นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 28 เม.ย. 2024 4:36 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เจริญสติภาวนา
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 19 ก.ย. 2015 7:53 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4542
โอวาทธรรมพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร
เพื่อเจริญสติภาวนาพุทโธ
" เมื่อภาวนาได้ที่,
" จิตสงบนิ่งแล้ว " ย่อมมีความอ่อนละมุนละไมยิ่งในใจ,
มีความเย็นอกเย็นใจ เบายิ่งกว่าสำลี,
ใจเราเหมือนกับลมหายใจนี่แหล่ะ. "

" เห็นไหมล่ะ, มันต้องเห็นซิ.
ให้หยุดมันไม่หยุด มันบอกไม่นอนสอนไม่ได้,
มันก็พึ่งไม่ได้ซิ.

" นี่ใจของเราก็คือกันแหล่ะ, เมื่อเราบอกไม่ได้จะพึ่งอะไรได้.
บอกไม่ให้ไปตกนรกมันก็ไปตกนรก, จะว่าอย่างไรล่ะ.

ถ้ามันบอกนอนสอนได้, มันก็สอนจิตของเราได้.
มันเห็นอยู่แล้ว มันไม่หลง, มันไม่หลงมันก็สอนได้ซิ.
บอกนอนสอนได้, เมื่อสอนได้เราก็ได้ที่พึ่งของเราล่ะ. "

" ได้พระพุทธ ได้พระธรรม ได้พระสงฆ์,
รวมอยู่ในใจของเรา, ประชุมรวมกันหมด.
จิตของเราก็เบิกบาน เราก็เห็นธรรม,
เราก็เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบล่ะ. "

" เมื่อปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้ว "
จิตก็สงบลง, อ่อนหมดลง.
นี่คือกายปัสสัทธิ จิตตปัสสัทธิ.
ความสงบระงับทั่วหมด, กิเลสจัญไรทั้งหลายไม่มี.

เพราะจิตไม่มีกิเลส, จะเอาอะไรมาเป็นกิเลสเล่า.
จิตไม่มีภัย, จะเอาอะไรมาเป็นภัย.
จิตไม่มีบาปมีกรรม, จะเอาอะไรมาเป็นบาปเป็นกรรม. "



สุดท้ายไม่ยึดทั้งกายไม่ยึดทั้งใจ ก็ไม่ยึดสิ่งใดในโลกนะ จิตก็หลุดพ้นจากความยึดถือ เรียกว่าวิมุตตินะ จิตหลุดพ้น หลุดแล้วจะได้อะไร ได้เห็นนิพพาน แต่ไม่เป็นเจ้าของนิพพานนะ นิพพานไม่เป็นของใคร นิพพานเป็นธรรมดาของโลกอยู่อย่างนั้น เป็นธรรมะประจำโลกอยู่อย่างนั้น แต่ว่าผู้ใดไปเห็นนิพพานผู้นั้นมีความสุขนะ จิตที่ไปรู้นิพพานนั้นมีบรมสุขที่สุดเลย มันพ้นความดิ้นรน พ้นความปรุงแต่ง พ้นความหิวโหย พวกเราค่อยๆฝึกนะ

หลวงพ่อปราโมทย์



พระธรรมคำสอน.. คนที่เจริญพระกรรมฐานจะมีแต่เมตตา "สติ สัมปชัญญะ" คือสิ่งที่ได้จากพระกรรมฐาน ซึ่งต้องเจริญพระกรรมฐานเท่านั้น..

บุคคลที่เจริญพระกรรมฐานจะมี.. ความงาม ๔ ที่, ความดี ๔ แบบ และความกตัญญู ๔ อย่าง

"งาม ๔ ที่"
งามด้วยเครื่องแต่งกาย
งามด้วยอวัยวะหน้าตา
งามด้วยมารยาทเรียบร้อย
งามด้วยน้ำใจ อัธยาศัย วิสัยทัศน์กว้างไกล

"ดี ๔ แบบ"
ดีที่ชาติตระกูล
ดีที่ทรัพย์สมบัติ มีอริยทรัพย์ทั้งภายในและภายนอก
ดีที่มีวิชาความรู้ความสามารถ
ดีที่มีศีลธรรมประจำจิต

"กตัญญู ๔ อย่าง"
กตัญญูต่อพ่อแม่ ต่อบุคคล ผู้มีพระคุณ
กตัญญูต่อสถานที่ แหล่งที่ให้เกิดความรู้
กตัญญูต่อความดี
กตัญญูต่อตนเอง รู้พระคุณของร่างกาย ดูแลรักษาสังขารไว้เพื่อสร้างความดี โปรดกรุณาเมตตาต่อตัวเอง รักตัวเอง

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม




คำสอนหลวงพ่อ

"เกิด แก่ เจ็บ ตาย พลัดพราก ล้วนเป็นกรรมของตน"
โยมหญิงชายทั้งหลายที่รักทุกท่าน โปรดคิด
ด้วยกันทุกคนเกิดแก่เจ็บตายพลัดพรากจากกันเป็น
กรรมของตน ไม่มีใครเขาทำให้ ไม่ช้าเราก็แก่ เป็น
สาวก็ไม่จริง เป็นหนุ่มก็ไม่จริง หลอกลวงชั่วคราว
เดี๋ยวก็แก่แย่ลงไปทุกวัน โยมลองถ่ายรูปไว้สินะ
ตั้งแต่ 14,15 เรื่อยมาจนกระทั่งอายุ 50,60 แล้วลอง
เอารูปสุดท้ายไปเทียบกับรูปต้นๆดูซิ มันเหมือนกัน
ไหม อาตมา..ลืมตัวไปแต่เราก็ตั้งสติเอาไว้อยู่ ตอน
บวชใหม่ๆ ญาติโยมเขาเรียกหลวงพี่นะ นานไปก็
เรียกหลวงน้าแล้ว เอ๊ะ!...ทำไมไม่เรียกเราหลวงพี่
ต่อไปก็เรียกหลวงพ่อ หลวงลุง เดี๋ยวนี้เป็นหลวงตา
หลวงปู่ไปแล้ว ไม่เห็นมีใครเรียกหลวงพี่อีกเลย มา
นึกว่าเราอายุเข้าไปเท่าไหร่แล้ว นึกว่าอายุแค่ 30,40
ปี เวลามันไปไวเหลือเกินนะ เราก็ไม่รู้ว่าเราแก่ถึง
ขนาดนี้แล้ว..."เจริญพร"
ธรรมะจากหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม




ก็พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อทรงประทับอยู่ที่พระเวฬุวัน กลันทกนิวาปวิหาร ใกล้กรุงราชคฤห์ จึงทรงปรารภเปรตบุตรเศรษฐีคนหนึ่ง จึงตรัสเรื่องนั้นดังต่อไปนี้ :-
ได้ยินว่า ในกรุงราชคฤห์ ได้มีเศรษฐีคนหนึ่ง เป็นคนมั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก มีเครื่องอุปกรณ์แห่งทรัพย์ที่น่าปลื้มใจอย่างมากมาย สั่งสมทรัพย์ไว้เป็นจำนวนหลายโกฏิ. ได้มีบุตรคนเดียว น่ารัก น่าชอบใจ.
เมื่อบุตรนั้นรู้เดียงสา บิดามารดาจึงพากันคิดอย่างนี้ว่า เมื่อบุตรของเราจ่ายทรัพย์ให้สิ้นเปลืองไปวันละ ๑,๐๐๐ ทุกวันแม้ถึงร้อยปี ทรัพย์ที่สั่งสมไว้นี้ก็ไม่หมดสิ้นไป. จะประโยชน์อะไร ด้วยการที่จะให้บุตรนี้ลำบากในการศึกษาศิลปะ ขอให้บุตรนี้จงมีความไม่ลำบากกายและจิต บริโภคโภคสมบัติตามสบายเถิด ดังนี้แล้วจึงไม่ให้บุตรศึกษาศิลปะ.
ก็เมื่อบุตรเจริญวัยแล้ว มารดาบิดาได้นำหญิงสาวแรกรุ่น ผู้สมบูรณ์ด้วยสกุล รูปร่างความเป็นสาวและความงาม ผู้เอิบอิ่มด้วยกามคุณ บ่ายหน้าออกจากธรรมสัญญา. เขาอภิรมย์อยู่กับหญิงสาวนั้น ไม่ให้เกิดแม้ความคิดถึงธรรม ไม่มีความเอื้อเฟื้อในสมณพราหมณ์และคนที่ควรเคารพ ห้อมล้อมด้วยพวกนักเลง กำหนัดยินดี ติดอยู่ในกามคุณ ๕ เป็นผู้มืดมนธ์ไปด้วยโมหะ ให้เวลาผ่านไป.
เมื่อมารดาบิดาถึงแก่กรรมลง ให้สิ่งที่ปรารถนาแก่นักรำนักร้องเป็นต้น ผลาญทรัพย์ให้วอดวายไป ไม่นานเท่าไรนักก็สิ้นเนื้อประดาตัว (เที่ยว) ขอยืม (เงิน) เลี้ยงชีวิต ยืมหนี้ไม่ได้อีก ถูกพวกเจ้าหนี้ทวงถามก็ต้องให้ที่นาที่สวนและเรือนเป็นต้นของตนแก่พวกเจ้าหนี้เหล่านั้น ถือกระเบื้องเที่ยวขอทานกิน พักอยู่ที่ศาลาคนอนาถาในพระนครนั้นนั่นแล.
ครั้นอยู่มาวันหนึ่ง พวกโจรมาประชุมกัน กล่าวกะเขาอย่างนี้ว่า นายผู้เจริญ ท่านจะมีประโยชน์อะไรด้วยการเป็นอยู่ลำบากอย่างนี้ ท่านยังเป็นหนุ่มมีเรี่ยวแรงกำลังก็สมบูรณ์ เหตุไฉนท่านจึงอยู่เหมือนมีมือเท้าพิกล มาเถิด มาร่วมกับพวกเรา (เที่ยว) ปล้นทรัพย์พวกชาวบ้านแล้ว เป็นอยู่สบายดี.
ชายคนนั้นพูดว่า เราไม่รู้วิธีทำโจรกรรม.
พวกโจรตอบว่า พวกเราจะสอนให้เธอ ขอให้เธอจงเชื่อคำของพวกเราอย่างเดียว. ชายนั้นรับคำแล้วได้ไปกับพวกโจรเหล่านั้น.
ลำดับนั้น พวกโจรเหล่านั้นใช้ให้เขาถือฆ้อนใหญ่ ตัดช่องย่องขึ้นเรือน ให้เขายืนตรงที่ปากช่องแล้วสอนว่า ถ้าคนอื่นมาในที่นี้ เจ้าจงเอาไม้ฆ้อนนี้ทุบผู้นั้นทีเดียวให้ตายเลย. เขาเป็นคนบอดเขลา ไม่รู้สิ่งที่เป็นประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ ได้ยืนอยู่แต่ในที่นั้น มองดูทางมาของคนเหล่าอื่นอย่างเดียว.
ฝ่ายพวกโจรเข้าไปยังเรือนแล้ว ถือเอาสิ่งของที่ควรถือเอาไปด้วย พอพวกคนในเรือนรู้ตัวเท่านั้นก็พากันหนีไปคนละทิศคนละทาง. พวกคนในเรือนลุกขึ้น ต่างก็พากันวิ่งขับโดยเร็ว พร้อมกับดูข้างโน้นข้างนี้ เห็นชายคนนั้นยืนอยู่ตรงช่องประตู เฮ้ย คนร้ายแล้วพากันจับไว้ เอาไม้ฆ้อนเป็นต้นทุบมือและเท้าแล้ว กราบทูลแสดงแด่พระราชาว่า ขอเดชะ คนนี้เป็นโจร ข้าพระองค์จับได้ที่ปากช่อง.
พระราชาทรงมีพระบัญชาให้ผู้รักษาพระนครลงโทษด้วยพระดำรัสว่า จงตัดศีรษะของผู้นี้. ผู้รักษาพระนครรับสนองพระบรมราชโองการแล้ว จึงให้จับชายคนนั้นแล้ว ให้มัดไพล่หลังอย่างมั่นคง ให้ตระเวนเขาผู้ถูกคล้องคอด้วยพวงมาลัยสีแดงห่างๆ มีศีรษะเปื้อนด้วยผงอิฐ ตามทางที่เขาแสดงด้วยกลอง ตีประจานโทษจากทางรถบรรจบทางรถ จากทางสี่แพร่งบรรจบทางสี่แพร่งแล้ว ให้เฆี่ยนด้วยหวายพลางนำไปยังสถานที่ประหารชีวิต.
ประชาชนพากันแตกตื่นว่า ในพระนครนี้ เขาจับโจรปล้นสะดมภ์คนนี้ได้.
ก็สมัยนั้นในพระนครนั้น มีหญิงงามเมืองคนหนึ่งชื่อว่าสุลสา ยืนอยู่ที่ปราสาทมองไปตามช่องหน้าต่าง เห็นชายคนนั้นถูกนำไปอย่างนั้น เธอเคยถูกชายผู้นั้นบำเรอมาในกาลก่อน จึงเกิดความสงสารชายคนนั้นขึ้นว่า ชายคนนี้เคยเสวยสมบัติเป็นอันมากในพระนครนี้เอง บัดนี้ถึงความพินาศวอดวายถึงเพียงนี้ จึงส่งขนมต้ม ๔ ลูกและน้ำดื่มไปให้. และได้แจ้งให้ผู้รักษาพระนครทราบว่า ขอเจ้านายจงรอจนถึงชายผู้นี้กินขนมต้มเหล่านี้ แล้วดื่มน้ำก่อน.
ครั้นในระหว่างนั้น ท่านพระมหาโมคคัลลานะตรวจดูด้วยทิพยจักษุ เห็นชายคนนั้นจะถึงความวอดวาย ด้วยแรงกรุณาเตือนใจ คิดว่า ชายคนนี้ไม่เคยทำบุญ ทำแต่บาป เพราะฉะนั้น ชายผู้นี้จักเกิดในนรก ครั้นพอเราไป เขาถวายขนมต้มและน้ำดื่มแล้วจักเกิดในภุมมเทพ ไฉนหนอ เราจะพึงเป็นที่พึ่งของชายผู้นี้ ดังนี้แล้วได้ไปปรากฏข้างหน้าของชายผู้นั้น ในขณะที่เขานำน้ำดื่มและขนมต้มเข้าไปให้.
เขา ครั้นเห็นพระเถระก็มีจิตเลื่อมใส คิดว่าเราผู้จะถูกคนเหล่านี้ฆ่าในบัดนี้เอง จะมีประโยชน์อะไรด้วยขนมต้มที่เราจะกินเข้าไป ก็ผลทานนี้จักเป็นเสบียงสำหรับคนไปสู่ปรโลก จึงให้เขาถวายขนมต้มและน้ำดื่มแด่พระเถระ.
เพื่อจะเจริญความเลื่อมใสของชายผู้นั้น เมื่อชายผู้นั้นกำลังดูอยู่นั่นแหละ พระเถระจึงนั่งในที่เช่นนั้น ฉันขนมต้มและดื่มน้ำแล้ว ลุกจากอาสนะหลีกไป.
ฝ่ายชายผู้นั้นถูกเพชฌฆาตนำไปสู่ที่ประหาร แล้วให้ถึงการตัดศีรษะ ด้วยบุญที่เขาทำไว้ในพระมหาโมคคัลลานเถระผู้เป็นบุญเขตอย่างยอดเยี่ยม แม้จะเป็นผู้ควรจะเกิดในเทวโลกชั้นเยี่ยม แต่เพราะเหตุที่เธอมีจิตเศร้าหมองในเวลาใกล้จะตาย เพราะความเสน่หาที่มุ่งถึงนางสุลสาว่า เราได้ไทยธรรมนี้เพราะอาศัยนางสุลสา ฉะนั้น เมื่อจะเกิดเป็นหมู่เทพชั้นต่ำ จึงเกิดเป็นรุกขเทวดาที่ต้นไทรใหญ่ มีร่มเงาอันสนิท อันเกิดแทบภูเขา.
อาจารย์บางพวกกล่าวว่า
"ได้ยินว่า ถ้าในปฐมวัย เขาจักได้ขวนขวายในการดำรงวงศ์สกุลไซร้ เขาจักเป็นผู้เลิศกว่าเศรษฐีทั้งหลายในพระนครนั้นนั่นเอง ถ้าขวนขวายในมัชฌิมวัย เขาจักเป็นเศรษฐีวัยกลางคน ถ้าขวนขวายในปัจฉิมวัย เขาก็จักเป็นเศรษฐีในวัยสุดท้าย.
แต่ถ้าในปฐมวัยเขาจักได้บวชไซร้ เขาก็จักได้เป็นพระอรหันต์. ถ้าบวชในมัชฌิมวัย เขาก็จักได้เป็นพระสกทาคามีหรือพระอนาคามี. ถ้าบวชในปัจฉิมวัย เขาก็จักได้เป็นพระโสดาบัน.
แต่เพราะเขาคลุกคลีด้วยบาปมิตร เขาจึงเป็นนักเลงหญิง นักเลงสุรา ยินดีแต่ในทุจริต เป็นคนไม่เอื้อเฟื้อ เสื่อมจากสมบัติทั้งปวง ถึงความย่อยยับอย่างใหญ่หลวงโดยลำดับ."
ครั้นสมัยต่อมา เทพบุตรนั้นเห็นนางสุลสาไปสวน เกิดกามราคะ เนรมิตให้มืดแล้วนำนางไปยังภพของตน สำเร็จการอยู่ร่วมกับนางสิ้น ๗ วันและได้แนะนำตนแก่นาง. มารดาของนางเมื่อไม่เห็นนาง ร้องไห้พลางวิ่งพล่านไปข้างโน้นข้างนี้.
มหาชนเห็นเข้าจึงกล่าวว่า พระผู้เป็นเจ้ามหาโมคคัลลานะเป็นผู้มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก จะพึงรู้คติของนาง ท่านพึงเข้าไปหาท่านแล้วไต่ถามเถิด.
นางรับคำแล้วเข้าไปหาท่าน ถามความนั้น.
พระเถระกล่าวว่า ในวันที่ ๗ แต่วันนี้ เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรมในพระเวฬุวันมหาวิหาร เธอจักเห็น ณ ที่สุดบริษัท.
ลำดับนั้น นางสุลสาได้กล่าวกะเทวบุตรนั้นว่า ข้อที่เราอยู่ในภพของท่านไม่สมควร วันนี้เป็นวันที่ ๗ มารดาของฉันเมื่อไม่เห็นฉันก็จักถึงความร่ำไรโศกเศร้า ดีละเทวดา ท่านจงพาฉันไปที่นั้นนั่นเถิด.
เทพบุตรพานางไปพักไว้ท้ายบริษัท ในเมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้ากำลังทรงแสดงธรรมอยู่ในพระเวฬุวัน ได้ยืนไม่ปรากฏตัว.
ลำดับนั้น มหาชนเห็นนางสุลสาแล้วกล่าวอย่างนี้ว่า แม่สุลสา เธอไปไหนมาตลอดวันเท่านี้ มารดาของเธอเมื่อไม่เห็นเธอ ก็ได้ถึงความร่ำไรโศกเศร้าเหมือนคนบ้า. นางจึงแจ้งเรื่องนั้นแก่มหาชนและเมื่อมหาชนถามว่า อย่างไรบุรุษนั้นกระทำความขวนขวายแต่บาปเช่นนั้น ไม่ได้ทำกุศลไว้เลย ยังเกิดเป็นเทพได้.
นางสุลสากล่าวว่า เขาได้ถวายขนมต้มและน้ำดื่มที่เราให้แก่ท่านพระมหาโมคคัลลานะ ด้วยบุญนั้นจึงได้เกิดเป็นเทพบุตร.
มหาชนได้ฟังดังนั้น จึงได้เกิดอัศจรรย์จิตไม่เคยมี จึงได้คิดว่า เขาได้กระทำบุญกรรมแม้น้อยในพระอรหันต์ทั้งหลายผู้ชื่อว่าเป็นบุญเขตอันยอดเยี่ยมของชาวโลก จึงนำสัตว์มาเกิดเป็นเทพบุตร ดังนี้แล้วจึงได้เสวยปีติและโสมนัสอันโอฬาร.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเนื้อความนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
ลำดับนั้น เพราะอัตถุปปัติเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้ทรงภาษิตคาถาเหล่านี้ว่า :-
พระอรหันต์ทั้งหลาย เปรียบด้วยนา
ทายกทายิกาทั้งหลาย เปรียบด้วยชาวนา
ไทยธรรมเปรียบด้วยพืช ผลทานย่อมเกิด
แต่การบริจาคไทยธรรมของทายกทายิกา
ผู้ให้แก่ปฏิคาหกผู้รับนั้น พืชนาและการ
หว่านพืชนี้ย่อมให้เกิดผลแก่พวกเปรตและ
ทายกทายิกาผู้ให้ เปรตทั้งหลายย่อมพากัน
บริโภคผลนั้น ทายกทายิกาย่อมเจริญด้วย
บุญ ทายกทายิกาทำกุศลในโลกนี้แล้วอุทิศ
ให้เปรตทั้งหลาย ครั้นทำกรรมดีแล้ว ย่อม
ไปสวรรค์.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า เขตฺตูปมา ได้แก่ ชื่อว่านา เพราะเป็นที่ต้านทาน คือรักษาพืชที่ซัดคือที่หว่าน โดยทำภาวะให้ทำผลมาก ได้แก่สถานที่เป็นที่งอกแห่งพืชมีข้าวสาลีเป็นต้น.
พระอรหันต์ทั้งหลาย ชื่อว่าเขตตูปมา เพราะมีนาเป็นอุปมา. อธิบายว่า เป็นเสมือนคันนา.
บทว่า อรหนฺโต ได้แก่ ท่านผู้สิ้นอาสวะทั้งหลาย.
จริงอยู่ ท่านผู้สิ้นอาสวะทั้งหลายเหล่านั้น ท่านเรียกว่าพระอรหันต์ เพราะกำจัดซี่กำแห่งกิเลสเป็นต้น และซี่กำแห่งสังสารจักร เพราะเป็นผู้ไกลจากกิเลสเป็นต้นนั้นนั่นแล เพราะเป็นผู้ควรแก่ไทยธรรมมีปัจจัยเป็นต้น และเพราะไม่มีที่ลับในการทำบาป.
จริงอยู่ ในข้อนั้น สันดานของพระขีณาสพเว้นจากโทษมีโลภเป็นต้น ประกอบด้วยปัจจัยอื่นมีกาลเป็นต้น ในเมื่อเขาหว่านพืชคือไทยธรรมที่ตบแต่งไว้ดีแล้ว ย่อมมีผลมากแก่ทายก เปรียบเหมือนนาเว้นจากโทษมีหญ้าเป็นต้น ประกอบด้วยปัจจัยอื่นมีฤดูและน้ำเป็นต้น ในเมื่อหว่านพืชที่เขาจัดแจงไว้ดี ย่อมมีผลมากแก่ชาวนาฉะนั้น.
ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า เขตฺตูปมา อรหนฺโต ดังนี้เป็นต้น.
นี้เป็นนิเทศอย่างอุกฤษฏ์ เพราะไม่ปฏิเสธว่า แม้พระอริยบุคคลมีพระเสขะเป็นต้นว่า เป็นเขตของทายกนั้น.
บทว่า ทายกา ได้แก่ ผู้ให้ คือผู้บริจาคปัจจัยมีจีวรเป็นต้น. อธิบายว่า ผู้สละคือผู้ตัดกิเลสมีโลภะเป็นต้นในสันดานของตน โดยการบริจาคปัจจัยมีจีวรเป็นต้นนั้น.
อีกอย่างหนึ่ง ผู้ชำระและผู้รักษาสันดานของตนจากกิเลสมีความโลภเป็นต้นนั้น.
บทว่า สฺสกูปมา ได้แก่ เสมือนชาวนา.
ชาวนาไถนาข้าวสาลีเป็นต้น เมื่อไม่ประมาทด้วยกิจมีการหว่าน การไขน้ำเข้า การเปิดน้ำออก การปักดำและการรักษาเป็นต้นตามควรแก่เวลา ย่อมได้รับผลแห่งข้าวกล้าอันโอฬารและไพบูลย์ฉันใด แม้ทายกก็ฉันนั้น เมื่อไม่ประมาทด้วยการบริจาคไทยธรรม และการปรนนิบัติในพระอรหันต์ทั้งหลาย ย่อมได้รับผลแห่งทานอันโอฬารและไพบูลย์.
ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่าทายกและทายิกาเปรียบด้วยชาวนาดังนี้เป็นต้น.
บทว่า พีชูปมํ เทยฺยธมฺมํ ท่านกล่าวด้วยลิงควิปปลาส, อธิบายว่า ไทยธรรมเป็นเหมือนพืช.
จริงอยู่ คำว่า เทยฺยธมฺมํ นี้เป็นชื่อของวัตถุที่จะพึงให้ ๑๐ อย่างมีข้าวและน้ำเป็นต้น.
บทว่า เอตฺโต นิพฺพตฺตเต ผลํ ความว่า ผลแห่งทานย่อมบังเกิด และเกิดขึ้นจากการบริจาคไทยธรรมของทายกแก่ปฏิคาหกนั้น และย่อมเป็นไปด้วยอำนาจการสืบเนื่องตลอดกาลนาน.
ก็ในที่นี้ เพราะเหตุที่วัตถุมีข้าวและน้ำเป็นต้นที่จัดแต่งด้วยเจตนาเครื่องบริจาค ไม่ใช่ภาวะแห่งวัตถุนอกนี้ เพราะฉะนั้น ท่านจึงจัดไทยธรรมด้วยศัพท์ว่า พีชูปมํ เทยฺยธมฺมํ ดังนี้. เพราะเหตุนั้น พึงเห็นเจตนาเครื่องบริจาคซึ่งมีไทยธรรมวัตถุเป็นอารมณ์นั่นแหละว่าเป็นพืช โดยอ้างถึงไทยธรรม.
จริงอยู่ เจตนาเครื่องบริจาคนั้นให้สำเร็จผลต่างด้วยปฏิสนธิเป็นต้น และต่างด้วยอารมณ์อันเป็นนิสสัยปัจจัยแห่งปฏิสนธิเป็นต้นนั้น ไม่ใช่ไทยธรรมแล.
บทว่า เอตํ พีชํ กสี เขตฺตํ ได้แก่ พืชตามที่หว่านแล้วและนาตามที่กล่าวแล้ว.
อธิบายว่า กสิ กล่าวคือประโยคในการหว่านพืชนั้นในนานั้น.
การหว่านทั้ง ๓ อย่างนั้นจำปรารถนา เพราะฉะนั้น ท่านจึงกล่าวว่า เปตานํ ทายกสฺส จ เป็นต้น. ถ้าทายกให้ทานอุทิศให้เปรตทั้งหลาย. แก่พวกเปรตและทายก.
ถ้าไม่ให้ทานอุทิศให้พวกเปรต, อธิบายว่า พืชนั้น การหว่านนั้น และนานั้นย่อมมีเพื่อความอุปการะแก่ทายกเท่านั้น.
บัดนี้ เพื่อจะแสดงถึงอุปการะนั้น ท่านจึงกล่าวว่า พวกเปรตย่อมบริโภคผลนั้น ผู้ให้ย่อมเจริญด้วยบุญ ดังนี้.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ตํ เปตา ปริภุญฺชนฺติ ความว่า เมื่อทายกถวายทานอุทิศพวกเปรต เมื่อนา การหว่านและพืชตามที่กล่าวแล้วสมบูรณ์และมีการอนุโมทนา พวกเปรตย่อมบริโภคผลทานที่สำเร็จแก่เปรต.
บทว่า ทาตา ปุญฺเญน วฑฺฒติ ความว่า แต่ผู้ให้ย่อมเจริญด้วยผลแห่งบุญมีโภคสมบัติเป็นต้น ในเทวดาและมนุษย์อันมีบุญที่สำเร็จจากทานของตนเป็นนิมิต.
จริงอยู่ แม้ผลแห่งบุญ ท่านก็เรียกว่า บุญ ในประโยคมีอาทิว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุญนี้ย่อมเจริญอย่างนี้ เพราะเหตุแห่งการสมาทานกุศลธรรม.
บทว่า อิเธว กุสลํ กตฺวา ความว่า สั่งสมบุญอันสำเร็จด้วยทาน ด้วยอำนาจการอุทิศแก่พวกเปรต ชื่อว่ากุศล เพราะอรรถว่าไม่มีโทษและมีสุขเป็นผลในอัตตภาพนี้เอง.
บทว่า เปเต จ ปฏิปูชิย ความว่า ต้อนรับด้วยทานอุทิศเปรต ให้เปรตเหล่านั้น พ้นจากทุกข์ที่เสวยอยู่.
จริงอยู่ ทานที่ให้อุทิศเปรต เป็นอันชื่อว่าบูชาเปรตเหล่านั้น. เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่าก็การบูชาที่พวกญาติทำแล้วแก่พวกเรา และว่าการบูชาอันยิ่งใหญ่ที่พวกญาติทำแล้วแก่พวกเปรต.
ด้วย จ ศัพท์ ในบทว่า เปเต จ นี้ จัดเข้าในอานิสงส์แห่งทานที่เป็นปัจจุบัน มีอาทิอย่างนี้ว่า ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจ เป็นที่ถึงใจ เป็นที่ไว้วางใจ เป็นผู้ยกย่อง เป็นผู้ที่ควรเคารพและเป็นผู้อันวิญญูชนควรสรรเสริญควรระบุถึง.
บทว่า สคฺคญฺจ กมติฏฺฐานํ กมฺมํ กตฺวาน ภทฺทกํ ความว่า กระทำกัลยาณกรรมคือกุศลกรรม ย่อมก้าวถึงคือเข้าถึงด้วยอำนาจการเข้าถึงเทวโลกอันเป็นสถานที่เกิดของพวกคนผู้ได้ทำบุญไว้ อันได้นามว่าสวรรค์ เพราะมีอารมณ์ดีด้วยฐานะ ๑๐ ประการ มีอายุทิพย์เป็นต้น.
ก็ในบทเหล่านี้ ท่านกล่าวว่า ทำกุศลแล้วกล่าวซ้ำว่า อันกระทำกรรมดี พึงเห็นว่า เพื่อจะแสดงว่า แม้การบริจาคธรรมเป็นทาน โดยการให้ส่วนบุญ เหมือนการบริจาคไทยธรรม จัดเป็นกุศลกรรมอันสำเร็จด้วยทานเหมือนกัน. ก็ในที่นี้ อาจารย์บางพวกกล่าวว่า พระอรหันต์ ท่านประสงค์เอาว่า เปรต. คำนั้นเป็นเพียงมติของเกจิอาจารย์เหล่านั้น เพราะที่มาว่าพระขีณาสพนั้น เป็นเปรตไม่มีเลย เพราะพระขีณาสพเหล่านั้นไม่ประกอบภาวะมีพืชเป็นต้นเหมือนทายก และเพราะผู้เกิดในกำเนิดเปรตมีภาวะมีพืชเป็นต้นประกอบไว้.
ในเวลาจบเทศนา สัตว์ ๘๔,๐๐๐ ตั้งต้นแต่เทพบุตรและนางสุลสาได้ตรัสรู้ธรรมแล้วแล.



เชิญร่วมบริจาคปัจจัยพัฒนาพระธาตุภูปอ
https://www.facebook.com/prathadpoopor?pnref=story



ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ แกะสลักสมเด็จองค์ปฐมทศพลพิชิตมาร หน้าตัก 6 นิ้ว จากแก้วมณีใสธรรมชาติ
โทร 0995159551



ขอเชิญร่วมสร้างบุญสมทบทุนบูรณะพระอุโบสถ ณ วัดจิกสูง จ.ปราจีนบุรี



เรียนเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ"ทอดกฐินสามัคคี
และพิธีเทคอนกรีตฐานรากเสามงคลต้นแรก
" ณ.วัดเขากระจิว อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ในวันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ.2558




สร้างพระเนื้อสำริดปางประทานพร วัดแหลมหิน จ.ปราจีนบุรี
ภายใน ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๘ รับบริจาค ทองเหลือง นาค เงิน ทอง ทองแดง
ของเก่าหรือใหม่ รวบรวมส่วนผสมเพื่อเตรียมหล่อพระเนื้อสำริดปางประทานพร
พระประธานในพระมหาเจดีย์พระพุทธมหาลาภ



(ปิดรับ3ต.ค.)กองบุญละ100บาทร่วมสร้าง"ฉัตรโลหะสัปทน"2ฉัตรถวาย2วัดกว้าง50"และ35"ถวาย"พระสีวลีเถระเจ้า"
Tel 0853614989


โครงการถวายสมเด็จองค์ปฐมเนื้อทองคำ - เนื้อเงิน - เนื้อนวะ - เนื้อชุบทองพ่นทราย แด่พระธาตุดอยสุเทพ
ติดต่อสอบถาม คุณติ๋ม 0861794949 และคุณพีซ 0894343553



ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมบุญสร้างมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาท กับหลวงปู่ขาว พุทธรักขิตโต พระผู้ทรงจิตตานุภาพเจโตปริญญาณ วัดป่าคูณคำวิปัสสนา
โทร. 096-616-3382


บูรณะโบสถ์มหาอุตม์สีทองคำ อานิสงส์มหาศาล..ขาดเจ้าภาพสีทองคำทาช่อฟ้าใบระกา-หางหงส์หน้าบัน 7ถัง/ถังละ1800 ณ วัดศรีสง่าสามัคคี บ.หนองศาลา ต.หนองสังข์ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ



พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันสร้างพระปัจเจกพุทธเจ้า ขนาดหน้าตัก ๓๙ นิ้ว ณ วัดเขาบุญมีดาราราม (ทุ่งคา) ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี สำเร็จแล้ว ยังมีงานบุญที่ต่อเนื่อง คือ สร้างมณฑปแก้วสถานที่ประดิษฐานพระปัจเจกพุทธเจ้า จึงขอเชิญทุกท่านร่วมทำบุญสร้างมณฑปแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้าให้สำเร็จด้วยเถิด


เชิญร่วมบุญ เป็นเจ้าภาพเปลี่ยนหลังคา และปรับปรุงห้องปฏิบัติธรรม
ณ สำนักปฏิบัติธรรมแพร่ธรรมจักร บ้านน้ำพุ ต.บ้านกวาง อ.สูงเม่น จ.แพร่ โทร ๐๘๙ ๒๑๓๗๗๕๙



ขอเชิญร่วมบุญสร้างอาคารวิปัสสนา บ้านเข็กน้อย อ. เขาค้อ เพชรบูรณ์


เนื่องด้วยทางวัดสันปู่สี ได้ดำเนินการเททองหล่อสร้างรูปเหมือนหลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พฺรหมฺรํสี) หน้าตัก 11 เมตร ตามที่เคยได้บอกบุญเป็นเจ้าภาพทองเหลืองเมื่อปีก่อนนั้น บัดนี้องค์หลวงปู่ได้ทำการประกอบชิ้นส่วนเกือบสมบูรณ์ ปีนี้จึงมีการทอดกฐินสามัคคี เพื่อรวบรวมทุนทรัพย์จัดซื้อทองคำ เพื่อหล่อสร้างหัวใจ บรรจุในองค์หลวงปู่ต่อไป
จึงขอบอกบุญมายังผู้มีจิตศรัทธาร่วมปวารณาเป็นเจ้ากฐินสมัคคี จัดซื้อทองคำ จำนวน 999 กอง ๆ บุญละ 999 บาท หรือในนามคณะสายบุญ จนกว่าจะปิดรับกองบุญนี้
ทอดถวายในวันที่ 22 พ.ย.2558
ติดต่อร่วมทำบุญได้ที่ วัดสันปู่สี ต.หัวเมือง อ.สอง จ.แพร่



ขอเรียนเชิญกัลยาณมิตรร่วมเป็นเจ้าภาพร่วมสร้างพระอุโบสถ
ณ วัดมาบลูกจันทร์
อ.ปลวกแดง จ.ระยอง



ขอเชิญร่วมบุญ จัดสร้างบล๊อคพระ สำหรับ หล่อ "สมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ์ สูง 9 นิ้ว หล่อด้วยไฟเบอร์อย่างดี
สนใจร่วมบุญ โอนปัจจัยตามกำลัง ศรัทธา ได้ที่
ชื่อบัญชี Supaphol Lertvityapon
ธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชีออมทรัพย์
เลขที่บัญชี 1642096837
(( ปิดรับยอดร่วมบุญ 10 ตุลาคม 2558 ))



ขอเชิญร่วมทอดกฐินสามัคคี ปี 2558 วัดและสำนักสงฆ์ 39 แห่งติดต่อได้ที่
สำนักงานมูลนิธิถาวรจิตตถาวโร- วงศ์มาลัย
999 กุฏิทุกขนิโรธ วัดปทุมวนาราม
ถนน พระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ. 10330




ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ ทอดกฐินสามัคคี กองละ 999 บาท เพื่อสมทบทุนซื้อที่ดิน ถวายวัดบุญชื่นชู
ทอด ณ วัดบุญชื่นชู ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
เวลา 12.30 น. ทอดกฐินสามัคคี พร้อมเพรียงกัน ทุกกอง



ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพกฐิน ปี ๒๕๕๘
วัดหนองหญ้าปล้อง อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี
ในวันอาทิตย์ที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๕๘


ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่าสามัคคีสมทบทุนสร้างอุโบสถของวัดนาสาร หมู่ที่๑ ตำบลบ้านปิน อำเภอลอง จังหวัดแพร่



วัดพระธาตุ ต.ธาตุ อ.เชียงคาน จ.เลย ขณะนี้ ยังไม่มี เจ้าภาพทอดกฐิน จึงขอ
เรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธาเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน เเละกำลังจะจัดเตรียมงานผูกพัทธสีมา
ปิดทองฝังลูกนิมิต ปี พ.ศ.2559 วันที่ 3 -7 มีนาคม พ.ศ.2559
ท่านใดมีความประสงค์จะเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน หรือจะทำบุญต่างๆติดต่อ ได้ที่
ท่านเจ้าอาวาสวัดพระธาตุ โทร.089 942 – 4156




พระอาจารย์ขวัญเมือง สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าหนองหล่ม จังหวัดสระแก้ว ขอเชิญท่านพุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ สายหลวงปู่หมุนทุกๆท่าน ร่วมกันเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคี ณ วัดป่าหนองหล่ม จ.สระแก้ว ในวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2558 (ตรงกับแรม 12 ค่ำเดือน 11) หลังวันออกพรรษา 10 วัน



ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินวัดบำเพ็ญบุญ รับพระผสมอัฐิหลวงพ่อเชื้อ สุกกวัณโณ


ขอเชิญร่วมบุญเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคี
เพื่อสมทบทุนสร้างอุโบสถ
ร่วมบุญกองละ3,000บาท (พร้อมบริวานกฐิน)
เพื่อสมทบทุนสร้างอุโบสถ ทอดถวายวันที่1พ.ย.2558
วัดป่าบ้านหนองผักเเว่น ตำบลโพธิ์ทอง
อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด



19 กย.58 เชิญฟังธรรม-ใส่บาตร-ถวายภัตตาหาร หลวงพ่อวิชัยฯ ณ วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร



ขอเชิญร่วมทำบุญถวายพระไตรปิฎก 91 เล่ม พร้อมตู้พระไตรปิฎกถวายแด่วัดศรียางชุม ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จ.เชียงราย


(ปิดรับ20ก.ย.เวลา 09.00น.) ร่วมทำบุญ "โรงทาน"ร่วมกับ คณะศิษย์ลพ.มหาสิงห์ วิสุทโธ ครบรอบ 23 ปี แห่งการมรณภาพของหลวงพ่อขอเชิญร่วมทำบุญ เพื่อออก "โรงทาน" ร่วมกับ คณะศิษย์หลวงพ่อมหาสิงห์ วิสุทโธ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน (คุณตอง : ขออนุญาติหลวงพ่อแล้ว) ที่วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ในงานทำบุญครบรอบ 23 ปี แห่งการมรณภาพของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ในวันที่เสาร์ที่ 26 -วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ.2558


ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดซื้อหมึกปริ้นและกระดาษ โต๊ะทำงาน สำหรับงานคณะสงฆ์ ด้วยวัดหนองเรือ ตำบลหนองหนาม อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ซึ่งอาตมภาพได้รับหน้าที่เป็นประธานหน่วย อ.ป.ต ประจำตำบล ทำให้มีเอกสารแล้งานต่าง ๆ มากมายที่จะต้องทำ ในการนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีอุปกรณ์สำนักงานให้พร้อม ละเอีดยด้านล่างนี้ หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมที่ ๐๘๓-๑๑๔๓๖๘๑



ขอเชิญร่วมบุญใหญ่
ร่วมทำบุญถวาย ทองคำเปลว ให้แก่วัดที่จัดงานปิดทองฝั่งลูกนิมิตวัดทั่วประเทศปี 2559 จำนวน 144 วัด(อาจมีเพิ่มอีก)
งานปิดทองฝั่งลูกนิมิต วัดแต่ละวัด จะจัดงานได้แค่ครั้งเดียว
เบอร์ติดต่อ 091-795-9959



ขอเชิญร่วมทำบุญ
ซื้อเครื่องวัด ความดัน แบบตั้งพิ้น (คนไข้เป็นกันเยอะครับ
เครื่องมือไม่เพียงพอ)
มอบให้ โรงพยาบาลอุทัยธานี
แผนก ห คอ จมูก และแผนกอื่นได้ร่วมใช้
มอบให้ จำนวน 2 เครื่อง
มอบวันที่ 27 กันยายน 2558
โทร 091-7959959



ด้วยทางวัดหาดนาค อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ มีความต้องการที่จะซื้อเครื่องปริ้นสำหรับไว้ใช้ในการทำงานของคณะสงฆ์ตลอดถึงใช้พิมพ์เอกสารในการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนและบทสวดมนต์ต่างๆในพระพุทธศาสนาให้แก่ญาติโยมผู้มาทำบุญและปฏิบัติธรรม ทางวัดจึงขอความเมตตาอนุเคราะห์จากท่านผู้ใจบุญและมีจิตศรัทธาทุกท่าน ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคสมทบทุนในครั้งนี้


ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง ขอเชิญตักบาตร และ ฟังพระธรรมเทศนา
ณ ที่พักสงฆ์ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง อ. ปากเกร็ด จ. นนทบุรี
(รายนามพ่อแม่ครูอาจารย์อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้)
วันเสาร์แรก เวลา 18.00 น.
ขอเชิญรับฟังพระธรรมเทศนา
วันอาทิตย์ที่สาม - ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม โทร 025832302




กองทุนเพื่อสงฆ์ผ่านคุณพนมกร พะเยา เชียงราย ลำปาง
Tel 086-1050222



ขอเชิญร่วมสร้าง รพ จักษุบ้านแพ้ว



หาเจ้าภาพโคมไฟติดวิหารพระเจ้าทันใจ
สอบถามเพิ่มเติม 0841768765



ร่วมบุญจัดซื้อบุษบกพร้อมฐานตั้งและผอบเจดีย์น้อมถวายวัดในงานพิธีทอดกฐินสามัคคี ณ. วัดเจริญศรัทธา บ้านหนองเม็ก ต.ขอนยูน อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ในวันที่ ๗-๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๘


ขอเชิญร่วมทำบุญสร้าง "พระเจ้าแสนแซ่มหาชินธาตุเจ้าลำปาง"
พระเจ้า 5 พระองค์
ในวันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2558
ถวายวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม วัดพระธาตุลำปางหลวง
วัดพระธาตุเสด็จ วัดปงสนุกเหนือ และวัดศาลาหม้อ
ร่วมบุญได้ที่
ธนาคารธนชาต 594-225-1513
ชื่อบัญชี พระน้อย พรุตตโม หรือนายมงคล ไชยคำ




ขอเรียนเชิญร่วมเททองหล่อพระเกศเปลวเพลิงองค์พระหลวงพ่อเงินไหลมาเทมา(พระยืน30ศอก) ณ.ศูนย์ปฏิบัติธรรมตรัยรัตน์ศิษย์พระราชพรหมยาน จ.สระบุรี ในวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ.2558 เททอง เวลา 09.09 น.



ขอเชิญร่วมบุญสร้างมหาเจดีย์พุทธภูมิ ณ สถานปฏิบัติธรรมพุทธพรหมปัญโญนานาชาติขอนแก่น
26กันยายน2558 21.30เททองหล่อพระ
27กันยายน2558 ทอดผ้าป่า 09.09น


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO