นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 29 เม.ย. 2024 8:52 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ศีลเป็นเครื่องประดับ
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 11 ก.พ. 2016 5:33 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4543
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ
ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด
ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์

สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ
สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ
สีลํ กวจมพฺภุตํ

(สีลวเถร) ขุ.เถร. ๒๖/๓๕๘




กฎแห่งกรรมในพระไตรปิฎก
ครึ่งคน ครึ่งเปรต

ชีวิตของคนเราทุกคนตกอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของธรรมชาติ คนที่ปฏิบัติดีย่อมได้รับผลดี คนที่ปฏิบัติชั่วย่อมได้รับผลชั่ว หากเรารักตัวเองก็ไม่ควรที่จะทำความชั่ว เพราะผลของมันจะสะท้อนกลับมาหาตัวผู้กระทำนั่นเอง ดังเรื่องกฎแห่งกรรมต่อไปนี้

ในกรุงพาราณสีมีพรานคนหนึ่งอยู่ใน หมู่บ้านจุนทัฏฐิละ เลยวาสภคาม ฝั่งแม่น้ำคงคาในอีกด้านทิศหนึ่ง เขาล่าเนื้อในป่าแล้วย่างกิน ส่วนที่เหลือเอาใบไม้ห่อกลับบ้าน พวกเด็กเล็กๆ เห็นเขาที่หน้าหมู่บ้าน พากันวิ่งมาขอเนื้อ เขาก็ได้ให้เนื้อแก่เด็กเหล่านั้นคนละน้อย

อยู่มาวันหนึ่ง
พวกเด็กเห็นเขาที่หน้าหมู่บ้าน แต่ไม่มีเนื้อติดมือมาด้วย มีแต่ดอกราชพฤกษ์ที่หอบกลับมามากมาย เด็กๆ วิ่งเข้าไปขอเนื้อจากเขาเหมือนเดิม แต่เขาได้ให้ดอกไม้แก่เด็กคนละดอก ต่อมาหลังจากเขาตายแล้ว ก็ไปบังเกิดใน หมู่เปรต เป็นผู้เปลือยกาย มีรูปน่าเกลียดน่ากลัว ไม่รู้จักข้าว ไม่รู้จักน้ำ บนหัวมีดอกโกสุมและทัดด้วยดอกราชพฤกษ์ กลับไปหาพวกญาติของตนในจุนทัฏฐิลคามเพื่อขอส่วนบุญ โดยเดินทวนกระแสน้ำคงคาที่ไหลอยู่ไม่ขาดสาย

ขณะนั้นอำมาตย์ของพระเจ้าพิมพิสาร ชื่อว่า โกลิยะ ได้ปราบโจรที่กำเริบเสิบสานอยู่ชายแดนให้สงบแล้วก็กลับเข้าเมืองมาทางเรือตามกระแสแม่น้ำคงคา เห็นเปรตตัวนั้นกำลังเดินอยู่ จึงถามว่า

“ดูก่อนเปรต !!
ท่านเป็นผู้เปลือยกาย มีร่างกายเป็นเปรตครึ่งหนึ่ง ทัดดอกไม้ตกแต่งร่างกาย เดินไปตามน้ำที่ไหลไม่ขาดสายในแม่น้ำคงคานี้ ท่านจะไปไหนหรือ ที่อยู่ของท่านคือที่ไหน”

เปรตกล่าวว่า ข้าพเจ้าจะไปบ้านจุนทัฏฐิละซึ่งอยู่ในระหว่างวาสภคามกับกรุงพาราณสี มหาอำมาตย์เห็นแล้วสงสารเปรต ดังนั้น เมื่อเรือหยุดเดินจึงได้ให้ข้าวและผ้าแก่อุบาสกช่างกัลบก เพื่ออุทิศไปให้เปรต เปรตนั้นก็ได้ผ้านุ่งห่มทันที เพราะผลบุญที่มหาอำมาตย์ทำให้

ต่อมาโกลิยมหาอำมาตย์มีจิตอยากจะช่วยเหลือเปรต จึงทำบุญอุทิศแก่เปรตไปเรื่อย จนกระทั่งเดินทางถึงกรุงพาราณสีในตอนเช้า ส่วนพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จมาทางอากาศ ประทับยืนที่ฝั่งแม่น้ำคงคา เพื่อจะโปรดเปรต ฝ่ายโกลิยมหาอำมาตย์ลงจากเรือแล้วเกิดความสุขใจ ได้นิมนต์พระผู้มีพระภาคเจ้าให้มาฉันภัตตาหารในวันรุ่งขึ้น

เมื่อโกลิยมหาอำมาตย์ได้ทราบว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับนิมนต์ จึงให้สร้างมณฑปใหญ่ประดับประดาด้วยผ้าต่างชนิดอันวิจิตรด้วยสีย้อมต่างๆ ทั้งเบื้องบนและด้านข้างๆ ทั้ง ๔ ด้าน ปูอาสนะถวายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าในที่นั้น

พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งบนอาสนะที่ตบแต่งไว้แล้ว มหาอำมาตย์จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า บูชาสักการะด้วยของหอมและดอกไม้เป็นต้น แล้วกราบทูลคำที่ตนกล่าวและคำโต้ตอบของเปรตให้พระองค์ฟัง พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระดำริว่า ขอให้สงฆ์จงมาที่นี่ เพียงแค่ดำริเท่านั้นภิกษุสงฆ์ก็พากันมาแวดล้อมพระองค์ด้วยพุทธานุภาพ

ในขณะนั้นเอง มหาชนพากันมาประชุมเพื่อจะฟังธรรมเทศนาจากพระพุทธเจ้า มหาอำมาตย์เห็นดังนั้นก็ยิ่งมีจิตเลื่อมใส ได้ถวายภัตตาหารอันประณีตแก่ภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน พระผู้มีพระภาคเจ้าเสวยพระกระยาหารเสร็จแล้ว ได้ทรงอธิษฐานว่า ขอคนชาวบ้านใกล้กรุงพาราณสีจงประชุมกันเถิด มหาชนทั้งหมดก็ได้มาประชุมกันด้วยกำลังพระฤทธิ์ และพระองค์ได้ทำให้มหาอำมาตย์และประชาชนมองเห็นเปรตทั้งหลายที่มารอขอส่วนบุญ

เปรตบางพวกนุ่งผ้าขี้ริ้วขาดรุ่งริ่ง บางพวกเปลือยกายมีผมยาวสยายปกคลุมร่าง กระจายกันไปคนละทิศละทางเพื่อหาอาหาร บางพวกวิ่งไปไกลๆ ไม่ได้อาหารก็กลับมา บางพวกสลบล้มลงเพราะความหิวกระหาย นอนกลิ้งเกลือกบนพื้นดิน บางพวกล้มลงตรงแผ่นดินในที่ที่ตนวิ่งไปนั้น พร้อมกับร้องไห้ร่ำไรว่า

“พวกเราทั้งหลายไม่ได้ทำกุศลไว้ในกาลก่อน จึงได้ถูกไฟคือความหิวความกระหายเผาอยู่ ดุจถูกไฟเผาในที่ร้อน เมื่อก่อนพวกเราชอบทำความชั่ว เมื่อมีทรัพย์สินเงินทองอยู่ก็ไม่ทำบุญทำทานไว้ ข้าวและน้ำก็มีมาก แต่เราก็ไม่เคยแจกจ่ายให้ทานและไม่ได้ถวายอะไรๆ แก่บรรพชิตผู้ปฏิบัติชอบ ชอบทำแต่กรรมที่คนดีเขาไม่ทำ เกียจคร้าน ชอบแต่ความสำราญและกินมาก ตระหนี่ถี่เหนียว ชอบด่าว่าลูกน้อง คนรับใช้เป็นประจำ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นอาหาร บ้าน คนรับใช้ ทรัพย์สมบัติเครื่องประดับต่างๆ ของเรา เมื่อเราตายแล้วก็เอามาด้วยไม่ได้ พวกเขาก็หนีไปรับใช้คนอื่นหมด พวกเราได้รับแต่ความทุกข์ เราจุติจากเปรตนี้แล้วจะไปเกิดในตระกูลอันต่ำช้าเลวทราม”
ส่วนผู้ที่ทำบุญกุศลไว้
ไม่มีความตระหนี่ ย่อมไปเกิดบนสวรรค์ ย่อมมีสวนนันทวันอันสว่างไสว รื่นรมย์อยู่เวชยันตปราสาท อยากได้อะไรก็ได้ดังใจหวัง ครั้นจุติจาก เทวโลกแล้ว ย่อมเกิดในตระกูลสูง มีโภคะมาก คือในตระกูลคนมีเรือนยอด และปราสาทราชมณเฑียร มีบัลลังก์ลาดด้วยผ้าโกเชาว์ (ผ้าทำจากขนแพะ) มีเหล่าบุรุษและสตรีถือพัดอันประดับด้วยแววหางนกยูงคอยพัดให้ ในเวลาเป็นทารกก็ทัดทรงดอกไม้ตกแต่งร่างกาย หมู่ญาติพี่เลี้ยงนางนมผลัดกันอุ้ม ไม่ต้องเอาเท้าแตะพื้นดิน มีผู้คนคอยเลี้ยงดูรับใช้อยู่ทั้งเช้าและเย็นตลอดชาติ

สวนนันทวันเป็นสวนใหญ่ของเทวดาเหล่าไตรทศ เป็นสถานที่ไม่มีความเศร้าโศก มีแต่ความน่ารื่นรมย์ ย่อมไม่มีแก่ชนผู้ไม่ได้ทำบุญไว้ ความสุขในโลกนี้และโลกหน้า ย่อมมีเฉพาะแต่คนผู้ทำบุญไว้ ผู้ปรารถนาความเป็นสหายแห่งเทวดาเหล่าไตรทศ พึงทำบุญกุศลไว้ให้มาก เพราะว่าบุคคลผู้ทำบุญไว้ย่อมบันเทิงใจอยู่ในสวรรค์เพียบพร้อมด้วยโภคสมบัติ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรมโดยพิสดาร ตามควรแก่อัธยาศัยของมหาชนผู้ประชุมกันในที่นั้น หลังจากเทศน์จบ สัตว์ ๘๔,๐๐๐ ได้ตรัสรู้ธรรม

ความสุขความทุกข์อยู่ที่ตัวเราเป็นสำคัญ หากเราทำกรรมดี เราก็จะได้รับผลดีตามกฎเกณฑ์ของกฎธรรมชาติ การทำความดีไม่มีวันสูญเปล่า ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในภพภูมิใดก็ตาม เราก็ประสบแต่สิ่งที่ดีมีความสุขอยู่ตลอดเวลา

เมื่อเราได้เกิดมาในโลกนี้จึงไม่ควรประมาท ต้องรีบสั่งสมกรรมดีไว้ให้มากๆ เราไม่รู้ว่าชีวิตเราจะสิ้นสุดวันไหน จะยังมีลมหายใจถึงวันพรุ่งนี้หรือไม่ ความดีจึงเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริงของเรา
คนที่ทำความดีไว้มากเหมือนกับมีเสบียงมาก พร้อมที่จะออกเดินทางอยู่ตลอดเวลา ไม่หวั่นกลัวต่อความตายใดๆ ทั้งสิ้น คนสมัยใหม่จำนวนไม่น้อยที่ไม่เชื่อเรื่องชาติหน้า จึงไม่อยากจะทำความดี การพิสูจน์ว่าชาติหน้ามีหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ยาก ผู้ที่ต้องการพิสูจน์ต้องลงมาปฏิบัติธรรมด้วยตนเอง เมื่อมีจิตสงบถึงระดับหนึ่งแล้ว จะรู้เองเห็นเองว่า ชาติหน้ามีจริงหรือไม่ อย่างไรก็ดีการทำความดีไว้ในชาติปัจจุบันก็ไม่เป็นการเสียเปล่าอย่างแน่นอน เพราะกรรมดีจะทำให้เรามีความสุขในชาตินี้ ถึงชาติหน้าจะมีหรือไม่มี เราก็ยังได้รับผลดีอยู่นั่นเอง



ผู้ปฏิบัติธรรม ชอบเข้าวัดฟังเทศน์ ฟังธรรม แต่เมื่อใดใจไม่สบาย บางทีก็ไปหาหมอดู ให้เขาดูว่าเป็นอะไรไหม ?
หมอดูทายว่าปีนี้ ระวังนะไปรถ ไปเรือระวังอุบัติเหตุ
คนไม่รู้เรื่องกรรม ไม่เชื่อการกระทำของตัวเองก็กลัว
กลัวจะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ นี่คือจิตที่คิดผิด ไม่ปัญญา
ไม่มีการพิจารณา บางคนจะปลูกบ้านหรือเดินทางก็ต้องไปให้หมอดู บางทีหมอบอกว่าฤกษ์ไม่ดีอย่าไปเลย เขาเชื่อหมอกลับบ้านเลย อย่างข้าราชการ..ถามว่าหลวงพ่อ
เดินทางวันไหนดี ? ถ้าเราเดินดีมันก็ดีทุกวันนั่นแหล่ะ..



อาจารย์มั่น‬ ฯ ท่านเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า

เราได้กำหนดทวนกระแสจิต คือเมื่อพิจารณาไปแล้วทุกอย่าง นับมาแต่การพิจารณาดูตัวทุกข์ คือขันธ์ทั้ง ๕ นั้นแล้ว และพิจารณาให้เป็นวิปัสสนา คือให้เห็นว่าขันธ์ทั้ง ๕ เท่านั้นเป็นธาตุ เป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา และพิจารณาที่ธรรมทั้งหลายอันละเอียดวิเศษที่สุด จนเข้าใจว่าเป็นผู้บรรลุ ขจัดออกไปทั้งหมดโดยอนุโลมิกญาณแล้ว ท่านก็ทวนกระแสจิต กลับมาหา ฐิติภูตํ คือที่ตั้งของจิต ที่ท่านอาจารย์กล่าวว่า เป็นต้นเหตุการณ์ทวนกระแสจิตที่เป็นอนุโลมิกญาณ ให้เห็นว่า “ใครผู้รู้ ใครผู้เห็น” คือให้รู้ว่าเป็นผู้ไม่ตาย ให้เห็นว่าเป็นธาตุ เพราะได้พิจารณาเห็นโดยญาณนั้นเป็นความจริง อันตัว “ผู้รู้ เห็นอยู่ที่ไหน” อาศัยญาณที่บำเพ็ญขึ้นจนพอแก่ความต้องการ อันที่เรียกว่า อนุโลมิกญาณนั้นแล้ว ก็จะปรากฏว่าได้เห็นตัว “ผู้รู้ ผู้เห็น” “ผู้ไม่ตาย” คราวนี้ก็จะถือได้ว่าเป็นองค์มรรค ภาเวตพฺพนฺติ เม ภิกฺขเว มรรคควรเจริญให้มาก ผู้ที่มาเห็นตัว “ผู้เห็น” กล่าวว่า เป็นผู้หายความสงสัยแล้วโดยสิ้นเชิง ไม่ต้องห่วงว่าอาจารย์โน้นถูก อาจารย์นี้ผิด เรากำลังทำนี้จะถูกหรือจะผิด ไม่มีในจิตของผู้เป็นเช่นนี้ ถ้ายังไม่ถึงเช่นนี้ ก็จะยังสงสัยอยู่ร่ำไป แม้ใครจะมาเทศน์ให้ฟังเท่าไรก็แก้สงสัยไม่ได้
•ประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต• โดยหลวงปู่วิริยังค์ สิรินธโร•



....การภาวนาไม่ใช่เพียงการกำหนดลมหายใจเข้าหายใจออก ไม่ใช่แค่การภาวนาพุทโธ ธัมโม สังโฆ อย่างเดียว การภาวนาเป็นการแก้อารมณ์ อุบายอันไหนเป็นวิธีการที่จะแก้อารมณ์ วิธีการอย่างไรที่จะเป็นวิธีการแก้กิเลส การกระทำอย่างนั้นเป็นการภาวนาทั้งนั้น จึงให้แก้เราอยู่เสมอ เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าทรงสอนให้แก้เรา แก้กิเลส ความอยากเรื่องอาหารของเรา มันต้องแก้ด้วยการพิจารณาอาหารให้มันรู้จักให้มันเห็นว่าความจริงของอาหารเขาเป็นอย่างไร

ที่โลกสมมุติว่าเป็นอาหารอันนั้นๆ มีค่าสูงอย่างนั้นๆ มีความเอร็ดอร่อยอย่างนั้นๆ กินเข้าไปผ่านลำคอเข้าไปแล้วมันมีรสชาติไหม กินเข้าไปผ่านลิ้นแล้วเอามือล้วงคอให้มันออกมา แล้วจะเป็นอย่างไร จะมีความประณีตตกค้างอยู่หรือเปล่า มันก็ของทิ้งดีๆ นี่

พิจารณาร่างกายของเรา ผมตัดออกไป ขนโกนออกไป เล็บตัดออกไป ฟันถอนออกไป หนังก็เหมือนกันลอกออกไป แล้วผม ขน เล็บ ฟัน หนังที่ออกไปนั้นเป็นคนหรือเป็นของทิ้ง

ของทิ้งทั้งนั้นก็ว่าเป็นเรา กิเลสมันไม่ใช่ของเล่นนะ มันดื้อด้าน มันเห็นชัดๆ มันก็ยังว่าของเรา มันดื้อด้าน มันไม่ฟังเหตุฟังผล มันไม่ยอมรับความจริง นี่ มันของทั้งทั้งนั้น ของทิ้งของตายที่ร่างกายของเรา เราตาย ตายแล้วก็เป็นของทิ้ง เป็นของทิ้งทั้งหมด.
..หลวงปู่แบน ธนากโร..




หลวงปู่เหรียญ‬ วรลาโภ ได้เมตตาตอบคำถามและเล่าถึงข้อคิดคติธรรมบางอย่างแก่ผู้เขียน เมื่อครั้งที่ไปกราบเยี่ยมท่านที่สำนักสงฆ์สวนจิตรลดาในคราวหนึ่งว่า

ผู้เขียน : การที่เราเคารพนับถือเทพยดาต่างๆ นี่ถือว่าเป็นสีลพตปรามาสหรือไม่อย่างไร ขอความเห็นจากหลวงปู่ด้วยครับ

หลวงปู่ : การที่พวกเรามีที่พึ่งที่เคารพนับถือสิ่งที่สูงกว่าอยู่แล้ว
ก็ไม่จำเป็นจะต้องเคารพนับถือในสิ่งที่ต่ำ ธรรมเนียมในทางธรรมต้องเป็นอย่างนั้น เช่น เราเคารพนับถือพระพุทธเจ้าว่าเป็นอันผู้ทรงคุณอันประเสริฐสูงสุดแล้วอย่างนี้ พวกเทวดา อินทร์ พรหม นั้นยังมีกิเลส ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดเหมือนกันอย่างเรานี้นะ แล้วเรื่องอะไรที่เราจะไปเคารพกราบไหว้บูชา

ผู้เขียน : ก็เราถือว่าท่านเหล่านั้นมีศักดิ์ มีบุญวาสนายิ่งกว่าเรานี่ครับ

หลวงปู่ : มีบุญ แต่ก็ยังไม่พ้นจากความเกิด แก่ เจ็บ ตาย เราก็มีบุญเหมือนกันอย่างนี้ ถ้าเรามีศีล ๕ เราประพฤติปฏิบัติธรรม ภาวนา ทำจิตให้สงบ มีคุณธรรมสูงอย่างนี้ มันก็เป็นสมมติเทวดาแล้ว คนเรานี่ เรื่องอะไรล่ะจึงจะมาตีตัวเองลงต่ำลงไป คนเรานี่สามารถทำความดีจนกว่าสำเร็จมรรค ผล ธรรมวิเศษได้ เทวดายังไม่ได้เลย มนุษย์นี้ยังทำได้ เพราะการทำคุณงามความดี
ต้องอาศัยขันธ์ร่างกายเป็น เครื่องกระทำ แต่พวกเทวดาไม่มี
บุญสำเร็จได้ด้วยกาย วาจา ใจ มนุษย์เรามีความพร้อมและได้เปรียบตรง


‎คำกลอนสอนใจ‬: ของหลวงพ่อวัดถ้ำอินทนิล
เสือกินพระ เป็นธรรมมะ หน้าตามติด
เสียชีวิต ในปากเสือ เหลือเชื่อไหม
สำเร็จธรรม ขั้นอรหันต์ ขึ้นทันใด
แต่พระไทย จะได้ หรือไรนา
สัตว์กินคน โกลาหล เป็นเรื่องใหญ่
คนกินสัตว์ รู้ไหม มากหนักหนา
อยู่ในท้อง ตอนนี้ ที่กินมา
แต่ถือว่า เป็นอาหาร สังขารใคร
เป็นความจริง ทุกคนนิ่ง ไม่อยากคิด
ถือชีวิต ของตน เป็นเรื่องใหญ่
กินเพื่อบำรุง บำเรอ จนเว่อร์ไป
ไม่ใช่กิน เพื่ออยู่ได้ หายใจพอ
พุทธองค์ ทรงสั่งสอน ทรงบัญญัติ เขาฆ่าสัตว์ เพื่อเรา หรือเปล่าหนอ
คิดเช่นนั้น ห้ามฉัน ลงลำคอ
กินเพื่อหล่อ เลี้ยงร่างกาย อยู่ได้ปฏิบัติธรรม



ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพถวายโคมไฟดอกบัวตั้งโต๊ะ จำนวน 15 คู่ เนื่องในงานบำเพ็ญกุศล 100 ปีชาตกาล ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (นิรันตร์ นิรนฺตรมหาเถร ป.ธ.๙) อดีตเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ซึ่งจะน้อมถวายพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์เจริญพระพุทธมนต์จำนวน 12 รูป และน้อมถวาย
1. ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
2. ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร
3. ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดเทพศิรินทราวาส
ซึ่งเป็นองค์ประธานในพิธี ในวันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559
ณ พระอุโบสถ วัดเทพศิรินทราวาส

สามารถร่วมบุญเป็นเจ้าภาพตามกำลังศรัทธาได้ที่
ธนาคารกสิกรไทย ออมทรัพย์
เลขที่บัญชี 076-2-35350-076-2-35350-4
ชื่อบัญชี ณพัชญ์ปภา พชิรารัตน์สกุล
ปิดรับร่วมบุญ 11 ก.พ. 2559 เวลา 23.59น.



ร่วมบุญหล่อสมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ์ปางเปิดโลก100บาท ณ.สวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่
ร่วมเป็นเจ้าภาพเสาสร้างพระอุโบสถ ณ.ที่พักสงฆ์คลองศรีธาตุ จ.กำแพงเพชร




ขอเชิญ ... ร่วมทำบุญโรงทาน
เนื่องในงาน ฉลอง "เจดีย์ ศรีสุนทรบวรมงคลกุศลไพบูลเพิ่มพูลบารมี"
และ มุทิตาสักการะครบรอบ ๙๑ ปี หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร
วันที่ 16-18 กุมภาพันธ์ 2559 ณ วัดป่าสุนทราราม อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร





พระอาจารย์สมเกียติ กตปุญโญ วัดหทัยนเรศวร์ ต.พุทธมณฑล อ.ศาลายา จ.นครปฐม จากรายการเสียงธรรมจากชาวพุทธ ได้แจ้งข่าวงานบุญในรายการดังนี้
1. เจ้าภาพบรรพชาสามเณร ภาคฤดูร้อน จำนวน 60 รูป รูปละ 1,500 บาท
2. เจ้าภาพบูรณะเสาอากาศวิทยุ FM 88.5 MHz. (วิทยุพระพุทธศาสนา) ภายในบริเวณวัด จำนวน 12 ท่อน ท่อนละ 2,500 บาท
ร่วมบุญกับพระอาจารย์สมเกียรติ กตตปุญโญ
โทร 089-235-8486




ขอเชิญร่วมไถ่โค 3 ตัว
...ณ วัดช่องลม จ.แพร่...
ร่วมบุญได้ที่เลขบัญชี 765 266 4290
น.ส.ฐายิกา นันทศิริไพศาล
ธนาคารกสิกรไทย
โทร 093-246-1594



ร่วมเป็นเจ้าภาพสร้าง"ผอบทองคำ"เพื่อรองรับพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อนำไปบรรจุและประดิษฐานยังพระเกตุแก้ว พระนอนปางสีหไสยาสน์ ขนาด 55 เมตร อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ที่
0982648367ในเวลา 09.00-18.00 น
https://www.facebook.com/profile.php?id=100002937508701




ขอเชิญร่วมบุญวันที่21เดือนนี้ชมรมสัจจะเรือศีลท่องสวรรค์จะซื้อแหวนทองคำ 1 วงร่วมหล่อสมเด็จองค์ปฐม,ลป.ปาน,ลพ.ฤๅษีลิงดำและออกโรงทานข้าวเหนียวปิ้ง
https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... 786&type=3




ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพพระอุณาโลม สมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ์ ปางเปิดโลก สูง ๑๘ เมตร
https://www.facebook.com/permalink.php? ... 8907723813



ร่วมซื้อ"แหวนทองคำ"น้ำหนัก1กรัม ราคา 1,500 บาท หรือ ตามศรัทธา น้อมถวายเป็นพุทธบูชา ตั้งจิตน้อมหล่อ ‪#‎สมเด็จองค์ปฐม‬ หน้าตัก 80 นิ้ว
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 94/?type=3



เรียนเชิญร่วมบุญเป็นเจ้าภาพจัดซื้อเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า(เครื่องปั่นไฟ)ขนาดกำลังไฟ6,500วัตต์ 50HZ 240Vเพื่อใช้ในการปั้มน้ำบ่อบาดาล ใช้ต่อเชื่อมงานอาคาร100ปีชาตกาลฯและให้แสงสว่างช่วงค่ำคืน
https://www.facebook.com/nuttawood.taoa ... 1543953956



ร่วมบุญทาสี อุโบสถแก้วพระราชพรหมยาน
https://www.facebook.com/permalink.php? ... 8194111538




ขอเชิญสร้างแบบแม่พิมพ์
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 23/?type=3




ขอเชิญสร้างแม่พิมพ์หล่อพระ
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 43/?type=3



ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา อันมีพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นพระรัตนตรัยอันสูงสุด ร่วมบุญจัดซื้ออุปกรณ์การศึกษาแด่สามเณร ณ วัดห้วยซ้อ อ.แม่จริม จ.น่าน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 11 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO