นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 03 พ.ค. 2024 7:06 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 13 ก.ค. 2013 10:27 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4547
ถ้าเราเชื่อคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว เราจะเป็นอุบาสก อุบาสิกา ก็เป็นอยู่ในวงศ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า จะเป็นภิกษุสามเณร ก็อยู่ในวงศ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า

พระพุทธเจ้ามีอะไรมาแจกให้ภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ให้แพร่หลายมาจนถึงทุกวันนี้ ตั้งแต่วันแรกมา พระองค์ได้แสดงในพระสงฆ์หมู่ใหญ่ตั้ง ๒,๐๐๐ องค์ขึ้นไป

เมื่อพระองค์แสดงโอวาทปาฏิโมกข์ ให้มีศีล มีสมาธิ มีปัญญาโดยสมบูรณ์แล้ว พระอรหันต์หมู่ใหญ่ก็ร้อยกรองต่อๆ มา จะเป็นศีล ๕ ก็ตาม ศีล ๘ ก็ตาม ศีลอุโบสถก็ตาม ศีล ๑๐ ก็ตาม เมื่อพระองค์แสดงไว้อย่างนั้น มีศีลโลกียศีลด้วย โลกุตตรศีลด้วย มีทั้งโลกียธรรมและโลกุตตรธรรม

เมื่อพระอรหันต์ได้ร้อยกรองมาถึงพวกเราปัจจุบันนี้ ได้เรียนในพระวินัยปิฎกด้วย เรียนพระสุตตันตปิฎกด้วย เรียนพระอภิธรรมด้วย เราทุกวันนี้เรียนโลกุตตรธรรมก็เพื่ออะไร เพื่อบุญกุศลนี้มารักษา ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจไม่ให้ตกไปในบาป ในอกุศล ให้เจริญแต่บุญกุศลอย่างเดียว

บุญคืออะไร คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ทำบาป ก็เป็นบุญอยู่แล้ว กาย วาจา ใจ ไม่มีบาป กายกรรมไม่กระทำบาป วจีกรรมไม่กระทำบาป มโนกรรมไม่คิดถึงบาปแล้ว มีแต่คิดเป็นบุญเป็นกุศลอยู่แล้ว พร้อมด้วยกาย วาจา ใจ และพร้อมด้วยตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ขอให้ว่างจากบาปจากอกุศล แล้วจะได้ขึ้นสู่โดยมนุษยธรรม เทวธรรม พรหมธรรม โลกุตตรธรรมโดยเร็ว ให้ถึงอริยมรรค ๔ อริยผล ๔

เมื่อถึงอริยมรรค ๔ อริยผล ๔ โดยสมบูรณ์แล้ว ความเกิดย่อมไม่มีแก่ผู้ไปถึงแล้ว ความตายย่อมไม่มีแก่ผู้ไปถึงแล้ว ความเกิดเป็นทุกข์ก็หมดไปเอง จะว่างจากกาย วาจา ใจไปเอง ทางกายเป็นทุกข์ก็ว่างไปเอง ความไม่เกิด ไม่ตายก็มีอยู่ในธรรมะนั่นเอง

ขอให้ธรรมะของพระผู้มีพระภาคเจ้านี้รักษาตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของหมู่มนุษย์และเทวดา พรหมทั้งหลาย ให้เข้าสู่ในโลกุตตรธรรมโดยฉับพลัน




อย่าทิ้งศรัทธา สติปัญญา ญาณวิชชา ขอให้มาอบรมในตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจนี้ ให้รู้ธรรมเห็นธรรม ในธรรมที่เกิดดับก็มี ธรรมที่ไม่เกิดไม่ดับก็มี ทั้งกรรมดำ-กรรมขาวก็มี กรรมไม่ดำ-กรรมไม่ขาวก็มี เราจะได้เลือกเส้นทางถูก

ธรรมทั้งหลาย ปริยัติก็ดีก็เป็นธรรม ปฏิบัติก็ดีก็เป็นธรรม ปฏิเวธธรรมก็ดีก็เป็นธรรม ขอให้เรารู้เห็นธรรมโดยเป็นทางฝ่ายปริยัติ ฝ่ายปฏิบัติ และฝ่ายปฏิเวธธรรม

ธรรมที่พ้นทุกข์ย่อมไม่มีตาย ธรรมที่ยังเวียนเกิดเวียนตาย ยังทำให้เกิดเป็นทุกข์ ตายเป็นทุกข์ นี้เป็นทุกข์อยู่ในสามภูมิ กามภูมิจิตนี่ยังมีเกิดมีตาย รูปภูมิจิตยังมีเกิดมีตาย อรูปภูมิจิตยังมีเกิดมีตายอยู่ ไปดูโลกุตตรภูมิโน่น ให้พร้อมไปด้วยสมบูรณ์ไปด้วยอริยมรรค ๔ อริยผล ๔ นั่นนะ

เราดับเหตุของสมุทัยได้แล้ว เหตุให้เกิดทุกข์ก็ไม่มี ทุกข์ดับแล้ว เหตุจะให้เกิดติดสุขทุกข์หนึ่งก็ไม่มี มีแต่ว่าดับเหตุได้แล้ว ได้รับผลไม่ได้เกิดไม่ได้ตายนั่นเอง เป็นนิโรธสัจไปตามอายตนะของเรานั่นเอง

ผัสสะมาทางตาก็เป็นนิโรธสัจไป ดับแห่งทุกข์ไป ดับแห่งเหตุให้เกิดทุกข์ไม่มี สมุทัยไม่เกิดทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจแล้ว นับว่าเราได้ผลดี

ขอให้เจริญจิตอยู่ รู้นิโรธ จิตไปสมุทัยเกิดทุกข์ จิตอย่าได้วุ่นวายกับอารมณ์ ๖ เลย อารมณ์รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ย่อมเกิดดับเป็นธรรมดา ภายนอก ๖ ภายใน ๖ ย่อมเกิดย่อมดับอยู่เป็นธรรมดา ส่วนนิโรธสัจไม่เกิดไม่ดับจึงไม่มีเกิดเป็นทุกข์ ไม่มีตายเป็นทุกข์

อย่าได้เกิดอย่าได้ตายกัน ให้พ้นจากธรรมเกิดธรรมตายเสีย ให้พ้นจากธรรมกรรมดำกรรมขาวเสีย กรรมไม่ดำ กรรมไม่ขาวนี้ เป็นกรรมไม่เกิดกรรมไม่ตาย




แต่ว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร อยู่ในพุทธจักรทำงานได้ ๗๐ ปี อยู่ในอาณาจักร ๒๘ ปี มีอะไรใส่ทางปากไหลออกทางตูด ... ดิน-น้ำ-ไฟ-ลม-อากาศภายในก็มี ดิน น้ำ ไฟ ลม อากาศภายนอกก็มี เขาก็ไม่มีที่จะเรียกอะไรหรอก เขาไม่ลืมกัน เราจะไปหลงลืมทำไม

เพราะฉะนั้นให้หายหลงหายลืมกันเสีย ให้เจริญวินัยปิฎก สุตตันตปิฎก อภิธรรมปิฎก จิต เจตสิก รูป นิพพาน ทั่วหน้ากัน อย่าได้ไปทางอื่นเลย

นิพพานอยู่ที่ไหน อยู่ที่กายเดียวจิตเดียวนี่เอง สักกายนี้นิโรธออกมาพิจารณาแสดงองค์เดียว เรียกภิกขุนี ๕๐๐ ภิกขุนี้ทั้งหลายเป็นผู้บรรลุธรรม เป็นอริยบุคคลขั้นพระอรหันต์ แสดงสักกายนิโรธ สักกายสมุทัย

สักกายสมุทัยเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ละเสีย ถ้าเราเจริญวิมุติ สักกายนิโรธ ก็พ้นจากสังโยชน์ ๑๐ อนุสัย ๗ หมดแล้วก็ไม่มีอะไร ก็มีแต่ธรรมชาติ ดิน น้ำ ไฟ ลม อากาศ เท่านั้นเองแหละ รูป เวทนา สังขาร สัญญา วิญญาณ ก็เป็นสภาวะเฉยๆ ไม่มีสัตว์มีคน ไม่มีอะไร

มันมีเกิดมีตาย ให้พ้นเกิดพ้นตายกันเสีย ถ้าหากว่าเกิดเดี๋ยวนี้ เราก็รู้ได้เกิดเป็นทุกข์ ตายเดี๋ยวนี้ก็รู้ว่าตายเป็นทุกข์ ไม่เกิดไม่ตายก็พ้นทุกข์ได้แหละ จะไปไหน


..........ตั้งแต่อดีตมาก็มีแต่หนังแผ่นเดียวกับกายเดียว จิตเดียวเป็นนิโรธ หลายกายหลายจิตเป็นสมุทัย เพราะฉะนั้นให้เลิกละกันเสีย ให้ละสักแต่ว่าสังโยชน์เบื้องต่ำไปจนถึงเบื้องสูง

แต่เบญจศีล เบญจธรรม มันก็อยู่ที่กายเดียวจิตเดียวนี่เอง ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ของสามเณรก็อยู่นี่เอง ศีลปาฏิโมกข์ก็อยู่นี่เอง ศีลภิกขุนี นิพพานศีลทั้งหลายเป็นศีลที่ไม่ตาย สมาธิก็ไม่ตาย ปัญญาก็ไม่ตาย เพราะฉะนั้นให้พากันเจริญอธิศีล อธิจิต อธิปัญญากันทั่วหน้ากัน

นั่งอยู่เดี๋ยวนี้ตัวไม่ตายก็ตัวอยู่ปัจจุบัน ถ้าไปเกี่ยวข้องอดีตอนาคต หลงไปก็หลงเกิดตาย

ให้เจริญวินัยปิฎก สุตตันตปิฎก อภิธรรมปิฎก จิต เจตสิก รูป นิพพาน สภาวะก็เป็นธรรม พระสูตรก็เป็นธรรม ปฏิบัติก็เป็นธรรม พระวินัยก็เป็นธรรม เพราะฉะนั้นปริยัติก็เป็นธรรม ปฏิบัติก็เป็นธรรม ปฏิเวธก็เป็นธรรม

ให้มีนิโรธธรรมโดยทั่วหน้ากันโดยฉับพลัน


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 14 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO