นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 29 เม.ย. 2024 8:14 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 06 มี.ค. 2016 7:32 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4543
เรื่องพระพุทธศาสนาของเรานั้น มันเป็นเรื่องของจิต ดังนั้น พระพุทธเจ้าของเรา ท่านจะอบรมจิตอันเดียวเท่านั้น

ให้จิตเป็นไป ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มันเป็นไปตามกัน ฉะนั้น ท่านจึงให้อบรมจิต จิตเป็นของสำคัญมาก พระพุทธองค์ของเราท่านคลำไปคลำมาดูไปดูมา อ้อ มันอันนี้เอง

จิตเป็นสิ่งสำคัญมาก พุทธศาสนามันเกี่ยวเนื่องด้วยจิต เรื่องจิตเป็นสิ่งที่สำคัญ ยกตัวอย่างที่อาตมาเคยแนะนำพร่ำสอนชาวต่างประเทศ

ไม่ไปได้ภาษาอังกฤษสักนิดหนึ่งเลยนะ

ภาษาอังกฤษไม่รู้สักนิดเดียว แต่ว่าได้จิตฝรั่งเยอะ ไม่ได้ทำนาแต่ข้าวเยอะ

ไม่รู้มันมาจากไหน ให้ไปคิดเอา ให้ไปพิจารณาเอา

อันนี้เป็นเรื่องของจิต จิตเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด

พระพุทธองค์เราท่านสอนว่า นิรุตติภาษา แตกฉานในภาษา

ท่านเรียกว่านิรุตติภาษา แตกฉานทุกอย่างในภาษานี้
ทุกวันนี้ยังมีอยู่แต่คนไม่รู้จักว่าแตกฉานอะไรอย่างไร จะงัดแงะให้ดูพอได้พิจารณา

ภาษานี้ไม่ใช่คำพูดอย่างเดียว เราทั้งหลายทำเหมือนว่าภาษาต้องไปเรียนคำพูด คำพูดอย่างเดียวเป็นภาษา เรียนกันแทบแย่ไม่จบเหมือนกัน

ความเป็นจริงพระพุทธองค์ของเรา ท่านให้มองดูนิรุตติภาษา รู้จักภาษาทุกอย่าง

อะไรที่ทำให้คนเข้าใจ อันนั้นเป็นภาษาทั้งนั้น ให้เข้าใจอย่างนี้เป็นหลักซะก่อน
ภาษาเราจึงจะมา อะไรที่เราจะทำให้รู้จักรู้เรื่องอันนั้นเป็นภาษาทุกอย่าง เราดูตรงนี้ก่อน

เช่นว่าอบรมเรื่องพระพุทธศาสนานี้ โดยมากคนเราทำไมข้ามไปมากทีเดียว

อันความเป็นจริงนั้น พระพุทธศาสนามันเกี่ยวกับเรื่องจิตใจจริงๆ

พุทธศาสนานี้ มันให้ความรู้สึกของคนมันคล้ายๆกับน้ำชามันร้อนๆ ต้มน้ำชาร้อนๆ เอาใส่แก้วมา

เอาคนจีนเอามือไปจุ่มดูซิ มันก็รู้สึกว่ามันร้อน

เอาคนไทยเอามือจุ่มลงไปซิ มันก็รู้สึกว่ามันร้อน

เอาคนอินเดียเอามือจุ่มลงไปซิ มันก็รู้สึกว่ามันร้อน

เอามือเขมรจุ่มลงไปซิ มันก็จะรู้สึกว่ามันร้อน

เอาพวกฝรั่งเอามือฝรั่งจุ่มลงไปดูซิ มันก็จะรู้สึกว่ามันร้อน

นี่แหละคืออันเดียวกันแล้ว เข้าใจไหม ร้อนนี้ ภาษาจีนก็พูดไปอย่างหนึ่ง แต่พูดว่าร้อนนั่นเอง

ภาษาไทยก็ว่าร้อน ภาษาอังกฤษก็เป็นอย่างหนึ่ง แต่ร้อนนั่นแหละ เขาจะพูดว่ามันฮอต เราเรียกว่ามันร้อน มันก็ฮอตนั่นเองแหละ มันคำๆเดียวอย่างนี้

นี่แหละธรรมะที่พอเราเข้าไปถึงแล้ว มันก็รู้จัก เหมือนกับเอามือจุ่มน้ำร้อน ใครจะไม่รู้ว่าร้อน ทุกภาษามันก็ต้องรู้ร้อนทั้งนั้น

แต่ภาษาคำพูดมันต่างกัน ธรรมะนี่ก็เหมือนกัน ถ้าใครไปถึงธรรมะ เข้าถึงใจแล้ว รู้เรื่องกัน มันสงบสบาย อย่างนี้ก็รู้ภาษากันแล้ว

ยิ่งธรรมะยิ่งรู้อย่างนี้ก็เป็นอัตโนมัติแล้ว ไม่ต้องสอนมาก

รู้จักอะไรที่เป็นเหตุให้เราวุ่นวาย อะไรเป็นเหตุให้ใจสงบ มันก็รู้ในตัวของมันแล้ว

ทุกอย่างรู้จากธรรมะ ทุกคนเมื่อใครไปถึงธรรมต้องรู้จักทุกคน

รู้จักอย่างนี้เหมือนมือเราไปจุ่มน้ำร้อน เมื่อน้ำมันร้อนมันไม่รู้สึกว่าเย็นหรอก มันร้อน

ถ้ามือเราจุ่มน้ำเย็น มันก็ไม่รู้สึกว่ามันร้อนหรอก เรียกว่ามันเย็น

เนี่ยมันรวมกันอย่างนี้ อย่างน้อยมันรวมกันอย่างนี้ เพราะฉะนั้น พวกเราทุกคนที่มานั่งอยู่นี้จะพูดว่า มันเป็นคนคนเดียวกันก็ได้ ไม่ใช่คนหลายคน

คือคนคนเดียวกันถ้าพูดเป็นสามัญลักษณะ ลักษณะก็คล้ายกันทั้งนั้น

คล้ายกันเหมือนกัน มีความสุขปรากฏเหมือนกัน มีความทุกข์ปรากฏเหมือนกัน อะไรมันเหมือนกันทั้งนั้น

ดังนั้น พระพุทธองค์ของเราจึงสอนว่าพวกเราเป็นญาติกัน ไม่ห่างกัน เป็นญาติกัน อะไรมันเหมือนกันทั้งนั้น

ฉะนั้น ถ้าอบรมจิตใจเข้าถึงธรรมะแล้ว พวกเราก็เป็นพี่เป็นน้องกันทั้งหมด

ไม่ต้องอิจฉา ไม่ต้องพยาบาทกัน ก็มันเป็นคนคนเดียวกันแล้ว

เมื่อไรธรรมะเจริญขึ้น คนเราก็สบาย สงบ ระงับ

พระธรรมคำสอนของ
หลวงปู่ชา สุภัทโท
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี




ข้อคิด สะกิดใจ
พุทธวัจน์...คำสอนจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า

ผู้ไม่ประมาทในความตายแท้จริง
มรณสติ(ความระลึกถึงความตาย)
อันบุคคลเจริญทำให้มากแล้ว
ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่
หยั่งลงสู่นิพพาน มีนิพพานเป็นที่สุด
พวกเธอเจริญมรณสติอยู่บ้างหรือ?
พวกที่เจริญมรณสติอย่างนี้ว่า "โอ้หนอ
เราอาจจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงวันคืนหนึ่งฯ ดังนี้ก็ดี,
เราอาจมีชีวิตอยู่ได้ เพียงชั่วเวลากลางวันฯ ดังนี้ก็ดี,
เราอาจมีชีวิตอยู่ได้เพียงชั่วขณะที่กินเสร็จมื้อหนึ่งฯ ดังนี้ก็ดี,
เราอาจมีชีวิตอยู่ได้เพียงชั่วขณะที่กินอาหารเสร็จเพียง 4-5 คำ
เราพึงใส่ใจถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเถิด
การปฏิบัติตามคำสั่งสอน ควรทำให้มากแล้วหนอ" ดังนี้ก็ดี,
ผู้ที่เจริญเหล่านี้ เราเรียกว่า ยังเป็นผู้ประมาทอยู่
ยังเจริญมรณสติเพื่อความสิ้นอาสวะช้าไป
พวกที่เจริญมรณสติ อย่างนี้ว่า "โอ้หนอ เราอาจจะมีชีวิตอยู่ได้
เพียงชั่วขณะที่กินอาหารเสร็จเพียงคำเดียว" ดังนี้ก็ดี,
ว่า "โอ้หนอ เราอาจมีชีวิตอยู่ได้เพียงชั่วขณะที่หายใจเข้า
แล้วก็หายใจออก หรือชั่วขณะหายใจออกแล้วหายใจเข้า
เราพึงใส่ใจถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเถิด,
การปฏิบัติคำสอนควรทำให้มากแล้วหนอ" ดังนี้ก็ดี
ผู้ที่เจริญเหล่านี้ เราเรียกว่า เป็นผู้ไม่ประมาทแล้ว,
เป็นผู้เจริญมรณสติเพื่อความสิ้นอาสวะอย่างแท้จริง
เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลายพึงสำเหนียกใจไว้ว่า
"เราทั้งหลาย จักเป็นผู้ไม่ประมาทเป็นอยู่,
จักเจริญมรณสติเพื่อความสิ้นอาสวะอย่างแท้จริง" ดังนี้
เธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจ ไว้อย่างนี้แล......





ที่สุดของศีล ที่สุดของสมาธิ ที่สุดของปัญญา

หลวงพ่อปราโมทย์ : ครั้งหนึ่งพระเจ้าอยู่หัว ท่านไปเยี่ยมหลวงปู่เทสก์ ท่านถามหลวงปู่เทสก์ บอกว่า หลวงปู่ ที่สุดของศีลคืออะไร ที่สุดของสมาธิคืออะไร ที่สุดของปัญญาคืออะไร

หลวงปู่เทสก์ตอบในหลวงนะ ที่สุดของศีลคือเจตนาวิรัติ เจตนางดเว้นทำชั่ว ที่สุดของสมาธิคืออัปนาสมาธิ ที่สุดของปัญญาคือไตรลักษณ์

ถ้าไม่เห็นกายเห็นใจเป็นไตรลักษณ์ เรียกได้ว่าไม่มีปัญญาจริงหรอก เป็นปัญญาตื้นๆซึ่งไม่พอที่จะต่อสู้กับกิเลส เพราะฉะนั้นที่เราภาวนาเนี่ย ก็เพื่อให้เกิดปัญญา ปัญญาก็คือการเห็นกายเห็นใจตรงตามความเป็นจริงว่าเป็นไตรลักษณ์ เป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ถูกบีบคั้นอยู่ตลอดเวลา ทนอยู่ไม่ได้ เราบังคับไม่ได้ เป็นไตรลักษณ์

พอเห็นตามความเป็นจริงแล้วอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อเห็นตามความเป็นจริงจะเบื่อหน่าย เพราะเบื่อหน่ายจึงคลายกำหนัด เพราะคลายกำหนัดจึงหลุดพ้น เพราะหลุดพ้นจึงรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้ไม่มีอีก

เพราะฉะนั้นเราต้องเข้าใจทิศทางของการปฏิบัติให้ดี เราไม่ได้ภาวนาเอานิ่งเอาสงบ การนิ่งการสงบเป็นการพักผ่อน เราต้องภาวนาให้เกิดปัญญา เห็นความจริงของกายของใจ อยากเห็นความจริงของกายของใจไม่ใช่คิดเอาเอง ต้องดูความจริง ดูของจริง ว่ากายจริงๆเป็นอย่างไร จิตใจจริงๆเป็นอย่างไร ไปนั่งคิดเอาเองไม่ได้ผลหรอก

การนั่งคิดเอาเองว่าร่างกายเป็นของสกปรกเปื่อยเน่าอะไรอย่างนี้ เสร็จแล้วมันก็ข่มราคะได้ชั่วคราว เดี๋ยวราคะก็เกิดอีก นี้มันเน่านะแต่ตอนนี้มันยังไม่เน่า มันยังสวยอยู่ นี่จะไปอย่างนี้ จะรู้สึกอย่างนี้

แต่ถ้าเราเห็นราคะเกิดขึ้นมาแล้ว แล้วราคะเบียดเบียนจิตใจ สติรู้ทันราคะดับไปเลย ไม่ต้องไปกังวลว่าจะมีราคะเพราะไปเห็นสาวสวยหรอก การเห็นสาวสวยก็เรามีบุญเราก็ได้เห็นของสวย ช่วยไม่ได้ ใช่มั้ย การที่เราได้เห็นของสวยหรือของไม่สวย มันอยู่ที่วิบาก ทำบุญมาดีเราก็เห็นของสวย เช่น เราเห็นสาวๆสวยๆอะไรอย่างนี้ ก็คนมันมีบุญน่ะ ไม่ใช่เห็นแต่ของน่าเกลียด

แต่ว่าเมื่อเราไปกระทบ นัยน์ตามองเห็นสาวสวยแล้วจิตเกิดราคะ ปัญหามันอยู่ตรงนี้ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เห็นของสวย จิตเกิดราคะแล้วจะทำอย่างไร ถ้าไปพิจารณาสาว ว่าสาวนี้สกปรก ไม่งาม มีหนังหุ้มอยู่โดยรอบ มีรูรั่วใหญ่ๆ ๙ รู มีรูรั่วเล็กๆนับไม่ถ้วน มีของโสโครกไหลออกมาเป็นนิตย์ พิจารณาอย่างนี้ ก็ข่มราคะได้ชั่วคราว อันนี้เรียกว่าสมถกรรมฐาน แต่ถ้าเห็นสาวสวย จิตเกิดราคะ รู้ว่ามีราคะ จิตก็ไม่ใช่เรา ราคะก็ไม่ใช่เรานะ ภาพที่มองเห็นคือสาวก็ไม่ใช่เรา อะไรๆก็ไม่มีเรา อันนี้เรียกว่าเดินวิปัสสนา ถอดถอนความเห็นผิดลงไป มันจะแก้ปัญหาได้ถาวร

เพราะฉะนั้นที่เรามาเรียน ๓ วัน ๔ วัน เรียนเพื่อให้รู้วิธีนะ รู้วิธี เราต้องรู้เป้าหมาย วิธี เป้าหมายของเราก็คือ เราจะต้องรู้กายรู้ใจ จนเห็นความจริงของกายของใจว่าเป็นไตรลักษณ์ จนหมดความยึดถือกายยึดถือใจ จิตก็จะเข้าถึงวิมุติหลุดพ้น เป้าหมายของเรา ส่วนวิธีการก็คือ การเจริญสติปัฏฐาน

การเจริญสติปัฏฐานมี ๒ ส่วน ส่วนที่เป็นสมถะ กับส่วนที่เป็นวิปัสสนา อย่านึกนะว่าทำสติปัฏฐานแล้วจะต้องเป็นวิปัสสนาเสมอไป ถ้ารู้กายถ้ารู้ใจ แต่ไม่เห็นไตรลักษณ์ ไม่เรียกว่าวิปัสสนานะ เป็นสมถะ ถ้าเห็นกายเห็นใจเป็นไตรลักษณ์ถึงจะเป็นวิปัสสนา

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม




"คนพาลมักอ้างกาลเวลาเสมอ เช่น อ้างว่าเช้านัก สายนัก หนาวนัก ร้อนนัก เย็นนัก แล้วปล่อยให้ความดีเสียไปกับเวลา กว่าจะว่า "พุทโธ" ก็สายเสียแล้ว..."

คติธรรม
หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู
(พ.ศ. ๒๔๓๑ -๒๕๒๖)

ทุกข์จากการมีคู่

คนที่เขาแต่งงานกันน่ะ เห็นไหมว่าเขาทะเลาะกันน่ะมีบ้างหรือเปล่า เวลาก่อนที่จะแต่งงานกันเลือกแล้วเลือกอีก สวยหรือไม่สวย ดีหรือไม่ดี แหม...เลือกกันจ้ำจี้จ้ำไช เลือกน้อยเลือกใหญ่ สืบสาวราวเรื่อง สืบตระกูลกันไม่หวัดไม่ไหว พอแต่งงานกันไม่เท่าไรทะเลาะกันแล้ว ไอ้ความทุกข์ทั้งหลายอย่างอื่นมันก็ติดตามเข้ามา นี่ความสวยความสง่าผ่าเผยที่ต้องการในลำดับแรก

ในที่สุดความเศร้าหมองมันเกิด ทรุดโทรมลงไปทุกวันๆ ดูคนทีเขาแต่งงานผ่านระยะเวลาประมาณ ๒๐ ปี แล้วไปขอดูรูปถ่ายที่เขาถ่ายเมื่อวันแต่งงานน่ะ มันคล้ายคลึงกันไหม ดีไม่ดีเราอาจจะจำไม่ได้คิดว่าผีหลอกก็ได้ มันทรุดโทรมขนาดนั้น มีลูกมีเต้าออกมา มันมีความสุขหรือความทุกข์ แบกภาระเรื่องการเลี้ยงลูกอย่างหนัก ในที่สุดต่างคนต่างตาย และร่างกายของคนที่เรารักมันสกปรกหรือว่ามันสะอาด

คัดลอกมาจากหนังสือคำสอน "ทางสายเอก" โดย..หลวงพ่อพระราชพรหมยาน











ทุกครั้งที่เราสร้างคุณงามความดี
เช่นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ หรือสัตว์ก็ตาม
เราจะรู้สึกเป็นสุข อิ่มอกอิ่มใจ ปลื้มใจ

คิดถึงเมื่อไหร่ ก็มีความสุขเมื่อนั้น
สิ่งนี้แหละ...ที่เรียกว่า "บุญ"




" 'ปมาทะ'
อุปกิเลสข้อ ๑๖ ท่านแปลว่า 'เลินเล่อ'
คือประมาทนั่นเอง ความประมาทเลินเล่อ
ก็เกิดจาก ความคิดปรุงแต่งเช่นกัน
เพียงง่ายๆ คือ
คิดปรุงแต่งว่า 'ไม่เป็นไร' เท่านั้นก็ประมาทได้แล้ว
ที่ชอบคิดกันก็คือ 'ไม่เป็นไรเรามีบุญมาก'
หรือ 'ไม่เป็นไร
เราไม่ได้ทำไม่ดี' หรือ 'ไม่เป็นไรเราต้องสบาย
ไปทุกชาติ' ดังนี้ เป็นต้น นี่คือประมาท
ที่ท่านกล่าวว่า 'เป็นทางแห่งความตาย'
ที่ชัด ๆ ก็คือ ความมัวเมาบังปัญญา
บังความประภัสสรแห่งจิต จึงพึงทำลาย
ความประมาทเลินเล่อเสีย ด้วยวิธีอย่าคิดปรุงแต่ง
ว่า 'ไม่เป็นไร' ไปเสียหมด..."
(พระโอวาทธรรม สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก)




ขออนุญาตบอกบุญถวายพระสมเด็จองค์ปฐม ปางเปิดโลก ทรงเครื่องจักรพรรดิ เพื่อสืบสานพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ครบ 5,000 ปี
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 26/?type=3



ชิ้นส่วน อุปกรณ์ใช้ประกอบฉัตร ที่พระธาตุชัยสิทธิ์ ที่ วัดพระพุทธบาทคีรีวันเขาพลิก ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
https://www.facebook.com/profile.php?id=100000664348408





ร่วมทำบุญปัจัยชื้อผอบพร้อมตู้กระจงถวาย
บรรจุพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐม
และอีกหลายๆพระองค์ประมาณ30กว่าพระองค์
ถวาย ณ สำนักสงฆ์ส่วนป่าเฉลิมพระเกียรติ
ต บุฝ้าย อ ประจันตคาม จ ปราจีนบุรี
https://www.facebook.com/permalink.php? ... 4541284416



บอกบุญสร้างกุฏิ ณ วัดแสงสว่าง(บ้านโนนตาแสง)ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 52/?type=3



ขอเชิญร่วมบุญวางศิลาฤกษ์
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 43/?type=3



หล่อพระชำระหนี้สงฆ์(ทันใจ) หน้าตัก 4 ศอก องค์ที่ 124 ในวันอาทิตย์ ที่ 20 มีนาคม 2559 เวลา 10.00 น.(กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบทันที)
https://www.facebook.com/nipon.tudmun/p ... 0034222167



งานบุญสร้างศาลาธรรมสังเวช
วัดเนินแสงทอง อ.กบินทร์บุรี
จ.ปราจีนบุรี
https://www.facebook.com/prapav/posts/1238817242799480




ขอเชิญร่วมบุญซื้อโลงศพไร้ญาติ
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 74/?type=3



ขอเชิญร่วมบุญเททองหล่อพระ‬ ตามจิตศรัทธา
วัดบ้านเดื่อพัฒนา ต.ตานี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
กำหนดหล่อในวันที่ 14 เมษายน 2559
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 83/?type=3





พระครูวิทิตปัญญาภรณ์ (พระอาจารย์ ดร.สุชาติ ชิโนรโส) วัดท่าข้ามเจริญศรัทธา อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จากรายการพบธรรมนำสุข แจ้งข่าวรายการงานบุญดังนี้
1. เจ้าภาพขุดสระน้ำ เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ ขนาด 5 x 10 เมตร ลึก 2 เมตร งบประมาณ 400,000 บาท ร่วมบุญสามัคคี ทุนละ 500 บาท
2. เจ้าภาพปูพื้นกระเบื้องภายในโถงของฐานใต้องค์พระ ขนาดพื้นที่ 400 ตารางเมตร ตารางเมตรละ 600 บาท
3. เจ้าภาพหน้าต่างกระจกบานเลื่อน รอบฐานใต้องค์พระ จำนวน 200 บาน บานละ 3,000 , 5,000 และ 10,000 บาท
4. เจ้าภาพเสา ใต้ฐานองค์พระ ต้นละ 500,000 บาท พร้อมจารึกชื่อ-สกุล
ร่วมบุญกับ พระครูวิทิตปัญญาภรณ์ โทร 081-650-1231




ขอเชิญร่วมสร้าง รพ.วัดสมานรัตนาราม
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 61/?type=3




พระครูวิทิตปัญญาภรณ์ (พระอาจารย์ ดร.สุชาติ ชิโนรโส) วัดท่าข้ามเจริญศรัทธา อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จากรายการพบธรรมนำสุข แจ้งข่าวรายการงานบุญดังนี้
1. เจ้าภาพขุดสระน้ำ เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ ขนาด 5 x 10 เมตร ลึก 2 เมตร งบประมาณ 400,000 บาท ร่วมบุญสามัคคี ทุนละ 500 บาท
2. เจ้าภาพปูพื้นกระเบื้องภายในโถงของฐานใต้องค์พระ ขนาดพื้นที่ 400 ตารางเมตร ตารางเมตรละ 600 บาท
3. เจ้าภาพหน้าต่างกระจกบานเลื่อน รอบฐานใต้องค์พระ จำนวน 200 บาน บานละ 3,000 , 5,000 และ 10,000 บาท
4. เจ้าภาพเสา ใต้ฐานองค์พระ ต้นละ 500,000 บาท พร้อมจารึกชื่อ-สกุล
ร่วมบุญกับ พระครูวิทิตปัญญาภรณ์ โทร 081-650-1231



ขอเชิญร่วมบุญเททองหล่อพระ‬ ตามจิตศรัทธา
วัดบ้านเดื่อพัฒนา ต.ตานี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
กำหนดหล่อในวันที่ 14 เมษายน 2559



ขอเชิญร่วมซื้อโลงศพไร้ญาติ
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 74/?type=3



ขอเชิณร่วมงานบุญสร้างศาลาธรรมสังเวช
วัดเนินแสงทอง อ.กบินทร์บุรี
จ.ปราจีนบุรี
https://www.facebook.com/prapav/posts/1238817242799480




ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสร้าง "พระแก้วจุฬามณี" หน้าตัก 80 นิ้ว (2 เมตร) เพื่อประดิษฐาน ณ พุทธสถานพระพุทธเจ้า ๕พระองค์ ต.สีกาย อ.เมือง จ.หนองคาย



ขอเชิญร่วมเททองหล่อสมเด็จโตองค์ใหญ่
รุ่นหมื่นพระคาถาชินบัญชร ปาง 12 นักษัตร
ณ วัดประยูรธรรมาราม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 12130
วันที่ 10 มีนาคม 2559 เวลา 15.00 น.


ขอเชิญหล่อพระจอมสุรินทร์และรูปเหมือนหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
ณ วัดตำปูง ต.นาดี อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
วันที่ 7-8 มีนาคม 2559



ขอเชิญท่านผู้มีศรัทธา ทานบดีทุกท่าน
ร่วมส่งแผ่นทอง ร่วมหล่อพระ ปัจจัยตามศรัทธา
เพื่อเททองหล่อ
1) หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล 2 องค์
โรงหล่อพุทธรูปยงค์เจริญการช่าง
อา.27 มี.ค.59
2) หลงพ่อวัดไร่ขิง (หล่อวันสำคัญทางพุทธศาสนา)
ทางวัดจะรับแผ่นทองตลอดปี แต่ครั้งนี้ผมจะไปงานประจำปีช่วง เม.ย. ครับ ก็จะทันหล่อ วันวิสาขบูชา
วัดไร่ขิง จ.นครปฐม
3) หล่อพระพุทธรูปเพื่อแผ่นดิน(ชื่อโครงการ)
ณ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร นครปฐม
เสาร์ 19 มี.ค.59 เวลา09.01 น.
โดยมีท่านศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม เป็นประธนในพิธี ครับ
4) หล่อพระพุทธรูป หลวงพ่อพระชัยมงคล
สนส.เขาพรานธูป หัวหิน ประจวบฯ ขนาดหน้าตัก69นิ้ว
ศ.15 เม.ย.59เวลา 17.00 น.
5) หล่อพระพุทธสมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ เนื้อช่อทิพย์เงินยวง (ท่านใดมีกายสิทธิ์ธาตุดังกล่าว) ส่งมาร่วมหล่อได้ครับ
ณ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร
โดยมีพระเดชพระคุณ พระอาจรย์วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า) เป็นประธานในพิธี
9/04/59
6) หล่อพ่อปู่นาคานาคราช 40 นิ้ว เนื้อทองเหลือง
ณ วัดธรรมมณฑล นครชัยศรี จ.นครปฐม
(ทางวัดรวบรวมจตุปัจจัยอยู่ครับ) วัดนี้เป็นวังบาดาลครับ
ส่งมาได้ที่
ส.ท.พลวรรธน์ นาคะศิริ
กองวิชา กสด.สกศ.รร.กสร.ศสร.
ค่ายธนะรัชต์
อ.ปราณบุรี ประจวบ
77160




ขอเชิญร่วมบุญเททองหล่อพระพุทธเจ้าปางประสูติ 3เมษายน2559 และร่วมเป็นเจ้าภาพบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน 88รูป ณ สำนักวิปัสสนาพุทธภาวนา(วัดสร้างใหม่) ในหมู่บ้านพฤษา3 อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สอบถาม0836058391




ขอเชิญร่วมเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ทางพระพุทธศาสนาครั้งสำคัญพิธีเททองหล่อพระพุทธเจ้าเหนือพรหม หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต
หลวงปู่ดู่ "พระโพธิสัตว์ใหญ่แห่งไตรสรณคมณ์"
ณ.มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในวันศุกร์ ที่ 29 เมษายน และวันเสาร์ ที่ 30 เมษายน พ.ศ.2559


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 10 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO