นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 29 เม.ย. 2024 5:29 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: สงัดจากสังคม
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 28 เม.ย. 2016 5:09 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4543
สงัดจากสังคม

เรามันก็เป็นสัตว์สังคม และมีสื่อที่จะต้องเกี่ยวกับสังคม อารมณ์ที่อยู่รอบข้างเราทั้งหลายก็มีกันครบถ้วน

การปฏิบัติพระพุทธองค์จึงให้เรามีการเป็นอยู่อย่างมีการรู้ตัว คือมีสติมีสัมปชัญญะ ขณะที่เรามีการเกี่ยวข้อง มีตาเห็นรูป มีหูฟังเสียง มีจมูกดมกลิ่น มีลิ้นลิ้มรสและก็มีกายสัมผัสตลอดถึงมโนภาพที่มันเกิดขึ้นทางอารมณ์

ความรู้สึกทั้งหลายเหล่านี้ จำเป็นจะต้องกลั่นกรอง จำเป็นจะต้องมีการเกี่ยวข้องอย่างระมัดระวัง คือให้เกิดความรู้สึกเข้าใจถึงความรู้สึกต่างๆ ที่มันเกิดขึ้น ถ้าเราเห็นสิ่งต่างๆ อย่างชัดเจน มันจะหมดคุณค่าไปในตัว

เหมือนกับเราอยู่กับเด็ก เด็กนั้นมีความเพลิดเพลินในการเล่น จะเป็นของเล่นเด็กก็คงเห็นกันอยู่เป็นสิ่งที่เราถือว่าไร้สาระ เช่น ตุ๊กตา

ถ้าเราดูไปนานๆ เราจะเห็นเป็นกองขยะเห็นเป็นสิ่งที่ไร้คุณค่า เห็นเป็นสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ในที่สุดเราก็ไม่ให้ความสำคัญ

จะเป็นความโกรธ ความโลภ ความหลง ราคะ โทสะ โมหะ เราจะเห็นเป็นกองขยะ

กองขยะเราก็คงไม่ปรารถนา เมื่อไม่ปรารถนาสิ่งเหล่านั้นก็หมดคุณค่าคลายจากความรู้สึกของเรา

อารมณ์ของความโกรธก็คลาย อารมณ์ของความโลภก็คลาย ก็เลยทำให้เกิดความสงัด มีความสงัดเกี่ยวข้องกับอารมณ์อันเกิดขึ้นจากตาเห็นรูป หูฟังเสียง จมูกดมกลิ่น มันก็เกิดความรู้สึกมีความสงัด

เมื่อมีความสงัดแล้ว ทุกอย่างมันจะอยู่ในสภาพที่ทำให้เรานั้นมีอารมณ์ในลักษณะที่ให้เกิดความรู้สึกมีความสงัดร่มเย็นจึงทำให้เกิดความรู้สึกเป็นลักษณะที่เรียกว่าเหมือนกับว่าเรามีที่พึ่ง เมื่อเรามีที่พึ่งทุกอย่างมันก็พลอยให้เราไม่มีความกังวลเหมือนเราอยู่ในบ้านกันแดด กันฝน กันหนาว กันร้อน เราก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร

จาก หนังสือไม่กังวล พระราชภาวนาวิกรม (หลวงพ่อเลี่ยม ฐิตธมฺโม) หน้า ๑๘-๑๙





" ความยึดมั่นถือมั่นและความทุกข์ หรือ
ความหลงของจิตใจของบุคคล
ใครหลงมากก็มีความทุกข์มาก
ใครหลงน้อยก็มีความทุกข์น้อย
ผู้ที่ท่านไม่หลงเลย ท่านก็ไม่ทุกข์เพราะ
ไม่มีอะไรที่จะหลง

การที่เราศึกษาธรรมะก็เพื่อให้เราไม่หลง
คือทำให้เราเข้าใจไม่หลงทาง
เราทุกคนถ้าทำอะไรที่ไม่หลงแล้วก็ตาม
เป็นเรื่องที่มันทำยากเหลือเกิน
แต่อย่างไรก็ตาม พระผู้มีพระภาคเจ้าองค์
ทรงกำจัดความโลภ ความโกรธ

ความหลงได้ และให้เดินทางถูกต้องได้ พระสาวกก็เหมือนกัน
จนมาถึงพวกเราๆนั้นก็เหมือนกัน ก็จะเป็นผู้สามารถรู้และเข้าใจ
ขัดเกลากิเลสออกจากดวงใจได้ด้วยสติปัญญานั่นเอง "

___________________________

พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป
วัดอรัญญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO