นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 8:56 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 29 ก.ค. 2015 7:35 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4549
พบเพิ่นครูอาจารย์มั่น

“แล้วเสร็จปีใหม่เมษาอยู่บ้านแล้วก็บอกลาแม่ออกญาติพี่น้อง ว่าจะขึ้นไปหาเพิ่นครูอาจารย์มั่น ภูริทตฺโตอยู่พรรณนิคม สกลนคร แม่ออกได้ฝากประคดไหมให้เอาไปถวายเพิ่นครูอาจารย์มั่น


เดินทางด้วยกัน ๓ องค์
มีผู้ข้าฯ (หลวงปู่จาม มหาปุญโญ)
ท่านชุม (พระชุม คนบ้านแวงภูจ้อก้อ)
ท่านสุบรรณ (คนบ้านหนองขาม อำเภอกุดชุม)

พากันไปพักอยู่วัดบ้านนาในกับท่านอาจารย์หลุย (จนฺทสาโร) วันนั้นก็ยังไม่ได้เข้าไปหาเพิ่นครูอาจารย์มั่น เพราะไม่ใช่วันฟังโอวาทธรรม

วันต่อมาจึงได้เข้าไปท่านอาจารย์หลุยพาเข้าไปกราบเพิ่นครูอาจารย์มั่น ไปถึงวัดแล้วก็ขึ้นศาลากราบพระประทาน แล้วท่านอาจารย์หลุยก็พาไปขึ้นกุฏิของเพิ่นครูอาจารย์มั่น ขึ้นไปก่อนหมู่พระเณรในวันนั้น

เพิ่นครูอาจารย์มั่นนั่งรอท่าอยู่ก่อนแล้ว กราบไหว้เสร็จแล้ว ท่านอาจารย์หลุยก็เรียนเพิ่นครูอาจารย์มั่นว่า “สามเณรจาม ตอนนี้บวชเป็นพระแล้วครับกระผม”

เพิ่นครูอาจารย์มั่นกล่าวว่า “บวชแล้ว เพราะเธอมีนิสัยนักบวช”

เพิ่นครูอาจารย์มั่นจึงให้โอวาทว่า “เมื่อก้าวมาสู่หนทางแห่งความดี ต้องเดินหน้าสู้ทน ตายเป็นว่า (ตายเป็นตาย) อยู่เป็นว่า (อยู่เป็นอยู่) เหตุเพราะทางอื่นนั้นปราศจากความร่มเย็น ไม่เป็นความสุข อันนี้ความดีจะเป็นผลของตน ผู้เดินอยู่ในทางนี้ตลอดไปนั้น จิตใจก็อยู่ใกล้ธรรมอยู่กับธรรมไม่ละทิ้งความดี ตนก็จะเป็นผู้ราบรื่น ร่มเย็น ผาสุกอยู่ได้ในปฏิปทาแห่งตน”

ต่อจากนั้นเพิ่นครูอาจารย์มั่นก็เทศนาต่อไปว่า...

“ให้ตั้งใจเจริญพระพุทธคุณ ตามรอยบาทของพระพุทธเจ้า ถือด้วยใจ ปฏิบัติด้วยใจ เจริญพุทธานุสติ ด้วยการประพฤติเพื่อความหนักแน่นในธรรม ผู้ถึงพระพุทธเจ้าด้วยหัวใจเท่านั้นที่เป็นผู้ทรงธรรมทรงวินัยอยู่ได้

อตฺต ทนฺตํ ฝึกตนด้วยดี หนาแน่นด้วยพุทธคุณทั้งหลาย

สมาหิตํ มีใจมั่นคง หนักแน่นสมเป็นบรมครู

เทวาปินํ นมสฺสามิ เทพเทวาทั้งหลายก็นอบน้อม

พฺรหฺมมุนาปิ ปสํสิโต แม้พรหมก็สรรเสริญ ชาวโลกก็นิยม

อรหนฺตสมฺมาสมฺพุทฺโธ เป็นพระพุทธเจ้าก็ทรงเป็นเอง ตกแต่งมาด้วยตนเอง รักษาด้วยตนเอง เป็นผู้ประมาณตนมาด้วยธรรมโดยตลอด
จิตของท่านผู้เข้าสู่นิพพานได้นั้น ท่านก็กำหนดรู้จิตรู้ใจของท่านเช่นกัน แต่ให้รู้เฉพาะ การบุญ การบาป การทุกข์ การโทษ สารธรรม และอสารธรรมเท่านั้น

รู้ด้วยการวางใน การทาน การศีล การสมาธิ การปัญญา การวิมุตติ
รู้ด้วยการวางใจในสัตว์ ในบุคคล ในตัวตน ในเรา ในเขา ในเทพเทวา ในหมู่พรหม ในหมู่นรกเปรตผี

กำหนดรู้จนได้ หมายเป็นว่ารู้ แต่ไม่ถือรู้ ไม่ถือจิต ไม่ถือใจ

วางใจคืนแก่อนัตตาธรรม วางคืนแก่โลก เพิกตนออกเป็นแต่ธรรม

วางใจไว้ดุจแผ่นดิน เหมือนแผ่นดินวางต่อการรองรับสรรพสิ่ง แม้ภพ แม้วิภพ ก็วางคืนแก่ภพและวิภพ เป็นเช่นนี้จึงเป็นผู้เข้าสู่นิพพานได้”

เมื่อเพิ่นว่าจบเท่านี้แล้ว เพิ่นก็สำทับกับผู้ข้าฯ ว่า “ท่านจามเข้าใจไหมจำไว้ให้ดีเน้อ”

ผู้ข้าฯ ก็พนมมือรับ “ครับผม” จากนั้นเพิ่นก็ถามการไปการมานั้นนี่ เริ่มแต่เป็นเณรลาสิกขา รักษาโรคเหน็บชา เข้าบวชเป็นพระ การอยู่เมืองเหนือ จนหมู่พระเณรทยอยกันขึ้นมาเต็มกุฏิแล้ว ผู้ข้าฯ ก็กราบถอยออกมานั่งอยู่ทางหลังๆ ”

ธรรมะประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ




เวลาเป็นของมีค่า...
หลวงพ่อเคยบอกว่า “คนฉลาดน่ะ เขาไม่เคยมีเวลาว่าง”
เวลาเป็นของมีค่า เพราะไม่เหมือนสิ่งอื่น แก้วแหวนเงินทอง สิ่งของทั้งหลาย เมื่อหมดไปแล้วสามารถหามาใหม่ได้
แต่สำหรับเวลาแล้ว หากปล่อยให้ผ่านเลยไป โดยเปล่าประโยชน์ ขอให้ตั้งปัญหาถามตัวเองว่า
“สมควรแล้วหรือกับวันคืนที่ล่วงไปๆ คุ้มค่าแล้วหรือกับลมหายใจที่เหลือน้อยลงทุกขณะ”
( หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ )



# โอวาทธรรม หลวงพ่อชา สุภัทโท #
" เมื่อเราทำบุญ แต่ยังไม่ละบาป ก็เหมือนเราเอากะละมังไปคว่ำไว้กลางแจ้ง ฝนตกลงมาถูกก้นกะละมังเหมือนกัน แต่มันถูกข้างนอก ไม่ถูกข้างใน น้ำก็ไม่มีโอกาสที่จะเต็มกะละมังได้ "





...ดูก่อนราหุล....
อานิสงส์การเจริญภาวนา

ปัญหา การอยู่ในโลกอันเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายนี้
บุคคลจะต้องได้รับการอบรมจิตพอสมควร
จึงจะอยู่ได้อย่างสงบสุข
พระผู้มีพระภาคทรงแนะวิธีอบรมจิตไว้อย่างไรบ้าง?


พุทธดำรัสตอบ
“... ดูก่อนราหุล เธอจงเจริญภาวนา (อบรมจิต)
เสมอด้วยแผ่นดินเถิด
เพราะเมื่อเธอเจริญภาวนาเสมอด้วยแผ่นดินอยู่
ผัสสะอันเป็นที่ชอบใจและไม่ชอบใจที่เกิดขึ้นแล้ว
จักไม่ครอบงำจิตได้

ดูก่อนราหุล เปรียบเหมือนคนทั้งหลายทิ้งของสะอาดบ้าง
ไม่สะอาดบ้าง คูถบ้าง มูตรบ้าง น้ำลายบ้าง น้ำหนองบ้าง
เลือกบ้าง ลงที่แผ่นดิน แผ่นดินจะอึดอัด หรือระอา
หรือเกลียดด้วยของนั้น ก็หาไม่ฉันใด
เธอจงเจริญภาวนาเสมอด้วยแผ่นดินนั้น ฉันนั้นแล”

“... ดูก่อนราหุล เธอจงเจริญภาวนาด้วยน้ำเถิด
เพราะเมื่อเธอเจริญภาวนาเสมอด้วยน้ำอยู่
ผัสสะอันเป็นที่ชอบใจและไม่ชอบใจที่เกิดขึ้นแล้ว
จักไม่ครอบงำจิตได้... เปรียบเหมือนคนทั้งหลาย
ล้างของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง ลงในน้ำ...
น้ำจะอึดอัด หรือระอา หรือเกลียดด้วยของนั้น ก็หาไม่...”

“... ดูก่อนราหุล เธอจงเจริญภาวนาด้วยลมเถิด
เพราะเมื่อเธอเจริญภาวนาเสมอด้วยลมอยู่
ผัสสะอันเป็นที่ชอบใจและไม่ชอบใจที่เกิดขึ้นแล้ว
จักไม่ครอบงำจิตของเธอได้... เปรียบเหมือนลม
ย่อมพัดต้องของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง...
ลมจะอึดอัด หรือระอา หรือเกลียดด้วยของนั้น ก็หาไม่...”

“... ดูก่อนราหุล เธอจงเจริญภาวนาด้วยอากาศเถิด
เพราะเมื่อเธอเจริญภาวนาเสมอด้วยอากาศอยู่
ผัสสะอันเป็นที่ชอบใจและไม่ชอบใจที่เกิดขึ้นแล้ว
จักไม่ครอบงำจิตได้... เปรียบเหมือนอากาศ
ไม่ตั้งอยู่ในที่ไหนๆ...”

“... ดูก่อนราหุล เธอจงเจริญเมตตาภาวนาเถิด
เพราะเมื่อเธอเจริญเมตตาภาวนาอยู่
จักละพยาบาท (ความคิดจองล้าง) ได้
เธอจงเจริญกรุณาภาวนาเถิด
เพราะเธอเมื่อเจริญกรุณาภาวนาอยู่
จักละวิหิงสา (ความคิดเบียดเบียน) ได้
เธอจงเจริญมุทิตาภาวนาเถิด
เพราะเมื่อเธอเจริญมุทิตาภาวนาอยู่
จักละอรติ (ความอิจฉาตาร้อน) ได้
เธอจงเจริญอุเบกขาภาวนาเถิด
เพราะเมื่อเธอเจริญอุเบกขาภาวนาอยู่
จักละปฏิฆะ (ความขุ่นเคือง) ได้
เธอจงเจริญอสุภภาวนาเถิด
เพราะเมื่อเธอเจริญอสุภภาวนาอยู่
จักละราคะ (ความกำหนัดยินดี) ได้
เธอจงเจริญอนิจจสัญญาภาวนาเถิด
เพราะเมื่อเธอเจริญอนิจจสัญญาภาวนาอยู่
จักละอัสมิมานะ (ความถือตัวว่าเป็นเรา) ได้”

------------------------------------------------------
ที่มา.....มหาราหุโลวาทสูตร ม. ม. (๑๔๐-๑๔๕)
ตบ. ๑๓ : ๑๓๘-๑๔๐ ตท.๑๓ : ๑๒๖-๑๒๘




ผ่านชุมโจร

“เมื่อครั้งสงครามโลกใหม่ลงมาจากเจดีย์หลวงเพื่อมาเยี่ยมแม่ออก (แม่ชี) ผ่าน อำเภอสวรรคโลก โถ โถ๊ะ อำเภอนี้คนดุ เป็นชุมโจร แต่ไม่โดนปล้น ถูกแต่ถามว่าไปไหน มาโดนปล้นอยู่อำเภอวัดโบสถ์ พิษณุโลก มีคนเฒ่ากับเด็กกำลังสาว ๑๕ – ๑๖ ปี ๓ คน มาอ้อนวอนขอว่าอย่าผ่านไปเถอะทางนี้ มันเป็นทางดักปล้นของโจร สามวันที่แล้วก็ปล้นรถโดยสาร


เราก็ถามทางเขาว่า.. “ ทางนี้เป็นทางตรงที่จะลัดไปตาลเตี้ยใช่ไหม ”

เขาก็ว่า.. “ ใช่อยู่แต่มันเป็นทางโจร ขอเถอะ หลวงพี่อย่าได้ไป รอให้มีคนหลายคนแล้วค่อยไปพร้อมกัน ”

เราก็ว่า.. “ไป อาตมาจะไป ไม่กลัวโจรหรอก อาตมาบวชเป็นพระไม่มีสมบัติอันใด หากโจรมันปล้นก็ได้แต่บริขารเท่านั้น”

ก็บอกลาเขาไป เดินลัดทุ่งไปด่านแรก โจรมันก็ออกมาจากป่าไม้แซง ถือดาบยาวออกมา ยืนกั้นหน้าถอดดาบถืออยู่ มันถามว่า...
“จะไปไหน ไปคนเดียวหรือ”

เราก็ตอบว่า.. “มาจากเชียงใหม่จะไปอีสานเยี่ยมโยมแม่ บ้านอยู่อีสาน มาคนเดียวจะไปคนเดียว เดินไปเรื่อยๆ อย่างนี้”

ไปด่านที่ ๒ ก็ออกมาถามอย่างเดิม เราก็ตอบอย่างเดิม

ไปด่านที่ ๓ ก็ออกมาถามอย่างเดิม ไอ้คนนี้มันขอดูบริขาร เราก็วางให้มันตรวจค้นดู ในใจเป็นห่วงแต่มีดโกนกาตา มาจากเยอรมัน โยมเขาถวายไว้แต่อยู่เชียงใหม่ มันก็ค้นดูจนหมด

จากนั้นมันก็บอกว่า ไม่มีของดีอะไร มันจึงเก็บเข้าย่ามใส่บาตรก็คืนให้เรา เราก็บอกลามันไป มันร้องบอกว่า “อย่าไปบอกเจ้านายนะ” เราได้แต่พยักหน้า เดินจากมันไป

พอเข้าไปใกล้ตัวอำเภอ มีตาคนหนึ่งเป็นทหารประจำป้อมอยู่ วิ่งออกมาถามว่า “ท่านมาจากไหนจะไปไหน ทางการบ้านเมืองกำลังคับขัน โจรผู้ร้ายก็มาก หลวงพี่ได้อะไรเป็นของดี ขอให้เมตตาผมด้วย”

เราก็เล่าให้ฟังว่า ไปอย่างไร มาอย่างไร ของขลังไม่มี อาตมาเป็นพระธุดงค์ไม่ได้ทำอะไรเอาไว้ นายทหารคนนั้นเขาก็เล่าว่า เขาเป็นทหารสนับสนุนญี่ปุ่น พอญี่ปุ่นแพ้ กรมเขาก็สั่งทหารไทยหน่วยที่สนับสนุนญี่ปุ่นออกนอกพื้นที่ไปประจำการที่อื่น หน่วยของผมได้มาปฏิบัติการที่อำเภอนี้ จากนั้นเขาก็นิมนต์ให้เราพักค้างแรมอยู่ด้วยพรุ่งนี้จะได้ทำบุญ เราก็พักคืนหนึ่ง ตื่นเช้าเขามาส่งอาหารแต่เช้า ขอให้ฉัน จะได้เดินทางไปได้แต่เช้า

ฉันจังหันแล้วก็ลาเขา เดินทางวันหนึ่งมาถึงอำเภอวิเชียรบุรี ตอนบ่ายแก่ๆ ใกล้ค่ำประมาณบ่าย ๔ โมง เราก็เดินไปเรื่อยๆ มองไปข้างหน้ามีตาคนหนึ่งวิ่งมาแต่ไกล มันวิ่งเร็วผิดปกติ วิ่งเร็วกว่ามนุษย์พอมองรู้ว่าเป็นคน หายใจอึดหนึ่งก็มาถึงตัวเรา ลงก้มคุกเข่ากราบไหว้ยินดีพอใจกับเรา

ถามว่าโยมอยู่ที่ไหน
เขาบอกว่า...อยู่ที่ต้นไม้โพธิ์นั้น

ทีนี้เราก็พิจารณาดู อ๋อมิใช่มนุษย์นี่

เขาบอกว่า..ผมเป็นรุกขเทวดา จากนั้นเขาก็แปลงรูปรุกขเทวดาให้เราดู

เขาว่าผมเห็นพระผู้เป็นเจ้ามาแต่ไกล จิตเลื่อมใสยินดีพอใจ ในรัศมีธรรมของพระผู้เป็นเจ้า ขอพระผู้เป็นเจ้าโปรดผมด้วยเถิด

เราก็ว่า “เอาล่ะอนุโมทนา ขอให้เป็นสุข เป็นสุขเถิด”

สมัยยังหนุ่มไม่รู้มันไปอะไร มันอยากไป ก็ให้มันไป ไปตามเรื่อง กลัวก็มีไม่กลัวก็มี ได้แต่ไปกับไป”

ธรรมะประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO