นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 03 พ.ค. 2024 5:00 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 20 มิ.ย. 2013 9:04 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4546
การบรรลุธรรมของวักกลิ

ท่านวักกลิเป็นคนที่มีราคะจริตและโมหะจริต คือเป็นคนหลงในความสวยงามเห็นอะไรก็มักชื่นชมหลงใหลไร้เหตุผลในการพิจารณาเอาแต่อารมณ์ของตนเป็นใหญ่ เมื่อท่านได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้าได้เห็นพระวรกายอันสง่างามของพระองค์ก็เกิดความรัก...ใคร่และชื่นชมอยากจะได้พบเห็นพระองค์อยู่ตลอดเวลา จึงตัดสินใจออกบวชด้วยหวังว่า ถ้าบวชแล้วจะได้อยู่ใกล้ชิดและได้ติดตามพระผู้มีพระภาคเจ้าไปได้ทุกที่จะได้เห็นพระองค์อยู่ตลอดเวลา

เมื่อท่านบวชแล้วพระผู้มีพระภาคเจ้าจะเสด็จไปในที่ใดก็ตามท่านก็จะตามไปทุกที่ เพื่อจะได้เฝ้าดูพระองค์ จนพระพุทธเจ้าต้องคอยตักเตือนท่านอยู่บ่อย ๆ ว่า

“วักกลิ เธออย่างมาดูร่างกายอันเน่าเปื่อยของเราอยู่เลย หาประโยชน์อะไรมิได้ วักกลิ ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นชื่อว่าเป็นตถาคต ผู้ใดเห็นตถาคตผู้นั้นชื่อว่าเห็นธรรม”

แม้พระผู้มีพระภาคเจ้าจะทรงแนะนำห้ามปรามพระวักกลิสักเท่าใดก็ตาม ท่านก็ยังคงเฝ้าติดตามพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่ตลอดเวลาหาเชื่อฟังไม่ จนในวันหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเห็นว่าเป็นเวลาอันสมควรแล้วที่จะสอนให้ท่านได้บรรลุธรรม จึงทำทีขับไล่พระวักกลิให้ออกไปให้พ้นอย่ามาเฝ้าดูพระองค์อีก พระวักกลิถูกพระผู้มีพระภาคเจ้าขับไล่เช่นนั้นก็เกิดความน้อยใจและเสียใจเป็นอย่างมาก ได้เดินออกจากวัดเวฬุวันไปยังเขาคิฌชกูฏเพื่อกระโดดเขาหวังให้ตายลงไป ในขณะที่ท่านกำลังโดดเขานั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงปรากฏกายให้พระวักกลิเห็นพร้อมทั้งเหยียดพระกรให้พระวักกลิจับ และตรัสปลอบใจว่า

“มาเถิดวักกลิ เธออย่าได้กลัวเลย เธอจงแลดูตถาคต

เราจักยกเธอเหมือนดังควาญช้างยกช้างขึ้นจากเปือกตม

มาเถิดวักกลิ เธออย่าได้กลัวเลย เธอจงแลดูตถาคต

เราจักยกเธอผู้เปรียบดังพระจันทร์อันราหูจับแล้วนั้นขึ้นเอง”

พระวักกลิเมื่อได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าอีกครั้ง ด้วยความรักที่มีต่อพระองค์และเมื่อได้รับการปลอบใจด้วยถ้อยคำอันหวานก็หายน้อยใจและเกิดความปีติใจขึ้นมาแทนที่ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงแสดงธรรมสอนให้ท่านพิจารณาว่า

“อันภิกษุผู้มากด้วยความปราโมทย์เลื่อมในแล้วในพระพุทธศาสนา

บรรลุแล้วซึ่งบทอันสงบย่อมเขาไปสงบแห่งสังขารอันเป็นสุข”

ท่านวักกลิได้พิจารณาไปตามคำสอนของพระพุทธองค์ ในที่สุดท่านก็ได้บรรลุอรหัตตผล ณ ที่เชิงผานั่นเอง

ข้อพิจารณา

๑.ผู้ที่ต้องพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักย่อมได้รับทุกข์โทมนัสเป็นอันมากจนสามารถทำร้ายตัวเองได้ แม้ว่าความตายจะเป็นสิ่งที่ทุกคนกลัวที่สุดในชีวิตก็ตาม แต่เพราะความทุกข์ที่เกิดจากความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักนั้น สำหรับสายตาของคนอื่นอาจมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ คิดว่าไม่เห็นจะต้องทุกข์มากถึงขั้นต้องฆ่าตัวตายเลย ตัวอย่างเช่น บางคนอกหักเพราะถูกคนรักตีจากไป บางคนผิดหวังเพราะธุรกิจล้มเหลวต้องสินเนื้อประดาตัว นักเรียนบางคนที่เคยเรียนเก่งได้เกรดดีมาตลอดแต่ต้องผิดหวังกับเกรดที่ลดลง บางคนเหล่านี้เมื่อประสบกันสิ่งนั้น ๆ แล้วถึงขั้นตัดสินใจฆ่าตัวตาย แต่บางคนประสบกับสิ่งเดียวกันนี้กับมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาจะเสียใจก็แค่เพียงเล็กน้อยไม่นานก็จะหายจากความเสียใจนั้นได้ ที่เป็นเช่นนี้เพราะความรู้สึกผูกผันอันเป็นความรัก ความหวัง และความปรารถนาในสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นไม่เท่าเทียมกัน ผู้ที่รักมาก หวังมาก ปรารถนามาก แม้สิ่งนั้น ๆ จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยในสายตาคนอื่น แต่สำหรับคนบางคนแล้วมันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตจนสามารถตัดสินใจทำร้ายตัวเองได้เมื่อต้องพลัดพราก หรือผิดหวังจากสิ่งเหล่านั้น

ในทางกลับกัน ผู้ที่กำลังจะพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ถ้าได้รับสิ่งนั้นกลับคืนมาย่อมรู้สึกดีใจ ปราโมทย์ใจเป็นที่สุด ลืมความทุกข์ที่เคยเกิดขึ้นและสามารถจะทำอะไรก็ได้ถ้าคนที่รักนั้นต้องการให้ทำ เพื่อแลกกับการกลับมาอีกครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเข้าใจถึงความรุ้สึกอันนี้เป็นอย่างดี พระองค์จึงใช้วิธีนี้กับพระวักกลิ เพื่อทำให้พระวักกลิรู้สึกเสียใจที่ต้องพลัดพรากจากพระองค์อันเป็นที่รักที่สุดในชีวิต เมื่อเห็นท่านเสียใจจนคิดฆ่าตัวตาย พระองค์ก็ทรงเข้าไปปลอบโยน ทำให้พระวักกลิเกิดความปราโมทย์ใจ ยินดีเป็นที่สุด ความปีติใจ นั่นเองเป็นอุบายที่ช่วยให้พระวักกลิได้บรรลุธรรม

๒.พระผู้มีพระภาคเจ้าสอนว่า “ความรักคือความทุกข์” เพราะถ้ารักย่อมต้องกลัวสูญเสียความรัก จึงต้องดิ้นรนในการรักษาของรักนั้น อันนี้เป็นทุกข์ในเบื้องต้น และจะทุกข์มากเป็นที่สุดเมื่อต้องพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักนั้น จนสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ทุกอย่างแม้แต่การฆ่าตัวตาย อนุสรณ์สถานที่แสดงถึงความรักที่มีต่อสิ่งอันเป็นที่รักมีปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วโลก เช่น ปราสาททัชมาฮาลในประเทศอินเดีย อันได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกก็เกิดจากอิทธิพลแห่งความรัก อนุสาวรีย์หลายแห่งเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่เกิดจากความรักที่คนเรามีต่อสิ่งนั้น ๆ แม้แต่วัดหลายแห่งในประเทศไทยก็เป็นวัดที่เป็นอนุสรณ์แห่งความรัก เช่น วัดราชนัดดา เป็นต้น เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงสอนให้ภิกษุทั้งหลายให้พิจารณาอยู่เนื่อง ๆ ว่า “เรามีความพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักเป็นธรรมดา” ไม่อยากทุกข์เพราะรักก็อย่าไปรัก

สมัยหนึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี พระองค์ได้ตรัสเรียกพระภิกษุสงฆ์ทั้งปวงมาประชุมพร้อมกันแล้ว จึงทรงมีพระมหากรุณาตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า
ดูกรเธอผู้เห็นภัยในวัฏสงสารทั...้งหลาย! ครั้งหนึ่งเมื่อแรกตรสรู้เราตถาคตอยู่ที่ควงไม้อชปาลนิโครธ ใกล้ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ณ ตำบลอุรุเวลา เมื่อเราตถาคตหลีกเร้นอยู่ผุ้เดียวในที่่นั้น ได้เกิดความคิดขึ้นในใจอย่างนี้ว่า

ทางนี้เป็นเอกายนมรรค คือเป็นมรรคาทางเป็นที่ไปอันเอก
- เพื่อความบริสุทธิ์แห่งสัตว์ทั้งหลาย
- เพื่อก้าวล่วงความโศกและความร่ำไร
-เพื่อความดับสูญแห่งทุกข์และโทมนัส
- เพื่อบรรลุญายธรรม
- เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง

ทางที่เป็นไปอันเอกนี้ คือสติปัฏฐาน ๔ ประการ
สติปัฏฐาน ๔ ประการเป็นไฉน?
สติปัฏฐาน ๔ ประการ คือ
๑. ผู้เห็นภัยในวัฏสงสารพิจารณาเห็นกายในกายอยู่
๒. ผู้เห็นภัยในวัฏสงสารพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาั้งหลายอยู่
๓. ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร พิจารณาเห็นจิตใตจิตอยู่
๔. ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร พิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่
โดยเป็นผู้มีความเพียร มีสัมปชัญญะมีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสเสียได้ เอกายนมรรคนี้ย่อมเป็นทางเป็นที่ไปอันเอก เพื่อความบริสุทธิ์แห่งสัตว์ทั้งหลาย เพื่อก้าวล่วงความโศกและความร่ำไร เพื่อความดับสูญแห่งทุกขโทมนัส เพื่อบรรลุญายธรรม เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง เอกายนมรรคนี้คือสติปัฏฐาน ๔ ดังนี้
ดูกรเธอผู้เห็นภัยในวัฏสงสารทั้งหลาย! ทีนั้นแล ท้าวสหัมบดีพรหมรู้ความในใจของเราตถาคต จึงหายตัวจากพรหมโลกมาปรากฏเบื้องหน้าเราในขณะนั้นทันที มีอุปมาดุจบุรุษผู้มีกำลังเหยียดแขนที่คู้ หรือคู้แขนที่เหยียดเท่านั้น แล้วสหัมบดีพรหมก็กระทำผ้าเฉวียงบ่าข้างหนึ่งประนมหัตถ์มาทางเราตถาคต แล้วได้มีพรหมวาทีว่า

"ข้าแต่พระองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาค! กรณีนี้ย่อมเป็นเช่นนั้น ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ! เอกายนมรรคนี้ เป็นทางเป็นไปที่อันเอกเพื่อความบริสุทธิ์แห่งสัตว์ทั้งหลายเพื่อก้าวล่วงความโศกและความร่ำไร เพื่อความดับสูญแห่งทุกข์และโทมนัส เพื่อบรรลุญายธรรม เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้งจริงแล้ว พระเจ้าข้า" ดังนี้


อริยบัณฑิต ย่อมพิจารณามรรคผล - นิพพาน เฉพาะท่านที่มีปัญญา ย่อมพิจารณากิเลสที่ตนละได้และกิเลสที่ยังเหลืออยู่

ส่วนท่านที่ไม่ได้ศึกษาย่อมไม่พิจารณาเพราะตนไม่มีความรู้ แต่ว่าทำการกำหนดในบทพระกรรมฐานต่อไป




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาสร้างศาลาบำเพ็ญกุศล
087-0478532


เป็นเจ้าภาพสร้างศาลาปฏิบัติธรรม
088-2013956

ขอเชิญทุกท่านร่วม
สร้างพระพุทธกึ่งพุทธกาล
ณ วัดป่าภูสิงห์น้ำทิพย์
091-518-1961


วันที่ 7 กค. 56 ร่วมส่งพระประธาน 16 องค์ไป 15 วัด 1 โรงเรียน
089-797-3317


หาเจ้าภาพอุปถัมป์สร้างช่อฟ้าเเละหน้าบรรณ"วิหารพระพุทธเจ้าสามกาล"
โทร 086-8032001


เชิญร่วมหล่อพระประธาน ณ วัดนาคปรก
ปางมารวิชัย หน้าตัก 4 ศอก (2เมตร) เพื่อนำไปเป็นพระประธานของวัดสิริมงคล จ.ร้อยเอ็ด ในวันที่ 30 มิ.ย. 2556 ณ วัดนาคปรก อ.ภาษีเจริญ กทม. เริ่มพิธีพราห์มเวลา 15.00 น. พิธิหล่อพระ 16.00 น


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ อาสนะที่นั่งพระสงฆ์ และ หมอนอิงพร้อมผ้าปูอาสนะสงฆ์หรือบริจาคตามกำลังศรัทธา
ณ วัดปางค่า ต.ไชยสถาน อ.เมือง จ.น่าน
โทร 0861858116


ขอเชิญร่วมถวายปัจจัยสร้างกุฎิวัดปางค่า ต.ไชยสถาน อ.เมือง จ.น่าน
โทร 0861858116

ร่วมบุญมหากุศลสร้างพระพุทธเมตตามหาโพธิญาณ ได้ที่

คุณสมบุญ ว่องพิบูลย์ 084-0935817



ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีสร้างพระอัครสาวก ที่วัดซับพลู

เชิญร่วมบุญพิมพ์หนังสือธรรมะองค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
https://www.facebook.com/watpabaantaad.luangta?fref=ts


เชิญบวชเนกขัมมะถวายเป็นพระราชกุศล
ในวันพฤหัสบดีที่ 27 ถึงวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2556
ท่านใดสนใจติดต่อได้ที่ 0889956595


เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพจัดสร้างน้ำดื่มให้กับผู้ยากไร้
0813563564
ขอเจริญศรัทธา รับเจ้าภาพถวายอาสนะพระอุปัชฌาย์ ๑๐ ชุด

088-2013956


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO