นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อังคาร 14 พ.ค. 2024 6:25 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: น้ำมันกับน้ำท่า
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 18 มิ.ย. 2015 6:33 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4558
การดูคน ต้องดูนาน ๆ...
ใครที่...หลงคิด...ว่า...
รู้จักผู้อื่น...ดีที่สุด...แสดงว่า...
ตั้งอยู่ใน...ความประมาท...
และจะเจ็บ...เพราะคนที่ตนคบ...
...ด้วยความไม่ระวัง...
♢คำสอน ท่าน ว. วชิรเมธี♢



หนึ่งพระอรหันต์ หนึ่งพระโพธิสัตว์

“อยู่วัดโคกเหล่างา เพิ่นครูอาจารย์สิงห์ ได้เข้าสมาธิจิตพิจารณาดูผู้ข้ากับท่านอาจารย์สิมตอนเป็นเณร (สามเณรสิม วงศ์เข็มมา, สามเณรจาม ผิวขำ)


อยู่ด้วยกันวัดโคกเหล่างา อาจารย์สิมเป็นสามเณรใหญ่ เป็นหัวหน้าของเณรทั้งหลาย ฉันจังหันแล้ว ถือเอากาน้ำผ้าอาบน้ำเข้าป่าลึกเข้าไปเพิ่นว่าไปภาวนา เณรหลายตนด้วยกัน เพิ่นหลบไปได้หลบหายเข้าป่าโจด จนบ่ายจึงออกมา ไม่ค่อยจะทำงานช่วย ออกมาแล้วก็เปาะแปะไปตามเรื่องแต่ก็ไม่มีใครว่าให้

ครูอาจารย์สิงห์บอกว่า “เณรสิม เณรจาม คืนนี้ข้อยสิพิจารณาตรวจดูเจ้าทั้งสองคนขอให้ตั้งใจภาวนากำหนดจิตอยู่กุฏิที่พักของใครของมันแล้วตี ๔ ให้ไปหาข้อยที่กุฏิข้อยเด้อ”” เราก็รับปาก

คืนนั้นเราก็ไหว้พระสวดมนต์ เจริญเมตตาไปในทิศต่างๆ เสร็จแล้วก็นั่งภาวนาอยู่จนดึกจึงนอนพัก

ตื่นขึ้นมาตี ๓ กว่าก็ลุกล้างหน้าล้างตาไหว้พระแล้วก็กำหนดนั่งภาวนา
ตี ๔ กว่าๆ ก็ไปเรียกท่านอาจารย์สิม เพิ่นก็ตื่นลุกมารอท่าอยู่พากันไปอยู่รอบๆ กุฏิที่เพิ่นครูอาจารย์สิงห์พักอยู่ พากันเดินจงกรมอยู่ใกล้แจ้งแล้วเพิ่นก็กระแอมให้สัญญาณก็พากันขึ้นไปกราบไหว้เพิ่นก็ออกมาจากห้องนั่งลงแล้วก็ว่า

“เณรสิม เจ้าเป็นผู้ปฏิบัติตามแบบอย่างของพระพุทธเจ้า บุญเก่าของเจ้าก็มากพออยู่ มากจนเป็นกุศลธรรม เป็นแรงกุศลส่งจิตใจของเจ้าได้ในชาติชีวิตนี้ ให้เจ้าตั้งใจของเจ้าของให้ดีเด้อ”

เณรจามขี้โรค ข้อยตรวจตราดูแล้วยืดยาว เกิดมาตายมามากหลายเหลือเกิน เจ้าเคยเป็นพ่อค้าควาย มีหมู่ควายหลายล้านเต็มไปหมดเลยอุปนิสัยของเจ้าเป็นผู้เอาแบบอย่างขององค์พระพุทธเจ้า ทั้งเอาแบบและเป็นผู้เดินตามแบบ ต่อไปข้างหน้าของเจ้าอีกก็ยืดยาว สุดแท้แต่บุญพาวาสนาส่ง”

แต่ข้อยเห็นว่า พวกเจ้าจุดเทียนเล่มใหญ่คนละเล่มอยู่กันคนละทางห่างไกลกัน ให้พวกเจ้าถ่าเบิ่งเน้อ นี่หละข้อยได้เบิ่งแล้วเมื่อคืนนี้””

แล้วจากนั้นเพิ่นครูอาจารย์สิงห์ก็ว่า “นี่หล่ะเกิดตายไปมาในโลกนี้เที่ยวไปทั่วหมดแผ่นดินแผ่นน้ำ ต่อไปภายหน้าพวกเจ้าจะไปอยู่ที่ใดก็ตามขอให้มีพระธรรมขอให้มีพระวินัยเป็นหลักของจิตใจไว้ เพราะทางแห่งความสุขก็มีอยู่ทางเดียวเท่านี้””

ธรรมะประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ



วิธีการภาวนา ก็คือ วิธีสังเกตตัวเอง สังเกตจิต ที่มีนิสัยหลุกหลิก ไม่อยู่เป็นปกติสุข ด้วยมีสติ ตาม ระลึกรู้ การเคลื่อนไหวของจิต โดยมีธรรมบทใดบทหนึ่ง เป็นคำบริกรรม เพื่อเป็นยา รักษาจิตให้ทรงตัวอยู่ได้ ด้วยความสงบสุข ในขณะภาวนา..

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต




# คำสอนของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี ) อย่าเอาเปรียบเทวดา #

ในการทำบุญสิ่งที่จะได้ก็คือ ระหว่างเราผู้เป็นมนุษย์ เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำนี้จะเป็นมงคล ทำให้จิตใจเบิกบานดี นี่คือการเสวยผลแห่งบุญในปัจจุบัน
ทีนี้การทำบุญเพื่อจะเอาผลตอบแทนนั้น มนุษย์นี้ออกจะเอาเปรียบเทวดา ทำบุญครั้งใดก็ปรารถนาเอาวิมานหนึ่งหลังสองหลัง การทำบุญแบบนี้เรียกว่าทำเพราะหวังผลตอบแทนด้วยความโลภ บุญนั้นก็ย่อมจะไม่มีผล
ท่านอย่าลืมว่า ในโลกวิญญาณเขามีกระแสทิพย์รับทราบในการทำของมนุษย์แต่ละคน เขามีห้องเก็บบุญและบาปของใครต่อใคร และของเรื่องราวนั้นๆ กรรมของใครก็จะติดตามความเคลื่อนไหวของคนคนนั้นไปตลอดระหว่างที่เขายังไม่สิ้นอายุขัย




ญาณระลึกชาติ
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

สำหรับญาณการระลึกรู้อดีตชาตินี้ ศิษย์ผู้ใกล้ชิด ผู้ใฝ่ในการปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์ ได้เคยขอโอกาสกราบเรียนถาม หลวงปู่ก็ยอมเล่าให้ฟังบ้าง ท่านเล่าว่า ท่านไม่ได้ระลึกชาติได้มากมายอะไร ที่สมเด็จพระพุทธองค์ทรงระลึกได้อเนกชาติหาประมาณมิได้นั้น เพราะท่านทรงมหาสติ มหาปัญญา มหาบารมี สำหรับท่านนี้ เท่าที่ระลึกได้ ท่านไม่เคยเป็นกษัตริย์ มักจะเป็นแต่คนทุกข์ยากเสียมากกว่า


เคยเป็นพ่อค้าขายผ้าชาติลาว ออกเดินทางมากับพ่อเชียงหมุน (อุปัฏฐากคนหนึ่งในชาตินี้) ข้ามแม่น้ำโขงมาฝั่งนี้ มาทานผ้าขาวหนึ่งวา และเงิน 50 สตางค์ บูชาถวายพระธาตุพนม พร้อมทั้งอธิษฐานขอให้ได้บวช ได้พ้นทุกข์ ท่านเล่าว่าท่านเคยมาช่วยสร้างพระธาตุพนมด้วย สมัยพระมหากัสสปะเถรเจ้า พระธาตุพนมนี้สร้างก่อนพระปฐมเจดีย์

ท่านเคยเกิดเป็นคนยาง อยู่ในป่า เคยเกิดเป็นทหารพม่า มารบกับไทย ยังไม่ทันฆ่าคนไทย ก็ตายเสียก่อน เคยเกิดอยู่เมืองปัน พม่า ชาตินี้ท่านก็ได้กลับไปดูบ้านเกิดในชาติก่อนที่เมืองปันด้วย เคยเป็นทหาร ไปหลบภัยที่ถ้ากระ เชียงใหม่ และเคยตายเพราะอดข้าวที่นั่น ท่านเคยเป็นพระภิกษุ รักษาศีลอยู่กับพระอนุรุทธะ เคยเป็นสามเณรนัอยลูกศิษย์พระมหากัสสปะ เคยเกิดเป็นท้าวมหาพรหมในพรหมโลก

สำหรับการเกิดเป็นสัตว์นั้น ท่านเล่าว่า ท่านก็ผ่านพ้นมาอย่างทุกข์ยากแสนเข็ญเช่นกัน เช่น เคยเกิดเป็นผีเสี้อ ถูกค้างคาวไล่จับเอาไปกิน ที่ถ้ำผาดิน เคยเกิดเป็นฟาน หรือเก้ง ไปแอบกินมะกอก กินไม่ทันอิ่มสมอยาก ก็ถูกมนุษย์ไล่ยิง เขายิงที่โคกมน ถูกที่ขาวิ่งหนีกระเซอะกระเซิงไปตายที่บ้านม่วง เมื่อครั้งเกิดเป็นหมี ไปกินแตงช้าง (แตงร้าน) ของชาวบ้านถูกเจ้าของเขาเอามีดไล่ฟัน ถูกหัวและหู เคราะห์ดีไม่ถึงตาย แต่ก็บาดเจ็บมาก ต้องทนทุกข์ทรมาน จนกระทั่งหายไปเอง

เคยเกิดเป็นไก่ มีความผูกพันรักชอบนางแม่ไก่สาว จึงอธิฐานให้ได้พบกันอีก ทำให้กลับมาเกิดเป็นไก่ซ้ำอีกถึง 7 ชาติ เคยเกิดเป็นปลาขาว อยู่ในสระ ณ บริเวณซึ่งปัจจุบันคือสวนบ้าน พล.อ.อ. พโยม เย็นสุดใจ

ท่านเล่าชีวิตของการเกิดเป็นสัตว์นั้นแสนลำเค็ญ อดอยากปากแห้งมีความรู้สึกร้อนหนาว หิว กระหาย เหมือนมนุษย์ แต่ก็บอกไม่ได้พูดไม่ได้ ต้องซอกซอนไปอยู่ตามป่า ตามเขา ตามประสาสัตว์ ฝนตกก็เปียก ก็หนาวสั่น แดดออก ก็รัอน ก็ไหม้เกรียม อาศัยถ้ำ อาศัยร่มไม้ไปตามเพลง บางทีมาอยู่ใกล้หมู่บ้าน หิว กระหาย เห็นพืชผลที่ควรกินได้ เป็นอาหารได้ พอจะหยิบฉวยจับใส่ปากใส่ท้องได้บ้าง ก็กลับกลายเป็นของที่เขาหวงห้ามมีเจ้าของ ต้องถูกเขาขับไส ไล่ทำร้าย มะกอกสักหน่วย กล้วยสักลูก แตงสักผล…หยิบปลิดมาใส่ปากกินยังไม่ทันอิ่มท้อง มนุษย์ก็ไล่ยิง ไล่ฟัน ของเพียงเล็กน้อย แต่ต้องแลกด้วยชีวิตทั้งชีวิต ชีวิต…ซึ่งจะเป็นชีวิตของคน หรือชีวิตของสัตว์…ของสัตว์ใหญ่ หรือ…ของสัตว์เล็ก ก็คือชีวิตดวงหนึ่งเหมือนกัน

ชีวิตที่เวียนว่าย วนอยู่ในกองทุกข์ตามอำนาจกรรม ที่กระทำมานี้ แต่บางทีภพชาตินั้นก็ยืดยาวต่อไปด้วยอำนาจกิเลสตัณหายยกตัวอย่างเช่น ตอนท่านเกิดเป็นไก่ ใจนึกปฏิพัทธ์รักใคร่นางแม่ไก่ชื่นชอบภพชาติที่เป็นไก่ของตน ปรารถนาขอให้ได้พบนางแม่ไก่อีกก็ต้องวนเวียนกลับมาเกิดเป็นไก่อยู่เช่นนั้ น ท่านเล่าว่า แม้ท่านพระอาจารย์มั่นเอง เมื่อท่านระลึกชาติได้เห็นภพชาติที่เวียนวนกลับไปเกิดเป็นสุนัข ถึงหมื่นชาติ ท่านบังเกิดความสลดสังเวช ถึงกับขออธิฐานเลิกปรารถนาพูทธภูมิ เพราะการจะบำเพ็ญบารมีเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งในอนาคตนั้น ท่านต้องบำเพ็ญต่อไปอีกเป็นแสนกัปแสนกัลป์ และหากเกิดกิเลสตัณหา ติดข้องผูกพันรักใคร่ ปรารถนาพบรัก พบทุกข์อยู่นั้นแล้ว การเดินทางในภพชาติก็จะยืดเยื้อเยิ่นยาวต่อไปเป็นอนันตกาล เคราะห์ดี ที่ท่านเกิดสลดสังเวชคิดได้ ขอตัดขาด ไม่ปรารถนาพุทธภูมิ ท่านพระอาจารย์มั่น จึงสามารถดำเนินความเพียรเร่งรัดตัดตรงเข้าสู่พระนิพพานเป็นผลสำเร็จได้

พร้อมกับที่เล่าให้ศิษย์ฟังเรื่องการระลึกชาติ ท่านจะชี้ภัยของการท่องเที่ยว เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไปในภพต่างๆ ให้ฟังเสมอ ท่านเตือนย้ำว่า การกำหนดระลึกรู้ได้เหล่านี้ เป็นเพียงผลพลอยได้ จากการบำเพ็ญเพียรภาวนาให้จิตสงบ หากเกิดขึ้นก็รับรู้ นำมาพิจารณาให้เห็นทุกข์ เห็นโทษ เห็นไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เห็นอริยสัจ 4 ถือเป็นเครื่องมือที่จะช่วยเจ้าของฟาดฟันกิเลสให้ย่อยยับอัปราไปโดยเร็ว

ไม่ใช่ มัวนึกหลง นึกดีใจ เกิดมานะ ว่าเราเก่งกล้าสามารถกว่าคนอื่น นั่นเป็นทางหายนะ….! เพราะปุพเพนิวาสานุสติญาณ เป็นเพียงโลกียญาณ ไม่ใช่โลกุตตรญาณ…! ถ้าเจ้าของไม่เร่งดำเนินเข้าสู่ทางไปสู่อาสวักขยญาณหรือญาณซึ่งถอดถอนอาสว กิเลสให้สิ้นไปดับไป ญาณระลึกรู้อดีตชาติซึ่งเป็นโลกียญาณก็ย่อมจะเสื่อมได้



น้ำมัน กับ น้ำท่า มันต่างกัน
เหมือนกับคนฉลาดก็ต่างกับคนโง่ พระพุทธเจ้าก็ทรงอยู่กับรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ แต่พระองค์ทรงเป็นพระอรหันต์ พระองค์จึงทรงเห็นสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงสิ่งสักว่าเท่านั้น พระองค์ทรงปล่อยวางมันไปเรื่อย ตั้งแต่ทรงเข้าพระทัยแล้วว่า ใจก็สักว่าใจ ความคิดก็สักว่าความคิดพระองค์ไม่ทรงเอามันมาปนกันถ้าคิดได้ รู้สึกได้อย่างนี้ เราก็จะแยกมันได้ ความคิด ความรู้สึก อยู่ทางหนึ่ง ใจก็อยู่อีกทางหนึ่ง เหมือนกับน้ำมัน กับน้ำท่าอยู่ในขวดเดียวกัน แต่มันแยกกันอยู่

หลวงปู่ชา สุภัทโท
ที่มา: อุปมาอุปไมยของพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทโท)


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO