นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 03 พ.ค. 2024 12:03 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 29 มิ.ย. 2013 8:01 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4546
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อาราม

ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล เป็นเวลาเช้า

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงครองอันตรวาสกแล้ว ทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้า

ไปบิณฑบาตยังพระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล อัคคิกภารทวาชพราหมณ์ก่อไฟ

แล้วตกแต่งของที่ควรบูชา อยู่ในนิเวศน์ ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า

เสด็จเที่ยวบิณฑบาตตามลำดับตรอก ในพระนครสาวัตถี เสด็จเข้าไปยังนิเวศน์

ของอัคคิกภารทวาชพราหมณ์ อัคคิกภารทวาชพราหมณ์ได้เห็นพระผู้มีพระ-

ภาคเจ้าเสด็จมาแต่ไกลทีเดียว ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า หยุด

อยู่ที่นั่นแหละคนโล้น หยุดอยู่ที่นั่นแหละสมณะ หยุดอยู่ที่นั่นแหละคนถ่อย.

เมื่ออัคคิกภารทวาชพราหมณ์กราบทูลอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้า

ได้ตรัสถามว่า ดูก่อนพราหมณ์ ก็ท่านรู้จักคนถ่อย หรือธรรมเป็นเครื่อง

กระทำให้เป็นคนถ่อยหรือ ?

อ. ท่านพระโคดม ข้าพเจ้าไม่รู้จักคนถ่อยหรือธรรมเป็นเครื่องกระทำ

ให้เป็นคนถ่อย ดีละ ขอท่านพระโคดมจงแสดงธรรมตามที่ข้าพเจ้าจะพึงรู้จัก

คนถ่อยหรือธรรมเป็นเครื่องกระทำให้เป็นคนถ่อยเถิด.

พ. ดูก่อนพราหมณ์ ถ้าอย่างนั้น ท่านจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจัก

กล่าว อัคคิกภารทวาชพราหมณ์ทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พระผู้มีพระ-

ภาคเจ้าได้ตรัสพระคาถาประพันธ์นี้ว่า

๑. คนมักโกรธ ผูกโกรธ

ลบหลู่อย่างเลว มีทิฏฐิวิบัติ และมีมายา

พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๒. คนผู้เบียดเบียนสัตว์ที่เกิดหน-

เดียว แม้หรือเกิดสองหน ไม่มีความเอ็นดู

ในสัตว์ พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๓. คนเบียดเบียน เที่ยวปล้น มี

ชื่อเสียงว่า ฆ่าชาวบ้านและชาวนิคม พึงรู้

ว่าเป็นคนถ่อย.

๔. คนลักทรัพย์ที่ผู้อื่นหวงแหน

ไม่ได้อนุญาตให้ ในบ้านหรือในป่า พึงรู้

ว่าเป็นคนถ่อย.

๕. คนที่กู้หนี้มาใช้แล้วกล่าวว่า หา

ได้เป็นหนี้ท่านไม่ หนีไปเสีย พึงรู้ว่าเป็น

คนถ่อย.

๖. คนฆ่าคนเดินทาง ชิงเอาสิ่งของ

เพราะอยากได้สิ่งของ พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๗. คนถูกเขาถามเป็นพยาน แล้ว

กล่าวคำเท็จ เพราะเหตุแห่งตนก็ดี เพราะ

เหตุแห่งผู้อื่นก็ดี เพราะเหตุแห่งทรัพย์ก็ดี

พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๘. คนผู้ประพฤติล่วงเกิด ในภริยา

ของญาติก็ตาม ของเพื่อนก็ตาม ด้วยข่มขืน

หรือด้วยการร่วมรักกัน พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๙. คนผู้สามารถ แต่ไม่เลี้ยงมารดา

หรือบิดาผู้แก่เฒ่าผ่านวัยหนุ่มสาวไปแล้ว

พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๑๐. คนผู้ทุบตีด่าว่ามารดาบิดาพี่-

ชายพี่สาว พ่อตาแม่ยาย แม่ผัวหรือพ่อผัว

พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๑๑. คนผู้ถามถึงประโยชน์ บอก

สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ พูดกลบเกลื่อนเสีย

พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๑๒. คนทำกรรมชั่วแล้ว ปรารถนา

ว่าใครอย่าพึงรู้เรา ปกปิดไว้ พึงรู้ว่าเป็น

คนถ่อย.

๑๓. คนผู้ไปสู่สกุลอื่นแล้ว และ

บริโภคโภชนะที่สะอาด ย่อมไม่ตอบแทน

เขาผู้มาสู่สกุลของตน พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๑๔. คนผู้ลวงสมณะ พราหมณ์

หรือแม้วณิพกอื่น ด้วยมุสาวาท พึงรู้ว่าเป็น

คนถ่อย.

๑๕. เมื่อเวลาบริโภคอาหาร คนผู้ด่า

สมณะหรือพราหมณ์และไม่ให้โภชนะ พึงรู้

ว่าเป็นคนถ่อย.

๑๖. คนในโลกนี้ ผู้อันโมหะครอบ-

งำแล้ว ปรารถนาของเล็กน้อย พูดอวดสิ่ง

ที่ไม่มี พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๑๗. คนเลวทราม ยกตนและดูหมิ่น

ผู้อื่น ด้วยมานะของตน พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๑๘. คนฉุนเฉียว กระด้าง มีความ

ปรารถนาลามก มีความตระหนี่ โอ้อวด

ไม่ละอาย ไม่สะดุ้งกลัว พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๑๙. คนติเตียนพระพุทธเจ้า หรือ

ติเตียนบรรพชิต หรือ คฤหัสถ์ สาวกพระ-

พุทธเจ้า พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๒๐. ผู้ใดแลไม่เป็นพระอรหันต์ แต่

ปฏิญาณว่าเป็นพระอรหันต์ ผู้นั้นแลเป็นคน

ต่ำช้า เป็นโจรในโลกพร้อมทั้งพรหมโลก

คนเหล่าใด เราประกาศแก่ท่านแล้ว คน

เหล่านั้นนั่นแล เรากล่าวว่าเป็นคนถ่อย.

บุคคลไม่เป็นคนถ่อยเพราะชาติ ไม่

เป็นพราหมณ์เพราะชาติ แต่เป็นคนถ่อย

เพราะกรรม เป็นพราหมณ์เพราะกรรม ท่าน

จงรู้ข้อนั้น ตามที่เราแสดงนี้ บุตรของคน

จัณฑาลเลี้ยงตัวเองได้ ปรากฏชื่อว่ามาตังคะ

เป็นคนกินของที่ตนให้สุกเอง เขาได้ยศ

อย่างสูงที่ได้แสนยาก กษัตริย์และพราหมณ์

เป็นอันมากได้มาสู่ที่บำรุงของเขา เขาขึ้น

ยานอันประเสริฐ ไปสู่หนทางใหญ่อันไม่มี

ฝุ่น เขาสำรอกกามราคะเสียได้แล้ว เป็นผู้

เข้าถึงพรหมโลก ชาติไม่ได้ห้ามเขาให้เข้า

ถึงพรหมโลก พราหมณ์เกิดในสกุลผู้สาธ-

ยายมนต์ เป็นพวกร่ายมนต์ แต่พวกเขา

ปรากฏในบาปกรรมอยู่เนือง ๆ พึงถูก

ติเตียนในปัจจุบันทีเดียว และภพหน้าก็เป็น

ทุคติ ชาติห้ามกันพวกเขาจากทุคติหรือจาก

ครหาไม่ได้ บุคคลไม่เป็นคนถ่อยเพราะชาติ

ไม่เป็นพราหมณ์เพราะชาติ แต่เป็นคนถ่อย

เพราะกรรม เป็นพราหมณ์เพราะกรรม.

เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว อัคคิกภารทวาช-

พราหมณ์ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของ

พระองค์แจ่มแจ้งนัก ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก

พระองค์ทรงประกาศธรรม โดยอเนกปริยาย เปรียบเหมือนหงายของที่คว่ำ

เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือตามประทีปไว้ในที่มืด ด้วยหวัง

คนมีจักษุจักเห็นรูปได้ ฉะนั้น ข้าพระองค์ขอถึงพระองค์กับทั้งพระธรรมและ

พระภิกษุสงฆ์เป็นสรณะ ขอพระองค์ทรงจำข้าพระองค์ว่า เป็นอุบาสกผู้ถึง

สรณะตลอดชีวิตจำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป.

เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 11 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO