นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 29 เม.ย. 2024 6:21 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 10 ม.ค. 2017 10:00 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4543
"วิธีสร้างความสงบของใจ"

ต้องผ่านขั้นร่างกายให้ได้ก่อนถึงค่อยไปสู่ขั้นจิต เขานิยมกันสมัยนี้เห็นชอบปฏิบัติจิต ดูจิตกันเหลือเกินแต่ไม่รู้ว่าดูเพื่ออะไร ดูไปแต่ก็มาติดอยู่ที่ร่างกาย ยังมากลัวเจ็บ มากลัวตายอยู่ ยังมามีความรักความใคร่ในร่างกายของตัวเองอยู่ ยังมาทุกข์กับร่างกายอยู่ ไปดูจิตก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ดูไปก็ไม่สามารถที่จะไปทำลายความอยากที่มีภายในจิตใจได้ เพราะมันละเอียดกว่ากันมันลึกกว่ากัน เหมือนกับการเรียนหนังสือ ถ้าเราเรียนระดับประถมนี้มันอยากไปเรียนในระดับมัธยมเลย เรียนให้จบระดับประถมก่อน แล้วค่อยก้าวขึ้นสู่ระดับมัธยม เพราะความรู้มันต่างระดับกัน ความสามารถของเรายังไม่อยู่ในระดับนั้น ไปโรงเรียนก็เรียนไม่ได้ เรียนก็ไม่ผ่าน ไปดูจิตก็ยังปล่อยวางร่างกายไม่ได้ก็อย่าไปดูเลย ร่างกายมันหยาบมันง่ายกว่าก็ยังปล่อยไม่ได้ แล้วจะไปปล่อยจิตได้อย่างไร

นี่คือปัญหาของผู้ปฏิบัติ หรือผู้ศึกษาในสมัยนี้ คือศึกษาปฏิบัติโดยไม่มีครูไม่มีอาจารย์ ไม่มีขั้นไม่มีตอนกัน ศึกษาไปแล้วก็อ่านไป แล้วก็เอาไปคาดคะเน แล้วก็เอาไปปฏิบัติแบบผิดๆ ถูกๆ นั่งสมาธิก็ไม่รู้ว่านั่งเพื่ออะไร นั่งอย่างไร คิดว่านั่งหลับตา นั่งหลับตาแล้วก็ดูจิตไป แล้วก็เห็นโน่นเห็นนี่ขึ้นมา แล้วก็เกิดความสงสัยต่างๆ ขึ้นมาว่ามันเป็นอะไร อันนี้ไม่ใช่เป็นการนั่งสมาธิ เป็นการนั่งเพื่อสร้างปัญหาให้กับตัวเอง การนั่งสมาธินี้เพื่อกำจัดปัญหา ปัญหาก็คือกิเลสตัณหา การจะกำจัดกิเลสตัณหา หรือคุมกิเลสตัณหาได้ ก็ต้องนั่งด้วยสติ ต้องมีสติ พุทธานุสติก็บริกรรมพุทโธๆ ไป อานาปานสติก็ดูลมหายใจเข้าออกไป อย่าไปปล่อยให้ใจคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ แล้วผลิตสิ่งนั้นสิ่งนี้มาหลอกใจ ถ้านั่งแล้วไม่มีสติควบคุมใจ เดี๋ยวจิตมันก็จะสร้างอะไรต่างๆ ขึ้นมาหลอกจิตให้คิดหลงไปว่า เป็นนั่นเป็นนี่ขึ้นมา

การนั่งนี้ต้องการนั่งให้จิตสงบ ให้จิตว่าง ให้จิตนิ่ง ให้จิตรวมเป็นหนึ่ง ให้จิตมีพลังของอุเบกขา คือ นิ่งเฉย สักแต่ว่ารู้ ไม่รัก ไม่ชัง ไม่กลัว ไม่หลง เพราะนี่คือกำลังของจิตที่เราจะเอาไปใช้ทำลายกิเลสตัณหาต่อไป.

ธรรมะบนเขา
วันที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๐

"วิธีสร้างความสงบของใจ"

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต






"...ผู้เบียดเบียนเขา แม้จะได้สิ่งที่มุ่งไว้ แต่ผลที่แท้จริงอันจักเกิดจากกรรม คือการเบียดเบียนที่ได้ประกอบการทำลงไปนั้น จักเป็นทุกข์เป็นโทษแก่ผู้กระทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

กรรมนั้นให้ผลสัตย์ซื่อนัก เหมือนผลของยาพิษร้ายแรง กรรมนั้นเมื่อทำแล้วก็เหมือนดื่มยาพิษร้ายแรงเข้าไปแล้ว จักไม่เกิดผลร้ายแก่ชีวิตและร่างกายย่อมไม่มี ย่อมเป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นกรรมดีก็จักให้ผลดี ถ้าเป็นกรรมชั่วก็จักให้ผลชั่ว

เราเป็นพุทธศาสนิกนับถือพุทธศาสนา พึงมีปัญญาเชื่อให้จริงจังถูกต้อง ในเรื่องกรรมและการให้ผลของกรรมเถิด จักเป็นสิริมงคล เป็นความสวัสดีแก่ตนเอง..."

พระโอวาทธรรมคำสอน..
องค์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวัฑฺฒโน)


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO