นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 06 พ.ค. 2024 7:13 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ภาวนาอย่าทั้งทาน
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 08 ต.ค. 2016 4:47 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4549
"...ปัญญานั้นก็ต้องเกิดจากสมาธิ ไม่ใช่ว่าปัญญาที่เรานึกเดาเอา นึกคาดคะเนไปตามอาการต่างๆ อย่างนั้นไม่ใช่ ปัญญาในที่นี้หมายถึง ปัญญาเกิดจากใจที่สงบตั้งมั่นอยู่ภายใน

เมื่อใจตั้งมั่นอยู่ภายในแล้ว มันก็ผ่องใส มันก็ไม่มัวหมอง เมื่อมันผ่องใสแล้ว เราจะคิดนึกถึงเรื่องอะไร มันก็เห็น มันก็รู้เรื่องนั้นโดยแจ่มแจ้งได้ เหมือนอย่างไฟฟ้าที่ไส้มันก็ยังดีอยู่ หัวเทียนก็ดี อย่างนี้แหละไม่เสียอะไร..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ




เรื่อง "ผู้ปรารถนานิพพาน เจริญภาวนาแล้ว ก็อย่าทิ้งทาน"

เราท่านทั้งหลายยังไม่ถึง "ฝั่งพระนิพพาน" ก็ต้องเก็บเล็กผสมน้อยโดยทำทุกๆ ทางเพื่อความไม่ประมาท โดยทำทั้ง "ทาน ศีล และภาวนา" สุดแต่โอกาสจะอำนวยให้ จะถือว่าการ "เจริญวิปัสสนาภาวนา" นั้น ลงทุนน้อยที่สุด แต่ได้กำไรมากที่สุด ก็เลยทำแต่ "วิปัสสนา" อย่างเดียว โดยไม่ยอมลงทุนทำบุญให้ทานใดๆ ไว้เลย เมื่อเกิดชาติหน้า เพราะเหตุที่ยังไม่ถึง "ฝั่งพระนิพพาน" ก็เลยมีแต่ "ปัญญาอย่างเดียว ไม่มีจะกินจะใช้" ก็เห็นจะเจริญวิปัสสนาให้ถึงฝั่งพระนิพพานไปไม่ได้เหมือนกัน
คติธรรม : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ





"..สิ่งใดเกิด....สิ่งนั้นตาย
สิ่งใดไม่เที่ยง....สิ่งนั้นเป็นทุกข์
สิ่งใดเป็นทุกข์....สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
ผู้ใดเห็นอนัตตา....ผู้นั้นเห็นพระนิพพานแล.."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล จังหวัดหนองบัวลำภู





"..มองตัวเองให้มากจึงจะเป็นคนดีได้ มัวแต่มองท่านผู้อื่นแล้วไซร้ ก็กลายเป็นคนพาลไปไม่รู้ตัว เพราะนิสัยคนพาล ย่อมเพ่งโทษผู้อื่นเป็นวัตร โบราณท่านกล่าวว่า อุจจาระของตน นั่งดมอยู่ก็พอดมได้ อุจจาระท่านผู้อื่นเล่า มากระทบจมูกเข้าก็เกิดเป็นพิษเป็นภัยขึ้น.."

หลวงปู่หล้า เขมปัตโต






"...ถ้ารู้ธรรมก็ขอให้สักแต่ว่ารู้ เมื่อรู้แล้วก็นำธรรมะนั้นมาฟอกซักชำระเสียให้สะอาด ใจเรามันสกปรกมานาน ต้องล้างเสียที อวิชชามันเยอะมันหุ้มไว้จนหมดมิด เมื่อจิตใจหมดจดแล้ว รู้ด้วยสติปัญญานะ! จิตใจผู้รู้นั่นแหละมันก็จะปล่อยวางธรรมนั้นไป

จิตผู้รู้ก็จะทรงอานุภาพด้วยปัญญาอย่างโดดๆ ไม่เกาะเกี่ยวไม่ข้องแวะกับอะไร เป็นปกติใสสว่างเป็นจิตเดิมแท้ ทีนี้แหละ อะไรที่ไม่รู้มันก็จะรู้ สิ่งไหนไม่อยากรู้ มันก็รู้ มันก็ตื่น มันก็เบิกบานของมันไป

ครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่านจึงต้องสอน เอาความโง่ของพวกเราออก เอาความดีใส่มาแทนให้ เราก็จงรับไปปฏิบัติซิ! เอามาแล้วก็มาวางไว้เฉยๆ มันจะได้ประโยชน์อะไรเล่า!..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก) จ.หนองคาย


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO