นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน จันทร์ 29 เม.ย. 2024 9:34 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 21 ส.ค. 2013 9:18 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4543
พวกเทวดา ไม่รู้สึกหนาว ไม่รู้สึกร้อน. ในกาลนั้นเหงื่อไหลจากสรีระ เป็นหยดๆ

ตลอดกาลประมาณเท่านี้ในสรีระของเทวดาเหล่านั้น ย่อมไม่ปรากฏวรรณต่างกัน

ด้วยสามารถฟันหักและผมหงอก เป็นต้น. เทพธิดาปรากฏเหมือนมีอายุ ๑๖

เทพบุตร ปรากฏเหมือนมีอายุ ๒๐. แต่ในเวลาตาย อัตภาพของเทพบุตรเหล่านั้น

ทรุดโทรม. อนึ่ง ตลอดกาลประมาณเท่านี้ เทพบุตรเหล่านั้น ไม่มีความกระสันใน

เทวโลก.แต่ในเวลาจะตาย หายใจไม่ออกกระสับกระส่าย ไม่ยินดี ในอาสนะของตน.

โธตกมาณพ ได้ทูลถามปัญหาว่า

ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระองค์ ขอทูลถามพระองค์

ขอพระองค์โปรดตรัสบอกข้อความนั้น แก่ข้าพระองค์เถิด ข้าแต่

พระองค์ผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ ข้าพระองค์ปรารถนาอย่างยิ่ง

ซึ่งพระวาจาของพระองค์ บุคคลได้ฟังพระสุรเสียงของพระองค์แล้ว

พึงศึกษาธรรมเป็นเครื่องดับกิเลสเพื่อตนเถิด

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพยากรณ์ว่า ดูกร โธตกะ

ถ้าเช่นนั้น ท่านจงมีปัญญารักษาตน มีสติกระทำ

ความเพียรในศาสนานี้เถิด บุคคลฟังเสียงจากปากของเรานี้แล้ว

พึงศึกษาธรรมเป็นเครื่องดับกิเลสเพื่อตนเถิด

โธตกมาณพ กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้า ว่า

ข้าพระองค์ เห็นพระองค์ผู้เป็นพราหมณ์ หากังวลมิได้

ทรงยังพระกายให้เป็นไปอยู่ในเทวโลกและมนุษยโลก ข้าแต่พระองค์

ผู้มีพระจักษุรอบคอบ เพราะเหตุนั้น ข้าพระองค์ขอถวายบังคมพระองค์

ข้าแต่พระองค์ผู้ศากยะ ขอพระองค์จงทรงปลดเปลื้องข้าพระองค์

เสียจากความสงสัยเถิด

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า

ดูกร โธตกะ เราจักไม่อาจเพื่อจะปลดเปลื้องใคร ๆ

ผู้ยังมีความสงสัยในโลก ให้พ้นไปได้ ก็เมื่อท่านรู้ทั่วถึงธรรมอัน

ประเสริฐ จะข้ามโอฆะนี้ได้ ด้วยอาการอย่างนี้

โธตกมาณพ กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้า ว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นพรหม ขอพระองค์จงทรงพระกรุณา

สั่งสอนธรรมเป็นที่สงัดกิเลส ที่ข้าพระองค์ควรจะรู้แจ้ง และขอพระองค์

ทรงพระกรุณาสั่งสอน ไม่ให้ข้าพระองค์ขัดข้องอยู่เหมือนอากาศเถิด

ข้าพระองค์อยู่ในที่นี้นี่แหละ จะพึงเป็นผู้ไม่อาศัยแอบอิงเที่ยวไป

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า

ดูกร โธตกะ เราจักแสดงธรรมเครื่องระงับกิเลสแก่ท่าน

ในธรรมที่เราได้เห็นแล้ว เป็นธรรมประจักษ์แก่ตน ที่บุคคลได้รู้แจ้งแล้ว

เป็นผู้มีสติพึงดำเนินข้ามตัณหาอันซ่านไปในอารมณ์ต่าง ๆ ในโลกเสียได้

โธตกมาณพ กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้า ว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ ก็ข้าพระองค์ยินดี

อย่างยิ่ง ซึ่งธรรม เป็นเครื่องระงับกิเลสอันสูงสุด ที่บุคคลได้รู้แจ้งแล้ว

เป็นผู้มีสติ พึงดำเนินข้ามตัณหาอันซ่านไปในอารมณ์ต่าง ๆ ในโลกเสียได้

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า

ดูกร โธตกะ ท่านรู้ชัดซึ่งส่วนอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งใน

ส่วนเบื้องบน ทั้ง ในส่วนเบื้องต่ำ แม้ในส่วนเบื้องขวาง คือ ท่ามกลาง

ท่านรู้แจ้งสิ่งนั้นว่า เป็นเครื่องข้องอยู่ในโลกอย่างนี้แล้ว อย่าได้ทำตัณหา

เพื่อภพน้อยและภพใหญ่เลย.

โธตกสูตร มีคำเริ่มต้นว่า ปุจฺฉามิ ตํ โธตกมาณพได้ทูลว่า

ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระองค์ขอทูลถามพระองค์ ดังนี้.

ในบทเหล่านั้น บทว่า วาจาภิกงฺขามิ คือข้าพระองค์ปรารถนาอย่างยิ่งซึ่ง

พระวาจาของพระองค์. บทว่า สิกฺเข นิพฺพานมตฺตโน พึงศึกษาธรรมเป็น

เครื่องดับกิเลสเพื่อตน คือ พึงศึกษาอธิศีลเป็นต้น เพื่อประโยชน์แก่การดับ

กิเลสมีราคะเป็นต้นเพื่อตน. บทว่า อิโต คือจากปากของเรา.

เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว โธตกมาณพมีความดีใจสรรเสริญ

พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะทูลขอให้ปลดเปลื้องข้อสงสัย จึงกล่าวคาถานี้ว่า

ปสฺสามหํ ดังนี้เป็นต้น.

ในบทเหล่านั้น บทว่า ปสฺสามหํ เทวมนุสฺสโลเก คือ ข้าพระองค์เห็น

พระองค์ผู้เป็นพราหมณ์หากังวลมิได้ ทรงยังพระวรกายให้เป็นไปอยู่ในเทวโลก

และมนุษยโลก. บทว่า ตนฺตํ นมสฺสามิ คือ ข้าพระองค์ขอถวาย นมัสการพระองค์.

บทว่า ปมุญฺจ คือ ขอพระองค์จงทรงปลดเปลื้อง.

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะทรงแสดงการปลดเปลื้องความสงสัย

อันเนื่องด้วยพระองค์ จึงตรัสพระคาถาว่า นาหํ ดังนี้เป็นต้น.

ในบทเหล่านั้น บทว่า นาหํ คมิสฺสามิ คือเราจักไม่มาถึง คือไม่ศึกษา

อธิบายว่า จักไม่พยายาม. บทว่า ปโมจนาย แปลว่าเพื่อปลดเปลื้อง.บทว่า

กถํกถึ คือความสงสัย. บทว่า ตเรสิ คือพึงข้าม.

เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว โธตกมาณพยิ่งดีใจหนักขึ้นสรรเสริญ

พระผู้มีพระภาคเจ้ายิ่งขึ้น เมื่อจะทูลขอให้สั่งสอน จึงกล่าวคาถาว่าอนุสาส

พฺรหฺเม ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นพรหม ขอพระองค์ทรงสั่งสอนเถิดดังนี้เป็นต้น.

ในบทเหล่านั้น บทว่า พฺรหฺเม นี้เป็นคำพูดที่ประเสริฐที่สุด. ด้วยเหตุนั้น

โธตกมาณพจึงทูลเรียกพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า อนุสาส พฺรหฺเมดังนี้. บทว่า

วิเวกธมฺมํ ธรรมเป็นเครื่องสงัดกิเลส ได้แก่ธรรมคือนิพพานเป็นเครื่องสงัด

สังขารทั้งปวง. บทว่า อพฺยาปชฺชมาโน ไม่ขัดข้องอยู่ คือไม่ขัดข้องมีประการ

ต่าง ๆ. บทว่า อิเธว สนฺโต คืออยู่ในที่นี้แหละ. บทว่า อสิโต แปลว่าไม่อาศัย.

สองคาถาจากนี้ไปมีนัยดังกล่าวแล้วในเมตตคูสูตรนั่นแล. มีต่างกันอย่างเดียว

คือในเมตตคูสูตรนั้นเป็น ธมฺมํ ในสูตรนี้เป็นสนฺติ. กึ่งคาถาก่อนในคาถาที่สาม

มีนัยดังกล่าวแล้วในเมตตคูสูตรนั้นเหมือนกัน. ในส่วนที่ผิดกันคือบทว่า สงฺโค

คือเป็นฐานะที่ข้องอยู่. อธิบายว่าเป็นเครื่องข้อง. บทที่เหลือในที่ทั้งปวงชัดดีแล้ว.

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงจบเทศนาแม้นี้ด้วยธรรมเป็นยอด คือพระอรหัต

ด้วยประการฉะนี้แล. เมื่อจบเทศนาได้มีผู้บรรลุพระอรหัตเช่นเดียวกับที่กล่าว

มาเเล้วนั่นแล.





เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO