นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 29 เม.ย. 2024 9:08 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: สูตรทำบุญ
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 04 พ.ค. 2016 4:53 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4543
"สูตรทำบุญไม่เสียเงินของหลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ"

พอตื่นเช้ามาขณะล้างหน้า หรือดื่มน้ำให้ว่า “พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมังสรณัง คัจฉามิ สังฆังสรณัง คัจฉามิ” ก่อนจะกินข้าว ก็ให้นึกถวายข้าวพระพุทธ (เป็นอนุสสติอย่างหนึง) ออกจากบ้านเห็นคนอื่นเขากระทำความดี เป็นต้นว่า ใส่บาตรพระ จูงคนแก่ข้ามถนน ข่าวงานบุญต่างๆ ฯลฯ ก็ให้นึก อนุโมทนา กับเขา

ผ่านไปเห็นดอกไม้ที่ใส่กระจาดวางขายอยู่ หรือดอกบัวในสระข้างทาง ก็ให้นึกอธิฐานถวายเป็นเครื่องบูชาพระรัตนตรัย โดยว่า “พุทธัสสะ ธัมมัสสะ สังฆัสสะ ปูเชมิ” แล้วต้องไม่ลืมอุทิศบุญให้แม่ค้าขายดอกไม้ หรือรุกขเทวดาที่ดูแลสระบัวนั้นด้วย ตอนเย็นนั่งรถกลับบ้าน เห็นไฟข้างทางก็ให้นึกน้อมบูชาพระรัตนตรัยโดยว่า “โอม อัคคีไฟฟ้า พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา” (เป็นการบูชาระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย ก่อเกิดอานิสงค์แห่งบุญในดวงจิต) เวลาไปที่ไหนเห็นข่าว คนตาย คนเจ็บ คนป่วย คนที่กำลังมีความทุกข์ ก็ดี ผ่านจุดที่คนตายบ่อยๆ เห็นศาลเจ้า ศาลพระภูมิ ก็ดี ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า บารมีรวมของครูบาอาจารย์ อันมีหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด แผ่บุญไป (เป็นการเจริญเมตตา ฝึกให้จิตมีพรหมวิหาร เป็นการบำเพ็ญบุญ)

ก่อนนอนก็นั่งสมาธิ เอนตัวนอนลง ก็ให้นึกคำบริกรรมภาวนาไตรสรณะคมนี้จนหลับ ตื่นขึ้นมาก็บริกรรมภาวนาต่ออีกตลอดวัน

เหล่านี้คือตัวอย่างเทคนิคการตะล่อมจิตให้อยู่แต่ในบุญกุศลตลอดวัน และได้บุญมากกว่าการทำทาน โดยไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว เป็นการทำให้ดวงจิตเราเกิดแสงแห่งบุญทุกขณะลมหายใจเข้าออก สะสมบุญได้ตลอดทั้งวัน






บุคคลพึงอดทนถ้อยคำของคนผู้ประเสริฐกว่าได้
เพราะความกลัว
พึงอดทนถ้อยคำของคนที่เสมอกันได้
เพราะการแข่งขันเป็นเหตุ
ส่วนผู้ใดในโลกนี้
พึงอดทนถ้อยคำของคนที่เลวกว่าได้
สัตบุรุษทั้งหลายกล่าวความอดทนของผู้นั้นว่าสูงสุด.
สรภังคชาดก






ผู้ที่ยังไม่รู้หัวข้อธรรมอะไรเลย
เมื่อปฏิบัติอย่างจริงจัง มักจะได้ผลเร็ว
เมื่อเขาปฏิบัติจนเข้าใจจิต
หมดสงสัยเรื่องจิตแล้ว
หันมาศึกษาตริตรองข้อธรรมในภายหลัง
ก็จะรู้แจ้งแทงตลอด แตกฉานน่าอัศจรรย์.
พระราชวุฒาจารย์ (ดูลย์ อตุโล)





การทำใจให้เป็นสุขผ่องใสนั้น
ไม่มีใครทำให้ใครได้
เจ้าตัวต้องทำของตัวเอง
วิธีทำก็คือ เมื่อเกิดโลภ โกรธ หลง ขึ้นเมื่อใด
ให้พยายามมีสติรู้ให้เร็วที่สุด
และใช้ปัญญายับยั้งให้ทันท่วงที
อย่าปล่อยให้ช้า
เพราะจะเหมือนไฟไหม้บ้าน
ยิ่งดับช้า ยิ่งดับยาก
และเสียหายมากโดยไม่จำเป็น
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก






"...เกิดมาชีวิตนี้รู้ใจของตนแล้ว ควรใช้ใจให้ได้ไปสู่สุคติสวรรค์

อย่าให้ได้ไปนรก ยึดถือเอาธรรมะทั้งหลายเป็นเครื่องกล่อมเกลาจิตใจของตน..."

อย่าเอาความเกียจคร้านมาทำความดี มันไม่เจริญ

บาปเป็นกำลังของใจพาให้ใจเศร้าหมองเรื่อย ๆ

ใจ เศร้าหมองไปนรก

ใจ มีบุญเป็นกำลังไปสวรรค์

ใจ ได้องค์ฌานไปพรหมโลก

ใจ ได้ธรรมะพาให้ถึงนิพพาน

" บ่มีอันหยังได๋ กายก้อนนี้ เดี๋ยวก็ดับหายตายกันไป

ธาตุแตกจากขันธ์ ขันธ์แตกจากกันก็หมดเรื่อง

ดีชั่วสุขทุกข์ เดี๋ยวนี้ทั้งนั้นหล่ะ

พิจารณาบ้างเน้อ สูได้รูปนี้

สูได้กายนี้ สูได้ตนนี้ สูได้มาจากที่ใด

ได้มาแล้วใช้ไปอย่างใด คิดอ่านให้ดี......... "

โอวาทธรรมองค์หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ผู้มากมีบุญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม

(วัดป่าบ้านห้วยทราย) บ้านห้วยทราย ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

๓ พฤษภาคม ๒๕๕๙


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO