นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 02 พ.ค. 2024 10:46 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 17 ก.ค. 2013 4:46 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4546
..........ผู้ปฏิบัติควรทำกาย วาจา ใจ ตามแบบอย่างของพระอริยเจ้า อย่าให้หย่อนความเพียร ตั้งใจทำ อย่าให้ท้อถอยต่อความเพียร จึงจะได้รับผลของการปฏิบัติและข้อประพฤติสามัคคีธรรม ดังได้พรรณนามาในเบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลาย

เป็นกายสามัคคีธรรม ทำกาย วาจา ใจอย่างนี้ ไม่ต้องไปถามคนอื่น บริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์รู้ได้เฉพาะตน อานิสงส์ใหญ่ไพศาลหาที่ประมาณบ่มิได้ สามัคคีกาย วาจา ใจ ด้วยอำนาจ ศีล สมาธิ ปัญญา สรรพคุณธรรมที่สามัคคีธรรม นำมาซึ่งความสุขมีประจักษ์ทุกเมื่อ อารมณ์เป็นธรรม ธรรมในที่นี้หมายรู้เท่าความเป็นจริง ทั้งภายในและภายนอก

ภายในหมายเอาอารมณ์ที่เกิดกับใจ อารมณ์เป็นสุข ทุกข์ อุเบกขา ต้องรู้ตนเอง ภายนอกตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกดมกลิ่น ชิวหาได้ลิ้มรส กายสัมผัส รู้เท่ากายใจของตนเป็นจริงเช่นนี้ นอกจากกาย วาจา ใจ ออกไปภายนอกก็มีเสมอกัน มีดวงตาเห็นธรรมอย่างนี้ ด้วยอำนาจสามัคคีธรรม ข้อปฏิบัตินำให้ถึงโลกุตตรธรรม ที่ไม่แปรผันไปตามเหตุตามปัจจัย

รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ไม่ยินดียินร้าย รู้เห็น เป็นกลางอยู่เสมอ มาจากสามัคคีธรรม ศีล ๕ สมุทเฉทที่เราเจตนาละเว้น ไม่ล่วงในที่ลับในที่แจ้ง ผู้ปฏิบัติทำเหตุอย่างนี้ อาจเห็นจริงทุกเมื่อไม่เลือกหน้าบุคคล ไม่ว่าเพศไหนภาษาไหนทำได้ทุกเมื่อ ต่างกันช้าหรือเร็วเท่านั้น

เปรียบเหมือนไฟที่เป็นของร้อน คนที่จับไฟรู้หรือไม่รู้ก็ร้อน อุปมาข้อนี้ฉันใดบุคคลผู้ที่ละชั่วทำดี ประพฤติอยู่ในข้อปฏิบัติได้รับผลเช่นนั้น ความปฏิบัติของตนทำมา ที่ละเว้นทาง กาย วาจา ใจ ไม่ทำบาปทั้งปวง เป็นผลของข้อปฏิบัติ ต้องรู้ตนเองอย่างนี้

ผู้ปฏิบัติมีสามัคคีธรรมแล้ว นำมาซึ่งความสุข ไม่มีเจตนาทำบาปเสียแล้ว จิตไม่เศร้าหมองจึงปราศจากทุกข์ จึงรู้ตนเองว่าที่ลับในโลกไม่มี ดีชั่วสุขทุกข์อุเบกขารู้ตนเอง เจตนาดีเจตนาร้ายก็รู้ ถึงแม้เราจะปิดไว้ไม่บอกใคร พระพุทธเจ้าท่านก็รู้ หรือพระอริยเจ้าทั้งหลายท่านย่อมรู้ทุกเมื่อ ขึ้นชื่อว่าชั่วแล้วอย่าทำเสียเลย เจตนาละเว้นทุกลมหายใจเข้าออก เรียกว่าเป็นผู้สามัคคีธรรมในข้อปฏิบัติ


..........ที่ได้พรรณนาเบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลาย ธรรมสามัคคีของผู้ปฏิบัติเป็นมาดังนี้ ผู้ปฏิบัติน้อมไปปฏิบัติในกาย วาจา ใจของตน ธรรมของจริงก็จะบังเกิดทุกเมื่อ เป็นธรรมอันไม่ตาย ไม่แปรผัน เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีในธรรม ด้วยอำนาจคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ประดิษฐานอยู่ที่ใจ ศีล สมาธิ ปัญญา ก็มีขึ้นที่ใจทุกเมื่อ นี่เป็นมรรคของผู้ปฏิบัติดำเนินไปสู่ธรรมอันไปไม่ตาย

นี่แหละด้วยอำนาจความปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญา สำรวมศีล สมาธิ ปัญญา ก็หมายความประพฤติกาย วาจา ใจ สุจริตทั้ง ๓ นี่เอง ผู้ปฏิบัติพึงน้อมกาย วาจา ใจ ไปตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งเพศบรรพชิตและคฤหัสถ์ให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวง เรียกว่าโลกุตตรธรรมให้ผล ไม่มีกาลไม่มีสมัย

ขอให้สาธุชนทั้งปวงพ้นจากทุกข์ภัยและเป็นสุข สมกับปณิธานความปรารถนาของตนๆ ทุกเมื่อทั่วหน้ากันเป็นอันชอบด้วยดี มีความเกษมสันต์ นิราศจากภัย อันตรายทั้งปวงเทอญ







ลำดับนี้เราได้เจริญธรรมะพระมุนีของพระผู้มีพระภาคเจ้า ตั้งแต่มนุษยธรรมสัมมาทิฏฐิ สัมมาอาชีวะ เป็นสมบัติของมนุษยธรรม

ที่เราเกิดมา ปัจจุบันนี้ก็ดี อนาคตก็ดี อดีตก็ดี พร้อมด้วยกายกรรม ๓ วจีกรรม ๔ มโนกรรม ๓ เป็นสัมมาทิฏฐิ สัมมาอาชีวะ กรรมบถ ๑๐ ก็เรียกว่า ถ้าขาดอันนี้เสียแล้ว แปลว่า ไม่ใช่มนุษยธรรมเสียแล้ว

มนุษย์จริงๆ จะบวชเข้าในคณะสงฆ์ไทยก็ดี ต้องเป็นอิตถีภาวะรูป ปุริสภาวะรูป บริบูรณ์กายกรรม ๓ ด้วยวจีกรรม ๔ มโนกรรม ๓ จึงจะได้เจริญมนุษยธรรม เทวธรรม พรหมธรรม สัมมาทิฏฐิ สัมมาอาชีวะของเทวธรรม พรหมธรรม อย่างเราได้อาราธนาพรหม จึงได้แสดงธรรม

พรหมภายนอกก็ดี พรหมภายในก็ดี พรหมภายนอกนั้นอยู่ชั้นพรหมรูปฌาน ๔ อรูปฌาน ๔ พรหมภายในก็มี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา จึงได้เป็นพรหมได้

พรหมภายในเกิดกับจิต พระพุทธเจ้าเกิดกับจิต พรหมธรรมก็เกิดกับจิต พระสงฆ์ก็เกิดกับจิตนี่เอง เทวธรรม โลกุตตรธรรม เกิดกับจิต

มุนีทั้ง ๖ ท่านมีจิตเป็นธรรม จึงได้บรรลุมรรค ผล นิพพาน สัพพัญญูพุทธะเป็นมุนีองค์ใหญ่ พระปัจเจกพุทธเป็นมุนีที่ ๒ สาวกพุทธเป็นมุนีที่ ๓ อนาคามีเป็นมุนีที่ ๔ สกิทาคาเป็นมุนีที่ ๕ โสดาปัตติมรรค-โสดาปัตติผลเป็นมุนีที่ ๖

มุนีนี้ที่มีทั้งหมดกุศลจึงได้อริยมรรค ๔ อริยผล ๔ จะทำมุนีทั้ง ๖ รวมกันเข้านฤพาน พระโสดาต้องเจริญดี สกิทาคาต้องเจริญดี อนาคามีต้องเจริญดี จึงจะถึงอริยมรรค ๔ อริยผล ๔ จึงจะเข้ากับสาวกพุทธ เข้าถึงนิพพาน พระปัจเจกพุทธเจ้าเข้านิพพาน พระอรหันต์คอยอยู่นิพพานโน่น

เราต้องเรียนปริยัติให้เกิดให้มีขึ้นที่จิตใจ วาจา กาย ให้ปฏิบัติตาม กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมให้เป็นกุศลกรรมบถ ๑๐ ให้เป็นสัมมาทิฏฐิ สัมมาอาชีวะ มีมนุษยธรรม เทวธรรม พรหมธรรม โลกุตตรธรรม

มีพระโสดาเกิดกับจิต สกิทาคาเกิดกับจิต อนาคาเกิดกับจิต ยังสังโยชน์ ๕ อนุสัย ๕ ที่มันนอนเนื่องกับจิต ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย มานานุสัย ภาวราคานุสัย อวิชชานุสัย สังโยชน์มีอีก ๕ รูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ อวิชชา นี่มันกันผลไว้ไม่ให้ถึงนิพพาน

อย่างพระอนาคามีเฝ้าบ้านก็ได้ เฝ้าเมืองก็ได้ อยู่วัดก็ได้ อยู่ป่าก็ได้ อยู่ทุ่งอยู่นาก็ได้ แต่ว่ามันยังไม่สิ้นสังโยชน์ ๕ อนุสัย ๕ แต่ว่าแต่งงานไม่ได้เท่านั้นแหละ มนุษยธรรม เทวธรรมนี้มันหนีไม่ได้ หนีจากขันธ์ ๕ ไม่ได้ มาติดอยู่อนาคามีผลนี่เอง

อริยมรรค ๓ อริยผล ๓ ขาดไปแล้ว และเมื่ออริยมรรค ๔ อริยผล ๔ ขาดไปแล้ว จึงจะได้พ้นจากเกิด พ้นจากตาย สังโยชน์ที่พาให้เกิด เกิดเป็นทุกข์ ตายเป็นทุกข์

ถ้าเราไม่มีอุปาทาน เกิด แก่ เจ็บ ตาย นี่เราสบาย เรานั่งอยู่ที่นี้ นั่งดูผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ให้เป็นนิโรธหมด กามาสวะ มิจฉาสวะไม่มี กายนิโรธมีอย่างนี้

เป็นนิโรธก็จะไปแต่งงานไม่ได้ ถ้าอย่างต่ำก็เป็นกายอนาคาแต่งงานไม่ได้ สืบพันธุ์ไม่ได้ สืบพันธุ์ได้แต่มนุษยธรรม เทวธรรม พรหมธรรม โสดาสืบพันธุ์ได้ สกิทาคาสืบพันธุ์ได้ ถึงอนาคาเป็นหมันไม่มี เอกาพุทธะ ชลาพุชะไม่มี เป็นโอปปาติกะมาเกิด

เหมือนอยู่ในโรงนา มาเกิดเท่ากันหมด มีขน เล็บ ฟัน หนัง เท่ากันหมด มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เท่ากันหมด แต่ว่าเกิดไม่มีหญิงไม่มีชายอะไร เหมือนแม่พระธรณีให้มาทำงานร่วมกัน แม่โพสพรวมทั้งข้าวเจ้า ข้าวเหนียวมา ให้มาทำงานร่วมกัน

ถ้าไม่มีแม่พระธรณีรองรับ เราเกิดไม่ได้ ถ้าไม่มีแม่โพสพนำข้าวเจ้า ข้าวเหนียวมาเลี้ยงเรา เราก็เกิดไม่ได้ อยู่ในท้องก็ต้องกินอาหาร คลอดออกมาก็ต้องกินอาหาร ข้าวเจ้าก็เป็นอาหาร ข้าวเหนียวก็เป็นอาหาร

นี่ขอให้พี่น้องชาวไทยกำหนดดูปัจจุบันของเรา ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง มันไม่มีนิโรธ รูปเป็นนิโรธ หนังแผ่นเดียวเป็นนิโรธ ถ้าหลายแผ่นเป็นสมุทัย ถ้ามีแผ่นเดียวนั่งทับมันอยู่นี่ เป็นนิโรธ

เมื่อกายนิโรธ จิตนิโรธแล้ว ก็ไม่ได้กลับคืนมาเป็นมนุษยโลก สวรรคเทวโลกอีก เรียกว่า ดับทั้งหมด เกิด แก่ เจ็บ ตาย ดับหมด โลภะ โทสะ โมหะ ดับหมด ราคะไม่เผาแล้ว โทสะไม่เผาแล้ว โมหะไม่เผาแล้ว เป็นคนไม่หลงไม่ลืม เราจะได้พบพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์

นี่พ้นไปแล้ว แต่ว่าคนทั้งหลายมันไม่เห็นไม่รู้ เรียนปริยัติมีแต่ชื่อ รู้ชื่อได้ พระปัจเจกพุทธรู้ชื่อได้ พระอรหันต์รู้ชื่อได้ อนาคามี สกิทาคามีชื่อเหมือนกัน พระโสดาบันก็มีชื่อเหมือนกัน

มุนีทั้ง ๖ นี้เป็นโลกุตตระไม่ทำบาป มีกาย วาจา ใจ พ้นจากบาป มีปาณา อทินนา กาเม มุสา สุราพ้นหมด อิตถีภาวะ ปุริสภาวะพ้น มีแต่รูปธรรม นามธรรม ธรรมดา

เพียงแต่ว่าโอปปาติกะเกิดดับ จิตมันก็ดับจิตเอง ราคานุสัย อวิชชานุสัยมี ๕ อย่างได้ สังโยชน์เบื้องบนมีเท่านี้แหละ สังโยชน์เบื้องต่ำที่มีชลาพุชะ แต่งงานก็ได้เกิดมาก็เป็นเนื้อเป็นหนังอยู่ในท้อง ๑๐ เดือน


..........พระบางองค์นั้นอยู่ ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน จึงคลอดได้ พระอรหันต์ไปพบถามว่าอยู่ในท้องสบายไหม ...ไม่สบายขอรับ ...มันเป็นยังไงล่ะ ...อยู่ในท้องมืด แสงอาทิตย์-แสงจันทร์ส่องไม่ถึง ทรมานอยู่ จะเดินไปไหนไม่ได้ นั่งขดอยู่ในท้องนั่นแหละ หันหน้าไปทางหลังของมารดา ...ทำไมจึงเป็นอย่างนั้นล่ะ ...เพราะทำกรรมไว้ เป็นแม่ทัพไปล้อมเมืองไว้ ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน

แล้วออกมาก็มีแต่เอกลาภ ไปไหนก็มีแต่สมบัติติดตัว พระพุทธเจ้าไปไหนก็เอาไปด้วย ที่ไหนกันดารน้ำ ที่ไหนเขาไม่มีบ้านเรือน ไม่มีมนุษย์ มีแต่เทวดาก็เนรมิตวิหารให้ ๕๐๐ หลัง เช้าเขาก็มาใส่บาตร แจกพระพุทธเจ้าส่วนหนึ่ง แต่ตัวเอาไว้ส่วนเดียวแล้วกัน กล่าวถึงพระอรหันต์เรวตะ-น้องชายพระสารีบุตร สามารถเนรมิตที่อยู่ให้พระพุทธเจ้าและพระสาวก ๕๐๐ รูป

พระผมยาวยังไม่ทันได้โกนผม ยังไม่ทันได้บวชเลย บรรลุอรหันต์ สันตติอำมาตย์ยังได้บวช พอบรรลุอรหันต์แล้วก็ลานิพพาน พระพุทธเจ้านั่งคอยอยู่ เหาะขึ้นไป ๗ ครั้ง แล้วก็เผาตัวเองอยู่กลางอากาศ อัฏฐิเป็นดอกมะลิแผ่ตาข่ายลงมา พระพุทธเจ้าปูผ้าไว้ ไหลลงมาน้อม พระพุทธเจ้าเอาผ้าขาวห่อไปให้ พวกศรัทธาไปสร้างเจดีย์ยังทาง ๔ แพร่ง ใครมาจะได้นึกถึงสันตติอำมาตย์

คนบรรลุยังไม่ได้บวช ผมยาวๆ ยังไม่ได้บวชเลย บรรลุวันนั้น ฟังธรรมวันนั้นก็ลานิพพานเลย เผาตัวเอง เหาะไปในอากาศเผาตัวเอง





เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO