นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 29 เม.ย. 2024 11:14 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ผู้ถึงพระรัตนตรัย
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 03 มี.ค. 2016 5:22 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4543
ผู้ถึงพระรัตนตรัย‬

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
...

ถ้าผู้ใดหมั่นระลึกเข้ามาหากายหาจิตนี้อยู่บ่อยๆ มันก็ไม่ลืมตัว ก็รู้ตัวอยู่ ว่าตนกำลังทำอะไรอยู่เดี๋ยวนี้นะ แล้วตนมีความสุขหรือมีความทุกข์ แต่ถ้าผู้ไม่ใช้ปัญญา ก็จะเห็นว่าตนมีความสุขนั้นแหละเพราะว่าในขณะนี้ โรคภัยก็ไม่เบียดเบียน กินก็ได้ นอนก็หลับ ไปไหนมาไหน ฟ้อนรำขับร้อง ดีดสีตีเป่าอะไรก็ได้ทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นมันจึงไม่เห็นทุกข์บาดนิ ถือว่าตนนั้นมีความสุขอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปขวนขวายหาความสุขอย่างอื่น คนดังกล่าวมานี้ได้ชื่อว่า เป็นผู้หลงติดอยู่ใน "ความสุขชั่วคราวสุขไม่ยั่งยืน"
บัดนี้ในพระพุทธศาสนานี่ พระพุทธเจ้าสอนให้คนเราแสวงหา "ความสุขอันยั่งยืน" มันจึงไม่แปรผันชีวิตนี้น่ะ อันชีวิตที่มันแปรผันอยู่นี่ก็เพราะมันไปติดแต่ความสุขอันชั่วคราวนั้น แล้วเมื่อมันหมดอายุแห่งความสุขชั่วคราว มันก็ดับไปบัดนี้ความทุกข์ก็เกิดขึ้นมาแทน ก็ได้เสวยทุกข์ทนทรมานไป ก็เป็นอยู่อย่างนี้คนเราแต่มันลืมตัว มันนึกถึงตัวเองไม่ได้
เหตุนั้นจึงได้เป็นทุกข์เดือดร้อนอยู่ไม่รู้หาย จึงเป็นทาสแห่งตัณหา มีความหิวอยู่อย่างนั้นตลอดไป ไม่รู้จักอิ่ม ในโลกสันนิวาสอันนี้มันเป็นอย่างนั้น
ดังนั้นน่ะผู้เลื่อมใสในพุทธศาสนา ผู้ที่ประกาศตนเป็นลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้า หรือเป็นบริษัทของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
ถ้าได้ประกาศปฏิญาณตนอย่างนี้แล้ว อย่าไปถือว่ามันพอแล้ว ได้ที่พึ่งพอแล้วเท่านั้นก็เฉยเมยเสีย ปล่อยจิตให้ฟุ้งซ่านเลื่อนลอยไปเสียอย่างนี้
ไม่สมควร เพียงแค่คำกล่าวปฏิญาณตนถึงเท่านั้นน่ะ มันไม่เป็นที่พึ่งอันมั่นคงได้ อันนั้นเป็นแต่เพียงบทบาทเบื้องต้นเฉยๆ มันเป็นปากทางเข้าถึงคุณพระรัตนตรัยเท่านั้น ยังไม่ถึง "ตัวคุณพระรัตนตรัยแท้" ต้องให้เข้าใจอย่างนั้น
เมื่อเราได้ความเคารพนับถือ ความเชื่อ ความเลื่อมใสอย่างว่านั้นแล้ว มันก็เป็นเหตุให้เราลงมือปฏิบัติ การลงมือปฏิบัตินี่แหละ

ถ้าปฏิบัติถูกทางมันก็จะต้องเข้าถึงคุณแก้วสามประการนี้ได้อย่างสนิทใจ
ถ้าปฏิบัติผิดทางมันก็เข้าถึงให้อย่างสนิทสนมไม่ได้ ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เหมือนอย่างคนบางพวกบางเหล่านั้น พุทธศาสนาก็นับถือ
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ก็กราบก็ไหว้
บาดนิเมื่อมีผู้ชวนไปไหว้ท้าวมหาพรหมเบาะ ไปไหว้พระอิศวร
เจ้าแม่กวนอิมเบาะ อะไรที่เขาลือกันว่าวิเศษวิโส อำนวยความสุขความเจริญ ให้แก่ผู้กราบผู้ไหว้ผู้บวงสรวงได้มีลาภมียศ มีสรรเสริญ มีความร่ำรวย ตนอยากร่ำรวยก็เอาแล้วทีนี้ไป ไปไหว้กับเขา กราบกับเขา เช่นนี้เรียกว่า "ผู้มีจิตใจยังง่อนแง่นคลอนแคลนต่อที่พึ่งอันประเสริฐของตนอยู่" ที่พึ่งอันใดที่จะประเสริฐยิ่งไปกว่าคุณพระรัตนตรัยนี้ไม่มี มีแต่คุณพระรัตนตรัยเท่านี้แหละเป็นที่พึ่งสูงสุดในโลกนี้
ทีนี้ ถ้าผู้ใดนับถือคุณพระรัตนตรัยแล้วก็ยังไปนับถือสิ่งอื่นอีก ไปกราบไปไหว้สิ่งอื่น ไปบวงสรวงบูชาสิ่งอื่นอยู่อย่างนี้
การนับถือพระรัตนตรัยของผู้นั้นก็เศร้าหมองขุ่นมัว ไม่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่สามารถที่จะช่วยให้พ้นจากทุกข์ภัยได้เพราะว่าคนผู้นั้นเป็น "คนสองจิตสามใจ" ไม่ยืนตัวอยู่ได้ ยังมองไม่เห็นว่า คุณพระพุทธเจ้าว่าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐ มองไม่เห็น เห็นก็พอลางๆนี่แหละ
ครั้นถ้าว่าผู้ใดมองเห็นคุณทั้งสามประการนี่ เป็นที่พึ่งอันประเสริฐด้วยปัญญาจริงๆ ผู้นั้นก็ไม่ต้องไปนับถือสิ่งอื่นเลย ไม่ไปไหว้ไปอ้อนวอนบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆที่ชาวโลกเขาสมมติกันขึ้นนี้นะ ไม่ไปแล้วผู้นั้น มันเป็นอย่างนั้น ผู้ใดเว้นจากการกราบไหว้สิ่งอื่นอย่างว่านี้แล้ว แสดงว่า "มีใจมั่นอยู่ในคุณพระรัตนตรัย" และรู้สึกว่า คุณพระรัตนตรัยนี้ เป็นที่พึ่งกำจัดทุกข์ภัยได้จริง ก็มันเห็นอย่างนี้ มันถึงไม่ไปไหว้ไปนอบน้อมต่อสิ่งอื่นใด ชาวพุทธเราต้องพยายามภาวนาพิจารณาให้เห็นคุณแก้วสามประการนี้เป็นที่พึ่งอันประเสริฐกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมดในโลกนี้ ต้องใจให้ต้องเป็นหนึ่ง อย่าให้เป็นสอง
เราเห็นแจ้งว่าเป็น "คุณอันประเสริฐ" อย่างนี้แล้ว เราก็สามารถสละชีวิตบูชาลงได้ นั่นจึงเป็นผู้เชื่ออย่างมั่นคงจริงๆ
แต่เรายอมสละชีวิตเพื่อบูชาคุณพระรัตนตรัยนี่ ก็เพราะเรามีปัญญามองเห็นพระคุณอันนี้เป็นของประเสริฐจริงมีเหตุมีผลปรากฏอยู่ในจิตใจของเราแล้วอย่างดียิ่ง เราจึงกล้ายอมสละชีวิตบูชาคุณพระรัตนตรัยได้

ไม่ใช่ว่ามองไม่เห็นด้วยปัญญาแล้วแต่เชื่อตามๆกันไปเฉยๆ แล้วก็ไปสละชีวิตบูชาได้อย่างนี้ไม่อัศจรรย์แบบนั้นน่ะ ที่น่าอัศจรรย์ต้องเห็นคุณแก้วสามประการนี้แจ่มแจ้ง ด้วยปัญญาตาใจของตนจริงๆก่อน ข้อนี้นั้นไม่มีใครที่จะยืนยันให้ใครได้ ต่างคนต่างต้องพิจารณาให้เห็นด้วยตนเอง ให้รู้ด้วยตนเอง ให้รู้แจ้งด้วยตนเองจริงๆ
ดังนั้นเมื่อตนเองเห็นด้วยตนเองจริงๆแล้ว ก็เคารพกราบไหว้สักการบูชาอย่างไม่มีจืดจาง ไม่มีเบื่อหน่าย
...
ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ "เหตุปัจจุบันของชีวิต"



พระพุทธเจ้าสอนเรื่องโทษของการเป็นชู้‬

วันหนึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศล
ทรงช้างเผือกเสด็จเลียบพระนคร
ได้ทอดพระเนตรเห็นหญิงงามนางหนึ่งยืนอยู่ชั้นบนของ

ปราสาท 7 ชั้น ทรงมีพระทัยเสน่หาในนางขึ้นมาทันที พระองค์ได้ทรงพยายามหาวิธีการที่จะได้นางมาเป็นบาทบริจาริกา

เมื่อทรงทราบว่านางเป็นหญิงมีสามีแล้ว ก็ได้มีพระบัญชานำชายผู้เป็นสามีของนางมาเป็นคนใช้อยู่ในพระราชวัง ต่อมา

พระองค์ได้รับสั่งชายให้คนนี้เดินทางไปทำงานอย่างหนึ่งอันเป็นงานที่ ไม่มีทางจะทำได้สำเร็จได้ โดยรับสั่งให้เดินทางไป
ยังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างไกลถึง 12 ไมล์ แล้วให้ไปนำดอกโกมุท ดอกอุบล และดินสีอรุณจากนาคพิภพกลับมาถวาย

พระองค์ที่กรุงสาวัตถีในเย็นวันเดียวกัน ให้ทันเวลาสรงสนานของพระองค์ ทั้งนี้โดยพระองค์มีพระราชประสงค์จะสังหาร

ชายผู้นี้หากเขากลับมาไม่ทันเวลา แล้วริบเอาภรรยาของเขามาเป็นบาทบริจาริกาของพระองค์

ชายผู้เป็นสามีรีบไปนำกล่องอาหารจากภรรยาแล้วออกเดินทางไปแสวงหาสิ่งที่พระ ราชาทรงต้องการในทันที ใน

ระหว่างทางเขาได้แบ่งอาหารให้แก่เพื่อนร่วมทาง และเขาก็ยังแบ่งข้าวจำนวนหนึ่งโยนลงไปเลี้ยงปลาในน้ำ แล้วร้อง

ตะโกนขึ้นว่า ?
ข้าแต่เทพยดาและนาคทั้งหลายผู้สถิตอยู่ในแม่น้ำแห่งนี้ พระราชาปเสนทิโกศลมีพระราชบัญชาให้

ข้าพเจ้าไปนำดอกโกมุท กอกอุบล และดินสีอรุณกลับไปถวายพระองค์ วันนี้ข้าพเจ้าได้แบ่งปันอาหารให้แก่เพื่อนร่วมทาง

ของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ยังได้นำอาหารเลี้ยงปลาในแม่น้ำแล้วด้วย บัดนี้ข้าพเจ้าขอแบ่งส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่พวก

ท่านทั้งหลาย ขอท่านทั้งหลายจงได้เมตตาไปนำดอกโกมุท ดอกอุบล และดินสีอรุณมาให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด? พระยานาค

เมื่อได้ยินคำประกาศของชายผู้นั้นแล้ว ก็ได้แปลงร่างเป็นชายชราไปนำดอกโกมุท

ดอกอุบลและดินสีอรุณมาให้ชายผู้นั้น

ในเย็นวันนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงเกรงว่าชายหนุ่มอาจจะกลับมาทันเวลา จึงได้มีรับสั่งให้ปิดประตูเมืองก่อนกำหนด

เมื่อชายหนุ่มเดินทางมาถึงและพบว่าประตูเมืองปิดเช่นนั้น ก็ได้โยนดินอรุณไว้บนกำแพงเมืองและแขวนดอกโกมุทและ

ดอกอุบลไว้บนธรณีประตู จากนั้นเขาได้ตะโกนประกาศออกมาดังๆว่า ?ชาวเมืองผู้เจริญทั้งหลาย ขอท่านทั้งหลาบจงรับ

ทราบเถิดว่า
ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากพระราชาสำเร็จลุล่วงแล้ว พระราชาทรงมีแผนที่จะฆ่า

ข้าพเจ้าด้วยเหตุไม่สมควร? หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เดินทางจากประตูวังไปที่วัดพระเชตวันเพื่อจะลี้ภัยและ ก็พบว่า

บรรยากาศในวัดมีความสงบร่มรื่นดียิ่งนัก

ขณะเดียวกัน ข้างพระเจ้าปเสนทิโกศล มีความกระสันด้วยแรงกามราคะ จนไม่สามารถหลับพระเนตรลงได้ ทรงครุ่นคิด

หาวิธีที่จะสังหารชายหนุ่มในตอนเช้าแล้วยึดภรรยาของเขามาเป็นบาท บิจาริกาของพระองค์ เมื่อถึงเที่ยงคืนพระองค์ก็

ได้สดับเสียงประหลาดว่า ทุ. ส. น. โส. ซึ่งความจริงแล้วเป็นเสียงของพวกเปรต 4 ตนที่เสวยทุกข์ทรมานอยู่ในนรกชั้น

โลหกุมภี เมื่อได้ทรงสดับเสียงประหลาดนี้แล้วก็ทรงมีพระทัยหวาดหวั่น เมื่อรุ่งอรุณของวันใหม่พระองค์ได้ทรงสอบถาม

ปุโรหิตถึงเรื่องนี้ ปุโรหิตได้ทูลว่าจะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตแก่พระองค์ จะต้องหาทางแก้ด้วยการบูชายัญ แต่ต่อมา

พระองค์ได้เสด็จไปเข้าเฝ้าพระศาสดาโดยคำกราบทูลของพระนางมัลลิการาช เทวี เมื่อพระศาสดาสดับเรื่องเสียง

ประหลาดเหล่านั้นแล้ว ทรงอธิบายแก่พระราชาว่าเป็นเสียงของเปรต 4 ตนที่เกิดอยู่ในโลหกุมภีนรก เปรต 4 ตนเหล่านี้เคย

เกิดเป็นชายหนุ่มลูกเศรษฐีในสมัยพระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ และได้ตกนรกชั้นโลหกุมภีเพราะประกอบกรรมชั่วเป็น

ชู้สู่สมกับภรรยาของชายอื่น พระราชาสดับแล้วก็เกิดความสังเวชพระทัยและทรงเกิดความตระหนักถึงผลกรรมชั่ว ร้ายที่

จะบังเกิดจากการเป็นชู้กับภรรยาของผู้อื่น และตัดสินพระทัยว่า ?จำเดิมแต่นี้ไป เราจักไม่ผูกความพอใจในภรรยาของ

ชายอื่น? เพราะว่า ?แค่เราได้แต่คิดว่าจะเป็นชู้กับภรรยาของคนอื่นก็มีความทุกข์ทรมานใจจนนอน ไม่หลับ ตลอดทั้งคืน?

จากนั้นพระราชาได้กราบทูลพระศาสดาว่า ?ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ทราบความที่ราตรียาวนานในวันนี้?

ข้างชายหนุ่มที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากที่นั้น ได้กราบพระศาสดาว่า ?ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระราชาทรงทราบความที่ราตรี

ยาวนานในวันนี้ ส่วนข้าพระองค์เองได้ทราบความที่หนทางแค่โยชน์เดียวไกลมากในวันวาน?

พระศาสดาทรงนำถ้อยคำของพระราชาและของชายหนุ่มนั้นมาผสมผสานกัน แล้วตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 60 ว่า

ทีฆา ชาครโต รตฺติ ทีฆํ สนฺตสฺส โยชนํ

ทีโฆ พาลาน สํสาโร สทฺธมฺมํ อวิชานตํฯ

กลางคืนยาว นานมาก สำหรับคนที่นอนไม่หลับ ระยะทางแค่โยชน์เดียวไกลมาก สำหรับผู้ที่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าแล้ว

สังสารวัฏ (การเวียนว่ายตายเกิด) เนิ่นนานมาก สำหรับคนพาลที่ไม่รู้สัจธรรม.

เมื่อจบพระสัทธรรมเทศนา ชายหนุ่มได้บรรลุพระโสดาปัตติผล ชนเหล่าอื่นอีกเป็นจำนวนมาก ก็ได้บรรลุพระอริยผลทั้ง
หลาย มีพระโสดาปัตติผลเป็นต้น พระสัทธรรมเทศนามีประโยชน์แก่มหาชนแล้ว.





(สมเด็จโต พรหมรังสี)

ลูกเอ๋ย...ยามที่พ่อแม่ของเจ้ามีอายุมากขึ้น ย่อมมีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ความแข็งแรงของร่างกายที่เคยมีก็ลดลง ใจน้อยง่าย ความจำก็เสื่อม ขี้หลงขี้ลืม จิตใจก็หมดความสุขสดชื่น

ถึงแม้พวกเจ้าจะคอยเอาใจใส่ดูแลใกล้ชิดสักเพียงใดก็ตาม ก็ไม่อาจช่วยให้พ่อแม่ของเจ้ามีความสุขได้เต็มที่
เพราะพวกเจ้าทุกคนต่างก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เจ้าช่วยท่านให้ได้รับความสุขเพียงการให้กินอยู่หลับนอน อันเป็นความสุขทางกายเท่านั้น แต่จิตใจของท่าน หาได้ร่าเริงสดชื่นผ่องใสไม่

เจ้าจงจำไว้ว่า..
การให้ความสุขแก่พ่อแม่อย่างแท้จริงก็คือ การให้ธรรมะ ด้วยการสอนหลักธรรมง่ายๆให้พ่อแม่ของเจ้า

พาท่านไปทำบุญทำทาน
สอนท่านให้รู้จักการปฏิบัติบูชา สวดมนต์ ภาวนา แผ่เมตตา ธรรมะจะอยู่ในจิตใจของพ่อแม่เจ้าทุกภพทุกชาติ ถือว่าเป็นการทดแทนพระคุณที่สูงสุด
เจ้าจงจำไว้นะลูกเอ๋ย



เราจงเป็นผู้ที่มีชีวิตอยู่อย่างสดชื่นแท้จริง
ทั้งภายนอกและภายใน...
มีแววตาสุกใสแสดงนิมิตแห่งความเยือกเย็นอยู่เสมอ
ข้อนี้ จะเป็นตัวอย่างแก่มนุษย์ผู้มีทุกข์เต็มอก
มีแววตาขุ่นข้นเพราะภายในถูกแผดเผาด้วยอำนาจ
ความโลภ ความโกรธ และความไม่ได้ตามใจหวัง
แม้ภายนอกแสดงเพศแห่งสมณะผู้สงบ
แต่ภายในเต็มไปด้วยความตริตรึกร่านรน
เช่นเดียวกับเพศฆราวาสแล้ว
ก็ไม่อาจเป็นตัวอย่างแก่มหาชนในโลก
และจะกลายเป็นคนตาบอดช่วยจูงคนตาบอดไป

เราจะเป็นตัวอย่างการบำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์ผู้อื่น
อย่างสูงสุด โดยไม่มีการตอบแทนเสมอทุกเวลา

ด้วยอำนาจเมตตานุภาพนี้...
จะทำให้มหาชนเกิดมีความอารีแก่กันและกัน
เราจะสละสุขเพื่ออบรมโลกในคุณธรรมข้อนี้
โดยจะเป็นตัวอย่างแห่งผู้รู้จักบริโภคใช้สอย
แต่พอยังชีวิตให้เป็นไปสะดวก รวบรวมทุนที่เหลือ
จากการบริโภคฟูมฟาย มาบำเพ็ญประโยชน์สุขอย่างอื่น
และแก่ผู้อื่นที่กำลังได้รับทุกข์

พุทธทาสภิกขุ





ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างมหากุศล ประจำปี 2559
ด้วยการไถ่ชีวิตโค- กระบือ สู่พื้นนาไทย โคราคาตัวละ 17,999 บาท กระบือราคาตัวละ 21,999 หรือตามกำลังศรัทธา เพื่อสืบต่อดวงชะตา และเสริมสร้างความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต นำโดย พระเทพวราลังการ (เสงี่ยม นันทากโร) รองเจ้าคณะภาค 11 (ธ)
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯ โทร02-521-1567
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 96/?type=3




ขอเชิญสร้างศาลาปฏิบัติธรรม
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 96/?type=3



ขอเชิญร่วมบุญ
"โครงการไถ่ชีวิตโค" ในวันศุกร์ที่ 22 เม.ย.นี้
ณ ศูนย์เกษตรกรรมทหารเรือบางพระ จ.ชลบุรี
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 76/?type=3



ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพพ่อแม่บุญธรรม
ถวายความอุปถัมภ์เครื่องอัฐบริขาร
ภัตตาหาร น้ำปานะแก่สามเณรน้อย
จำนวน ๒๐๐ รูป
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 25/?type=3



ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระธาตุเจดีย์ "ศรีค้ำคูณ" บ้านแม่แพม ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่
https://www.facebook.com/banmaepam/post ... 3513081353



ขอเชิญหล่อพระสมเด็จองค์ปฐม
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 83/?type=3



ขอเชิญเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศล
‪‎สร้างระเบียงแก้วรอบวิหารแก้วสมเด็จองค์ปฐมฯสู่แสงธรรม‬
‪‎ปรับหน้าดินที่เป็นธรณีสงฆ์ที่จะสร้างองค์พระใหญ่‬
‪‎สมทบทุนเป็นปัจจัยบริหารกิจการงานสร้างศาสนวัตถุ‬(วิหารทาน)ของสงฆ์
https://www.facebook.com/SaphanBunSuSae ... 5830507730




พระครูบุญเขตวิชัย วัดปานจัยนาราม บ้านหนองหมี ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จากรายการธรรมสุขใจใฝ่ธรรม แจ้งข่าวรายการงานบุญดังนี้
ด้วยจะมีการจัดงานปริวาสกรรม และอุปสมบทพระสงฆ์ ระหว่างวันที่ 1 - 12 มีนาคม 2559 ณ วัดปานจัยนาราม
1. เจ้าภาพภัตตาหาร ซึ่งยังขาดอีก 2 วัน วันละ 8,000 บาท
1.1 ข้าวต้มเช้า วันละ 2,000 บาท
1.2 ภัตตาหารเพล วันละ 3,000 บาท
1.3 น้ำปานะบ่าย วันละ 1,500 บาท
1.4 น้ำปานะค่ำ วันละ 1,500 บาท
2. เจ้าภาพจัดชุดบายศรี พวงมาลัย ดอกไม้สด ธูป เทียน ตลอดการจัดงาน งบประมาณ 30,000 บาท ทุนสามัคคี ทุนละ 500 บาท
3. เจ้าภาพจัดสร้างถนนคอนกรีต จำนวน 300 ทุน ทุนละ 1,000 บาท
ร่วมเป็นเจ้าภาพงานบุญกับ พระครูบุญเขตวิชัย
โทร 089-945-9255, 081-726-3775



ขอเชิญร่วมบุญจัดซื้อ "หนังสือธรรมะ"หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เพื่อวางแจกที่โต๊ะหนังสือวัดพุทธบูชา เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 68/?type=3



ประกาศรับเจ้าภาพระฆังสัมฤทธิ์ ขนาด 12 นิ้ว เสียงดีสุดๆ เสียงกังวานสุด เพราะเป็นสำริด มูลค่า 20,000 บาท ใบนี้จะน้อมถวายวัดดอยคะม้อ บ่อน้ำทิพย์ จังหวัดลำพูน เป็นพิเศษ เพราะเป็นวัดที่มีพระวิปัสนาจารย์ กรรมฐาน ยังไม่มีเจ้าภาพ ติดต่อเป็นเจ้ามหาศรัทธาได้ รับ ใบเดียวเท่านั้น หรือเป็นเจ้าภาพร่วม บุญถวายได้

ต่อรับเป็นเจ้าภาพได้ที่
พระอาจารย์พระสมุห์ปฏิภาณ ภูริปญฺโญ วัดประตูป่า ตำบลประตูป่า อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โทร 087-177-8931



ขอชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบวชพระ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... 514&type=3




ร่วมบุญเป็นเจ้าภาพซื้อเพชรประดับองค์พระประธานทั้ง 2 องค์ คือ พระกัสสปพุทธเจ้า และพระโคตมพุทธเจ้า ร่วมเป็นเจ้าภาพเพชรกล่องละ250บาท ใช้ทั้งหมด1,000กล่อง ณ วัดแก้วจักรพรรดิสิริสุทธาวาส จ.ขอนแก่น
https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... 063&type=3



ขอเชิญผู้ที่มีจิตศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนาร่วมกันจัดสร้างถวายกระดิ่งใบโพธิ์ เพื่อนำมาติดรอบวิหารปฏิบัติธรรม "วิมุตติ" คือความหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง กระดิ่งใบโพิธิ์เปรียบเสมือน ชื่อเสียงเกียรติยศดังกึกก้องกังวานไปทั่วสารทิศ
https://www.facebook.com/permalink.php? ... 9833565538


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO