นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 29 เม.ย. 2024 3:16 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: จิตที่เศร้าหมอง
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 30 พ.ค. 2016 4:57 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4543
จิตที่เศร้าหมองหรือจิตผ่องแผ้ว
ท่านผู้ต้องการพ้นทุกข์โดยด่วนในปัจจุบันชาติ ปัจจุบันจิต ปัจจุบันธรรมแล้ว จะไม่เอื้อเฟื้อไม่อาลัยไม่รักไม่ปฏิบัติเนืองๆ ยิ่งๆ ในพระอานาปานสติลมหายใจออกเข้าแล้ว นั่งคอยนอนคอยปรารถนาอยู่เฉยๆ ย่อมเป็นไปได้ยาก และลมออกเข้ายาวหรือสั้น จะไม่ใช่กายได้อย่างไร ก็กายานุปัสสนานั่นเองและก็ธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม ที่สมดุลกันอยู่นั่นเองจึงพอหายใจออกเข้าได้ ลมหายใจออกเข้าบางทีเสวยสุขบ้าง ทุกข์บ้าง อุเบกขาบ้าง ก็เวทนานุปัสสนานั่นเอง ลมหายใจออกเข้าเห็นจิตที่เศร้าหมองหรือผ่องแผ้วหรือกลางๆ ก็จิตตานุปัสสนานั่นเอง ลมหายใจออกเข้าเห็นความไม่เที่ยงแห่งกายสังขาร จิตสังขารก็ธรรมานุปัสสนานั่นเอง (ไม่เรียงแบบก็ได้ ไม่เป็นไรดอก) แล้วกายก็ดี เวทนาก็ดี จิตก็ดียกขึ้นสู่เมืองขึ้นไตรลักษณ์ให้กลมกลืนกัน เป็นเชือกสามเกลียวเป็นเป้าอันเดียวกันไม่ต้องแยก ไม่ต้องเรียง ไม่ต้องขยาย เห็นอยู่ ณ ซึ่งหน้าสติ ซึ่งหน้าปัญญา พร้อมกับลมออกเข้า ไม่มีอันใดก่อน ไม่มีอันใดหลัง ติดต่ออยู่พิจารณาอยู่ไม่ขาดสาย ความเพลินความเมาความดิ้นรนในโลกทั้งปวง ทั้งอดีตอนาคตมันจะรวมพลมาจากประตูใด เพราะปัจจุบันมีอำนาจเหนือโลกอดีต เหนือโลกอนาคตแล้ว มิหนำซ้ำจะได้โต้ตอบกับปัจจุบันว่า ปัจจุบันเป็นเมืองขึ้นของใคร และใครมายึดถือเอาเป็นเจ้าของ จะได้ตะลุมบอนหั่นแหลกกันในปัจจุบันนั้น แต่อย่าได้ลืมลมออกเข้า เพราะลมออกเข้าเป็นแม่เหล็กอาจารย์เดิม ลมจะละเอียดสักเพียงใด อย่าได้ลืมเลย เพราะจิตจะฟุ้งซ่านเป็นว่าวเชือกขาด จะเป็นช่างเหล็กที่ตีเหล็กไม่ถูกทั่ง เหล็กจะกระเด็นใส่หน้า ข้อนี้สำคัญมากนักหนา
...............................
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร








เรื่อง "กิเลสชอบ ยอ"
(คติธรรม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ)
คนโดยมากชอบ "ยอ" มากกว่าชอบ "คำจริง" เมื่อไม่ชอบ "คำจริง" ก็ไม่ได้รับความเข้าใจที่ "ถูกต้องจริง" หลงอยู่ในความเห็นผิด เข้าใจผิด ซึ่งมีผลเป็น "โทษ" ไม่ใช่ "คุณ"




การนึกคิดทั้งปวงออกไปจากคอกใจ ต้องกลับเข้าคอกใจ ใครเป็นเจ้าของใจ ใจที่มีกิเลสย่อมยึดถือเอาใจเป็นตน ตนเป็นใจ ใจที่ไม่มีกิเลสสิง จะบัญญัติและไม่บัญญัติก็มิได้ติดอยู่ในเงื่อนใดๆ ทั้งสิ้น นี่ธรรมในพระพุทธศาสนาลึกซึ้งเพียงใดเล่าโลกาเอ๋ย เหตุนั้นพระบรมศาสดาตรัสรู้ใหม่ๆ จึงใช้กิริยาระอาจะสั่งสอนโลก และเป็นธรรมเนียมของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ต้องใช้กิริยาอย่างนั้นก่อน จึงเป็นเหตุให้พรหมได้อาราธนาตามธรรมเนียม
......................................
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร







ยินดีในปัจจุบันคือปฏิบัติถูกทาง
บางท่านกล่าวว่า ข้าพเจ้าเบื่อชอบแล้ว หน่ายชอบแล้ว พ้นชอบแล้ว ในเรื่องอดีต อนาคตนี้ แต่ทุกวันนี้อาศัยอยู่แต่ในปัจจุบันเท่านั้นดังนี้ก็มี แต่ข้าพเจ้าผู้เขียนเข้าใจว่าผู้ยินดีในปัจจุบัน แปลว่าเป็นผู้ปฏิบัติถูกทาง เดินมรรคภาวนาถูกทาง แต่ยังมิได้หลุดพ้นถึงขั้นอรหันต์ เป็นเพียงเดินมรรคใดมรรคหนึ่งอยู่เท่านั้น และได้รับผลใดผลหนึ่งอยู่ในตัวเท่านั้น ยังมิใช่อรหัตผล เป็นเพียงได้ดื่มปีติความอิ่มใจ ที่พอใจในสมถะและวิปัสสนาในปัจจุบัน แล้วหลงยึดถือเอาปัจจุบันเป็นพระนิพพาน ปัจจุบันมิได้เป็นพระนิพพาน เป็นเพียงทางเดินเข้าสู่พระนิพพานเท่านั้นเอง ด้วยอำนาจมรรคสามัคคี มรรคสามัคคีกับศีล สมาธิ ปัญญา รวมพลกันในขณะเดียวกัน ไม่มีอันใดก่อน ไม่มีอันใดหลัง ในชั้นติดอยู่ในปัจจุบันจิตปัจจุบันธรรมนี้ มิใช่เดินทางถึงปลายทางแล้ว เป็นเพียงใช้คำว่าเดินถูกทางเฉยๆ

“ท่านผู้ถึงอรหัตผลแล้วมิได้ติดข้องอยู่ในอดีต อนาคต หรือปัจจุบัน หรือสูญๆ สาญๆ หรือไม่สูญไม่สาญหรืออะไรๆ ใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าหากว่าติดอยู่ในเงื่อนใดเงื่อนหนึ่งแห่งปัจจุบันแล้ว วิญญาณปฏิสนธิก็มีเกิดมีตายอยู่ในปัจจุบันจิตปัจจุบันธรรมนั้นเอง” ความทะเยอทะยานในปัจจุบันจิตปัจจุบันธรรม เป็นสมุทัยและตัณหาละเอียดมาก เมื่อเป็นตัณหาอันละเอียดก็เป็นอุปาทานภพ ชาติ ชรา มรณะ ฯลฯ อันละเอียดอยู่ในตัวด้วยไม่ต้องจำกล่าวไปใยก็ได้
เหตุไฉนจึงติดอยู่ในปัจจุบันจนลืมตัว จนสำคัญว่าตนพ้นไปแล้วโดยสิ้นเชิง เพราะเหตุว่าสำคัญตนเป็นปัจจุบัน และสำคัญปัจจุบันว่าเป็นตน ๒ แง่นี้ แล้วก็แตกแยกออกไปเป็นอีก ๒ แง่ รวมเป็น ๔ คือสำคัญว่าผู้อื่นเป็นปัจจุบัน สำคัญว่าปัจจุบันเป็นผู้อื่น เมื่อสำคัญว่าตนมีอยู่ในปัจจุบัน สำคัญว่าปัจจุบันมีอยู่ในตน แล้วจะไม่หลงไปยึดถืออดีต อนาคตว่าเป็นตนเราเขาสัตว์บุคคลนั้นเป็นไปไม่มีเลย เป็นเพียงสติปัญญาไม่กล้าแล้วก็เข้าใจผิดฟิตตัวขึ้นว่าละได้แล้วเรื่องอดีต อนาคต ความสำคัญตัวย่อมเป็นรากเหง้าของกิเลสอยู่โดยตรงๆแล้ว จะปฏิเสธไปไหนก็ไม่รอดได้เลย อดีต อนาคต ปัจจุบันก็คล้ายๆกับปลาตัวเดียวกัน แต่หัวและหางไม่กินเพราะไม่อร่อย แต่เป็นยาเสพติด มากินพุงของมันที่ตรงกลางตัว แล้วจะยืนยันว่าเราไม่กินปลาตัวนั้นดอก ดังนี้ก็ไม่พ้นตกอยู่แบบฉลาดแต่แกมโกงซึ่งๆหน้า ท่านผู้ทรงคุณปัญญาคมคายชำแรกกิเลสย่อมรู้ได้ ไม่ต้องดำดินบินบนเหมือนนกและปลาไหลก็รู้ได้ไม่ค่อยผิด
......................................
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร





สังขาร วิญญาณ นาม รูป อายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรา มรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส ไม่ต้องกล่าวพรรณาเรียงแบบก็ได้ ไม่ต้องสาวไป ไม่ต้องสาวกลับเป็นอนุโลมเป็นปฏิโลมก็ได้ เพราะตัดในระหว่างไหนๆ ขาดแล้วใช้ได้ทั้งนั้นแหละ เพราะเหตุว่าเป็นเชือกเส้นเดียวกัน เป็นบ่วงอันเดียวกัน เป็นลูกโซ่อันเดียวกัน ที่เกี่ยวข้องติดโยงกันเป็นวงกลม ตัดขาดที่ไหน ใช้ได้ทั้งนั้น แก้ได้ทั้งนั้น หลุดไปได้ทั้งนั้น พ้นไปได้ทั้งนั้น ไม่สงสัย
...............................
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร





ท่านผู้ไม่ติดอยู่ในจิต ไม่ติดอยู่ในธรรม ไม่ติดอยู่ในผู้รู้นั้น “คือพระอรหันต์” เพราะรู้เท่าจิต รู้เท่าธรรม รู้เท่าผู้รู้โดยแท้จริงแล้ว จิตก็ดี ธรรมก็ดี ผู็รู้ก็ดี จึงไม่มีพิษ ไม่เป็นปัจจัยส่งต่ออะไรๆ ให้เป็นไปในอนันตรเหตุ อนันตรผลอันเป็นสหชาติให้วนเวียนในสังสารวัฏ อวิชชาตัวโง่ๆหลงๆ ถูกทำลายไปด้วยมรรค ปัญญาญาณอันถ่องแท้ เป็นมหาสัมมาวิมุติ เป็นมหาสัมมาญาณสามัคคี กลมเกลียวดึงดูดกันทันเวลาในขณะเดียวกัน โดยมิได้ส่งส่ายเรียกร้องหา ชนะสงครามโลกหลงด้านภายใน ที่เคยดองขันธสันดานมา ไม่มีประตูไม่มีเวลาจะขบถคืนได้
...............................
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร






บุญอะไรๆ ก็ทำให้ใจ ก็ฉลองใจ
บาปอะไรๆ ใจทำก็ทำให้ใจ ฉลองใจ
บวกใจคูณใจ ได้ก็คือ บาปบุญ
แต่พยายามย้ายตำแหน่งบาปออกจากใจ
เอาบุญมาเป็นนายกปกครองใจ
จึงจะเป็นนายกดี มีสติปัญญา
ก้าวหน้าเป็นธรรมาธิปไตย
ไม่ไกลพระนิพพาน มิฉะนั้นแล้ว
ก็จะเจอแต่ทะเลน้ำตา
ไกลจากพุทธศาสนาแล
..................................
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
วัดบรรพตคีรี อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร





ด้วยเดชพระพุทธศาสนา อันทรงพระคุณค่าไม่มีประมาณ และก็ทรงมีอยู่ทุกกาลด้วย ไม่ขึ้นอยู่กับผู้รู้และไม่รู้ ไม่ขึ้นอยู่กับผู้เชื่อและไม่เชื่อ และก็เหนือโลกอยู่ทุกยุคทุกสมัยด้วย ทุกกาลทุกเวลาอีกด้วย เมื่อเป็นดังนี้ พวกเราทั้งหลาย ผู้สนใจใคร่พ้นทุกข์ในวัฏฏสงสาร จงรู้ตามเป็นจริง ในปัจจุบันจิต ปัจจุบันธรรม โดยไม่เหลืออยู่ทุกเมื่อเทอญ
................................
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
วัดบรรพตคีรี อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร






พระนิพพานเหนือผู้รู้ไปจนไม่มีที่หมาย ถ้าหมายอยู่ก็พอเหมือนๆนี่เอง พอหมุนๆนี่เอง มีปัญหาว่า ถ้าอย่างนั้นก็สูญซิ แต่สูญในพระนิพพานมีขอบเขต สูญจากกิเลสเท่านั้น รสของพระนิพพานมีอยู่ ใครเป็นผู้ดื่มรสพระนิพพาน ก็พระนิพพานเท่านั้น จะได้รับรสพระนิพพาน ไม่เป็นหน้าที่ของสังขาร จะไปก้าวก่าย พระนิพพานเป็นอนัตตาหรือไม่ พระนิพพานไม่ได้อยู่ใน วงแขนของท่านผู้ใดโดยถ่ายเดียว เป็นของกลางอยู่อย่างนั้น ไม่เกิด ไม่ดับไปไหน เป็นอนัตตาธรรมที่ไม่เกิดไม่ดับไปไหน ไม่มีใครใส่ชื่อ ลือนามให้ก็ตาม ก็เป็นจริงทางไม่เกิดไม่ดับอยู่อย่างนั้น เราจะเอาพระนิพพานมาเป็นอนัตตาเหมือนขันธ์ห้า และกิเลสทั้งหลาย มันก็ไม่ถูก เรียกว่าแยกอนัตตาธรรมไม่ถูก เช่นผู้รู้ดังนี้ จะเอาผู้รู้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาเทียบกับพระปัจเจกฯ มาเทียบกับสาวกสาวิกาอรหันต์ ก็เรียกว่ายกตนเทียมท่าน สิ่งเหล่านี้ เป็นหน้าที่ชาวพุทธจะรู้ทั้งนั้น
................................
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
วัดบรรพตคีรี อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร





จิต คือ นักท่องเที่ยว
ใจนี้ คือ นักท่องเที่ยว ท่องเที่ยวไม่หยุด ไม่จบ ไม่สิ้น เพราะกิเลสพาหมุน
พอกิเลสขาดจากนั้นแล้ว จิตหยุดหมุน เป็นวิวัฏฏะ ไม่หมุนแล้ว หรือนิพพานเที่ยง
...........................................
ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตเถระ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 11 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO