นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 29 เม.ย. 2024 6:22 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 19 พ.ค. 2016 5:09 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4543
ธรรมโอวาทหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
...คำว่า "ภาวนา" แปลว่า ทำให้เกิด ให้มี ให้เป็น คือ ทำกาย วาจา ใจ ให้เป็น สมาธิ ปัญญา หรือทำขันธสันดานของตนที่เป็นปุถุชน ให้เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา นับว่ากระทำให้เป็นไปในพระธรรมวินัยแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันต์ทีเดียว ที่มาแห่งภาวนามี 4 ประการ คือ
1.ปหานปธาน เพียรสละบาปอกุศล ให้ขาดจากสันดาน
2.สังวรปธาน เพียรสำรวมระวังรักษา ไม่ให้บาปเกิดขึ้นในสันดาน
3.ภาวนาปธาน เพียรภาวนา ให้บุญกุศลเกิดขึ้นในสันดาน
4.อนุรักขนาปธาน เพียรรักษาบุญกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ให้เสื่อมสูญอันตรธาน
การ "ภาวนาปธาน" นั้นจำเป็นต้องบำเพ็ญภาวนาปธานทุกคนตลอดไป จึงเป็นไปเพื่อพ้นจากทุกข์ในวัฏสงสาร สำเร็จมรรคผลธรรมวิเศษ บรรลุจตุปฏิสัมภิทาญาณแตกฉานในห้องพระไตรปิฏก ถ้าไม่ได้บำเพ็ญภาวนาปธานนี้แล้ว ก็ไม่สำเร็จพระนิพพานเลยเป็นอันขาด การภาวนาปธานนี้ เป็นยอดแห่งปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั้งปวง...






เมื่อปัญญาวิปัสสนาเกิดขึ้น ในขณะจิตเดียวนั้นสิ้นสงสัยในธรรมทั้งหลาย เห็นสรรพสัตว์ในโลกเป็นสภาพอันเดียวกันหมดเลย ไม่มีต่ำ ไม่มีสูง ไม่มีน้อย ไม่มีใหญ่ ไม่มีหญิง ไม่มีชาย มีแต่ธาตุ ๔ เกิดขึ้นแล้วดับไปเท่านั้น
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
วัดหินหมากเป้ง อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย






" ลมออกเข้ายาวหรือสั้นจะไม่ใช่กายอย่างไร ก็กายานุปัสสนานั่นเอง และก็ธาตุดินน้ำไฟลมที่สมดุลกันอยู่นั้นเอง จึงพอหายใจออกเข้าได้
ลมหายใจออกเข้า บางทีเสวยสุขบ้าง ทุกข์บ้าง อุเบกขาบ้าง ก็เวทนานุปัสสนานั้นเอง
ลมหายใจออกเข้า เห็นจิตที่เศร้าหมองหรือผ่องแผ้วหรือกลางๆ ก็จิตตานุปัสสนานั้นเอง
ลมหายใจออกเข้า เห็นความไม่เที่ยงแห่งกายสังขาร จิตสังขารก็ธรรมานุปัสสนานั้นเอง "

หลวงปู่หล้า เขมปัตโต





เราทุกคนมีบาปกันทั้งนั้นไม่มากก็น้อย
จงสะดุ้ง หวาดกลัวต่อบาปต่อกรรม ต่อเวร
และระมัดระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในใจ
เช่น ระวังไม่ให้เกิดความโลภ
ยินดีเท่าที่มีอยู่ เท่าที่หาได้
ไม่ผูกโกรธ เพราะความโกรธเป็นไฟ เผาจิตใจให้ร้อนทั้งวันและคืน ให้อโหสิกรรมเสีย ยกโทษ โทษก็จะหมดไป
เพราะว่าไม่ถือมั่นในความโกรธ ความพยาบาท
ตรงกันข้าม เมื่อจิตถือมั่น บาปก็ติดตามไป
เมื่อได้โอกาสเมื่อไหร่ก็ให้ผลเมื่อนั้น
ให้เพียรดูจิตใจ ถ้าบาปครอบงำก็รู้
ถ้าจิตผ่องใสก็รู้ ถ้าใจจะเผลอ สติก็รู้ก็ระลึกได้
จะโกรธจะว่าใคร สติก็จะคอยเตือนคอยห้าม
และไม่ยึด อโหสิกรรมให้เค้าไปบาปกิเลสก็จะเบาบางไป
ดังนั้น อย่าชอบใจกับคำว่าใจเศร้าหมองขุ่นมัว
ก็คือทุกข์ คือบาป
ใจผ่องใสเบิกบาน ก็คือบุญ

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ





เหมือนอย่างคำโบราณ ท่านกล่าวไว้ว่า

"คนสามบ้าน กินน้ำบ่อเดียว
เดินทางเดียวกันแต่ไม่เหยียบรอยกัน"

"คนสามบ้าน" นั้นได้แก่ บุคคลที่เกิดอยู่ในสามภพ
กามภพ รูปภพ อรูปภพ ผู้ที่จะไปเกิดในสวรรค์ ๖ ชั้นนั้นก็ดี
ผู้จะเกิดในพรหมโลก จะเป็นรูปพรหม-พรหมที่มีรูปก็ดี
อรูปพรหม-พรหมที่ไม่มีรูปก็ดี ล้วนแต่เมื่อเป็นมนุษย์อยู่นี้
ได้เพียรพยายามละบาปแล้วบำเพ็ญบุญให้เกิดมีขึ้นในตน
ด้วยข้อปฏฺิบัติสามประการดังกล่าวมานั้นเหมือนกันหมดเลย

ต่างแต่ว่า การละกิเลสบาปอธรรมนั้นมันก็ยิ่งกว่ากัน หย่อนกว่ากัน
ไม่ใช่ว่าจะไปละกิเลสบาปอธรรมให้หมดสิ้นไปในขณะเดียวกัน
พร้อมกันได้ทั้งหมด..ไม่ได้ ก็เพราะเหตุนั้นน่ะ
ถึงแม้ว่าคนอยู่ในสามภพอันนี้จะมาปฏิบัติ
ในตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้านี้
เหมือนกันก็จริงอยู่หรอก
แต่ว่าการปฏฺิบัติของคนทั้งหลายนี้มันยิ่งกว่ากัน หย่อนกว่ากัน
แล้วก็เวลาที่ผลมันอำนวยให้ก็แตกต่างกันไป
บางคนก็มีความสุขน้อย บางคนก็มีความสุขมาก
ตามบุญตามกุศลที่ตนทำนั้น

นี่ล่ะเพราะฉะนั้นจึงว่า เดินทางเดียวกันแต่ไม่เหยียบรอยกัน
นั่นแหล่ะ ให้พึงเข้าใจ ผู้ใดเข้าใจแบบนี้แล้ว
ก็ไม่ท้อถอยแหละที่จะพากเพียรพยายามไป
เพราะถ้าท้อถอยเสีย กิเลสบาปอธรรมมันก็ลุกขึ้น
ครอบงำดวงจิตนี้ให้เป็นทุกข์เดือดร้อนไป

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย





"เพียงแต่เคารพกราบไหว้บูชาด้วยดอกไม้ ธูปเทียน เฉยๆ เท่านั้นน่ะ แล้วไม่ละชั่วทำดีตามที่พระองค์เจ้าแนะนำสั่งสอนนั้น

มันก็พ้นทุกข์ไปไม่ได้

เพียงแค่กราบไหว้บูชาด้วยดอกไม้นั้น
มันจะพ้นจากนรก จากอบายภูมิไม่ได้เลย

ขอให้พากันคิดให้ดี ก็เป็นเพียงอุปนิสัย ปัจจัยติดตัวไปนิดหน่อยเท่านั้นเองแหละ

แต่ว่าไม่พ้นนรก เพราะบุคคลยังไปทำบาปอยู่
ยังลุอำนาจแก่ตัณหาอยู่ เ
ช่นนี้แล้วมันจะพ้นจากนรกไม่ได้เลย "

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO