นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 29 เม.ย. 2024 11:09 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ความคิด และบุญ
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 17 ธ.ค. 2013 6:22 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4543
"พระพุทธเจ้า" สามารถเอาความคิดที่ลึกซึ้ง
ออกมาพูดเป็นภาษาคน และสื่อสารให้คน
เข้าใจได้ ปฏิบัติตามได้ เพราะฉะนั้น

การได้พบพระพุทธศาสนาเท่ากับได้พบตัวเอง
ทำให้เข้าใจการสอนของครูบาอาจารย์ที่ว่า
พุทธศาสนาไม่ใช่เรื่องของตำรา ไม่ใช่เรื่อง
ของวัดวา ไม่ใช่เรื่องของนักบวช
เป็นเรื่องของเราทุกคน เรื่องของหัวใจมนุษย์

เรื่องของพุทธศาสนา คือ เรื่องของตัวเอง
และเรื่องการละ ละในสิ่งที่มี สิ่งที่ติด สิ่งที่ยึด
ละบาปอกุศล และเรื่องการบำเพ็ญเพียร
ก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะ นอกเหนือจากสิ่งที่มีอยู่
ในใจของเรานี่แหละ "

โอวาทธรรมหลวงพ่อชยสาโร ภิกขุ
ความน่าสงสาร ความสลดสังเวชใจ หดหู่ ก็ควรให้พอดี ให้ได้ปัญญานำมาพิจารณาให้เป็นธรรม เมตตานั้นดี แต่ควรเมตตาให้มีเหตุมีผล มีที่มาที่ไป ไม่ใช่โลภเมตตา ช่วยใครไม่ได้แต่ดึงดันจะช่วย นั่นเขาเรียกว่า"โลภเมตตา"เมตตาตะพึดตะพือ

ให้นำมาพิจารณาว่า "กรรมของมนุษย์บางคน เกิดมาอาภัพอัพเฉา"ยังมีวาสนาชีวิตยังน้อยกว่าสัตว์เดรัจฉานบางตัวซะอีก ยกตัวอย่าง"สุนัขของเศรษฐีบางคน" ได้กินอยู่หลับนอนดี มีคนกอดคนรัก ประคบประหงมยิ่งกว่าลูกในไส้ ได้ใส่เพชรใส่พลอยใส่ทอง ชีวิตมันยังดีกว่ามนุษย์บางคนซะอีก

ยกตัวอย่าง คนที่เกิดในประเทศที่กันดาร เกิดมาแม่ก็แทบไม่มีน้ำนมให้กิน เพราะแม่ก็ขาดสารอาหาร อาหารการกินก็อดๆอยากๆ เสื้อผ้านุ่งห่มไม่มี นั่นเหตุเพราะ"กรรมส่งไป จัดให้ไปอยู่รวมกัน" สมัยชาติไหนในอดีตก่อนๆตอนเป็นคนมั่งคนมี รวย แต่ดูถูกเหยียดหยัน ดูหมิ่นคนยากคนจน เขามาขอกินขอแบ่งข้าวแบ่งอาหาร ไม่ให้ไม่พอ ยังเหยียดหยามคนทุกข์คนยาก "ไม่รู้จักการให้ การทาน"

พอมาเกิดได้เป็นคนก็จริง แต่ต้องมารับทุกขเวทนา อย่าคิดว่าจะรอดกันเน้อเรามีวาสนามาเจอคำสอนของพระพุทธศาสนาแล้ว มีทางหลุดพ้นแล้ว เพียรทำเพียรสร้างเอา

#เราเองยังมีอยู่มีกินอย่าลืมนำมาพิจารณาเน้อว่า"ในขณะที่เราได้กินอิ่มอยู่ นอนหลับอบอุ่นอยู่ ยังมีเพื่อนมนุษย์เราอีกหลายคนที่ไม่มีเหมือนเราอดอยากอยู่ แห้งแล้งอยู่ ลำบากทุรนทุรายอยู่ อีกมุมหนึ่งสถานที่หนึ่ง ในแถบนั้นมุมนั้นของโลก"กรรม"จัดให้อยู่สถานที่นั้นไม่ใช่คนสองคนมีเป็นจำนวนมาก"

ส่วนเรื่องของกรรม เราไปแก้กรรมให้ใครไม่ได้ มันเป็นเรื่องของกรรมใครกรรมมันเน้อ กรรมของเราเองยังเอาตัวเองไม่รอดเรย จะแก้กรรมได้ ก็ด้วยปัจจุบัน"ด้วยพลังกำลังของบุญภายในจิตของตน"

ทำอย่างไร"จิตวิญญาณทั้งหลายจะเลิกจองเวรต่อกัน เลิกอาฆาตพยาบาทจองเวรต่อกัน ก็ต่อเมื่อเราอุทิศบุญให้จิตวิญญาณจนเป็นที่ พอ อกพอใจวิญญานทั้งหลายแล้วจนกระทั่งมันเลิกจองเวร"

เพราะฉะนั้น การที่เราจะอุทิศบุญได้อย่างเต็มที่ ก็นี่แหละ"ต้องมาสร้างพลังจิตกำลังจิตให้เกิดบุญ" ถ้าใจมันอยู่ข้างนอก จิตมันกระเพื่อมมันหวั่นไหวแม้กระทั่งจะอุทิศแผ่กุศลแผ่บุญไปให้เจ้ากรรมนายเวร จิตใจมันก็ไม่จดจ่อ ไม่น้อมไม่จริงใจ คือ"ทำไปตามประเพณีงั้นๆแหละ"แล้วแบบนี้เขาจะให้อภัยได้ยังไงล่ะ จิตวิญญานเขาสัมผัสกระแสจิตได้ มีแต่จะจองเวรเพิ่มข้อหาไม่จริงใจไม่สำนึกผิดจริง หลอกลวงเขา

แต่ตรงกันข้าม เราสร้างบุญสร้างกุศล"อุทิศๆๆๆๆให้มันอยู่แบบนี้แหละวันละหลายๆรอบ แม้กระทั่งกลางค่ำกลางคืนดึกดื่นก็ยังเพียร ยังอุทิศให้กันอยู่"ไม่เลิกจองเวรให้มันรู้ไปสิ เราทุ่มเทจริงใจ ฝึกฝน อดทนขนาดนี้ ทั้งที่จริงๆก็ไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆนะ "ในการที่จะมาถือศีล8ภาวนา ละเรือน ละบ้าน ละความสุขสบายในกามคุณ5ทั้งหลาย ก็ไม่ใช่ง่ายนะ" แต่เราสามารถมาประพฤติปฏิบัติอุทิศให้นี่แสดงว่า"เราจริงใจ"

#นี่แหละคือการแก้ไขกรรมที่ถูกต้องตรงธรรม แก้อย่างอื่นผิด
"ต้องมีความจริงใจ ความเอาจริงเอาจัง จดจ่อในการประพฤติปฏิบัติ แล้วอุทิศให้"มันเป็นการแก้ไขกรรมที่อัศจรรย์อยู่ คนที่ไม่ลึกซึ้งมองไปไม่ถึงจะไม่เห็นความสำคัญว่ามานั่งพากันทำอะไรกันอยู่ รักษาศีล5ศีล8 ทำทานสร้างทาน นั่งภาวนาอดทนฝืนกิเลส

คนที่จะเข้าใจระบบของพระพุทธเจ้าจริงๆ
มีน้อยเหลือเกินบนโลกใบนี้
ธรรมะจากพระอริยะเจ้าหลวงพ่อเฉลิมโชค ฉันทชาโต



#อาหารบางอย่างมดไม่ขึ้น วางไว้ไม่มีน้ำหล่อ
มดก็ไม่ขึ้น นั่นไม่ได้หมายความว่า ไม่มีมด
ในบริเวณนั้น มดนั้นมีอยู่ทุกแห่ง เพียงแต่ว่า
จะปรากฏตัวออกมาให้เห็นมากน้อยเพียงไร
หรือไม่เท่านั้น

#อาหารบางอย่างมดขึ้น บางอย่างมดไม่ขึ้น
เหตุผลมีว่า เพราะอาหารบางอย่างมีกลิ่น
ส่งกลิ่นออกไปนำมด มดไม่ได้เข้ามาเอง
มดเข้ามาขึ้นอาหาร เพราะ ถูกกลิ่นอาหาร
นั่นเองนำเข้ามา

#เมื่อเปรียบกิเลสเหมือนมด
"มด"ไม่ขึ้นอาหารที่"ไม่ส่งกลิ่น"ออกไปชักนำฉันใด
"กิเลส"ก็ไม่ได้เข้าห้อมล้อมปกคลุมใจ
ที่ไม่ส่งออกไปชักนำ ฉันนั้น

**ความคิดปรุงแต่ง เมื่อตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง
จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายได้สัมผัส คือ
การส่งใจออกไป"ชักนำกิเลส"เข้ามาห้อมล้อม
"จิตใจ" เหมือน #อาหารที่ปรุงแต่งด้วยกลิ่น
ของ"ความหวานออกไปชักนำมดมารุมขึ้นอาหาร"

#หยุดความคิดปรุงแต่งเมื่อตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง
จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายได้สัมผัส
"กิเลส"แม้มีอยู่เต็มโลก ก็ไม่เข้ามาห้อมล้อมใจ
ใจย่อมผ่องใส สว่าง ห่างไกลความร้อนความมืด
ของ"กิเลส"




"ที่สุดของชีวิต คือการรู้ธรรม"

"แก่นของธรรมแท้อยู่ที่สติ ให้พากัน
หัดทำสติให้ดี ให้สำเหนียก ให้แก่กล้า
สติน่ะทำเท่าไรไม่ผิด สติน่ะให้มันมี
กำลังสติดีแล้ว

จิตมันจึงรวม เพราะสติคุ้มครองจิต
เพราะสติก็คือ"จิต"นั่นแหละหากแต่ลุ่มลึกกว่า
ครั้นใจนึกขึ้นว่าสติ ก็ใจนั่นแหละเป็นผู้นึกขึ้น
เรียกว่า “สติ” เพราะสติก็คือใจนั้นแหละ
พวกเดียวกัน ทำให้มันดีแล้ว ไม่พลาด
ทำก็ไม่พลาด พูดก็ไม่พลาด คิดก็ไม่พลาด
ย่อมถูก ไม่ผิด พากันทำเอา"
หลวงปู่ขาว อนาลโย



ใบไม้
ขณะนี้เรานั่งอยู่ในป่าที่สงบ ที่นี่ไม่มีลม ใบไม้จึงนิ่ง เมื่อใดที่มีลมพัด ใบไม้จึงไหวปลิว
จิตก็ทำนองเดียวกับใบไม้ เมื่อสัมผัสกับอารมณ์มันก็สะเทือนไปตามธรรมชาติของจิต เรายิ่งรู้ธรรมะน้อยเพียงไร ใจก็จะรับความสะเทือนได้มากเพียงนั้น รู้สึกเป็นสุข ก็ตายด้วยความสุข รู้สึกเป็นทุกข์ ก็ตายด้วยความทุกข์อีก มันจะไหลไปเรื่อย ๆ
หลวงปู่ชา สุภัทโท


ทุกชีวิตเกิดมามีทุกข์เป็นพื้นฐาน ไม่มีใครหนีทุกข์ไปได้ แต่หากมีปัญญาก็จะดับทุกข์ลงได้ ทุกข์กายนั้นเป็นเรื่องของสังขารที่ต้องแก่ เจ็บ ตาย ส่วนทุกข์ใจเป็นเรื่องของกิเลสตัณหา ธรรมะช่วยพัฒนาจิตให้มีปัญญาสู้กับกิเลสตัณหาได้ เมื่อจิตมีปัญญาที่เข้มแข็ง ก็จะไม่ทุกข์ใจ แม้ร่างกายเป็นทุกข์ ใจก็จะไม่ทุกข์...


อีกกี่ชาติถ้าเรามีร่างกายอย่างนี้
มันก็ทุกข์อย่างนี้ แล้วขึ้นชื่อว่ามีร่างกาย
มีขันธ์๕ แบบนี้ เราจะไม่มีกับมันอีก

• ธรรมโอวาทพระราชพรหมยาน : หลวงพ่อฤาษี(ลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี •



• ไม่มีเงินทำบุญแต่อยากได้บุญ •

ผู้ถาม : “กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือลูกไม่มีเงินจะทำบุญ ก็ต้องไปขอพี่บ้าง น้องบ้าง เวลาไปขอเขาทีไรเขาชอบพูดกระแนะกระแหน หาว่าลูกไม่เจียมบอดี้… อยากเรียนถามหลวงพ่อก็คือว่า คนที่ไม่มีเงินจะทำบุญแล้วอยากจะได้บุญ หลวงพ่อมีคำแนะนำจะให้ทำอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ?”
หลวงพ่อ : “ไม่ยาก.. บุญที่ไม่ต้องลงทุนก็มี ถ้าต้องการ ๑.รักษาศีล ศีลไม่ต้องใช้เงิน ๒.เจริญภาวนา ไม่ต้องใช้เงิน ๓.การให้ทาน เราต้องใช้เงินใช่ไหม…จะไม่ใช้ก็ได้ เขาเดินถวายทานเป็นแถว ๆ ปัตตานุโมทนามัย ดีใจกับเขา คนละ ๙๐ เปอร์เซ็นต์ ตั้ง ๑๐๐ คนเท่าไรล่ะ?”

ผู้ถาม : “อย่างนี้เราไม่ต้องถวายสตางค์หลวงพ่อก็ได้ซิครับ:”
หลวงพ่อ : “ฉันไม่รับเงินมานานแล้วนะ รับแต่แบงก์อย่างเดียว”

ผู้ถาม : “อย่างนั้นคนจนก็ไม่ต้องตกใจนะ อาศัยปัตตานุโทมนามัย”
หลวงพ่อ : “ถ้ามีบ้างก็ทำเท่าที่มีได้ ถ้าไม่มีทำก็นั่งโมทนา นึกในใจยินดีในผลที่เขาทำแล้ว เท่านี้แหละ ๙๐ เปอร์เซนต์ วัน ๆ นับไม่ไหว อย่างที่นี่หาบไม่ไหว ต้องเอาพ้อมมาใส่ และบุญนีไม่สลายตัวด้วย”

ผู้ถาม : “แหม…คนที่ยกมือ ไม่ต้องลงทุนเลยนะ”
หลวงพ่อ : “ลงทุนเหมือนกัน ลงทุนแค่ยกมือ ถ้าเขาไม่ยกมือก็ได้ ยินดีด้วยจิตนอบน้อม อย่างฉันนี่ยกทั้งวันปวดแขน ก็เลยไม่ต้องยก เมื่อไม่ต้องยกก็มีผลสมบูรณ์แบบนะ”

• พระราชพรหมยาน : หลวงพ่อฤาษี(ลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี •

ผู้ถาม: แล้วการดื่มนมละคะ บางวัดบอกดื่มนมไม่ได้แต่บางวัดบอกดื่มได้
หลวงพ่อ: พระดื่มนี่ นมสด เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ดื่มได้และก็สงเคราะห์เป็นนมข้น นมสด นมใสได้ ในหลักมหาปเทส
อย่าถือส่งเดชไปนะ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดในพระวินัย

ผู้ถาม: การรักษาศีล ๘ นมถั่วเหลือง ดื่มได้ไหมคะ…?
หลวงพ่อ: นมถั่วเหลืองได้ ถ้าเขาคั้นแล้ว เขากรองแล้วใช้ได้ ในพระวินัยพระพุทธเจ้าท่านอนุญาตให้พระฉันได้ ๘ อย่าง เรียกว่า น้ำอัฏฐบาน คือน้ำผลไม้ มี น้ำมะม่วง น้ำชมพู่หรือน้ำหว้า น้ำมะปรางหรือลิ้นจี่ น้ำเหง้าอุบล น้ำลูกจันทน์หรือองุ่น น้ำกล้วยไม่มีเม็ด น้ำมะซาง แต่ว่า ผลไม้นั้นต้องไม่เท่าส้มโอ ตั้งแต่ส้มโอขึ้นไปจัดเป็นมหาผล ดื่มไม่ได้ อย่างมะพร้าวอ่อน ถึงกินน้ำก็ไม่ได้ อันนี้ท่านตรัสอนุญาตไว้ ๘ อย่าง

ต่อมาในหลักมหาปเทสท่านบอกว่า ถ้าอะไรไม่ขัดต่อพระธรรมวินัยที่เราตรัสรู้ไว้ คือ ผลไม้ต่างๆ เอามาคั้นหรือกรองก็ฉันได้ เราต้องดูในวินัยท่านตรัสไว้ตรง เมื่อตรัสไว้ตรงแล้วก็ยังมีสิ่งประกอบ คือว่า “ในเมื่อตถาคตนิพพานไปแล้ว อะไรที่ขัดต่อพระวินัย ห้ามทำ” อย่างยาฝิ่น เฮโรอีน สมัยนั้นไม่มี เวลานี้ก็สงเคราะห์เข้าไปในยาเสพติด เช่น สุรา ยาเมาด้วย ทีนี้ถ้าท่านสงเคราะห์ในด้านอนุญาตให้ปฏิบัติได้อย่างผลไม้ท่านตรัสไว้ ๘ อย่าง ขนาดไหนและเว้นขนาดไหนเราทำไม่ได้แน่ ถ้าเป็นขนาดที่ท่านอนุญาต เรากรองเสียก็ใช้ได้

อันนี้ความจริงในวินัยมีอยู่ แต่ท่านถืออย่างไรก็ไม่ทราบทำให้ชาวบ้านหลงผิด แต่ว่าระวังให้ดีเถอะ หน้าวัดไม่ฉัน แต่หลังวัดกระป๋องเกลื่อนหมด เพื่อนๆ กันมีเคยถาม “เฮ้ย วัดแกกินหรือเปล่าวะ…?”
“วัดไม่ได้กินหรอก แต่พระกิน” นี่พระพุทธเจ้าไม่ทรงห้าม ก็ไม่น่าไปเว้นให้ชาวบ้านเขาเข้าใจผิด มันกลายเป็นมายา เจ้าเล่ห์ ใช่ไหม…หลอกเขาอีก กิเลสมันก็กินหัวผุตรงไปตรงมาเสียดีกว่า”

• พระราชพรหมยาน : หลวงพ่อฤาษี(ลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี •


• ท้อแท้ทำความดี •

ผู้ถาม : หลวงพ่อเจ้าขา ลูกอยากจะทำความเพียรเพื่อทำความดี แต่บางครั้งก็มีอารมณ์ท้อแท้จะทำอย่างไรดีคะ?

หลวงพ่อ : ถ้าท้อแท้ต่อความเพียรก็แสดงว่าขี้เกียจ คนที่มีความเพียรคือคนขยัน ความเพียร เพียรต่อสู้กับความชั่ว เพื่อหวังให้มีผลในความดี เป็นเรื่องธรรมดาของคน ไอ้การต่อสู้ความขยันหมั่นเพียร มันจะมีทุกเวลาไม่ได้นะ ในบางครั้งกรรมที่เป็นอกุศลเดิม มันเข้ามาครอบงำจิต เวลานั้นจะตัดความดีของเราให้รู้สึกท้อแท้ไม่กล้าต่อสู้...เบื่อ! พอกุศลเข้ามาสนองปั๊บ กุศลเตะไอ้นั่นออกไป นี่ขยันแล้วสร้างความดี ต้องเป็นอย่างนั้นเหมือนกันทุกคน หนักเข้าๆ กุศลมีกำลังแรงก็เตะได้นั่นกระเด็นออกไป

พอถึงพระโสดาบันปั๊บ อกุศลยังเข้ามาได้ แต่เข้าก็เข้าแรงไม่ได้ ถ้าถึงพระโสดาบันอกุศลเข้าแรงไม่ได้ มันจะสร้างความขุ่นมัวบ้าง แต่จะถึงทำบาปไม่ได้ คำว่า “ขุ่นมัว”อาจจะต้องโกรธ ใช่ไหม...พระโสดาบันยังมีโกรธ พระโสดาบันยังมีความรักในระหว่างเพศ พระโสดาบันยังมีความอยากร่ำรวย แต่เรื่องละเมิดศีลไม่มี แต่มีอารมณ์ที่แจ่มใสจริง ๆ คือพระอรหันต์ ถ้ายังไม่ถึงพระอรหันต์เพียงใด ก็ยังเตะกันใหม่ แต่ว่าเตะเบา ๆ

• พระราชพรหมยาน : หลวงพ่อฤาษี(ลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี •




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO