นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 03 พ.ค. 2024 3:46 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 09 ก.ค. 2013 5:08 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4546
การเจริญถึงพุทธคุณภายในคืออยู่กับจิต ภายนอกออกมาอยู่ที่กายกับวาจา เจริญธรรมคุณ ภายในอยู่กับจิตนั่นเอง ภายนอกออกมาอยู่กับกายกับวาจา จึงได้เป็นบทเรียนกันต่อๆ มา เจริญสังฆคุณภายในก็อยู่กับจิต ภายนอกอยู่กับกายกับวาจา ใจ

เมื่อมีภายนอกและภายในอย่างนี้เองจึงเป็นสัทธรรมของพระผู้พระภาคเจ้า จะเป็นภาคปริยัติ ภายในอยู่กับจิต ภายนอกอยู่กับกาย วาจา ปฏิบัติภายในอยู่กับจิต ภายนอกอยู่กับกาย วาจา นี่เอง ปฏิเวธธรรมก็เหมือนกัน ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธธรรม ภายในก็มีภายนอกก็มี

ส่วนมนุษยโลกของเขา ภายในก็มีอยู่กับจิตของเขานั่นเอง เขาก็มีธรรมะนั่นเอง ภายนอกก็อยู่กับกายกับวาจานั่นเอง สวรรคโลกภายในเขาก็อยู่กับจิตนั่นเอง ภายนอกอยู่กับกายกับวาจา นี่เป็นบทเรียนต่อกัน พรหมโลกเขาก็มีอยู่ ภายในมีอยู่กับจิต ภายนอกอยู่กับกายวาจานั่นเอง เป็นที่ติดต่อกันของการบทเรียนและของการสังคมธรรมะ

ส่วนโลกุตตระของพระผู้มีพระภาคเจ้า ฝ่ายอริยะ อริยมรรคสี่ อริยผลสี่ ต้องมีอยู่กับจิตภายใน ส่วนภายนอกยกขึ้นสู่ กายกับวาจา คือมีพระโสดา พระสกิทาคา พระอนาคา พระอรหันต์ สี่คู่แปดบุคคล โลกียธรรม ก็มีอยู่ภายในและภายนอก โลกุตตรธรรมก็มีอยู่ภายในภายนอกนั่นเอง

ตลอดถึงอริยมรรคสี่ อริยผลสี่ ตลอดถึงนิพพาน นิพพานภายในมีอยู่กับจิต นิพพานภายนอกอยู่กับพระพุทธเจ้าองค์ข้างนอกกับพระสงฆ์องค์ข้างนอกนั่นเอง ส่วนภายในมีอยู่กับจิตเหมือนกัน เพราะฉะนั้นโลกียธรรมมีภายในและภายนอกฉันใด โลกุตตรธรรมมีภายในภายนอกฉันนั้น


..........หมู่มนุษย์ในโลกนี้ เขาจะทรงไว้แต่เพียงธรรมะของมนุษยธรรมทางภายในและภายนอก แต่ส่วนจิตของเขา สัมมาทิฏฐิเขาทรงไว้ซึ่งเทวธรรมภายในได้ แต่ภายนอกเขายังไม่ได้ไปเป็นรูปเทวดา แต่ว่าจิตเขาถึงซึ่งธรรมของเทวดา เขาก็สังคมโดยสัมมาทิฏฐิธรรม พวกพรหมธรรมเขาก็มีสัมมาทิฏฐิ เขาก็ติดต่อกันได้ทั้งเทวดาสัมมาทิฏฐิ มนุษย์สัมมาทิฏฐินั่นเอง เขาจึงได้ไปติดต่อโลกุตตรธรรม เขาจึงได้น้อมนมัสการโลกุตตรธรรมต่อพระอริยบุคคล

คือพระโสดาเป็นอุบาสก อุบาสิกาก็มี เป็นภิกษุ สามเณรก็มี สกิทาคา อนาคา อรหันต์นี่เป็นภิกษุ สามเณรล้วนก็มี เป็นอุบาสก อุบาสิกาล้วนก็มี แต่ว่าจะทรงเพศนั้น ถ้าสามเณรอายุเจ็ดขวบก็ทรงไว้ซึ่งคุณพระอรหันต์เหมือนกัน ทรงพระโสดาก็ได้ ทรงพระสกิทาคา อนาคา อรหันต์ก็ได้ ส่วนอุบาสก อุบาสิกาก็เหมือนกันนะ เจ็ดขวบก็ทรงพระโสดาได้ พระสกิทาคาได้ อนาคาได้ ทรงพระอรหันต์ได้

แต่ว่าจะตายช้าตายเร็วนั่นน่ะแล้วแต่อายุของกายต่างหาก ถ้าอายุมากพอบรรลุพระอรหันต์แล้วท่านไม่ยอมบวชแล้ว ท่านล่ำลาล่วงหน้าอีกเจ็ดวันอายุก็หมดอายุขัยนั่นเอง ไม่ใช่ว่าอยู่ไม่ได้ อยู่ได้ อยู่ได้อย่างพระนั่นเอง อยู่ได้อย่างธรรมะนั่นเอง ธรรมภายในยังอยู่ได้ ธรรมภายนอกคือกาย กายเนื้อกายหนังก็อยู่ได้ตามธรรมะภายในนั่นเอง

ข้อนี้ไม่มีข้อขัดขวางอะไรกัน แต่ว่าพวกไปจารหนังสือไว้ไปเขียนหนังสือไว้ ถ้าบรรลุอรหันต์แล้วก็อยู่ไม่ได้ต้องตาย ร่างกายนี้ต้องแตกทำลายอย่างนี้ คนมันพูดเอาเอง แต่ธรรมะไม่มีการเบียดเบียนว่าได้บรรลุถึงมรรค ผล นิพพานแล้วรีบตายวันนั้นนะ ไม่แน่นอนเสมอไป


..........พระภิกษุบางรูปร่างกายป่วยเนื้อหนังผุพังหมดแล้ว กระดูกก็ผุหมดแล้ว แต่พระองค์ต้องเสด็จไปชะแผลให้ พระอานนท์เสด็จตามไปต้มน้ำชะแผลให้ เมื่อได้รับความสว่างได้รับความสะดวกแล้วได้ห่มผ้าลุกนั่งตั้งกายฟังธรรมแล้ว ฟังเพียงแต่พระองค์ว่า ร่างกายนี้ไม่ยั่งยืน มันจะต้องนอนทับแผ่นดิน มันอยู่ไม่นาน มันไม่เที่ยง เกิดแล้วมันดับ ส่วนรูปก็เกิดดับ ส่วนนามก็เกิดดับ

พอบรรลุอรหันต์แล้วขอลาเดี๋ยวนั้นเลย เพราะว่าทำงานของภิกษุ สามเณรไม่ได้แล้ว เนื้อหนังก็เปื่อยพัง กระดูกก็ผุหมดแล้ว เหมือนเนื้อไม้ที่มอดเจาะกินหมดแล้ว ไม่มีเนื้อไม้จะอยู่ได้ วันนี้กระดูกก็อยู่ติดต่อทำงานไม่ได้ เนื้อหนังก็อยู่ทำงานไม่ได้ ถึงได้ลาวันนั้นเลย บรรลุวันนั้นก็ลานิพพานวันนั้นเลยนี่ก็มี

อย่างเป็นฆราวาสฟังธรรมแล้วไปลาไปหาผ้ากาสาวพัสตร์ ยังไม่ได้กลับมา พระองค์เห็นร่างกายตายอยู่แล้ว ก็ต้องทำศพให้อรหันต์ที่ยังไม่ได้บวชนั่นเอง บางองค์ฟังธรรมต่อหน้าพระผู้มีพระภาคเจ้าบรรลุแล้วยังไม่ได้เปลื้องเครื่องกษัตริย์ออกเลย ขอลานิพพานเลย เมื่อนมัสการพระองค์เจ็ดครั้งแล้วก็ขึ้นไปเผาอยู่บนอากาศโน่น แล้วอัฐิก็มาถวายพระพุทธเจ้าเหมือนอย่างมีวิญญาณ นี่ลอยมาอย่างนี้


..........เมื่อดูธรรมทั้งภายนอกและภายในแล้ว ไม่มีอะไรจะตายช้าจะตายเร็ว ไม่มีอะไรจะตายก่อนตายหลัง โลกุตตระไม่มีที่ตายหรอก จิตใจกับอริยมรรคสี่ อริยผลสี่ ถึงนิพพานหนึ่งแล้ว มรรคจิต ผลจิต วิมุติจิต

จิตวิมุติแล้วจะไม่มีใครมาตาย สัตวะไม่มีตาย มีแต่สัตว์อยู่ในกามภพ ในรูปภพ อรูปภพ สัตว์เหล่านี้ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย ส่วนพระอริยเจ้าไม่มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย เราจะไป เกิด แก่ เจ็บ ตายได้อย่างไร เกิดก็ไม่มี แก่ไม่มี เจ็บไม่มี ตายไม่มี

โลกุตตรธรรมชั้นสูงไม่มีตายไม่มีเกิด เรียกว่ามีแต่นิโรโธ นิโรธธรรม นิพพานธรรมนั่นเอง ส่วนสมุทัยสัจดับแล้วไม่มี ทุกขสัจดับแล้วไม่มี มรรคสัจดับแล้วไม่มี ส่วนนิโรธธรรมมีแล้วไม่หาย จึงได้มีแต่นิโรธธรรม นิพพานธรรม

ขอให้ชาวพุทธทั้งหลายได้เจริญพุทธคุณภายในและภายนอก ธรรมคุณภายในและภายนอก สังฆคุณภายในและภายนอก ให้จิตเราพ้นจากโลกียธรรม พ้นจากมนุษยธรรม เทวธรรม พรหมธรรม เข้าสู่โลกุตตรธรรม ให้ได้เสวยอริยมรรคสี่ อริยผลสี่ ให้เสวยวิมุติจิตเสีย ให้ไปพบปะนิโรธธรรม นิพพานธรรม โดยสวัสดี



ในระหว่างเราเกิดมายุคนี้ เราพบคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ธรรมะมีทางพระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิภกนี้ จูงจิตใจเราให้เข้าสู่พระนิพพานได้ทุกเมื่อทุกเวลา เว้นไว้แต่เราหลงลืมไปเท่านั้นเอง ที่หลงไปแล้วลืมไปแล้วเอาคืนไม่ได้ เราต้องทำตัวตนยังไม่ตายยังมีอยู่ มีอยู่ในตา ในหู ในจมูก ในลิ้น ในกาย ในใจนั่นเอง

เมื่อความเป็นอยู่ของชีวิตของกายและวาจาและจิตนี้ย่อมมีงานประจำ งานส่วนรวมก็คือทำไปในหมู่ในคณะ ไม่ให้ผิดธรรมไม่ให้ผิดวินัย ไม่ให้ผิดกฎของหมู่คณะรัฐบาลไทยและคณะสงฆ์ไทย เราก็ได้ทำไปตามหลักของรัฐบาลไทย คณะสงฆ์ไทยไป ส่วนจิตส่วนตัวเราก็ทำให้เข้ากรอบในพระวินัยของพระผู้มีพระภาคเจ้าในพระสุตตันตปิฎก ของพระวินัย ของพระอภิธรรม ของพระผู้มีพระภาคเจ้า

ภายนอกก็มีธรรมะ ภายในก็มีธรรมะ มีกฎเกณฑ์ให้เข้าหมู่ให้เข้าคณะกัน คือไม่ให้มีกาย วาจา ใจ เบียดเบียนกัน เราไม่มีเบียดเบียนภายนอก เราไม่เบียดเบียนภายใน ผลอันนั้นก็เป็นผลลัพธ์เข้ามาหาใจของเราเอง ได้รับผลเท่ากัน คือ ผลจากไม่มีกรรมไม่มีเวรนั่นเอง

กายกรรมไม่ได้ทำความชั่ว แล้วก็ไม่มีติดตามมา วจีกรรม มโนกรรมที่เป็นสัมมาทิฏฐิในมนุษยธรรม สัมมาทิฏฐิในเทวธรรม สัมมาทิฏฐิในพรหมธรรม สัมมาทิฏฐิในโลกุตตรธรรม นำไปสู่มรรค ผล นิพพาน






ชาวพุทธทั้งหลายได้มาเจริญปริยัติธรรม ปฏิบัติสัทธรรม ปฏิเวธสัทธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้า ให้เจริญขึ้นให้สมบูรณ์ไปโดยมนุษยธรรมสัมมาทิฏฐิ เทวธรรมสัมมาทิฏฐิ พรหมธรรมสัมมาทิฏฐิ ให้เนื่องไปไหลไปสู่โลกุตตรธรรมสัมมาทิฏฐิ

ให้ได้เจริญธรรมวินัยของพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยกายกรรม ๓ วจีกรรม ๔ มโนกรรม ๓ ด้วยอำนาจสัมมาทิฏฐิ ได้จูงจิตใจให้เข้าสู่ในคลองธรรม

ให้สมบูรณ์ไปด้วยโลกียธรรม โลกุตตรธรรม ให้ไหลไปเนื่องไปสู่อริยมรรค ๔ อริยผล ๔ ให้เจริญในมนุษยสมบัติ สวรรคสมบัติ พระนิพพานสมบัติ

พรหมทั้งหลาย มนุษย์ทั้งหลาย เทวดาทั้งหลายย่อมเคารพพระผู้มีพระภาคเจ้าและสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงได้เจริญพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ จูงจิตใจให้เข้าสู่ในมรรค ผล นิพพาน ให้เข้าสู่ในความไม่เกิดไม่ตาย

อย่าได้มาเวียนเกิดในกามภพ รูปภพ อรูปภพ เกิดที่ไหนเป็นทุกข์ที่นั่น ให้พ้นจากความเกิดความตาย โดยเข้าสู่ในธรรมะ โลกุตตรธรรม ให้เข้าสู่พระนิพพาน


ชาวพุทธทั้งหลายได้มาเจริญคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ สั่งสมให้ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีญาณ มีวิชชาโดยฉับพลัน ให้รู้ปริยัติธรรม ปฏิบัติธรรม ปฏิเวธธรรม โดยฉับพลัน

ขออำนาจแห่งคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ จูงจิตใจของพี่น้องชาวพุทธให้เข้าสู่ธรรมวินัยของพระผู้มีพระภาคเจ้า ให้เห็นความเกิดและความตายเป็นโทษ ให้เห็นความไม่เกิดและความไม่ตายเป็นคุณธรรมทั้งหลาย

ให้เห็นว่าตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจนี้เป็นเครื่องอาศัย เมื่อเครื่องอาศัยยังมีอยู่ ต้องอาศัยทำให้ถูกต้องธรรมวินัยของพระผู้มีพระภาคเจ้า

ผู้มีอธิศีล ศีลของจิตนี้มีอยู่แล้วย่อมมีความเบิกบานสำราญใจ ขอให้ศีลอันนี้รักษาจิตไว้อย่าให้หลงอย่าให้ลืม เมื่อมีศีลก็มีอธิจิต อธิจิตเป็นผู้เว้นจากบาปจากอกุศลแล้ว มั่นคงไม่มีบาปไม่มีอกุศล มีแต่บุญกุศลอย่างเดียว อธิปัญญา เป็นผู้ตรัสรู้ด้วยว่าศีลกับสมาธินี้ ย่อมมีอยู่ด้วยกันที่จิตเดียว ด้วยอำนาจกายนี้และจิตนี้ให้ทรงไว้ ซึ่งศีล ซึ่งสมาธิ ซึ่งปัญญา

ศีล-สมาธิ-ปัญญานี้แหละ จึงรักษาตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของชาวพุทธทั้งหลาย พระภิกษุ-สามเณรทั้งหลายจะได้ตาดี อุบาสก-อุบาสิกาตาดี หูดี เขาก็มีศีลรักษา มีสมาธิรักษา มีปัญญารักษาตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ให้พ้นจากบาป จากอกุศล

ให้รู้ธรรมของมนุษย์นี้มีอยู่ทั่วไปในตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ธรรมสมบัติของเทวดาก็มีอยู่ในตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของหมู่มนุษย์และเทวดาต่อกันได้ มีธรรมสมบัติของพรหมมีรูปฌาน ๔ อรูปฌาน ๔ เป็นสมบัติของพรหม

พรหมก็ไปติดต่อกับสัมมาทิฏฐิของมนุษยธรรม สัมมาทิฏฐิของเทวธรรม ของพรหมนี้จะได้เข้าสู่ในโลกุตตรธรรมสัมมาทิฏฐิ จะรู้ธรรมสมบัติของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นอริยมรรค ๔ อริยผล ๔ เป็นสมบัติ

เมื่อเลยอริยมรรค ๔ อริยผล ๔ เป็นผู้ที่เหนือเหตุเหนือผล เป็นผู้ที่เหนือเกิดเหนือตาย ไม่ต้องมาเป็นทุกข์เพราะเกิด ไม่ต้องมาเป็นทุกข์เพราะตาย อยู่กับจิต เจตสิก รูป นิพพาน ในธรรมะของพระผู้มีพระภาคเจ้าโดยมีสุขส่วนเดียว




ชาวพุทธทั้งหลายได้มาเจริญบารมีธรรมขั้นต้นตั้งแต่วิริยบารมีเป็นต้น เพื่อจะให้อบอุ่นตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ให้เข้าสู่บารมีธรรมไปถึงเมืองตรัสรู้ได้ ถ้ายังไม่ตรัสรู้เพียงใด จะทิ้งวิริยบารมีไม่ได้

และเชิญชวนชาวพุทธทั้งหลายตลอดถึงมนุษยธรรม เทวธรรม พรหมธรรม โลกุตตรธรรม ให้เจริญวิริยะให้มาก

เราพาตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจเข้าสู่บารมี ทศบารมี ทศอุปบารมี ทศปรมัตถบารมี ให้เต็มรอบเพียงใด เราจะได้พ้นจากภัยความเกิดและความตายนั่นเอง การเกิดเป็นทุกข์เราอย่าได้ถึงที่เกิดเลย ความตายเป็นทุกข์เราอย่าได้ถึงที่ตายเลย ขอให้ถึงธรรมะของพระผู้มีพระภาคเจ้า

ถึงแม้หมู่มนุษย์เขาก็ต้องมีธรรมะรักษาไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว พรหมธรรมในโลกทั้งหลาย เขาก็มีธรรมะรักษาไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว คือให้มีแต่บุญกุศลรักษาตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เข้าสู่ในแดนโลกุตตรธรรม

ให้เจริญในมรรค ๔ โดยสมบูรณ์ อริยผล ๔ โดยสมบูรณ์ ให้พ้นจากภัยความเกิดและความตาย อย่าได้มีความเกิดความตายติดตามไป

เพราะว่าอเนกชาติเราก็ได้ผ่านมาแล้ว เกิดแล้วไม่แล้วต้องตาย เป็นทุกข์ ตายเป็นทุกข์ ตายแล้วก็ไม่แล้วต้องเกิดเป็นทุกข์ ขอทุกข์อันนี้อย่าได้มีติดตาม อย่าได้ตามมาในตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ขอให้พ้นไป


..........ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ให้มีแต่ธรรมะของพระผู้มีพระภาคเจ้าปูสะพานให้อยู่ใน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ให้รู้อริยมรรค ๔ อริยผล ๔ โดยฉับพลัน ขออย่าได้มีความเวียนว่ายตายเกิดในอดีต อนาคต ปัจจุบันเลย

ขอให้พ้นไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ โดยฉับพลัน อย่าได้มีความเกิดเป็นทุกข์ อย่าได้มีความตายเป็นทุกข์ ให้เสวยแต่โลกุตตรธรรม โดยไม่เกิดไม่ตายนั่นเอง

เมื่อมีทุกข์เท่าไรก็หมดไปเท่านั้น เมื่อไม่มีเกิดก็ไม่มีทุกข์นั่นเอง เมื่อไม่มีตาย ก็ไม่มีทุกข์นั่นเอง



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


สร้างพระบรมรูปพ่อขุนศรีอินทราทิตย์และพ่อขุนผาเมือง ณ ทุ่งบางงา อ ท่าวุ้ง ลพบุรี
________________________________________
โทร 081 834 1338

ร่วมสร้างศาลาปฏิบัติธรรม วัดป่ากมโลฯ (หลวงพ่อทองปาน จารุวัณโณ) อ.วังสามหมอ อุดรธานี
โทร.๐๘๓-๑๔๐-๒๒๘๕


ขอเชิญร่วม บรรจุกรุพระรอด เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา องค์ล่ะ๙ บาท
๐๘๖-๖๗๒๗๘๒๐

รับบริจาคพระพุทธรูปสำหรับเป็นพระประธาน
โทร. ๐๘๖-๖๔๔๔๙๓๔


โครงการบูรณปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญ กับวัดพระธาตุศรีจอมทอง
http://www.watchomtong.org

ร่วมเป็นเจ้าภาพถวายมหาสังฆทาน และถวายผ้าอาบน้ำฝน วัดพิชยญาติการาม
โทร. 02-861-5425


ขอเชิญสร้างตึกสงฆ์อาพาธ
08-9850-0105

วันที่22กค2556 วัดท่าซุง ขอเชิญร่วมงานสร้างวิหารหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์
โทร 089-6589939

ขอเชิญร่วมทำบุญจองเป็นเจ้าภาพสร้างดาวประดับฟ้าเพดานศาลาการเปรียญ
โทร. 084 – 7972215

เป็นเจ้าภาพจัดซื้อหิน ปรับปรุงที่ดินโดนน้ำขัง จำนวน ๕ ลำรถ
โทร ๐๘๓-๑๑๔๓๖๘๑

(ปิดรับ 26 ก.ค) ร่วมบริจาคเงินซื้อไฟฉาย กระบอกละ 45 บาท ถวายแด่พระกรรมฐาน 45 รูป
085-361-4989

ขอเชิญร่วมปิดทองคำถวายสมเด็จองค์ปฐม (หน้าตัก 4 ศอก) วัดช่างเคี่ยน จ. เชียงใหม่ (21 ก.ค. 56)
โทร. 081-5682612

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีถวายเทียนพรรษา ๙ วัด และสมทบทุนสร้างอุโบสถ
________________________________________
และอุปสมบทนาคเพื่อสมทบทุนสร้างอุโบสถ ทอดถวาย ณ วัดหนองหมี ต.หนองหมี อ.กุดชุม จ.ยโสธร

หากท่านใดสนใจ สามารถร่วมบุญได้ถึงวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖


จัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์ มงคลภาวนาธรรม
087-6320232

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพพิมพ์หนังสือธรรมะ สู้ไม่ถอย ของ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
สามารถบริจาคโดยตรงที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี


ร่วมทำบุญ บริจาคเข้ามูลนิธิเสียงธรรมเพื่่อประชาชน ขององค์หลวงตามหาบัว
โทร. 042-214114

บุญด่วนเจ้าภาพสร้างพระไตรปิฎกพร้อมตู้ พระอภิธรรมพร้อมตู้ รอบปี56 ครั้งที่6
080-7761240


ขอเชิญร่วมงานมหากุศล อุปสมบทหมู่ ครั้งที่ 36
13-15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ณ วัดป้อมแก้ว
จัดโดย ยุวสมาคมแห่งประเทศไทย เจ ซี สมุทรสงคราม
085-198-0052

เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบวชพระเข้าพรรษาวัดบ้านห้วยน้ำขาว จ.กาญจนบุรี
________________________________________
โทร.๐๘๘-๙๙๕-๖๕๙๕

ต้องการจิตอาสาสอนการบ้านนักเรียนตาบอดที่โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ
________________________________________
จันทร์-ศุกร์ เวลา 15.00 น - 18.00 น นักเรียนอยู่ในระดับชั้น ม.1-ม.6 หนังสือเรียนเหมือนเด็กปกติทั่วไป


ขอเชิญร่วมงานมุทิตาสักการะ หลวงปู่แตงอ่อน กลฺยาณธมฺโม
081-2856834

ร่วมบริจาคทาน ถวายเทียนพรรษาและเครื่องอัฐบริขาร
พักสงฆ์พรหมรังศรี 149 หมู่ 2 ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี
ในวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2556
089-1724662


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Bing [Bot] และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO