากๆครับ ที่สรรหาเรื่องราวดีๆ มาประดับปัญญาอยู่เสมอๆ ...

รณธรรม ธาราพันธุ์ · **โพสต์แล้ว:** พุธ 01 เม.ย. 2009 4:18 pm

ด้วยความยินดีอย่างยิ่งครับ

นวรัตน์ดอทคอม

วิชาพรหมศาสตร์ กับ ท่านพระครูสมุทรมงคล

ผู้ใช้งานขณะนี้