นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 10:19 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: งานทางปฏิบัติ
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 12 ธ.ค. 2016 5:49 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4549
งานสำคัญอันดับหนึ่งของชีวิต

" . . . . ผู้บริหารร่างกายกับจิตใจของเรา ผู้เป็นหัวหน้าชีวิตของแต่ละคนคือกรรม กรรมนี้ฝืนได้ไหม...ฝืนไม่ได้ กรรมนี้แก้ได้ไหม...แก้ไม่ได้ กรรมนี้ล้างได้ไหม...ล้างไม่ได้ ผู้จัดการชีวิตของเรานั้นคือกรรม กรรมนั้นเขาจะเป็นอย่างไรก็ปล่อยให้เขาให้ผลตามกาลตามเวลา

แต่การที่จะหนีกรรมคือการปฏิบัติธรรมให้สม่ำเสมอ เขาจะให้ผลในทางที่ดีก็ดีไป เขาจะให้ผลในทางไม่ดีก็ทนเอา แต่การทำดีในชาติปัจจุบันนี้ไม่ยอมลดละ...ไม่ยอมลดละ ก่อนกายอันนี้จะแตกดับเราก็รีบตักตวงเอาเสีย มันไม่เที่ยงแท้แน่นอนสักอย่างนะ

เราก็เห็นหลายๆ คน เดี๋ยวเป็นนั้นเป็นนี้ บางคนก็เดินไม่ได้บางคนก็พูดไม่ได้ ก่อนร่างกายอันนี้เขาจะวิบัติลงไป เรามาเอากำไรจากเขาด้วยการพาร่างกายอันนี้มาปฏิบัติธรรม...ก็ปฏิบัติจิตใจนั่นแหละ ก่อนที่เขาจะเป็นไป มันไม่เที่ยงแท้แน่นอนนะ เพื่อนเราเขาเดินไม่ได้ก็หลายคน พูดไม่ได้ก็หลายคน ถ้าเป็นอย่างนั้นก่อนจิตใจจะเข้าถึงธรรมนี่เราจะเสียการนะ ฉะนั้นการหาอยู่หากินหน้าที่การงานก็ทำไป ขาดเขาไม่ได้ ส่วนการปฎิบัติธรรมนี้...การเอาจิตใจให้เข้าถึงธรรมนี้ เราต้องบอกตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าเป็นงานอันดับหนึ่งของชีวิตสำหรับผู้ที่จะหนีทุกข์... สำหรับผู้จะคว่ำวัฏจักรวัฏวน . . . . "

พระอาจารย์ชายแดน สีลสุทโธ
วัดสามัคคีบุญญาราม ลำปาง
[ เรียบเรียงจากบางส่วนของโอวาทธรรม การปฏิบัติจิตตภาวนา คืนวันเสาร์ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๙ ]




" ผู้ที่ทำตัวให้เล็กที่สุด คือผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผู้ที่ทำตัวให้ใหญ่ที่สุด คือผู้ที่มากปัญหาที่สุด "
พระอาจารย์ชายแดน สีลสุทโธ
วัดสามัคคีบุญญาราม ลำปาง




" อย่าปล่อยให้จิตใจท่องเที่ยวไปอิจฉาคนนั้นคนนี้ให้เสียเวลาอยู่เลย ความอิจฉานั้นเกิดที่จิตใจของผู้อิจฉา ความทุกข์ก็ย่อมตั้งอยู่ที่จิตใจของผู้อิจฉา "
พระอาจารย์ชายแดน สีลสุทโธ
วัดสามัคคีบุญญาราม ลำปาง






ทํ า ย อ ด แ ห่ ง บุ ญ . . . ต้ อ ง เ ตื อ น ต น เ อ ง

" บุญเกิดจากการทำสมาธิมันเป็นยอดแห่งบุญ ซึ่งไม่ได้ลงทุนอะไรสักบาทเดียว พอครูอาจารย์พาทำมันก็บอกไม่มีเวลา พานั่งมันก็บ่นว่าปวดแข่งปวดขา วัดก็ไกลหนทางก็มืด คนมันจะเอาดีไม่ได้ มันก็มีแต่ปัญหาทั้งนั้น

กิเลสมันเป็นเครื่องดองสันดาน กิเลสเป็นเครื่องพาให้พูด-คิด-ทำ กิเลสเป็นสิ่งที่พาให้เวียนว่ายตายเกิด เรื่องของกิเลสไม่มีวันที่จะจบสิ้น คนที่ได้รับผลแห่งความทุกข์ทั้งหลายก็คือตัวของเราเอง ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นที่จิตใจของเรานี้แหละ ถ้าไม่ปฏิบัติที่จิตใจเราจะปฏิบัติกันที่ไหน ... จี้มันลงไปสิ ... ที่จิตใจ ... พุทโธ ๆ ๆ ๆ "

พระอาจารย์ชายแดน สีลสุทโธ
วัดสามัคคีบุญญาราม ลำปาง






"ขันธบัญญัติ อายตนบัญญัติ อายตนะภายใน อายตนะภายนอกก็มีอยู่ 6 เหมือนกัน ภายในก็มีอยู่ภายนอกก็มีอยู่ นี่ก็บัญญัติไว้ในที่นี้ทั้งหมดนั้นแหละ แล้วแต่เราผู้มีปัญญาหรือนักปฏิบัติจะพึงมีปัญญาเจาะแสวงหาหนทางอยู่ในตัวของเราทั้งนั้นแหละ เราอยู่ที่นี่ไม่ต้องไปหาที่อื่นให้ลำบาก หาอยู่ที่กายของเรานี้แหละที่วาจาหรือที่ใจของเรานี้เป็นต้น

ทางที่สรุปใจความลงก็ได้แก่กายวาจาและใจเท่านั้นแหละ ถึงแม้ว่าเราจะแก้ไขหรือศึกษาที่กายวาจาใจ แล้วจะไปแก้ไขที่อื่นมันไม่ถูก จะไปแก้นอกเหนือจากกายวาจาใจไม่มีทางจะแก้ไขได้ เพราะเหตุนั้นเมื่อพากันได้ยินได้ฟังในธรรมะคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ได้นำมาแสดงแต่เพียงย่อย่อ ก็ขอให้จดจำนำไปพินิจพิจารณาค้นคิดอยู่ภายในจิตใจของตัว

เมื่อหากว่าเราประพฤติปฏิบัติ หรือพิจารณาค้นคิดเมื่อเราเห็นแล้วประจักษ์แล้วนั่นแหละ ต่อแต่นั้นไปพวกเราก็ได้รับความสุขความเจริญงอกงามในศาสนาธรรมคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า"

หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล




“...บรรดาสิ่งสมมุติที่เราไปยึดถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของเรานั้น ก็จะได้เพียงชีวิตหนึ่งๆ เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นสามี ภรรยา หรือสมบัติต่างๆ เมื่อเราตายไปแล้ว เราจะยึดถือเป็นกรรมสิทธิ์ของเราอีกไม่ได้ เราจะเอาสิ่งต่างๆ เหล่านั้นติดตามไปสวรรค์ นรก หรือที่ไหนๆ ก็ไม่ได้ ตรงกับคำว่า สมบัติของโลก ก็ต้องอยู่ในโลก...”
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่คำดี ปภาโส




เหนื่อยจนตาย ไม่ได้อะไร

"...ที่ไหนๆ ในโลก ไม่ว่าประเทศไทย หรือในต่างประเทศ จะพบว่ามีบ้านเรือนที่อยู่อาศัยที่หรูหราใหญ่โตสวยงามให้เห็นกันอยู่มากมาย และถ้าจะถามว่า จิตใจของบุคคลที่อยู่ที่อาศัยในบ้านเรือนที่สวยงามเหล่านั้น จะมีความเยือกเย็นเป็นสุขกว่าใจของคนอื่นๆ ที่มีฐานะต่ำกว่าเขาหรือไม่ ก็คงจะตอบได้ว่า ไม่แน่เสมอไป

ทั้งนี้ก็คงเพราะว่าเรื่องของวัตถุนั้น ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะก่อให้เกิดความสงบที่แท้จริงให้กับคนเราได้ วัตถุไม่ใช่สิ่งที่จะมาชำระล้างจิตใจของมนุษย์ได้ บ้านเรือนที่หรูหราจึงไม่ใช่เครื่องหมายที่จะบอกได้ว่า ผู้คนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นมีจิตใจสงบมากน้อยเพียงไร

สุข ทุกข์ อยู่ที่ใจ อยู่ที่ไหน ถ้าใจมันสงบระงับได้ มันก็เป็นสุขได้ ฉะนั้น การฝึกอบรมใจจึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด ถ้าจิตใจมีแต่ความยึดถือหลงใหลในสิ่งต่างๆ อยู่อย่างถอนตัวไม่ขึ้น จิตใจก็จะมีแต่ความเดือดร้อนวุ่นวายอยู่ตลอดไป ที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายกันอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะเรื่องของกาย เรื่องของใจทำงานอะไรก็เพื่อกาย เพื่อใจ ทั้งนั้น วิ่งวุ่นกันอยู่ตั้งแต่วันเกิดจนวันตาย ก็เพราะเรื่องของกายกับใจ

คนเรามัวแต่วุ่นวายในงานต่างๆ ทั้งกลางวันกลางคืน โดยส่วนใหญ่ก็เป็นงานภายนอก งานสะสมสร้างฐานะของแต่ละบุคคลทั้งนั้น วุ่นวายจนนั่งไม่ติด เดินไม่ตรง หรือนอนไม่หลับกันไปก็มี เหล่านี้ก็เพราะความยึดถือนั่นแหละเป็นตัวการสำคัญ เช่น เกิดยึดถือว่า เราจะมีฐานะสู้เขาไม่ได้ ถ้าจะถามว่าสู้ใคร มันก็มีคนที่มีฐานะดีกว่าเราให้เปรียบเทียบเสมอนั่นแหละ

เมื่อไรจะรู้สึกว่าฐานะตัวดีพอที่จะหาความสุขกับมันได้จริงๆ บ้าง ใครมีความพอได้ คนนั้นก็จะมีความสุขได้ พอจริงก็สุขจริง พอได้มากก็สุขได้มาก หัดวางเสียบ้าง หัดวางเสียหน่อย ก่อนที่สังขารจะบังคับให้วางก่อนที่ความเฒ่าชรา และความตาย หรือโรคร้ายจะเป็นผู้บังคับให้วาง ถ้ายังไม่หัดวางจะเป็นผู้ที่เหนื่อยจนตาย แล้วก็ขนอะไรไปด้วยไม่ได้เลยในที่สุด..."

เทศนาธรรมคำสอน..
องค์พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร






"...เมื่อสังขารขันธ์ดับไปแล้ว ความเป็นตัวตนจักไม่มี เพราะไม่ได้เข้าไปเพื่อปรุงแต่ง

ครั้นเมื่อความปรุงแต่งขาดไป สภาพแห่งการเป็นตัวตนไม่มี ความทุกข์จะเกิดขึ้นแก่ใครได้อย่างไร..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่ดูลย์ อตุโล





".. ชาตินี้ พวกเราควรจะพอกันเสียที เกิดทุกชาติ ก็ตายทุกชาติ เคยเป็นใหญ่ เคยเป็นกษัตริย์ นี่ทรัพย์สินมากมาย เอาติดมาไม่ได้เลย .."
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ





"...ถ้าสงบแล้ว อยู่ในบ้านก็สงบ อยู่ในวัดก็สงบ อยู่ในป่าในรกก็สงบ อยู่ในถ้ำในเหวก็สงบ สงบหมดทุกหนทุกแห่ง เราสงบคนเดียวเท่านั้นแหละ สิ่งอื่นๆ ทั้งหมดในโลกอันนี้มันจะวุ่นวายสักเท่าไร มันก็ไม่เอาเรื่องเอาถ่าน เรื่องคนอื่นก็เป็นเรื่องของคนอื่น..."
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี




"...เนื่องจากไม่รู้แจ้งในร่างกายตามเป็นจริง จึงได้สร้างกิเลสเหล่านี้ขึ้นในใจ หลงรัก จะรักคนอื่นก็มารักกายนี้ก่อน รักขันธ์ห้านี้ก่อน จึงลามไปถึงคนอื่น ถ้าคลายความรักในร่างกายลงได้ ก็ไม่ไปรักคนอื่นแล้ว..."
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ





"...จงรักษากำลังใจให้อยู่ในศีล-สมาธิ-ปัญญา อย่าท้อถอยกับร่างกายที่มันมีแต่ทุกขเวทนาอยู่เสมอ ให้เห็นปกติธรรมของร่างกาย และที่จิตยังดิ้นรน กระสับกระส่ายไปกับร่างกายเมื่อถูกกระทบ ก็เป็นเพราะวิปัสสนายังอ่อน

พิจารณาก็จริงอยู่ แต่ไม่ต่อเนื่องกัน จิตจึงไม่มีกำลังที่จักประคองอารมณ์ให้เเน่วแน่ อยู่กับความจริง ยังมีกำลังตัดสังโยชน์ยังไม่พอ ต้องฝึกฝนสมาธิจิตให้ตั้งมั่น เข้มแข็งมากขึ้นยิ่งกว่านี้

ให้มองตามความเป็นจริง หาจุดอ่อนการปฏิบัติให้พบ อย่าเข้าข้างตนเอง แล้วจงอย่าไปสนใจเรื่องของใคร ให้ตั้งใจมองจิตของตนเอง มองจริง ๆ ให้เห็นจริง ๆ แล้วจักพบความก้าวหน้าในการปฏิบัติ..."

โอวาทธรรมคำสอน..
พระราชพรหมยานมหาเถระ
(องค์หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง) จ.อุทัยธานี


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 10 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO