นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 06 พ.ค. 2024 1:12 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ควรฝึกฝนจิต
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 15 ก.ย. 2016 5:33 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4550
“..ไม่ว่าจะมีเรื่องน้อยใจอะไรก็แล้วแต่ ห้ามไม่ให้ทะเลาะกับพ่อแม่ ไม่ให้ทำหน้ายักษ์ หน้ามารเข้าใส่พ่อแม่ หรือในบางเรื่องที่เราถูกก็ห้ามต่อว่าพ่อแม่อย่างเอาเหตุเอาผลอย่างเด็ดขาด...

เพราะในชีวิตประจำวันของเรานั้น บางครั้งกับเพื่อนฝูงหรือเพื่อนร่วมงานเขากลั่นแกล้งเราทุกอย่างสารพัด เรายังต้องทนระงับโทสะเอาไว้ บางทียังไม่รู้เรื่องอะไรเลยเรายังต้องอดทนเก็บเอาความโกรธเหล่านั้นไว้ในใจ

แล้วกลับพ่อแม่เราที่มีบุญคุณต่อเราอย่างที่สุด เหนือกว่าเจ้านายผู้บังคับบัญชาทั้งหมด ทำไมเราจะยอมทนยอมยกให้พ่อแม่ไม่ได้ แค่บุญคุณที่ท่านได้ให้เราเกิดมาอย่างเดียวก็ตอบแทนไม่หมดอยู่แล้ว..”

โอวาทธรรม
หลวงปู่พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป





"หมดบุญ"

พระใหม่ : หลวงปู่ครับ ผมจะเลิกทำสมาธิ

หลวงปู่ : ทำไม

พระใหม่ : ผมคิดว่าผมบุญน้อย นั่งสมาธิมาเป็นพรรษาแล้ว มันยังไม่สงบเลย ผมคงหมดบุญแล้วครับ

หลวงปู่ : หึ หึ หึ เออดีๆ ผมจะนิมนต์พระไว้รอ

พระใหม่ : นิมนต์พระทำไมครับผม

หลวงปู่ : ไว้สวดคุณน่ะสิ คุณว่าคุณหมดบุญแล้ว

พระใหม่ : ยังครับผมหลวงปู่ ผมยังไม่ตาย ผมหมายถึงว่า ผมนั่งสมาธิ นั่งเท่าไหร่ก็ไม่สงบ

หลวงปู่ : เออ...ถ้ามันสงบแล้วก็ไม่ต้องนั่ง เรานั่งหาความสงบ ถ้าจิตมันเป็นสมาธิแล้วเราจะนั่งทำไม เรานั่งให้มันเป็นสมาธิ ไปยังไม่ถึง มันก็ไม่เจอ ถ้าไม่เจอต้องพยายามต่อไป คนทำสมาธิอย่าโง่ อย่ามัวแต่หาสงบอย่างเดียว สังเกตปัญญาที่มันเกิดขึ้นขณะมันยังไม่เป็นสมาธิด้วย เหมือนคนไปหาเห็ด เดินเข้าป่าไม่ยอมเก็บเห็ด หาว่าดอกมันน้อย ดอกนั้นก็น้อย ดอกนี้ก็น้อย เดินหาดอกใหญ่ รอเจอดอกใหญ่ค่อยเก็บ เดินจนหมดป่าก็ไม่เจอดอกใหญ่ สุดท้ายเลยล้มเลิกเพราะไม่ได้เห็ด ทำสมาธิก็เหมือนกัน มัวแต่หาความสงบจนลืมปัญญาที่เกิดตามทางที่จะไปสู่ความสงบ ดีกว่าไปสงบแบบโง่ สงบเป็นก้อนหินจะได้ประโยชน์อะไร สงบแบบมีปัญญาดีกว่าสงบแบบโง่ๆนะ ไปๆ

ทำต่อให้มันล้มเหลวยังมีค่ากว่าล้มเลิก ถ้าล้มเลิก อย่าไปเที่ยวบอกใครว่าเป็นศิษย์ผมเด้อ

หลวงปู่หา สุภโร วัดสักกะวัน จ.กาฬสินธุ์






หลวงปู่กับพวงหรีด

เมื่อหลายปีก่อนผู้เขียนมีโอกาสได้เดินทางไปกับหลวงปู่เพื่อไปงานศพ คุณแม่สาคร มุสิกเทพ โยมอุปฐากเก่าแก่ของวัด เมื่อไปถึงหลวงปู่ก็มอบผ้าไตรและปัจจัย อุทิศส่วนกุศลถึงคุณแม่ จากนั้นท่านก็โอภาปราศัยกับคณะลูกหลานของคุณแม่เมื่อได้เวลาพอสมควรท่านก็เดินทางกลับ แต่ตาเจ้ากรรมของผู้เขียน กลับมองไปเจอพวงหรีดดอกไม้สด ที่เขามาเคารพศพแล้วห้อยไว้ประดับงาน จิตจึงไปผูกกับพวงหรีดนั้น เดินตามท่านมาก็คิดมาเรื่อย จนขึ้นรถกลับ ในใจก็ยังคิดว่า “ประเทศเรา โดยเฉพาะสังคมชาวพุทธ ควรจะยกเลิกการวางพวงหรีดด้วย ดอกไม้สดเสียที เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไร” วางไว้เมื่อสิ้นงานก็เหี่ยวแห้งไป พระไม่ได้ประโยชน์ โยมไม่ได้ประโยชน์หรือแม้แต่ผู้ตายก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ขึ้นมาเลย ขณะที่ส่งจิตออกไปคิดเพลินๆอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงกระแอมขององค์ท่าน

หลวงปู่ ; อะแฮ่ม คุณเอ้ย คุณอย่ากินข้าวนะ

ผู้เขียน ; ขอโอกาส ทำไมหล่ะครับ

หลวงปู่ ; ก็คุณกินแล้วก็ขี้ออกมา มันไม่มีประโยชน์อะไร

ผู้เขียน ; ขอโอกาสครับผม เกล้าไม่เข้าใจ การกินข้าวมันก็มีประโยชน์ต่อตัวเกล้านี้ไงครับผม

หลวงปู่ ; เออ พวงหรีดดอกไม้สด มันก็มีประโยชน์ กับคนปลูกเขาไง ใช้ไปเถอะพวงหรีดดอกไม้สดหน่ะ คนปลูกเขาจะได้มีรายได้

คนปลูกมีรายได้ คนขนส่งก็มีรายได้ คนจัดดอกไม้ก็มีรายได้ ร้านขายดอกไม้ก็มีรายได้ มันจะไม่มีประโยชน์ได้ยังไง

คุณเอ้ย ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ไม่อาศัยอะไร ไม่มีอะไรที่ไม่พึ่งพาอะไร ทุกอย่างล้วนแต่มีประโยชน์ในตัวของมันเอง แล้วแต่ว่าเราจะเอาไปใช้อะไร เราจะมองส่วนใดมุมใด อย่าไปตีเหมาว่ามันไร้ประโยชน์ไปหมด

พระบรมศาสดาท่านว่า ธรรมใดเกิดขึ้น ธรรมนั้นก็ดับ มันจะดับได้อย่างไรถ้ามันไม่เกิดอย่าไปมองแต่ส่วนดับ ส่วนผลมันสิ มองหาส่วนเกิด ส่วนเหตุมันด้วย คนเราชอบมองในสิ่งที่ตนถูกใจ พอเห็นสิ่งที่ไม่ถูกใจก็ไม่อยากมอง ทั้งๆที่เราต้องเห็นทั้งสิ่งที่อยากมองทั้งสิ่งที่ไม่อยากมอง

คนไม่มีสติ เมื่อมองสิ่งที่ถูกใจก็เสียสติเพราะชอบเพราะเพลินกับการมองนั้น พอมองเห็นสิ่งที่ไม่ถูกใจก็เสียสติเพราะไม่ชอบเพราะเกลียดเพราะชังกับการมองนั้น คนปล่อยให้อารมณ์เข้ามามีอิทธิพลกับใจ ในการมอง การเห็นเป็นคนกำลังประมาท กำลังขาดสติ เป็นคนพาลคนโง่นะ

เมื่อไม่มีสติกำกับ การมองการเห็น มีผลก็คือทุกข์ ทุกข์มันเป็นผล คุณอย่าแก้ที่ผลให้แก้ที่เหตุมัน จะว่าพวกหรีดไม่มีประโยชน์นั้นคุณดูแต่ผล ให้ดูเหตุมันด้วย
เห็นที่เหตุ แก้ที่เหตุ ละที่เหตุ อย่าไปแก้ไปละที่ผล มันไม่ทัน เข้าใจนะ

หลวงปู่หา สุภโร






ธรรมะหลวงปู่
โยม:: หลวงปู่ครับ ผมได้ยินพระบางรูปหรือพระอาจารย์บางท่านสอนว่า พุทโธพาเราไปได้ถึงพรหม ไม่สามารถพาเราไปนิพพานได้ใช่ไหมครับ

หลวงปู่:: คุณดูนั่น(ท่านชี้มือไปที่ต้นสะเดาข้างอุโบสถ)
คุณว่าต้นมะขามที่ขึ้นอยู่ข้างต้นสะเดา มันจะกลายเป็นต้นสะเดาได้ไหมล่ะ

โยม:: ไม่ได้ครับหลวงปู่
หลวงปู่:: หือ ไม่ได้เหรอ เอาใหม่นะ
ถ้าต้นมะขามออกใบ ออกดอก ออกผลแล้วล่วงหล่นลงมาที่โคนของต้นสะเดาย่อยสลายเป็นธาตุอาหารในดิน
รากสะเดาก็ดูดเอาปุ๋ยนั้น ไปหล่อเลี้ยงลำต้น ออกเป็นใบสะเดา ดอกสะเดา ผลสะเดาผลสะเดาก็ตกลงมาเกิดเป็นต้นเล็กๆ
หลวงปู่ถามคุณอีกครั้ง มะขามกลายเป็นสะเดาได้ไหม

โยม:: ได้ครับหลวงปู่
หลวงปู่:: เออ พุทโธที่คุณว่า ไม่ได้พาไปนิพพานหรอกแต่คุณต้องอาศัยพุทโธพาคุณไปนิพพาน
นิพพานน่ะประตูไม่กว้างนะแล้วก็ไม่แคบ พอดีตัวคุณเลยละ
คุณจะเอาอย่างอื่นเข้าไปด้วยไม่ได้
บุญก็เข้าไม่ได้ บาปก็เข้าไม่ได้ ศีลก็เข้าไม่ได้

ธรรมก็เข้าไม่ได้ พุทโธก็เข้าไม่ได้คุณต้องทิ้งหมด ทิ้งดีทิ้งชั่ว เข้าไปแต่ตัวคุณคนเดียว พุทโธเป็นบาทเป็นฐาน เป็นสมถะที่เข้าสู่วิปัสสนา

วิปัสสนาตัวปัญญานั้นถึงจะพาคุณตัดกิเลส แต่วิปัสสนาของคุณต้องอาศัยพุทโธอาศัยสมถะ
วิปัสสนาเป็นรถสมถะเป็นน้ำมัน รถที่ขาดน้ำมัน มันจะวิ่งไหมล่ะ

พองหนอ ยุบหนอก็ดี นะ มะ พะ ธะ ก็ดี สัมมาอรหัง ก็ดี ล้วนแต่เป็นปุ๋ยให้พระนิพพานเหมือนกันหมดเหมือนต้นมะขามที่กลายเป็นต้นสะเดานั้นไง เข้าใจนะ

หลวงปู่หา สุภโร


ชนะความหยาบคาย
ซึ่งเป็นกิเลสอย่างหยาบ
ที่ล่วงทางกายวาจา ด้วยศีล.
ธมฺมวิตกฺโก ภิกฺขุ






"เราไม่กลัวตาย เพราะเราสร้างกุศล
เราไม่กลัวความจน เพราะเรามีสันโดษ
เราไม่กล้วความโกรธ เพราะเรามีเมตตากรุณา
เราไม่กลัวความริษยา เพราะเรามีมุทิตาจิต
เราไม่กลัวความผิด เพราะเรามีหิริโอตตัปปะ
เราไม่กลัวราคะ เพราะเราไม่ดำริ
เราไม่กลัวมิจฉาทิฏฐิ เพราะเรารู้แจ้ง
เราไม่กลัวความแห้งแล้ง เพราะเราอยู่กับนิพพาน"

พระครูสุวรรณเสลาภรณ์ (หลวงปู่สาย อคฺควํโส) อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี






ควรฝึกฝนสติ
(ความระลึกรู้ ก่อนทำ ทำอยู่ พูดอยู่ คิดอยู่)
เมื่อทำเสร็จแล้ว
ก็มีสติตรวจตราพิจารณาดูว่าบกพร่องอย่างไร
หรือเรียบร้อยบริบูรณ์ดี
ถ้าบกพร่องก็รีบแก้ไขเพื่อให้สมบูรณ์ต่อไป
ถ้าเรียบร้อยดีอยู่แล้ว
ก็พยายามให้เรียบร้อยดียิ่ง ๆ ขึ้นไปจนถึงที่สุด.
ธมฺมวิตกฺโก ภิกฺขุ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO