นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 28 เม.ย. 2024 5:19 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เปรียบเทียบการทำบุญ
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 01 ต.ค. 2015 5:12 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4542
“เปรตเจ๊กลิ้นยาว”

ผู้ข้าฯ อยู่บ้านอุปโมงค์ ตาเจ๊กช่างไม้ทำตู้ขาย ฝึกหัดภาวนาจนได้จิตสงบแล้วเที่ยวประกาศว่าตนได้สำเร็จอรหันต์

ตาเจ๊กคนนี้แกเป็นศิษย์ของพระทางภาคใต้ มาโต้วาทีกับผู้ข้าฯ ก็ลงความกันมิได้ สุดท้ายก่อนตายได้รับเวทนาหนัก จึงรู้ว่าตัวมิใช่ผู้ได้สำเร็จธรรมะ เสียใจในความเห็นผิดของตน

พอตายไปก็เป็นเปรตลิ้นยาวเกือบศอก มาขอให้ช่วยเหลือ ผู้ข้าฯ ก็เมตตาให้แต่บรุพกรรมมากหลายอย่าง ทั้งคบคนไม่ดี อวดตนปรามาสธรรม ต้องตกนรกต่อไป ตกแรกไปได้สักพัก ก็กลับมาเป็นเปรต กลับไปกลับมา

จนสุดท้ายพ้นวิปากกรรม พอได้เกิดเป็นแต่หมา กินข้าวเสสก้นบาตรวัดอุปโมงค์ พระเณรตีระฆังจะออกบิณฑบาต หรือตีระฆังประชุมวันพระ มันก็เห่าหอนตามเสียงระฆัง แล้วก็เดินตามออกบิณฑบาต หรือนั่งฟังชาวบ้านสวดมนต์ เป็นหมาก็ยังลิ้นห้อยยาวกว่าธรรมชาติของหมา สุดท้ายรถชนตาย เที่ยวเวียนว่ายตายเกิดต่อไป

เราอยู่ประจำที่คุ้นที่คุ้นเคยเป็นภาระกับผู้คน นานเข้าจิตมันก็นิ่งเฉยเกียจคร้าน แม้จะวิจารอย่างไรให้มันฟังเหตุฟังผล มันก็ไม่ยอมลงอยู่ภายใน เป็นจิตแข็ง เป็นจิตกระด้างอยู่ภายใน มันดื้อเฉยอยู่ มันเฉยมันชา เราแก้ไขแล้วมันสุดจะแก้

ผู้ข้าฯ อยู่ช่อแล เข้าหาท่านอาจารย์แหวนอยู่บ้านป่ง เล่าวิถีของจิตให้ฟัง ขออุบายแก้ไข

วันนั้นพอดีท่านอาจารย์ตื้อก็มาจากปากทาง ผู้ข้าฯ ไปถึงก่อน พอดีปัดกวาดทำความสะอาดกุฏิของท่านอาจารย์แหวนแล้วเสร็จ ก็พอดีท่านอาจารย์ตื้อมาถึงพอดี จัดน้ำชาถวาย นั่งเล่าเรื่องของจิตให้ฟัง ท่านอาจารย์ตื้อว่า...

“วันนี้จะขอฟังเทศน์อาจารย์แหวน ตุ๊เฒ่าโบราณ นิมนต์แก้ไขคิดอ่านเหตุผลเถิดหลวงตาเฒ่าโบราณ”

ท่านอาจารย์ตื้อมักเรียกท่านอาจารย์แหวนว่า “ตุ๊เฒ่าโบราณ”

ทีนี้ท่านอาจารย์แหวนก็ว่า...

“เฮาก็เคยเป็นจิตใจบะง่าวนี้ มันยากนัก ไม่ยอมลงให้ไผ๋ง่ายๆ ยากแท้เน้อ ให้มีอุบายคอยติเตียนตัวเองอยู่เสมอ อย่าให้มันพลิกไปหาความเกียจคร้าน ให้รักษากาย วาจา ใจ ของเราให้บริสุทธิ์ นำความผิดชั่วออกทางกาย วาจา ใจนี้ให้ได้ เพราะความบริสุทธิ์ในสิกขาธรรมวินัยจะสมบูรณ์ขึ้นมาได้ก็เพราะเราตั้งอยู่ในสิกขาวินัย
สัจจะความพากเพียร อย่าเวียนมาเป็นคนเกียจคร้าน ภาระผู้คนต้องต่อสู้กับทุกสิ่งทุกอย่าง องอาจกล้าหาญ ระวังสติอย่าให้หลงลืม พลั้งเผลอจนก่อความผิดพลาดได้ อุบายอันใดที่เรายกขึ้นมาเข่นกำหราบ แล้วจิตยอมเชื่อยอมฟัง ยอมจำนนจนต่อแต้มแล้วก็ให้มั่นอันอุบายนั้นแหละ และในขณะนั้นๆ หละที่เราจะข่มขู่ชี้โทษของจิตหยาบโง่ง่าวนี้ได้ หมู่เฮาอยู่ตัวคนเดียวนี้ เราไม่สอนตนเตือนตนจะให้ใครตนใด๋มาบอกมาสอนเอาเฮาเล่า”

หลังจากนั้นท่านอาจารย์แหวนเล่าว่า...

“วัดนี้วัดบ้านป่งนี้ เป็นวัดของท่านเจ้าคุณใหญ่ เฮาอยู่นี้ก็อยู่ถวายบูชาคุณของพระอุปัชฌาย์ อยู่สืบวัด แต่สุดท้ายก็ต้องไป อาจารย์ตื้ออยู่ปากทางก็จะต้องไป ตุ๊หนุ่มนี้ก็ต้องไป สุดท้ายจะเหลือแต่เฮาอยู่เมืองเหนือจกง๊กตนเดียว ท่านเจ้าคุณใหญ่ (เจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ วัดบรมนิวาส) ฝากเฮาไว้กับพระกรรมฐานเมืองเหนือ และเฮาก็ฮู้ว่าชาติชีวิตนี้จะเอากระดูกมาทิ้งที่เวียงพร้าว ”

“โห... ตุ๊เฒ่าโบราณนี่ รู้ไว้อย่างที่ผู้ข้าฯ รู้เลย” ท่านอาจารย์ตื้อเอี้ยวหน้ามาพูดกับเรา

เราก็ยกมือรับไหว้คำ แต่ก็ฟังไว้อยู่เพราะตั้งใจไว้ว่าเราจะอยู่เมืองเหนือนี่ตลอดไป แต่พอได้กลับบ้านผู้ใหญ่จูม ผู้ใหญ่อุดร บักประหยัด (ผิวขำ) ขึ้นไปเอาลงมาจึงได้แต่ระลึกถึงคุณของคำของท่านอาจารย์แหวนว่าไว้

“ครูบาเฒ่าวัดนี้เป็นวัดของพระอรหันต์องค์ใด” ท่านอาจารย์ตื้อถาม ท่านอาจารย์ แหวนพร้อมกับชี้นิ้วลง
“เฮายังบ่ฮู้”
“โหะ ครูบาเฒ่าเฝ้าวัดแท้นี่ เอ๊าตุ๊จามว่าจะได๋”
“สุดแท้แต่ครูบาอาจารย์เถ๊อะครับ”

ผู้ข้าฯ ได้ยินมาว่าท่านอาจารย์ใหญ่เพิ่นว่า “เป็นวัดของพระภคุเถระ เป็นเจ้าชายศักยราชออกบวชพร้อมพระอานนท์พระเทวทัต พอได้สำเร็จธรรมแล้วก็หนีมาโปรดเอาลูกศิษย์อยู่แถบถิ่นแถวนี้

มาภายหลังสืบต่อกันมาท่านเจ้าคุณพระอุปัชฌาย์ เดินธุดงค์หนีราชภัยขึ้นมาก่อสร้างเป็นวัดสำนักพักก่อนที่จะขึ้นเหนือต่อไปจนลุถึงเชียงตุง”

บ่อยครั้งและหลายครั้งที่ผู้ข้าฯ ไปหาท่านอาจารย์แหวนอยู่บ้านป่ง ท่านอาจารย์ตื้ออยู่ปากทาง ผู้ข้าอยู่ช่อแล และบังเอิญทุกครั้งเมื่อไปหาคราวใดเหมือนกับนัดหมายกัน ต้องพร้อมกันเกือบทุกคราวไป

ธรรมะประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ






การปฏิบัติธรรม
ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไหน
ในเมื่อกายยาว ๑ วา หนา ๑ คืบ นี้แล
เป็นตัวธรรม เป็นตัวโลก
เป็นที่เกิดแห่งธรรม
เป็นที่ดับแห่งธรรม
เป็นที่ที่พระผู้มีพระภาคเจ้า
ได้อาศัยบัญญัติไว้ซึ่งธรรมทั้งปวง
แม้ใครใคร่จะปฏิบัติธรรม
ก็ต้องปฏิบัติที่กายและใจนี้
หาได้ปฏิบัติที่อื่นไม่
ดังนั้น ถ้าตั้งใจจริงแล้ว
นั่งอยู่ที่ไหน ธรรมก็เกิดที่ตรงนั้น
นอนอยู่ที่ไหน
ยืนอยู่ที่ไหน
เดินอยู่ที่ไหน
ธรรมก็เกิดที่ตรงนั้น

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล





"อย่าไปยกกิเลสตัวว่าไม่พอใจคนนั้นไม่พอใจคนนี้ขึ้นมาเป็นสรณะ นี้แหละตัวไฟมันจะเผาบ้านเผาเมืองเข้าใจเหรอ เราตำหนิคนไหนเราต้องว่าเราเก่ง เราตำหนิคนนั้นว่าเราเก่ง คนนั้นไม่ดีต้องว่าเราดี ตัวของเราว่าดี ๆ คือตัวเลวนั่นแหละมันจะไปเหยียบชาติบ้านเมือง คือคน ๆ ที่ว่าดีกว่าเขานี้แหละ ขัดคนนั้นแล้วขัดคนนี้ ไม่พอใจคนนั้นไม่พอใจคนนี้ ตัววิเศษวิโสคนเดียว แล้วสุดท้ายก็พาบ้านเมืองให้จม แทนที่จะให้บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรืองแน่นหนามั่นคง อย่าฝันกับคนประเภทนี้นะ อย่านำมาใช้ในชาติไทยของเรา ให้นำธรรมเข้ามาใช้"


หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน




- ว่าด้วยเรื่องบุญ -

ทำบุญแต่ไม่ได้รับประโยชน์
ก็เหมือน...คนที่เลี้ยงไก่..ไข่ไว้ให้สุนัขกิน..นะโยม

ลองพิจารณาดูเถิดว่าคนชนิดไหน..ไม่รู้ว่าไข่คืออะไร
แล้วก็ไม่รู้ว่าบุญคืออะไร...จะเอาไปทำอะไร

ดีแต่ทำบุญเลี้ยงพระ..ให้ทานบำรุงพระพุทธศาสนา..อย่างเดียว
ไม่รู้จักรับเอาตัวพระศาสนาไป..ศึกษาและปฏิบัติ..คนชนิดนี้แหละ

ผู้ที่เลี้ยงไก่แล้วได้กินไข่...คือผู้ที่บำรุงพระพุทธศาสนา
แล้วได้รับประโยชน์จากพระศาสนานั่นแหละได้บุญอย่างแท้จริง

ต้องกลับมาทำความเข้าใจ..ตัวแท้ของพระพุทธศาสนา
ว่าสอนอะไร..ความไม่ยึดมั่นถือมั่น..ใช่ไหม
ส่วนคำว่าบุญ แปลว่า เรื่องชำระล้าง...

ลองดูเถิดการทำบุญเหมือนอาบน้ำชำระล้างให้ตัวเราสะอาด
๑.อาบน้ำโคลน เสร็จแล้วก็มีโคลนติดตัว
๒.อาบน้ำแป้งหอม เสร็จแล้วมันก็มีเยื่อหอมแป้งติดตัว
๓.อาบน้ำสะอาดขัดถูสบู่อย่างพิถีพิถัน เสร็จแล้ว ไม่มีอะไรติดตัว

ทั้ง ๓ แบบแยกแยะให้ดี

แบบที่ ๑ ทำบุญเลี้ยงสุรายาเมา ทำบุญอวดคนเอาหน้า ค้ากำไร ฆ่าสัตว์ทำบุญ ผลที่ได้ บุญนี้เหมือนการอาบน้ำโคลน
แบบที่ ๒ ทำบุญด้วยอุปทาน ยึดมั่นในบุญ วาดวิมานบนสรรค์ เมาบุญร้องขอความร่ำรวย เหมือนว่าอาบน้ำด้วยแป้งเปียกปูนติดเยื่อของหอม

แบบที่ ๓ ทำบุญเพื่อละเสียซึ่งความยึดมั่นถือมั่น ไม่ให้มีสิ่งใด
ว่าเป็นตัวเราของเรา ให้กิเลสหมดไปจากสันดาน
อย่างนี้เหมือนกับคนที่ถูสบู่อาบด้วยน้ำสะอาด มันก็เป็นเนื้อเป็นตัวที่สะอาด

บุญที่กล่าวในที่นี้ก็มี ๓ แบบ ใครอาบน้ำแบบไหนอยู่
ก็จงพิจารณาดูตนเถิด ...


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO