นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 29 เม.ย. 2024 5:03 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 02 พ.ค. 2016 9:28 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4543
ไปตามกำลังบุญกำลังบาปของตน

พระพุทธเจ้าทรงสอนให้คนเราน่ะคำนึงถึงโลกหน้าให้มาก
นั้นแหละธรรมดาบุคคลผู้ที่ยังละอาสวกิเลส
ให้หมดไปจากจิตใจไม่ได้นี้นะมันก็ต้องเกิดอีกอยู่วันยันค่ำนะ
เพราะฉะนั้นน่ะพระองค์จึงได้ทรงสอนให้คำนึงถึงชาติหน้าต่อไป

เมื่อผู้ใดรู้ตัวว่าตนไม่สามารถที่จะละกิเลส
ให้ขาดจากสันดานได้ในชาตินี้ก็ต้องพยายามคำนึงถึงว่า
เมื่อเราละโลกนี้ไปแล้วเราจะไปเกิดในที่ทุกข์
หรือว่าจะไปเกิดที่สุขสบาย
ทำอย่างไรเราถึงจะได้ไปเกิดที่สุขสบาย
ถ้าหากว่าเราละกิเลสให้หมดไปจากจิตใจไม่ได้ในชาตินี้
นี่ทุกคนมันก็ต้องคิดถึงตนอย่างนี้

แต่ถ้าหากว่าตนสามารถที่จะละกิเลส
ให้หมดสิ้นไปได้ในชาตินี้ก็เอา..ตั้งใจลง..
ไม่ต้องไปมุ่งหวังชาติหน้าแหละ
แต่ถ้าหากว่าตนไม่สามารถที่จะละกิเลส
ให้ขาดจากสันดานได้ในชาตินี้
มันก็ต้องมีชาติหน้าอยู่ดีดีนี่แหละ
นั่นก็ต้องเตรียมตัวไว้แล้ ชำระสะสางตนให้สะอาด
เพื่อจะได้ไปเกิดในที่สุขสบาย..

ไม่ต้องปรารถนาหรอกเพียงแต่ชำระจิตใจของตนนี้
ให้มันสะอาดจากบาปอกุศลกรรมต่างๆไว้เท่านั้นแหละ
ถ้ายังละกิเลสอันละเอียดอันปานกลางไม่หมดแล้วก็..
ก็แล้วแต่บุญกรรมมันจะนำไปแหละไปเกิดที่ไหนก็แล้วแต่
ไม่ต้องคำนึงล่ะตรงนั้นน่ะ เพราะว่าบุญกรรมนี่มันยุติธรรมมาก
สุดแล้วแต่ใครบำเพ็ญบุญกุศลให้เข้าขั้นใด
บุญกุศลก็นำไปเกิดในขั้นนั้นแหละ
ไม่ต้องปรารถนามันก็เป็นไปเองมัน

เพราะ "กำลังของบุญ" น่ะ เหมือนอย่างลูกปืนอย่างนี้นะ
กำลังของปืนกระบอกนั้นมันมีกำลังมากน้อยเพียงใด
มันก็ส่งกระสุนไปไกลเพียงนั้นแหละ
เป็นอย่างนั้น อันนี้เหมือนกันแหละ
กำลังบุญกุศลที่บุคคลสะสมไว้ในใจของตนนี้
มันมีมากน้อยเพียงใดมันก็ส่งจิตวิญญาณนี้
ให้ไปเกิดในที่สูงได้เพียงแค่นั้นแหละ

ถ้าหากว่าบุคคลสะสมบาปอกุศลใส่ตนไว้ไม่ยอมละ
บาปอกุศลนั้นมันก็มีกำลังมากกำลังน้อยกว่ากัน
อันนั้น "กำลังบาป" มันน้อยมันก็พาไปเกิด
ในที่ทุกข์ยากลำบากเบาขึ้นมาหน่อยหนึ่ง
ถ้ากำลังบาปที่บุคคลกระทำนั้นมันมากมันหนัก
มันก็ฉุดคร่าเอาดวงจิตวิญญาณนี้
ไปตกสู่ห้วงแห่งความทุกข์อย่างมากมาย

มันก็เป็นอย่างนั้นแหละ เป็นไปตามเหตุ
เหตุมากผลก็มาก เหตุน้อยผลก็น้อย
นี่ก็ให้พึงพากันเข้าใจ เรียกว่า ชีวิตของคนเรานี่
เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่ใช่ว่ามันเป็นไปอย่างลอยๆ

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย






หมั่นนึกถึงปฏิปทาของพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย

ร่างกายนี้เราจะปรับปรุงอย่างไร
มันก็ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืนอยู่ได้หรอก
แต่ว่าจิตนี้สามารถปรับปรุงให้ตั้งมั่นได้
ไม่หวั่นไหวไปตามกระแสของโลก
สามารถทำได้..
มี "พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย"
เป็นตัวอย่าง ท่านทำมาก่อนแล้ว

ดังนั้นเราต้องหมั่นนึกถึง
ปฏิปทาของพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย
มาเป็นอารมณ์ มันจึงมีกำลังใจที่จะฝึกตน
บุคคลไม่ฝึกตนก็กิเลสตัณหา
จะไม่เหือดแห้งไปจากจิตใจนี้เลย

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย





"เราได้เกิดเป็นมนุษย์อย่างนี้แล้วก็อย่าพากันประมาท
ให้ทำความเพียรไป
แม้ว่าจะไม่บรรลุนิพพานในปัจจุบันนี้บุญบารมียังไม่เต็ม
ก็เป็นอุปนิสัยอันสำคัญ ที่ทำให้เราบรรลุมรรคผลบนสวรรค์ชั้นฟ้าก็ได้"

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO