นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อังคาร 14 พ.ค. 2024 7:21 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 13 มิ.ย. 2015 9:29 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4558
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 5

ชีวิตคนเรา เติบโตขึ้นมาดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยความเมตตากรุณาจากผู้อื่นมาตั้งแต่เบื้อง ต้น คือ เมตตา กรุณา จากบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ญาติสนิท มิตรสหาย ถ้าไม่ได้รับความเมตตา ก็อาจจะสิ้นชีวิตไปแล้วเพราะถูกทิ้ง เมื่อเราเติบโตมาจากความเมตตากรุณา ก็ควรมีความเมตตากรุณาต่อชีวิตอื่นต่อไป
วิธีปลูกความเมตตากรุณา คือ ต้องตั้งใจปรารถนาให้เขาเป็นสุข ตั้งใจปรารถนาให้เขาปราศจากทุกข์ โดยเริ่มจากเมตตาตัวเองก่อน แล้วคิดไปถึงคนใกล้ชิด คนที่เรารัก จะทำให้เกิดความเมตตาได้ง่าย แล้วค่อยๆ คิดไปให้ความเมตตาต่อคนที่ห่างออกไปโดยลำดับ



# ตั้งจิตแผ่เมตตา ได้กุศลกว่าการสร้างโบสถ์ #

" ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะสัมฤทธิ์ผลนั้น
เกิดจากกรรม ๓ อย่าง คือ มโนกรรม เป็นใหญ่
แล้วค่อยแสดงออกมาทางวจีกรรม หรือ กายกรรมที่เป็นรูป
การบำเพ็ญสมาธิจิตเป็นกุศลดีกว่า
เพราะว่าการแผ่เมตตา ๑ ครั้ง ได้กุศลมากกว่าสร้างโบสถ์ ๑ หลัง
ขณะจิตที่แผ่เมตตานั้น จะเกิดอารมณ์แจ่มใส
สรรพสัตว์ไม่มีโทษภัย ตัวท่านก็ไม่มีโทษภัย
ฉะนั้น เขาจึงว่านามธรรมมีความสำคัญกว่า "

สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี )



ความรู้สึกทางกาย
ทางใจนี่แหละเป็นธรรมะ
เป็นสิ่งที่ต้องศึกษาพิจารณา
ก็ไม่ต้องไปค้นธรรมะที่ไหนเลย
ค้นธรรมะในตัวเอง
การปฏิบัติจึงไม่ใช่เรื่องว่า
เราจะต้องจดจำอะไรมากมาย
แต่เป็นเรื่องการมีสติ
คอยดูกาย ดูใจ ในปัจจุบันนี้เท่านั้น
ดูกายที่กำลังเป็นไปในปัจจุบัน
และดูจิตใจที่กำลังเป็นไปในปัจจุบัน


พระภาวนาเขมคุณ
เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา





ออกธุดงค์ครั้งแรก

“มีอยู่ครั้งหนึ่ง ปีนั้นแหละปีอายุ ๑๗ ปี หลวงปู่อ่อน (ญาณสิริ) หลวงปู่กงมา (จิรปุญฺโญ) จะออกวิเวกพร้อมหาที่จะบ่มบาตร เลยขอเณรติดตามธุดงค์กับเพิ่นครูอาจารย์สิงห์ (ขนฺตยาคโม) เพิ่นครูอาจารย์สิงห์ เลยถามหมู่เณรด้วยกันหลายองค์ว่าใครจะไปด้วย แต่ก็ไม่มีใครสมัครใจรับปาก ผู้ข้าฯ ก็เลยรับอาสาเดินทางกลับขึ้นมาจากอุบลมา ยโสธร หาที่บ่มบาตรและปลีกวิเวกมาได้ที่พักอยู่ดอนปู่ตา บ้านดอนส้มโฮง จ.ยโสธร


เข้าพักอยู่ดอนปู่ตาได้วันแรกวันสองวันสาม เจ้าจ้ำคนเลี้ยงผีของหมู่บ้านออกมานิมนต์ให้ไปอยู่ที่อื่น เพราะผีกลัว แต่ท่านอาจารย์อ่อนขอผลัดผ่อนว่าขอให้บ่มบาตรเสร็จเสียก่อนจึงจะไป

เลยบอกขอหม้อดินแตกกับฟืนโหล (หลัว) ไม้ไผ่แห้งกับชาวบ้านว่าในรุ่งขึ้นจะบ่มบาตรเผาบาตรกันสนิม บาตร ๓ ลูกบ่มพร้อมกันต้องใช้ฟืนมาก

เห็นแต่ต้นไผ่ไม้ไผ่ที่ยืนตายเป็นกอๆ หลายกอ อยู่รอบๆ กับศาลปู่ตา จึงเข้าไปใกล้แล้วขอไม้ไผ่แห้ง กับผีปู่ตาได้ชาวบ้านมาช่วยคนหนึ่งชื่ออ้ายจัน คนสติบ่ค่อยจะสมประกอบดี คนดีเขาไม่มาเขากลัวผีปู่ตากันหมด ได้แต่อ้ายจัน มาช่วยล้มไม้ไผ่แห้งเตรียมไว้

แต่วันต่อมานั้นเป็นวันพระ เลยไม่ได้เผาบ่มบาตรมีญาติโยมผู้เคยทำบุญกับพระธุดงค์ก็ออกมาขอจำศีลสมาทานศีลอยู่ด้วย ๖ คน ผู้ชายอีก ๒ คน เขาเตรียมเครื่องหลับเครื่องนอนของเขามาด้วยตั้งแต่ตอนมาส่งจังหันเช้า

ท่านอาจารย์อ่อนให้ศีลแล้วเขาก็เสาะหาที่พักปูเสื่อพักกลางวันของเขาไป ตอนกลางวันว่ากันว่าจะนอนเป็นคู่ๆ แต่พอใกล้ค่ำเข้ามาพวกผู้หญิงก็มานอนรวมกัน หมู่ผู้ชายก็เข้ามาอยู่ใกล้เรา บอกสัญญากันว่าหากมีอะไรแตกต่างให้ร้องหาทันที

ผีปู่ตาอยู่ดอนปู่ตามีอยู่จริง หัวค่ำ ก็จุดเทียนไหว้พระสวดมนต์ ท่านอาจารย์อ่อนพาไหว้ ชาวบ้านเขาก็ไหว้ได้บ้างไม่ได้บ้าง เสร็จแล้วท่านก็อบรมภาวนาเป็นเรื่องทาน เรื่องศีล เรื่องสรณะ จากนั้นก็แยกย้ายกันภาวนา ตกดึก มีลมแรง พัดอู้ไปพัดอู้มา พอลมเงียบก็ได้ยินเสียงร้องก๋อยๆ แต่เย็นเยียบในความรู้สึก ขนลุกซู่ไปหมด

ทีแรกทางญาติโยมก็เงียบ ลมแรงอีกรอบเทียนดับหมด เสียงร้องใกล้เข้ามาๆ แล้วก็ห่างออกไป เลาะวนเวียนอยู่บริเวณนั้น เราก็ได้แต่เจริญเมตตา จำสวดมนต์บทไหนได้สวดจนหมดถูกผิดไม่เข้าใจ ทนอยู่มิได้ฝ่ายโยมผู้ชายก็ลุกย้ายที่นอนมาใกล้ ฝ่ายผู้หญิงก็ร้องวี้ดว้าย ถูลู่ถูลากเครื่องนอนเข้ามาใกล้ ท่านอาจารย์อ่อน ท่านอาจารย์กงมา ก็เงียบอยู่ เสียงนั้นกับลมพัดเป็นอยู่เช่นนั้นเกือบสว่างค่อนคืน

พอแจ้งเป็นวันใหม่ พ่อออกญาติโยมหมู่นั้น ก็เข้าบ้านแต่เช้าวันนั้นฉันจังหันแล้ว หลวงปู่อ่อนกับหลวงปู่กงมาก็ไปเสาะหาที่จะอยู่พักใหม่ สังเกตดูเมื่อเช้าเห็นว่าท่านสององค์ก็ย้ายที่นอนเข้าใกล้หากัน คงจะเป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อคืน หรือจะเป็นเพราะมดปลวกรบกวนก็เป็นได้ ให้เราอยู่เฝ้าบริขาร ตกกลางวันอ้ายจันมาอยู่ด้วยทุกวันเลยพากันตัดไม้ไผ่ต่อจากของเมื่อวันก่อนเป็นกองๆ ได้เรียบร้อยแล้ว ก็เอาบาตรแต่ละลูกเข้าไปในโอ่งดินแตกค่ำปากลง เอาไม้ไผ่แห้งมาทับเข้าจากนั้นก็จุดไฟเผา

ไม่เคยทำหรอก กลัวบาตรแตกก็กลัว กลัวหลวงปู่อ่อนโกรธให้ก็กลัว
ถ้าไม่บ่มวันนี้ หากพรุ่งนี้ได้ย้ายที่ไปก็จะได้หาฟืนหาไม้ไผ่อีก โกรธก็โกรธเถอะ ตัดสินใจเผาทันที แต่เคยได้ยินครูบาอาจารย์เพิ่นพูดคุยกันว่าเผาอย่าให้ไฟขาด พยายามรักษาฟืนไฟมิให้ขาด เผาจนหมดไม้ไผ่กอนั้น บาตร ๓ ลูก ปล่อยให้มันเย็นเองตกเย็นมาก็ดับไฟ กลบขี้เถ้าเรียบร้อยแล้วก็เอาบาตรออกผึ่งลมแล้วเอาไปล้าง ล้างเสร็จแล้วปรากฏว่าใช้ได้

วันนั้นตกค่ำอ้ายจันมันก็กลับบ้าน ค่ำลับค่ำลง เหลือแต่เราคนเดียว กลัวสุดขีดไม่เคยกลัวผีวันนั้นแหละกลัวสุดๆ เลยกลัวตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ยิ่งคิดยิ่งปรุงยิ่งกลัวค่ำมืดอาจารย์ทั้งสองก็ไม่มา กลัวก็กลัว กลัวพอๆ ขี้จะออกเยี่ยวก็จะออก ตอนกลางวันยิ่งฉันน้ำต้มยารากไม้เยอะ กลัวจนอดมิได้ ตายเป็นตาย ถ้าเยี่ยวใส่ที่นอนบริขารก็จะเปียกจะเหม็นตัดสินใจลุกออกไปคว้าด้ามกลดไปด้วย ผีมาก็จะทุบจะตี

ลุกออกไปเยี่ยว เยี่ยวไปพิจารณาไป กลัวอันใด ใครกลัว กลัวแล้วได้อะไร พิจารณากลับไปกลับมาในร่างกายในจิตใจ สะดุดกึกในกายในใจสว่างวาบเดียวในใจเหมือนฟ้าแลบ ความกลัวหายหมด ไม่เหลืออันใดเลย

เดินกลับเข้ากลดนั่งภาวนาทำจิตให้สงบ พอดึกพอดื่น สองอาจารย์จึงจุดโคมไฟมามองแมงๆ พอมาใกล้ที่พักยิ่งคุยกันดังขึ้นๆ พร้อมร้องเรียก
““เณร - เณร - เณรจาม”
“ เณร - เณร - เณรเจ้าอยู่บ่””
““บ่แม่น กลัวจนตายแล้วบ่ อาจารย์””
““เณร เณร””
เราก็นั่งภาวนาเฉยอยู่ พอท่านเข้ามาใกล้กลดจึงลุกรับ
““ผมบ่ตายดอก ผมภาวนาอยู่””
““บ่ ข้อยนึกว่าเจ้าตายแล้ว””

ออกจากมุ้งกลดก็จุดเทียน ที่อาบน้ำ ก่อไฟต้มน้ำรากไม้สองอาจารย์ก็ไปอาบน้ำชำระกาย
อาบน้ำเสร็จก็มาบอกว่า “วันพรุ่งนี้เราฉันจังหันเสร็จก็บ่มบาตร บ่มบาตรเสร็จแล้วจึงไป คืนนี้ให้ตั้งใจเจริญภาวนา เมตตาให้ผีทั้งหลาย””

“ท่านอาจารย์บาตรผมบ่มแล้วละครับ””
“โหยเจ้าเด็กน้อย เจ้าจะทำอิหยังเป็น มื้ออื่นจังบ่มก็ได้ดอกบ่มเสร็จแล้วจึงไป อยู่นี่บ่สัปปายะดอก แต่ชาวบ้านเขาไม่ให้อยู่””

หลวงปู่อ่อนไม่เชื่อว่าบ่มบาตรแล้วพอตกเช้าท่านก็ดูบาตรของตนเปลี่ยนไป หลวงปู่กงมาก็เหมือนกัน

หลวงปู่อ่อนก็ชื่นชมกับบาตรบ่มใหม่เงางามขึ้นไฮไฟยิบเลย แต่หลวงปู่กงมาชมว่า ““เณรจามเป็นเณรของท่านอาจารย์ใหญ่””หมายถึงเป็นเณรเป็นตาปะขาวของเพิ่นหลวงปู่มั่น (ภูริทตฺโต) นั่นเอง

ธรรมะประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ




ภาพนิมิต

แม้เราเป็นเณรความมุ่งมั่นปฏิบัติสมาธิภาวนา “พุทโธ” ตามอุบายธรรมของเพิ่นครูอาจารย์มั่น ก็ปฏิบัติเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ไม่ห่วงอาลัยชีวิต อดนอนก็ทำ ผ่อนอาหารก็ทำ อิริยาบถ ๓ ก็ทำ เพราะครูบาอาจารย์เพิ่นเป็นตัวอย่างพาทำ


ข้อวัตร ปฏิบัติแนวทางของพระธุดงค์ก็ไม่ละเลยไปได้ จะว่าภาวนาเป็นอยู่แต่บ้านหนองขอนก็ว่าได้

เหตุที่ว่าได้ก็เพราะว่าวันหนึ่ง กลางคืนไก่ขันรอบที่ ๒ เราก็นั่งภาวนาอยู่ระลึกจิตอยู่ รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา อันนี้กายอันนี้ใจ อันนี้ใจไม่เกี่ยวกาย รู้อยู่ตลอด

จิตสงบลงได้อยู่นาน สมาธิถอนขึ้นมา จึงได้ภาพนิมิต เป็นภาพเจดีย์ปรักหักพัง ใบเสมาหินระเกะระกะ ตั้งบ้างนอนบ้างเอียงบ้างซากฐานก้อนอิฐ ก้อนหิน กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป รอบๆ บริเวณนั้นเป็นป่าไผ่ลำใหญ่ลำตรง ใบไผ่หล่นปกคลุมสิ่งซากอิฐซากหินพวกนั้น

ข้างล่างดินลึกลงไปมีผอูบทองคำ มีพระพุทธรูปทองคำและเครื่องสมบัติของพระเจดีย์และของวัดเก่านั้น

บริเวณโดยรอบแต่ดั้งเดิมยุคเก่าก่อนนั้นเป็นป่ากว้าง ร่มรื่นสิ่งก่อสร้างทั้งหลายก็งดงาม ลงตัว เหมาะสมมาก

ภาพนิมิตยุคก่อนเก่าดับไป ก็กลับมาเป็นยุคสมัยปัจจุบันนี้รู้จักว่าอยู่ในเขตหมู่บ้านไผ่ใหญ่ นิมิตดับไปจึงรู้สึกตัวขึ้นมา เราเองก็นึกสงสัยตัวเองอยู่ว่าเป็นได้อย่างใด แล้วก็ทบทวนแต่ก่อนทำสมาธิขณะกำหนดบริกรรม วางบริกรรมจับผู้รู้ ผู้รู้ชัดเจนขึ้น รู้ตัวอยู่ตลอด สงบก็รู้อยู่ นิมิตเกิดนิมิตดับก็รู้อยู่

ความคิดหนึ่งก็พูดขึ้นว่า จะยังไม่เชื่อจนกว่าจะได้ไปเห็นว่าเป็นจริงตามนิมิตจึงจะปักใจเชื่อได้ พอดีกับวันรุ่งขึ้น มีญาติโยมเขามานิมนต์หมู่พระเณรไปพักอยู่บ้านไผ่ใหญ่

เมื่อไปถึงแล้วก็พักอยู่ป่าใกล้วัดร้างวัดเก่านั้น แต่ชาวบ้านเขาไม่ยอมให้เข้าไปพัก เพราะเขาเกรงว่าจะมีอันตรายจากพวกภูมิเจ้าที่ผีเจ้าของ เพราะเขาเล่าว่า วันพระใหญ่จะมีแสงสว่างพุ่งขึ้นจากใต้ดิน สว่างไสวอยู่ บางครั้งก็เป็นดวงแก้วแสงสว่างลอยไปลอยมา ต้นคืนลอยออกไป ใกล้แจ้งก็ลอยกลับมา

ชาวบ้านก็ขอร้องว่าอย่าได้เข้าไปเพราะเกรงอันตรายจะเกิดขึ้นเพราะมีชาวบ้านอันธพาลเข้าไปหมายจะขุดค้นหาของเก่า ก็ตายไปทุกคน ไม่ตายอยู่กับที่ก็กลับไปตายที่อื่น

เราก็ไปสอบถามกับโยมผู้เล่าเรื่องให้ฟังนั้นในภายหลังว่า แสงสว่างนั้นพุ่งขึ้นจากซากฐานพระเก่านั้นใช่ไหม

เขาก็ว่า ทำไมตาผ้าขาวน้อยจึงรู้จัก...เราก็ไม่ว่าอะไร

วันสองวันต่อมากราบขอขมาขออนุญาตเพิ่นครูอาจารย์มั่นต่อหน้าเพิ่นแต่มิได้ลั่นวาจาออกปาก กำหนดจิตขอเพิ่นอยู่ ดูเหมือนกับเพิ่นรู้จักได้มองมาที่เราแต่มิได้พูดอะไร นิ่งเฉยอยู่
ทำกิริยาอย่างนั้นอยู่ ๓ วัน

พอวันที่ ๓ เหมือนกับเพิ่นหงึกศีรษะรับ

จึงได้หลบตัวไปในดงป่าไผ่วัดร้างนั้น ไปสำรวจดู พิจารณาดูก็เป็นจริงตามนิมิตนั้นทุกอย่าง

เราก็ไปลูบดูตัวอักขระภาษาขอมตามใบเสมาหิน อยากอ่านให้ได้แต่ก็อ่านไม่ได้ มองดูป่าไผ่ก็ใช่ มองดูไม้ไหญ่ก็ใช่ มองดูตามบริเวณต่างๆ ก็ใช่จนหมด

เราก็ถอยออกมาแล้วกราบไหว้ซากปรักหักพังเพราะมั่นใจว่าลำแสงสว่างที่ชาวบ้านเขาว่านั้น ต้องเป็นวัตถุสมบัติศาสนาที่ล้ำค่าอย่างแน่นอน แล้วก็เดินออกจากป่าวัดร้างนั้น

พวกเณรมาเห็นเข้า จึงไปฟ้องเพิ่นครูอาจารย์มั่น แต่เพิ่นก็ไม่ว่าอะไร ได้แต่ห้ามมิให้เข้าไปอีก

หัวค่ำทำข้อวัตรสรงน้ำของเพิ่นครูอาจารย์มั่นเรียบร้อยแล้วเพิ่นจึงได้ถามว่า “เห็นอะไรบ้าง ? ”
เราก็กราบเรียนตามความจริงทุกอย่างแล้วก็กราบเรียนถึงนิมิตนั้นอีก เพิ่นจึงว่า “ “เป็นนิสสัยของเจ้าเน๊าะ
ตั้งใจเน้อภาวนาของตนตั้งใจไปเถอะ ต่อไปเมื่อหน้าเจ้าจะได้รู้จักเหตุผลได้เองดอก””

ต่อมาในภายหลังจึงได้รู้จักจากการเจริญภาวนาของตนในภายในว่า ตัวของเราเป็นหัวหน้าหมู่บ้านได้อุปฐากอุปถัมภ์วัดนั้นมาตลอดชีวิต
มีพระเถรเจ้าองค์หนึ่ง รูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาวสะอาด มีศิษย์หาบริวารมาก ฝ่ายหนึ่งเป็นวัดของภิกษุ อีกด้านหนึ่งเป็นวัดของภิกษุณี
ตนพระเถรเจ้านั้น เทศน์ธรรมชี้แจงเหตุผล บอกอุบายกัมมัฏฐานให้กับศิษย์ของเพิ่น มีลูกศิษย์ทั้งฝ่ายสงฆ์ ฝ่ายชาวบ้านนั่งแวดล้อมเต็มรอบตัวเพิ่น

พอเพิ่นนิพพาน ก็ทำฌาปนกิจแล้วเอาอัฐิอังคารของเพิ่นฝังลงใต้ฐานรากของพระพุทธรูป จึงเป็นเหตุให้แสงรัศมีนั้นพุ่งขึ้นจากดินแต่ชาวบ้านไม่รู้จัก กลับกลัว

ภายหลังจากลงมาจากเชียงใหม่แล้ว ปีหนึ่งก็พากันไปดูอีก พอไปคราวนี้ไม่มีอีกแล้ว ถามชาวบ้านเขาว่าหลักศิลาพวกนั้นหายไปไหนหมดแล้ว ชาวบ้านว่าพวกศิลปากรเอาไปพิมาย เอาไปขอนแก่น

ผู้ข้าฯ มาเกิดอยู่บ้านไผ่ใหญ่เชียงเพ็งหลังจากเกิดที่เมืองอาฬวีแล้วมาเกิดอยู่นี่ เวียนวนไปมา เกิดตายไป

วันที่ไปบวชนั้นพระอุปัชฌาย์ ถามท่านอาจารย์สิงห์ว่า “จะบวชเลยหรือว่าจะบวชแล้วเรียนปริยัติเสียก่อน””

เพิ่นครูอาจารย์สิงห์ก็ตอบว่า “อุปนิสัยของสามเณรหนักไปทางปฏิบัติครับกระผม””

บวชตอนเกือบค่ำ บวชแล้วก็พักอยุ่วัดสุทัศน์คืนหนึ่ง ตื่นเช้าไปบิณฑบาตกลับมาฉันจังหัน ก็ออกไปสมทบเพิ่นครูอาจารย์มั่นอยู่นอกเมืองใกล้ค่ายกองทหาร”

ใจมันชอบภาวนา ครูบาอาจารย์เพิ่นก็พาปฏิบัติต่างคนต่างก็ปฏิบัติ เราเป็นเณรก็คอยต้มน้ำร้อนบ้าง ประเคนของนั่นนี่ การปรนนิบัติรับใช้ รับการฝึกฝนอบรม ล้างบาตร เช็ดบาตร มัดบาตร ตากบาตร เก็บบาตร หัดเก็บพับผ้าจีวรสบงอังสะ สังฆาฎิ เก็บผ้าปูนั่ง ตากบิดผ้าอาบน้ำ ตักน้ำกรองน้ำ ชงน้ำชา เสร็จจากงานครูบาอาจารย์แล้วก็เป็นงานของตัวเอง อาบน้ำชำระกาย ไหว้พระสวดมนต์ท่องบ่นภาวนา เดินจงกรม ตกแล้งก็ได้รุกขมูลแสวงหาวิเวกติดตามครูบาอาจารย์ แล้วแต่เพิ่นจะพาไป

ใจจะคิดถึงบ้านไม่มีหรอก เพราะใจมันสงบเยือกเย็นพอทนอยู่ได้ มันกระเทือนสุดก็ตอนที่เพิ่นครูบาอาจารย์มั่น หนีเข้ากรุงเทพฯ เท่านั้น
แล้วมันมาคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ก็ตอนนอนป่วยอยู่วัดเหล่างา วัดศรีจันทร์ เมืองขอนแก่น

นอนป่วยเป็นโรคเหน็บชาอยู่นั้น มันสองจิตสองใจ ใจหนึ่งไม่อยากกลับบ้านแต่ร่างกายมันป่วย เพราะตั้งใจว่าจะบวชเป็นพระให้ได้ แต่อีกใจป่วยเป็นแล้วจึงคิดถึงบ้านเฮือนพ่อแม่ แต่ก็กลับคิดถึงเมตตาอาลัยของครูบาอาจารย์ นึกถึงความสงบกายใจในขณะปฏิบัติภาวนาเดินจงกรม

นึกถึงครูบาอาจารย์ก็พอทนอยู่ได้
นึกถึงบ้านก็หมายถึงการได้ลาสิกขาก็ร้องไห้ทันที
มันมีความคิดแปลกๆ ผุดขึ้นมาในระหว่างเริ่มแต่เป็นตาผ้าขาวน้อยจนมาเป็นเณร มองอะไรดูอะไรได้ยินได้ฟังอะไรก็รวมลงเป็นทุกข์ทั้งหมด ทุกข์รอบทิศไป เห็นชาวบ้านเขายุ่งยากตรากตรำกับทุ่งนาทำนาทำไร่หาอยู่หากินมาใส่ปากท้องตัวเองใส่ปากลูกเมีย ขุ้ยเขี่ยเสาะหาทรัพย์ทุกข์แสนทุกข์ ลำบากที่สุด

ได้คิดบอกสอนตัวเองว่า ชาติชีวิตนี้หากไม่ร่ำรวยจะไม่เอาหรอกเมีย
ได้คิดบอกสอนตัวเองว่า จะบวชหาทางพ้นทุกข์ตามแบบอย่างของครูบาอาจารย์แบบนี้ไปจนตายหนีจากกัน

มันคิดของมันเอง ยิ่งได้ยินได้ฟังครูบาอาจารย์เพิ่นเทศน์สอนเรื่องทุกข์ยากลำบากภพชาติด้วยแล้ว ใจมันอ่อนใจมันลงหมดแรงที่จะคิดถึงบ้านถึงเรือน

หากพิจารณาทุกข์ลงได้ในวันใด ใจมันได้กำลัง ยิ่งหมู่ญาติโยมที่มาส่งจังหันเขาบอกว่า นิมนต์ผ้าขาวน้อย นิมนต์คุณเณร นิมนต์จัวน้อย อยู่ค้ำวัดค้ำวาค้ำศาสนาเน้อ อย่าได้ออกมาหาทุกข์เด้อ”

มันเหมือนกับที่ครูอาจารย์สิงห์เพิ่นเทศน์ว่า “ชาวโลกคือ คนถือคบไฟชูไว้ทางหน้าแล้ววิ่งไปร้องตะโกนว่า ร้อน ๆ ๆ แต่ไม่ยอมทิ้งคบไฟนั้น วิ่งอยู่อย่างนั้น ไฟยิ่งได้ลม ก็ยิ่งมีความร้อนมาก””

เราก็มาเทียบกับตัวเอง เทียบกับชาวโลก เทียบกับสัตว์โลกมันก็เหมือนกันหมด เป็นทุกข์แต่ไม่ยอมทิ้ง”

ธรรมะประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ



ขอเรียนเชิญชาวพุทธทุกท่าน ร่วมงานเททองหล่อพระพุทธรูป ยอดมณฑป ยอดบุษบก และพระอุปคุต ในวันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน 2558 เริ่มตั้งแต่เวลา 8.30 น. ณ หน้าวัดปรินายก วรวิหาร กรุงเทพฯ


ร่วมบุญเป็นเจ้าภาพมุงหลังคา(สรรไท)พระอุโบสถ วัดป่าบ้านหนองผักแว่น
094-4742965



ขอเชิญร่วมบุญด้วยพระวิสุทธิญาณเมธี (เจ้าคุณไพบูลย์) เป็นพระอาจารย์ทางวิปัสนาและมีความเชี่ยวชาญด้านภาษาบาลี ท่านเป็นประธานสำนักสงฆ์วิสุทธิญาณเมธี ต.กุดน้ำใส อ.ค้อวัง จ.ยโสธร ท่านเจ้าคุณอยู่ระหว่างการก่อสร้างสำนักสงฆ์วิสุทธิญาณ เมธี ซึ่งต้องปัจจัยจำนวนมากในการก่อสร้าง อาทิ ศาลาปฏิบัติธรรม,ที่พักสงฆ์,ที่พักโยคี ผู้มาปฏิบัติธรรม


เชิญผู้มีจิตศรัทธาสร้างวิหารเจดีย์ฯ พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ณ.ที่พักสงฆ์เขาดิน เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา และ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่ องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙
โทร. ๐๘๗ - ๙๘๘๘ – ๙๕๗


ขอเชิญร่วมเททองหล่อพระประธานประจำอุโบสถ
ขนาดหน้าตัก 80 นิ้ว
ณ วัดป่าเมตตาวนาราม อ.พาน จ.เชียงราย
วันที่ 23 ตค 2558 เวลา13:00 น.




ขอเชิญร่วมบุญโครงการ สร้างพระบนดอยครั้งที่ 3
ทางวัดป่าเมตตาวนารามจะเป็นสะพานบุญให้แก่ผู้มีจิตศรัทธาปรารถนาสร้าง พระให้เป็นพุทธานุสติต่อผู้ที่ได้เห็น เกิดความเลื่อมใสศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา โดยพระที่จะสร้างถวายวัดต่างๆจะมีขนาดหน้าตัก 2.26 เมตร ใช้ปูนเป็นวัสดุการก่อสร้าง จึงขอเรียนเชิญทุกท่านมาร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระ องค์ละ 15,000 บาท




ขอเรียนเชิญ ร่วมบุญเทปูนฐานพระประทานพุทธมณฑลอยุธยา
ลพ.รักษ์ อนาลโย
ณ วัดสุทธาวาส วิปัสสนา อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
(สำนักปฏิบัติธรมประจำจังหวัด แห่งที่13 พุทธมณฆลพระนครศรีอยุธยา)




ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน
ร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระเจดีย์เมตตาหลวง
ณ วัดป่าเมตตาวนาราม
259 หมู่ 10 บ้านทุ่งมะฝาง ต.ป่าหุ่ง
อ.พาน จ.เชียงราย



(ปิดรับ26มิ.ย58.)สร้าง"ผอบทองคำแท้"กองละ100บาทเหลือ50กองประดิษฐานใน"ยอดเกศพระประธาน"ในอุโบสถ
0853614989



เนื่องด้วยทางวัดหนองเต่าคำ ต.มะขุนหวาน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ จะได้จัดสร้างพระประธานในอุโบสถนามมหาทศพลญาณที่ ๑๐ หน้าตัก ๘๙ นิ้ว สูง ๓ เมตร(พระมหาจักรพรรดิ์ทันใจ) ขนาด ๕ นิ้วจำนวน ๑ ดวงราคา ๘,๕๐๐ บาท หัวใจเงินแท้(ทางวัดขอสงวนสิทธิ์ไม่รับเจ้าภาพทำคนเดียวอยากให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมสร้างบุญกุศลคนละเล็กละน้อยในครั้งนี้ รับปัจจัยครบจำนวน ๘,๕๐๐ บาท(ปิดรับทันที)จะทำการหล่อในวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๕๘ นี้



ขอเชิญท่านสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญรับเป็นเจ้าภาพ
ถวายตู้พระธรรม จำนวน ๒ ตู้ และ ตู้พระไตรปิฎก จำนวน ๒ ตู้
ติดต่อสอบถามหรือร่วมทำบุญบริจาคได้ที่
พระภูวดล ฉนฺทธมฺโม (พินิจมนตรี)
วัดหาดนาค อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
โทร 099-6474597
https://www.facebook.com/yui1347




ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี
เพื่อเทปูนหล่อพระประธาน สมเด็จองค์ปฐมบรมครู ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก 7 ศอก
เพื่อประดิษฐาน ณ ที่พักสงฆ์ดงเมืองเตย (โบราณสถานดงเมืองเตย) ต.สงเปือย อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร


ขอเชิญสร้างพระพุทธเจ้าปางประสูติ ถวาย ประดิษฐาน ณ วัดป่าปูชนียาจารย์โพธิญาณจะนำมาประดิษฐานไว้ ณ สังเวชนียสถานจำลอง วัดป่าปูชนียาจารย์โพธิญาณ ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม



ขอเชิญตัดหวายลูกนิมิตอุโบสถ ณ วัดสว่างอารมณ์(คลองแขก) อ.บางเลน จ.นครปฐมณ วัดสว่างอารมณ์ ต.นาราภิรมย์ อ.บางเลน จ.นครปฐม
วันศุกร์ที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๘ เวลา ๑๕.๔๙ น


ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ร่วมเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนา ถวายเป็นอาจาริยบูชาแด่พระราชวิสุทธิโสภณ (หลวงปู่ท่อน) ครั้งที่ ๒
ในวันเสาร์ที่ ๒๐- วันอาทิตย์ที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๘ ณ วัดป่ามณีกาญจน์ จ.นนทบุรี



ขอเชิญร่วมบุญถวายเทียนพรรษา ๙ วัด ประจำปี๒๕๕๘
มือถือ 096-8978941



เชิญร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคีแฟร้งค์เฟิร์ด - กรุงเทพ - เชียงใหม่ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๘
เพื่อนำปัจจัยบุญสมทบทุนสร้างอุโบสถทรงเจดีย์พุทธคยา (จำลอง)
ทอดถวาย ณ วัดหนองก๋าย ต.สันป่ายาง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
วันเสาร์ที่ ๑๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๘ ตรงกับวันขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๒



ขอร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์เจดีย์ปณฺฑิโต 101 ปี พระคุณเจ้าหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต (จันทรสมบูรณ์)
ณ วัดมกุฏคีรีวัน เขาใหญ่ ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ในวันที่ 28 มิถุนายน 2558 เวลา 13.19 น.



นิมนต์/เชิญ พระภิกษุสามเณร และอุบาสกอุบาสิกา ร่วมปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ประจำปี 2558 ณ วัดห้วยพรหม ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 11 - 21 กรกฎาคม 2558 ติดต่อสอบถาม พระครูประโชติสังฆกิจ เจ้าอาวาสวัดห้วยพรหม 081-790-5831



ขอเชิญทุกท่านร่วมรับฟังการบรรยายธรรม และปฏิบัติธรรม
โดยหลวงปู่อุทัย สิริธโร
วัดเขาใหญ่เจริญธรรมญาณสัมปันโน
อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
วันศุกร์ที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๘
เวลา ๑๒.๐๐ น.
ณ ห้องชมรมพุทธ บมจ.ทีโอที อาคาร ๕ ชั้น ๓
สำนักงานใหญ่ แจ้งวัฒนะ
สอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณกิติ บัวเพชร โทร ๐๘๑ ๘๔๔ ๕๕๒๕



ขอเชิญ ฟังพระธรรมเทศนา หลวงปู่ไม อินทสิริ วัดป่าเขาภูหลวง ตำบลระเริง อำเภอวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ในวันที่ 23 มิถุนายน 2558 เวลา 18.30 น.
ณ. ศาลาปฏิบัติธรรม วัดทองเนียม แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพฯ



ขอเชิญกุลบุตร อายุ ๒๐ ขึ้นไป
ร่วมอุปสมบทและปฏิบัติธรรมตลอดพรรษา
ในโครงการอุปสมบทพระสงฆ์จำพรรษา ปี ๒๕๕๘
ณ ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯ เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี (ศูนย์ ๒) ๙ รูป
ณ ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯ สวนประไพธรรม จ.ชุมพร (ศูนย์ ๓) ๗ รูป
ณ ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯ เขมรังสี จ.พระนครศรีอยุธยา (ศูนย์ ๔) ๔๐ รูป
*** ติดต่อสมัครบวชกับยุวพุทธเขมรังสี(ศูนย์ 4)
ได้กับคุณสมพงษ์(ไวยาวัจกร วัดมเหยงคณ์) โทร 081-8535669



ร่วมเป็นเจ้าภาพบรรพชาอุปสมบทหมู่ชาวเขา จำนวน ๒๖๑ รูป
เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร
ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรฯ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
วันเสาร์-อาทิตย์ ที่ ๑๘ - ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘



เชิญร่วมบุญสร้างบารมี บวชหมู่ ณ สำนักปฏิบัติธรรมดอยเทพเนรมิต เชียงใหม่
หรือจะสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2558




ขอเชิญร่วมบุญเนื่องด้วย วัดสองเปย หรือสำนักวิปัสสนาป่าภูเมี่ยง ได้มีการจัดโครงการบรรพชาอุปสมบท พระภิกษุสามเณร รุ่นจำพรรษา /๒๕๕๘ เพื่ออบรมคุณธรรม จริยธรรม แก่กุลบุตรที่มีศรัทธาขอบรรพชา อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ซึ่งรุ่นนี้ทางวัดได้จัดอบบรมเป็นครั้งที่ ๘ แล้วจึงขอเรียนเชิญท่านสาธุชนได้ร่วมบุญกับทางวัดสองเปย ในการเป็นเจ้าภาพบรรพชาอุปสมบท พระภิกษุสามเณร รุ่นจำพรรษา /๒๕๕๘ พระภิกษุจำนวน ๘ รูป และสามเณร ๓ พระภิกษุ และสามเณร ทั้งหมดจะอยู่จำพรรษาในเขตตำบลน้ำไผ่ ในวัดต่างและจำพรรษาในวัดสองเปย เพื่อให้วัดต่างๆที่ไม่มีพระภิกษุจำพรรษาได้มีพระภิกษุจำพรรษา เป็นการเจริญศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชนในถิ่นทุรกันดาร โดยได้กำหนดการไว้ดังต่อไปนี้
วันอังคาร ที่ ๓๐ เดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๘
เวลา ๐๖.๓๙ น. เดินทางไปอุปสมบท ณ พระอุโบสถวัดห้วยเนียม



ขอเชิญร่วมเดินทางสืบสานอารยธรรม ตามรอยประวัติศาสตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จาริกแสวงบุญ ถวายเทียนพรรษา ผ้าอาบน้ำฝนและเครื่องกันหนาว
สัมผัสวิถีชีวิตชาวไทใหญ่ ชาวอินทา ชมวังเก่าเจ้าฟ้า ล่องทะเลสาบอินเล
ณ เมืองตองยี รัฐฉาน ประเทศพม่า
ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม- 2 สิงหาคม 58
ติดต่อจองการเดินทางได้ที่
คุณแป้ง 0897102248 (ระบุว่าจองกรุ๊ป:คุณรัฏฐา)



(ปิดรับบริจาค 14 มิ.ย.58) ขอเชิญร่วมซื้อ "หนังสือคู่มือปฎิบัติพระกรรมฐาน" เล่มละ 35 บาท จำนวน 100 เล่ม (หรือตามจำนวนที่ได้รับบริจาคแต่ไม่เกิน100เล่ม) โดยเปิดให้ร่วมได้ "ตามกำลังศรัทธา"
085-361-4989




ขอเชิญร่วมบุญก่อสร้างโรงอุโบสถวัดห้วยพรหม ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา


ขอเชิญร่วมงานมุทิตาสักการะครบรอบอายุวัฒนมงคล 91 ปี ถวายพระญาณวิสาลเถร (หลวงปู่หา สุภโร ,หลวงปู่ไดโนเสาร์) และร่วมถวายผ้าป่าสร้างศาลาปฏิบัติธรรม บนภูกุ้มข้าว
ในวันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม 2558 เวลา 16.00 น.
ณ ชั้น 20 โรงพยาบาลวิชัยยุทธ (ตึกเก่า)



เชิญชวนชาวพุทธมามกะ เข้าร่วมปฏิบัติธรรม บวชเนกขัมมะบารมี น้อมถวายเป็นพุทธบูชา และ น้อมถวายแด่ หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย
ณ.ชั้นที่ ๑ ลานเจดีย์บูรพาฐิตวริยาประชาสามัคคี วัดเขาสุกิม
ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๘



ขอเชิญ ญาติโยม ร่วมทำบุญสร้าง
พระเจดีย์สิริศตวรรษสุวัฒนมงคลบพิตร
ณ วัดวีระธรรม ต.ไฮหย่อง อ.พังโคน
จ.สกลนคร


ขอเชิญร่วมสร้างหุ่นขี้ผึ้ง
https://www.facebook.com/54762388194715 ... 18/?type=1



ปล่อยปลาครั้งใหญ่มากกว่า 100 กิโลกรัม ประจำเดือน มิถุนายน 2558
และ หล่อพระอีก 9 องค์ (แบ่งทำผ้าป่าครั้งที่ 1)
https://www.facebook.com/17309039283920 ... 34/?type=1



ขอเชิญหล่อพระ วัดสุวรรณาราม บางกอกน้อย กรุงเทพ 21 มิ.ย.58


ขอเชิญหล่อพระ 14 และ 21 มิ.ย. 58 วัดหนองหญ้าปล้อง จ.กาญจนบุรี



ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระทันใจ องค์ที่ 2
(พระพุทธเมตตาสมปรารถนาทันใจศรีบ่อสวก) ร่วมกับพระครูปลัดรัฐกร สนฺตจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดแม่อีดปากทางถ้ำเชียงดาว สร้างถวาย ณ วัดบ่อสวก อ.เมือง จ.น่าน
ในวันที่ 21 มิ.ย. 2558 นี้ ขนาดหน้าตัก 3.5 เมตร (159 นิ้ว) ร่วมเป็นเจ้าภาพนิ้วละ 1,000 บาท พร้อมสลักชื่อที่ฐานองค์พระหรือตามเจตนาศรัทธา


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO