ไม่ทราบใครเคยทราบหรือยัง คงไม่เอามะพร้าวห้าวมาขายสวนนะครับ
๑...นะโม ๓ จบ จับสร้อยพระภาวนา
"มาเรโส ตังสุเรติ"
"ขอเดชะ ด้วยบารมีแห่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ด้วยบารมีของหลวงพ่อ........(มีกี่องค์ออกชื่อให้หมด) จงมารักษาตัวข้าพเจ้า ณ กาลบัดนี้เทอญ"
๒...เอาสร้อยใส่มือพนมภาวนา
"โสทายะ นะโมพุทธายะ ขออาราธนามาจงมาปรากฎในจักขุทวาร มะโทวาร กายะทวาร แห่งข้าพเจ้า ณ บัดนี้เถิด"
๓...กางสร้อย ก่อนสวมคอ ภาวนา
"พุทธัง อาราธนานัง ธัมมัง อาราธนานัง สังฆัง อาราธนานัง พุทธาอานุภาเวนะ เมเตรักขันตุ สัพพะทา พระบิดา พระมารดา จงปกป้องรักษา คุณครูอุปัฌชาย์ จงดลบันดาลให้ปลอดภัย"
๔...สวมสร้อย ภาวนา
"พุทธังมาเรโส นะโมพุทธายะ
ธัมมังมาเรโส นะโมพุทธายะ
สังฆังมาเรโส นะโมพุทธายะ"
๕...สวมสร้อยแตะคอภาวนา
"ภะคะวา"
๖...กุมพระภาวนา ๓ ครั้ง
"อะอิอุง องคะ พันทะนังกามะเต"
๗..ตอนถอดสร้อยออกจากคอภาวนา
"พุทโธ ภะคะวาติ"
แล้วแขวนไว้ในที่อันควร ไม่แขวนไว้ปลายเท้า หากอยู่ในห้องที่ไม่สามารถแยกต่างหากได้ ควรห่อผ้าขาว หรือนำผ้าขาวสะอาดปิดไว้
ถ้าหากต้องเดินลอดหรือเข้าไปในที่ที่ดูแล้วไม่แน่ใจว่านำพระเข้าไปด้วยดีรึเปล่าให้ภาวนา
"อิติภะคะโว"
เมื่อออกมาแล้ว หรือลอดผ่านแล้วให้ภาวนา
"โสภะคะวา"
เป็นการนำพระติดตัวแบบโบราณที่ย่นย่อมาแล้ว จริงๆมีเยอะกว่านี้มาก คนสมัยก่อนกว่าจะแต่งตัว ผูก คาดเครื่องรางของขลังและภาวนาพระคาถาต่างๆเสร็จอย่างน้อยเป็นชั่วโมง คนสมัยก่อนถึงขลังจริง เหนียวจริง
ถ้าทำคล่องๆแล้วใช้เวลานิดเดียวเองครับ แต่รับประกันขลังจริง
***นำภาพการแช่ว่านยาของสำนักเขาอ้อ จากแฟ้มคุณโจ้ พัทลุงมาประกอบเรื่องครับ***