นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 06 พ.ค. 2024 11:52 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ไม่ยึดถือ
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 01 พ.ย. 2016 6:03 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4550
" จุดสำคัญที่ พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมก็คือ ทรงสอนให้ปล่อยให้วาง ไม่ยึดถือ คนรู้มากก็ปล่อยได้มาก
รู้น้อยก็ปล่อยได้น้อย ขั้นแรกทรงสอนให้ บริจาคทาน เพื่อเป็นอุบายอันหนึ่งที่จะได้ปล่อยให้วางได้
ต่อมาก็ จาคะ คือ ความสละ แต่เป็น ขั้นที่สูงกว่าให้ทานและยังมีขั้นละเอียด ที่สูงขึ้นไปอีก เช่นการละอุปธิ
คือ ค้นจนเห็นแล้วจึงสละ "

(โอวาทธรรมท่านพ่อลี ธมฺมธโร)






อย่าพยายามทำคนอื่นให้เหมือนใจเรา
เพราะเราก็ทำให้เหมือนใจคนอื่นไม่ได้

อย่าทำตัวเป็นผู้รับฝ่ายเดียว
จงทำตัวเป็นผู้ให้ด้วย

อย่าทำตัวให้เด่นกว่างาน
จงพยายามทำงานให้เด่นกว่าตัว

อย่าทำบ้านให้แข็งแรงกว่าพื้นฐาน
จงทำพื้นฐานให้แข็งแรงกว่าบ้าน

อย่าพยายามทำสิ่งที่ได้ให้เท่ากับใจ
จงพยายามทำใจให้เท่ากับสิ่งที่ได้

-คำสอนของหลวงปู่จันทร์ กุสโล-





"...ตั้งใจปฏิบัตินะ ชาตินี้ไม่ได้ ก็ปฏิบัติต่อไปอีก อย่าเบื่อหน่ายต่อการปฏิบัตินะ ชีวิตจริงๆแล้วไม่มีอะไร มีแต่เกิด เกิดแล้วก็แก่ แก่แล้วก็เจ็บ เจ็บแล้วก็ตาย ไม่มีสุดหรอก ถ้าเราเอาจิตพิจารณาให้ถึงธรรมแล้ว โอ๊ย สังเวชนะ..."
โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงตาผนึก สิริมงฺคโล







การ ปฏิบัติใดๆ ก็ตาม งานใดก็ตามในโลกนี้ ไม่เหมือนกับงาน คือการปฏิบัติต่อจิตใจ ซึ่งเป็นงานละเอียดลออ และรวดเร็วที่สุด กำหนดไม่ทัน รู้ไม่ทัน ทั้งๆ ที่ตัวจิตก็เป็นตัวรู้เป็นตัวปรุง แต่ที่ว่า “รู้ไม่ทัน” คือ สติรู้ไม่ทัน สติเราต้องผลิตขึ้นมา ต้องพยายามอบรม พยายามตั้งสติ ตั้งท่าตั้งทาง เช่นเดียวกับเราเดินไปในสถานที่ที่ไม่ปลอดภัย เช่น ที่เป็นขวากเป็นหนาม เป็นต้น เราต้องระมัดระวัง ความระมัดระวังตั้งจิตตั้งใจเดินนั้นแล ท่านเรียกว่า “สติ”

เช่น ระวังจิตไม่ให้คิดไปในแง่ต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งไม่ดี ขัดกับธรรม คือ ความต้องการของเรา ที่จะให้จิตสงบในเวลาภาวนา เป็นต้น ความระมัดระวังเช่นนี้ ท่านเรียกว่า “สติ” เรา พยายามระมัดระวังเสมอ พยายามอบรมความระวังนี้ให้มากขึ้น ความระวังเรื่อยๆ ก็เป็นความเคยชินภายในตัวเอง แล้วค่อยรู้เรื่องรู้ราว มีสติเป็นพื้นขึ้นมาโดยลำดับ จนกลายเป็น “มหาสติ มหาปัญญา” ขึ้นได้ จากสติที่ล้มลุกคลุกคลาน จากปัญญาที่ล้มลุกคลุกคลาน นี่แหละท่านจึงสอนให้อบรม สอนให้บำรุงสติ โดยลำดับ

พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่ใหญ่พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๑๙







"...โลกว่าโลกเจริญ มันจะเจริญอะไร ก็เจริญทุกอย่างนั่นล่ะ ความเสื่อมมันก็เจริญเช่นกัน เจริญไปเจริญมาอีกเดี๋ยวก็ฆ่ากันเท่านั้น ไฟบรรลัยกัลป์น้ำบรรลัยกัลป์มันก็จะท่วมโลก

นี่โบราณท่านว่าอะไรนะๆ ไฟบรรลัยกัลป์ ก็จะอะไรก็คนนี่ละทำเอาเองทำไว้หมดแล้ว เตรียมไว้หมดแล้ว ดูไปๆ นะทุกวันนี้ โลกมันทำหมุนกันอยู่อย่างนั้นก็ไม่มีความสุขหรอก หากจะพิจารณาไปแล้วไม่มีความสุขอะไรเลย..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่ลี กุสลธโร
วัดภูผาแดง จ.อุดรธานี


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 12 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO