นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 29 เม.ย. 2024 10:14 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: แก้หลงนิมิต
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 15 เม.ย. 2016 8:38 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4543
ถ้าใจมีความเฉลียวฉลาด สติตั้งลงไปตรงไหนจะเป็นธรรมขึ้นมา ปัญญาพินิจพิจารณาใคร่ครวญแล้วเลือกเฟ้นแต่สิ่งที่ควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำจะเป็นโทษเป็นภัยแก่ตัวเองให้ละเว้นสิ่งนั้นเสีย นั้นท่านเรียกว่าปัญญาเป็นเจ้าของของใจ ใจเรียกร้องหาความช่วยเหลือจากเจ้าของอยู่ ดังที่เรามาปฏิบัติศีลธรรมเวลานี้ มาทำบุญให้ทานมากน้อยตามกำลังความสามารถของเรา นี้แลเรียกว่ามาช่วยจิตใจ
จิตใจเราเรียกร้องหาความช่วยเหลือ อย่างอื่นไม่เอา ต้นไม้ภูเขาสมบัติเงินทองข้าวของอะไรไม่เอาทั้งนั้น เอาแต่บุญ ที่ซึมซาบได้มีแต่บุญกับบาปเท่านั้น บาปทำลงไปแล้วยังไงก็ติดตาม บุญทำลงไปแล้วยังไงก็หนุนเจ้าของ เพราะฉะนั้นท่านจึงให้เลือกเฟ้น คัดบาปออก เสาะแสวงหาคุณงามความดีคือบุญ ด้วยความช่วยเหลือใจจากอำนาจของสติปัญญา เราจะเป็นผู้สง่างาม
ใจจึงเป็นของสำคัญมาก ขอให้พี่น้องทั้งหลายได้มองดูใจ วันหนึ่ง ๆ อย่ามองแต่ความเพลิดเพลินรื่นเริงบันเทิงต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องของร่างกายและเป็นเรื่องของจิตใจที่จะผูกมัดเราให้จมอยู่ในวัฏฏะอีกเป็นเวลานานแสนนาน ถ้าเราไม่มีธรรมเป็นเครื่องระลึกภายในจิตใจของเราอยู่ตลอดเวลา หรือเป็นเวลาใดก็ได้ในวันหนึ่ง ๆ อย่าให้ขาดธรรม
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๗




คนเรา บางทีอาจจะเกิดมาแล้ว หลายกัป หลายกัลป์ หลายชาติ หลายภพ ไม่รู้ว่าเกิดเป็นอะไรต่อมิอะไรมาบ้าง เรายังไม่รู้จัก ถ้าผู้ต้องการอยากรู้สิ่งเหล่านี้ ก็ต้องฝึกหัดจิตใจให้เป็นสมาธิ ถ้าเป็นสมาธิแล้วมันจะรู้เรื่องของเหล่านั้น ว่ามีความเป็นมายังไง เป็นอยู่ยังไง จะไปยังไง นี้เรียกว่ารู้ตัวเอง ถามดูจิตใจตัวเอง มันก็พูดให้เราฟังเลย เพราะว่ามันพูดเป็นเหมือนกันนะเรื่องของจิต แต่ว่าเรานั้นหละเป็นผู้รู้จักเอง ฉะนั้น ธรรมะท่านจึงว่า ตัวเองรู้เอง “สันทิฏฐิโก” ผู้ปฏิบัติย่อมรู้เอง
...หลวงปู่ศรี มหาวีโร...





......แก้หลงนิมิตด้วยสติปัญญา......
ความจริงสิ่งทั้งหลายที่เราเห็น.ตั้งแต่เราเปิดเปลือกตาออกมาดูโลกใบนี้. หูเราได้ยิน จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายถูกต้องสัมผัส.ใจได้รับรู้ธรรมมารมย์อารมณ์ในใจ..มันก็คือนิมิตทั้งหมดนั่นแหละ...รูปเสียงกลิ่นรสสัมผัส. เป็นนิมิต ฝ่ายรูปธรรมส่วนหยาบ นั่นเอง...ส่วนรูปนิมิตอันเกิดจากความทรงจำของจิตก็มี. เกิดจากความคิด จินตนาการ ขึ้นมาก็มี....รูปกายก็คือรูปนิมิต. สุขทุกข์ในกายในใจก็คือนามนิมิต. ความทรงจำภาพต่างๆในใจคือนามนิมิต. ความคิดดีและไม่ดีก็คือนามนิมิต...อาการรับรู้อารมณ์ ทางตาหูจมูกลิ้นกาย รับรู้เรื่องราว ของความคิดนั้นก็คือนามนิมิต. สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นนิมิตทั้งสิ้น...
----------------------------
วิธีแก้หลงนิมิตเหล่านี้ด้วย.สติปัญญาก็คือการเริ่มต้นในชีวิตประจำวัน. สำหรับมือใหม่สมัครเล่นต้องเริ่มต้น...ด้วยการเจริญ สติสัมปชัญญะรับรู้ร่างกายเคลื่อนไหวเป็นอารมณ์ๆๆๆทั้งวัน...การรับรู้ร่างกายเคลื่อนไหวเป็นอารมณ์ทั้งวัน. จะก่อให้เกิดสมาธิความสงบตั้งมั่นแห่งดวงจิตขึ้นมา...และพร้อมจะให้เกิดสติปัญญา. หรือเจริญสติปัญญา ที่จะรู้จัก แยกกาย แยกอารมณ์. แยกความคิดปรุงแต่ง สัญญาอารมณ์กิเลสมาร ออกจากจิต...และ จะรู้จักปล่อยวาง ความคิดปรุงแต่ง สัญญาอารมณ์ กิเลสมาร ออกไปจากจิตใจได้. จิตใจจะมีความบริสุทธิ์หลุดพ้น จากความคิดปรุงแต่งขึ้นมา.....
----------------------------
จิตใจที่มีความเป็นอิสระ มีความบริสุทธิ์ หลุ้นพ้นจากสัญญาอารมณ์ ความคิดปรุงแต่ง กิเลสมารขึ้นมาได้นี้....ซึ่งความบริสุทธิ์หลุดพ้น อันปราศจากมลทินนี้. มันมีความสุขมากนะ...ซึ่งความเป็นอิสระความบริสุทธิ์ หลุดพ้นจากขันธ์ห้านี้.จะเป็นชั่วครั้งชั่วคราวก็ตาม หรือถาวรก็ตาม....ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยข้อปฏิบัติเสียก่อน. คืออาศัยเจริญสติสัมปชัญญะ. สติปัญญาเสียก่อน. จึงจะเกิดภาวะบริสุทธิ์หลุดพ้นจากขันธ์ทั้งห้าขึ้นมาได้.....
----------------------------
ต่อเมื่อจิตอิสระบริสุทธิ์หลุดพ้น จากขันธ์ทั้งห้า ชั่วคราว หรือถาวรก็ตาม. จะไม่ได้อิงอาศัยขันธ์ห้าในระยะๆๆเวลานั้นๆๆ. และไม่ได้อิงอาศัยสติสัมปชัญญะ สติปัญญาในเวลานั้นด้วย. แม้แต่อย่างใดเลย. จึงเรียกว่าเป็นความบริสุทธิ์หลุดพ้น....และความบริสุทธิ์หลุดพ้นนั้น ก็คือ ความบริสุทธิ์หลุดพ้น จะใส่ชื่อนาม เรียกว่าอะไรดีล่ะ. เรียกว่าอารมณ์นิพพานก็ได้. จะใส่ชื่อเรียกว่าจิตหลุดพ้นก็ได้. จะใส่ชื่อเรียกว่าเป็นอิสระบริสุทธิ์ก็ได้...ไม่ใส่ชื่อเรียกว่าอะไรก็ได้. ผู้ปฏิบัติจริงแล้วย่อมหมดปัญหา กับคำพูด กับชื่อเรียกเหล่านี้โดยประการทั้งปวง....แต่นั่นเพราะความจริง คือความบริสุทธิ์ หลุดพ้นจากขันธ์ทั้งห้าจากความคิดปรุงแต่งสัญญาอารมณ์กิเลสมารมีจริงในใจนั่นเอง. เอวัง
----------------------------
พระอาจารย์เจษฎา อาภากโร
ต.คำขวาง
อ.วารินชำราบ
จ.อุบลราชธานี
วัดป่าหนามแท่ง 14 เม.ย. 2559


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO