นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 29 เม.ย. 2024 3:11 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ภาวนาเหมือนค้นหาแก้ว
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 12 ม.ค. 2017 5:15 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4542
"ของดีวิเศษที่สุดในโลกก็คือจิตใจของเรา จิตใจของเราแต่ละรายๆ มันไม่ได้อยู่ที่อื่นนะ ของดีของวิเศษนี่มันอยู่ที่ดวงใจของเราอย่าดุถูกดูหมิ่นตัวเองว่า บุญน้อย วาสนาน้อย ไม่ใช่ฐานะ ไม่ใช่วาสนาของเราที่จะมาปฏิบัติ โยนให้พระอริยเจ้า พระอริยเจ้ามีอยู่ที่ใด พระอริยเจ้าก็แปลว่าประเสริฐ พระอริยเจ้าที่ท่านรู้ ท่านรู้อะไร ท่านก็รู้ทุกข์ แล้วทุกข์มันไม่มีกับเราหรือไง มันก็มีเพราะฉะนั้นทำไมเราจะรู้ไม่ได้ ทีนี้ทุกข์อันใดก็สมุทัยอันนั้น สมุทัยอันใด ก็นิโรธอันนั้นมันอยู่ที่เดียวกัน นิโรธก็คือความดับทุกข์มันเกิดได้ มันก็ดับได้ ทุกข์มันเกิดที่ไหน ทุกข์มันเกิดที่จิตมันก็ต้องดับที่จิตและเราจะไปหาของดีที่ไหน มันมีอยู่แล้ว แต่เราไม่เอากันเท่านั้น"
#ธรรมะเทศนาบางตอน ขององค์หลวงปู่ บุญมา คัมภีรธัมโม วัดป่าสีพนมห์ อ.สว่างเเดนดิน จ.สกลนคร




"นั่นแหละมันทุกข์ เข้าใจไหม ทุกข์ทั้งนั้นแหละ เป็นผัวเมียกันบอกรักกัน ๆ มันก็ดีแต่ตอนใหม่ ๆ นั่นละ แต่กินข้าวเปล่าใส่น้ำปลามันยังว่าอร่อยเลย พอนานไปทีนี้ไม่อร่อยแล้ว ทำมาแค่ไหนก็ไม่อร่อยแล้ว เข้าใจไหม มันเบื่อ มันนาน"

...หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร




แสงสว่างแห่งความดี

"...ความดีหรือบุญกุศลเปรียบเหมือนแสงไฟ ผู้ทำบุญทำกุศลอยู่สม่ำเสมอเพียงพอแม้จะเหมือนไม่ได้รับผลของความดี และบางครั้งก็เหมือนทำดีไม่ได้ดี ทำดีได้ชั่วเสียด้วยซ้ำ

เช่นนี้ก็เหมือนจุดไฟท่ามกลางแสงสว่างยามกลางวัน ย่อมไม่ได้ประโยชน์จากแสงสว่างนั้น แต่ถ้าตกค่ำมีความมืดมาบดบัง แสงสว่างนั้นย่อมปรากฏและขจัดความมืดให้สิ้นไปสามารถมองเห็นอะไรๆ ได้ เห็นอันตรายที่มีอยู่ในความมืดได้จึงย่อมสามารถเลี่ยงภัยหลีกพ้นอันตรายเสียได้

ส่วนผู้ไม่มีแสงสว่างอยู่กับตน เปรียบเหมือนไม่มีเทียนจุดอยู่ เมื่อไปถึงที่มืดคือที่คับขันยามกลางคืนมีความมืดมิดย่อมไม่อาจเห็นอันตรายได้ในที่มืด ไม่อาจหลีกพ้นอันตรายได้ ผู้ทำความดีเหมือนผู้มีแสงสว่างอยู่กับตัว ไปถึงที่มืดหรือที่คับขันย่อมสามารถดำรงตนอยู่ได้ด้วยดี พอสมควรกับความดีที่ทำอยู่

ตรงกันข้ามกับผู้ที่ไม่ทำความดี ซึ่งเหมือนกับผู้ที่ไม่มีแสงสว่างอยู่กับตัว ขณะอยู่ในที่สว่างอยู่ในความสว่างก็ไม่เดือดร้อน แต่เมื่อใดตกไปอยู่ในที่มืดคือที่คับขันย่อมไม่สามารถดำรงตนอยู่ได้โดยสวัสดี ภัยอันตรายมาถึงก็ไม่รู้ไม่เห็นไม่อาจหลีกพ้น คนทำดีไว้เสมอกับคนไม่ทำความดีไว้แตกต่างกันเช่นนี้ประการหนึ่ง..."

พระธรรมเทศนา..
องค์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวัฑฺฒโน)






"...ท่านทั้งหลาย ที่แสดงความสนใจในการบำเพ็ญภาวนา ก็พากันบำเพ็ญภาวนาไป ไม่ต้องไปห่วง ไปสนใจกับวัตถุมงคล อันเป็นของภายนอกนี้

แต่สำหรับผู้มีจิตใจเพลิดเพลินอยู่ ยังยินดีในการเกิดตายในวัฏสงสาร ยังไม่สามารถหันมาสู่การปฏิบัติธรรมได้ ก็ให้อาศัยวัตถุภายนอกเช่นวัตถุมงคลนี้เป็นที่พึ่งไปก่อน อย่าไปตำหนิติเตียนอะไรเลย..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่ดูลย์ อตุโล






"...การภาวนา เป็นเหมือนเครื่องค้นคว้าหาแก้วอันประเสริฐ คนเรามีแก้วอันประเสริฐอยู่ในตัว แต่เมื่อไม่อาศัยการภาวนา ก็ไม่สามารถค้นพบแก้วนั้นได้

พระพุทธศาสนามีคุณค่าสูงก็ด้วยสอนวิธีภาวนา ทำจิตใจที่มีกิเลสอาสวะเศร้าหมองอยู่ ให้หมดจดจากสิ่งเศร้าหมองนั้น ให้กลับผ่องใสขึ้น... "

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
วัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 10 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO