นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 4:14 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: กายคตา
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 27 พ.ย. 2016 9:52 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4549
"..หนังคนตาย เป็นยังไงบ้าง

หนังคนเป็น เป็นยังไงบ้าง

มันหนังอันเดียวกัน

ทำไมเห็นหนังคนเป็นแล้ว ตื่นเต้น

เห็นหนังคนตายแล้วกลัวผี

หนังอันเดียวกันกลัวมันอะไร.."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน





เรื่อง "โยมอย่าไปตกนรก ร่วมกับเขา"

โยม.. หลวงปู่เจ้าขา โยมรู้สึกเสื่อมศรัทธากับพระสงฆ์ทุกวันนี้จังเลยเจ้าค่ะ

หลวงปู่.. ทำไมหล่ะ

โยม.. ก็มีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับพระออกมาบ่อยจังเลย ทั้งมั่วสุม ทั้งเรื่องสีกา พระตุ๊ดเณรแต๋ว ล่าสุดมีข่าวพระมีเครื่องบินอีก

หลวงปู่.. เขาเอาอะไรทำพระหล่ะ

โยม.. ไม่เข้าใจเจ้าค่ะ

หลวงปู่.. พระพุทธรูปเขาเอาอิฐ หิน ปูน ทราย ทองคำ เงิน ทำพระเหล่านั้น ไม่มีข่าวเรื่องนี้เลยใช่ไหม

โยม.. เจ้าค่ะ

หลวงปู่.. แต่พระอย่างหลวงปู่เขาเอาคนทำ พระสงฆ์อื่นๆ เขาก็เอาคนทำ จึงมีเรื่องแบบนี้ แต่คุณต้องเข้าใจนะเรื่องการปฏิบัติ เรื่องการพระศาสนาเป็นเรื่องส่วนบุคคล ใครทำดีผลดีย่อมสนอง ใครทำชั่วผลชั่วย่อมติดตาม

คุณ..ความคิดหน่ะ เป็นกรรมที่ไม่มีวิบากนะ แต่การพูด การกระทำ เมื่อพูด เมื่อทำออกไปแล้วย่อมมีวิบาก พูดไม่ดีก็เสีย

การที่เขาทำชั่ว มันเป็นเรื่องของเขาไม่ใช่เรื่องของเรา ถ้าเราไปวิจารณ์ ไปแสดงออกแล้ว เราย่อมมีส่วนในกรรมนั้น เพราะเราเอาใจส่งไปหาเขา แทนที่เขาจะตกนรกคนเดียว เรากับไปสมัครตกนรกกับเขาด้วย เหมือนที่โยมรู้สึกอยู่ตอนนี้

โยม.. ยังไงเจ้าค่ะ

หลวงปู่.. ก็โยมไม่รู้สึกทุกข์กับข่าวที่ได้รับหรือ...

โยม..ทุกข์เจ้าค่ะ แต่ทุกข์เพราะห่วงศาสนานะเจ้าค่ะ

หลวงปู่.. ทุกข์ไหมหล่ะ ทุกข์นั้นหล่ะ นรกทางใจอย่างที่อาตมาว่า ส่งจิตออกไปหาเขา มันก็ทุกข์มันก็ตกนรก คุณ..จำไว้นะ ทุกคนล้วนเดินเข้าหาพระนิพพาน เหมือนกันหมด ช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับกำลังบุญ คือความพยายามทำความดี พัฒนาตนเองไปเรื่อยๆ

เหมือนรถที่วิ่งไปกรุงเทพนั้นหล่ะ จุดหมายคือกรุงเทพ จะเอารถอะไรไป มันก็ถึงกรุงเทพ คุณอาจจะมีบุญมากหน่อย ถึงมีรถเก๋งขี่ไป แต่คนอื่นเขาอาจเดินไป แต่มันก็ถึงกรุงเทพเหมือนกัน ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง

สำคัญคือ คุณต้องบังคับพวงมาลัยรถเรา อย่าไปออกคำสั่งรถคันอื่น ขับอย่างนี้ ขี่อย่างนั้น ต่างคนต่างตั้งหน้าขับไป สักวันต้องถึงกรุงเทพ

อย่ามัวแต่ไปวิจารณ์เขา พระก็ดี โยมก็ดี การปฏิบัติเป็นเรื่องของบุคคล เขาทำชั่วเขาตกนรก โยมอย่าส่งใจไปร่วมกับเขา อย่าไปร่วมตกนรกกับเขา ตั้งใจปฏิบัติตามหน้าที่ของเรา เจริญพร.

ปุจฉา-วิสัชนาธรรมคำสอน..
พระญาณวิสาลเถร (องค์หลวงปู่หา สุภโร) หรือ หลวงปู่ไดโนเสาร์
วัดสักกะวัน(ภูกุ้มข้าว) ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์





"...โลกวุ่นวายอยู่เพราะคนเรานั้นหลงโลก ไม่รู้เท่าทันโลก มาหลงดิน มาหลงน้ำ หลงไฟ ลม กันอยู่ มาหลงสมบัติโลกว่าเป็นของตน จึงคิดสร้างโลก สร้างดิน สร้างน้ำ สร้างไฟ สร้างลมกันอยู่ มาเป็นเปรต เป็นผี เฝ้าน้ำเฝ้าดินกันอยู่

เมื่อรู้ไม่เท่าทันความหลงของตนเอง มันก็จึงวุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้น มาแย่งชิงเอาสิ่งที่ตัวเองก็นำไปด้วยไม่ได้ ในที่สุดทุกอย่างจะต้องทิ้งไว้กับโลก เป็นสมบัติโลก จะใช้เป็นของตัวได้ก็เพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราวที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ตัวเองก็รู้ไม่ทัน..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต





“...คนเราจะเป็นสุข เมื่อรู้จักพอดี

ไม่มีใครได้อะไรตลอดไป หรือเสียอะไรตลอดไป

ไม่มีใครหรือสิ่งไหนคงอยู่ตลอดไป โดยไม่สูญสิ้น

ขอเพียงแค่รู้จักพอดี ทุกคนจะเป็นสุข...”

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่บุดดา ถาวโร





พระบรมครูของเรา ท่านเห็นว่า
สังขารทั้งหลายทั้งปวงเป็นของไม่เที่ยง
เพราะฉะนั้นท่านจึงสอนให้เราทั้งหลาย..ปล่อยวาง

เมื่อถึงเวลาสุดท้ายของทุกคน
เพราะว่ามันเอาไปไม่ได้
จำเป็นมันก็ต้องวางอยู่นั่นเองล่ะ
แต่เราก็วางมันไว้ก่อนซะ..จะไม่ดีกว่าหรือ?

เราแบกก็รู้สึกว่า มันหนัก
เมื่อมันหนักแล้ว เราก็ทิ้งมันซะก่อนจะไม่ดีหรือ?
จะไปทนแบกมันทำไม

หลวงพ่อชา สุภัทโท




รากแก้วพุทธศาสนาอยู่ที่ จิตตภาวนา เวลานี้พวกเราชาวพุทธได้แต่ กระพี้ ไม่ได้แก่น คือ การให้ทาน รักษาศีล ทำความดีประเภทต่างๆ เป็น กระพี้ ทั้งนั้น

เมื่อเทียบเข้าไปหลัก จิตตภาวนา นั้นคือ แก่นแท้ ถ้าใครได้ปฏิบัติเข้าไปตรงนี้แล้วได้สัมผัสกับ แก่นแท้ มากน้อยเพียงไร ความดีนี้จะกระจายออกมา ความละเอียดลออทุกอย่าง จะออกมาจาก จิตตภาวนา ทั้งนั้น..
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน..





บุคคลผู้มีปัญญา คือบุคคลผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร แต่ส่วนมากคนไม่ค่อยเห็น มักติดกันซะส่วนใหญ่ ไปหลงคิดว่ามันดี มันคือความบันเทิง มันคือความสุข..
หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป..





ความจริงการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น
ไม่มีอะไรลำบาก ไม่มีอะไรยุ่งยาก
การปฏิบัติตามทางของพระองค์ไม่มีทุกข์
เพราะทางของพระองค์คือ "ปล่อยวาง" ให้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง..

หลวงพ่อชา สุภัทโท






..ร่างกายไม่ใช่ของสวยงามอะไร เขาเกิดมาเพื่อแก่ เพื่อเจ็บ เพื่อตายเท่านั้นเอง อวัยวะแต่ละส่วนๆ ก็ล้วนเป็นของปฏิกูลด้วยกันทั้งนั้น พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่าร่างกายเป็นของปฏิกูล เป็นของน่าเกลียดเป็นของไม่สวยไม่งาม

จะสวยงามอะไร ก็ของมันต้องล้าง กันอยู่ทุกวัน ถ้ามันไม่ล้างแล้วมันจะขนาดไหน นี่ ความจริงเป็นอย่างนี้ แต่เราพยายามปกปิดกัน พยายามที่เอาอันนั้นมาปิด เอาอันนั้นมาเคลือบ เอาอันนั้นมาย้อม อันนี้เป็นการปกปิดเป็นการหลอกลวงกันอยู่เสมอ ความเป็นจริงเราไม่ค่อยจะให้มันปรากฏออกมา..
หลวงปู่แบน ธนากโร..






เหนื่อยก็ไม่พัก หนักก็ไม่วาง
โลกนี้มันก็สม่ำเสมอดีอยู่หรอก ที่มันไม่สม่ำเสมอนั้น
เพราะจิตของเราหลงไปอุปาทานมั่นหมายมันเสียแล้ว
เช่น ต้นไม้ในป่านี้แหละ ต้นนี้มันโตไป ต้นนี้มันเล็กไป
ต้นนี้มันสูงไป ต้นนี้มันเตี้ยไป นี่เราก็พูดแต่เรื่องของเรา
ต้นไม้มันก็ไม่ว่าของมันยาวหรือสั้น มันก็เป็นของมันอยู่อย่างนั้น

อารมณ์เกิดมาจาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
มันก็เป็นอยู่ของมันอยู่อย่างนั้น
ถ้าจิตมันรู้เรื่องแล้วก็ปล่อยๆ มันไป ทางตาก็ดี
ทางหูก็ดี ทางจมูกก็ดี ทางลิ้นก็ดี ทางกายก็ดี ทางใจก็ดี
ถ้าเห็นสภาพมันเป็นอย่างนั้น มันก็ปล่อย รับรู้แล้วมันก็ปล่อย

อารมณ์ทั้งหลายนั้นมันก็เสมอกัน ไม่มีอะไรดี ไม่มีอะไรชั่ว
มันจะดี หรือมันจะชั่ว ก็เพราะเราไปมีอุปาทานมั่นหมายมันเท่านั้น
ตัวอารมณ์มันเป็นอยู่อย่างนั้นของมัน ถูกสมมติขึ้นมาในจิตใจของเรา
เราก็ไปสำคัญมั่นหมายว่า มันเป็นที่จิตอย่างนั้น

จากนั้นเราไปแบกมัน มันก็หนัก ความหนักนั้นก็ทำให้เกิดทุกข์ขึ้นมา
ทีนี้จะวางก็วางไม่ได้...ทำไมจึงวางไม่ได้ ?
ก็เพราะนึกว่าของหนักนั้นมันดี

คิดว่าวางแล้ว มันจะไม่ได้ดี จึงไม่ยอมวางมัน
อย่างบุรุษคนหนึ่งแบกต้นไม้มา ถามว่าหนักไหม ?
หนักก็วางมันเสียที่นี่ เขาไม่ยอมวางเพราะกลัวจะไม่ได้
สิ่งที่ได้จากการวางนั้นมีอยู่ แต่เขาไม่เห็น
มันก็แบกไป ดันไป จนกว่าจะตายนั่นเอง

หลวงพ่อชา สุภัทโท





การปฏิบัติ ถ้าอยากเป็นเร็วๆ
มันก็ไม่เป็น หรือไม่อยากให้เป็น
มันก็ประมาทเสีย ไม่เป็นอีกเหมือนกัน
อยากเป็นก็ไม่ว่า ไม่อยากเป็นก็ไม่ว่า
ทำใจให้เป็นกลางๆ
ตั้งใจให้แน่วแน่ในกัมมัฏฐานที่เรายึดมั่นอยู่นั้น
แล้วภาวนาเรื่อยไป.
หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปญฺโญ





"อย่าพากันเล่นมากนะ
ครูบาอาจารย์...
เหลือน้อยลงทุกทีแล้วนะ
ฝ่ายปฏิบัติ
สักหน่อยมัน...
ก็จะเป็นทางโลก
ไปหมดแล้วนะ"

หลวงปู่ลี กุสลธโร






#วางใจเป็นกลางละวางความทุกข์

...ความทุกข์ที่บังเกิดขึ้นที่จิต
เพราะอาศัยความยินดียินร้าย
เป็น #ตัวสมุทัย หนุนให้เกิดทุกข์

ทุกข์ตัวนี้ คือทุกข์อริยสัจ
ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้

เมื่อเรามีสติกำหนดอารมณ์จิต
ของเราอยู่ตลอดเวลา สุขทุกข์
เกิดสลับกันไป

เมื่อสติสัมปชัญญะตัวนี้เด่นขึ้นมา
มีพลังแก่กล้าเมื่อใด
เราสามารถที่จะกำหนดรู้
รู้ธรรมะตามความเป็นจริง

เมื่อจิตของท่านสามารถที่จะ
ดำรงอยู่ในความเป็นปรกติ
ไม่หวั่นไหวต่อเหตุการณ์นั้นๆ

ความเป็นปกติจิตปรากฏเด่นชัด
อยู่ตลอดเวลา ตัวปกติของจิตนั่นแหละ
คือ #นิโรธ

เพราะฉะนั้น #การกำหนดรู้อารมณ์จิต
จึงเป็นสิ่งสำคัญ

โอวาทธรรม....หลวงพ่อพุธ ฐานิโย


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO