นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 28 เม.ย. 2024 7:01 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เอาธรรมะมาชำระล้าง
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 04 ก.ย. 2015 7:11 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4542
"ธรรมะต้องได้มาชะมาล้างพอน่าดูน่าชม ผู้ผ่านพ้นไปก็มี ๆ เมื่อมีการชำระการยอมรับการชะล้างอยู่ ก็มีเวลาที่จะค่อยสะอาดสะอ้านกันได้คนเรา นอกจากจะจมไปถ่ายเดียวไม่สนใจกับสิ่งชะล้างแล้วก็ช่วยไม่ได้ พระพุทธเจ้ากี่พระองค์ก็ช่วยไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับเราผู้จะยอมรับมากน้อย นี่ก็ชะล้างกันมาตลอดจนกระทั่งป่านนี้ ศาสดาองค์ไหนตรัสรู้ขึ้นมาก็มาชะล้างของสกปรกเหล่านี้ไม่ใช่ชะล้างอะไร สกปรกเหล่านี้อยู่ที่ไหน อยู่ที่หัวใจของสัตว์ ไม่มีความสะอาดความสกปรกที่ไหนนอกเหนือไปจากหัวใจของสัตว์ ความสุขและความทุกข์ก็อยู่ที่หัวใจของสัตว์โลกทั่ว ๆ ไป เพราะกิเลสอยู่ที่นั่น ตัวเป็นเหตุสร้างความชั่วช้าลามก"
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน



หลวงปู่ดุลย์ อตุโล
------------------------------------
"..เมื่อจิตกระทบเข้ากับอารมณ์ภายนอกอย่างไร.?. ก็ให้หยุดอยู่แค่นั้น. อย่าไปทะเลาะวิวาทโต้แย้ง.. อย่าไปเอออวยเห็นดีเห็นงาม.. ให้จิตก่อรูปก่อร่างเป็นตุเป็นตะ.. เป็นเรื่องเป็นราวยืดยาวออกไป.. อย่าไปวิพากษ์วิจารณ์ต่อไป.. อย่าไปใส่ใจอีกต่อไป.. พอกัน.!. เพียงรู้อารมณ์เท่านั้นเอง.. หยุดกันเพียงเท่านี้.."




ปัจฉิมโอวาท.. องค์หลวงปู่พรหม จิรปุญโญ
----------------------------------
"คนเราเกิดมาทุกรูปทุกนามรูปสังขารเป็นของไม่เที่ยง เกิดขึ้นแล้วล้วนตกอยู่ในกองทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าพระราชา มหากษัตริย์ พระยานาหมื่น คนมั่งมี เศรษฐีและยาจก ล้วนตกอยู่ในกองทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น มีทางพอจะหลุดพ้นทุกข์ได้ คือ ทำความเพียร เจริญภาวนา อย่าสิมัวเมาในรูปสังขารของตน มัจจุราชมันบ่ไว้หน้าผู้ใด ก่อนจะดับไป ควรจะสร้างความดีเอาไว้"



มัวเมากันแต่เรื่องกิน เรื่องกาม เรื่องเกียรติ
แล้วก็ได้เอาเปรียบกัน ฆ่าฟันกัน
เพราะเรื่องกิน เรื่องกาม เรื่องเกียรติ

ฆ่าตัวเองตายก็มาก เพราะเรื่อง
ไม่พอกิน เรื่องไม่มีกาม เรื่องไม่มีเกียรติ

ขอให้ดูให้ดีจะเห็นได้ว่า
ไอ้เรื่องกิน เรื่องกาม เรื่องเกียรตินั้น
มันมีรสชาติต่อเมื่อได้เป็นทาสของกิเลส

ต้องเอากิเลสเข้ามาด้วย
แล้วคนนั้นก็เป็นทาสของกิเลส
เรื่องกิน เรื่องกาม เรื่องเกียรติ จึงจะมีรสมีชาติ
ถ้าไม่มีกิเลสเข้ามาช่วย
เรื่องกิน เรื่องกาม เรื่องเกียรติ
ก็ไม่มีรสชาติอะไร
เป็นเรื่องยุ่ง เป็นเรื่องฟุ้งซ่าน เป็นเรื่องรำคาญ

หยุดเป็นทาสของกิเลสเสียเถิด
กิน กาม เกียรติ ก็จะไม่มาเป็นภาระหนัก
สุมอยู่บนศรีษะของท่านอีกต่อไป
มันก็จะลดลงมากลายเป็นของ
สำหรับแจกแก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ผู้มีปัญญาเป็นชาวพุทธที่แท้จริง
จึงไม่ได้ยึดมั่นหลงใหลใน
เรื่องกิน เรื่องกาม เรื่องเกียรติ
มีแต่เฉลี่ยผู้อื่น
นี้เรียกว่าชีวิตที่อยู่
เหนือกิน เหนือกาม เหนือเกียรติ
ไม่เป็นทาสของกิเลสอีกต่อไป
มันก็เย็น ไม่ร้อน กิเลสเป็นของร้อน
ไม่มีกิเลสก็เป็นของเย็น
คำว่าเย็นนี่เรียกในบาลีว่า นิพพาน
เป็นสิ่งที่ดีที่ประเสริฐสุดสำหรับมนุษย์

พุทธทาสภิกขุ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO