นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 1:54 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 17 มิ.ย. 2013 6:55 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4549
เราค่อยๆคลายพันธนาการ ที่เป็นเครื่องเกี่ยวใจ
...ให้ออกไปทีละน้อย ทีละน้อย ใจก็จะเบา
...จะปล่อย จะละ จะวาง มันก็ง่าย
""""จะไปยึดไว้ทำไม..มันมีแต่ของชั่วคราว""""
""""ปล่อยมากได้มาก ปล่อยน้อยได้น้อย"



ค่ามีที่ตรงไหน
ค่ากระดาษ แผ่นหนึ่ง ไม่ถึงสตางค์
พอวาดวาง ด้วยอักษร ประเสริฐศรี
มีเนื้อหา แห่งพระธรรม คำดี ๆ
มันกลับมี ค่าอนันต์ เหลือพรรณนา

... เพียงกระดาษ ลายเซ็น เป็นที่ระลึก
คนโง่ยึก แย่งกัน ซื้อสรรหา
ส่วนผู้ฉลาด มาตร์ใหญ่ ใฝ่ธรรมา
แผ่นกระดาษ สูงค่า มาเพราะธรรม

แม้กระดาษ ห่อของ ตรองดูเถิด
ค่ามันเกิด เพราะอะไร ไยมิขำ
แม้กายเน่า ที่คู่เคล้า เฝ้าลูบคลำ
เมื่อมีธรรม ก็หมดเน่า ไม่เศร้าเอย


ธรรมะในดอกบัว... บานตามเหตุปัจจัย... ร่วงโรยไปตามเหตุปัจจัย.ไม่มีใครเป็นเจ้าของ
สิ่งใดจริงตั้งอยู่ด้วยเหตุ... ดับไปด้วยเหตุ.. ฉะนั้นแล


บุญ และ บาป..
...บุญเป็นของเบา...บาปเป็นของหนัก
...ถ้าผู้ใดยึดไว้ มีค่าไม่ต่างกัน...
"""ต้องวนอยู่ในวัฏสงสารเช่นเดียวกัน


ยึดไว้ไม่ได้ทั้งบาปและบุญเพราะเป็นปัจจัยให้เวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏฏ์ เหมือนกัน


ทุกชีวิตมีเวลาอันจำกัด จงอย่าช้ารีบเร่งทำ
ความดี อย่าประมาทคิดว่าจะไม่ตาย เพราะ
ความตายไม่ได้บอกเวลา

ไม่มีอะไรที่น่ารัก ไม่มีอะไรที่น่าเกลียด
ไม่มีอะไรที่น่าหวัง
ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามสภาพธรรมดา
คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
เมื่อถึงคราวเกิดมันก็เกิด เมื่อถึงคราวดับมันก็ดับ
ไม่มีใครทำให้มันเกิด ไม่มีใครทำให้มันดับ


การเบื่อโลก การรู้ทุกข์เป็นสิ่งดี
แต่เบื่อแล้วจิตเศร้าหมองใช้ไม่ได้
ต้องปล่อยวาง รู้อุเบกขา


ความจริงโลกมันก็เป็นธรรมดาของมันอย่าง
นั้นที่ต้องมีด้านบวกและด้านลบ แต่เราไปบ้า
กับมันเอง สิ่งที่ธรรมดามันก็เลยกลายเป็นสิ่งที่
ไม่ธรรมดา สิ่งที่ธรรมดามันก็เลยมาทำให้เรา
เป็นทุกข์ ที่เราเป็นทุกข์เพราะเราไม่
เข้าใจสภาพความเป็นจริงของมัน ถ้าหา...กเรา
เข้าใจสภาพความเป็นจริงของมัน
แล้วปล่อยวางเสีย มันก็หมดเรื่อง ก็โลกมันก็
เป็นของมันอย่างนั้นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ไปทุกข์กับมันทำไม มันขึ้นของมันอย่างนั้น
มันลงของมันอย่างนั้น มันเจริญของมันอย่าง
นั้น แล้วมันก็เสื่อมของมันอย่างนั้น ที่เรา
เป็นทุกข์เพราะเราไปยึดมั่นถือมั่นมันเอง

ภิกษุ ท.! ในบรรดาผ้าที่ทอด้วยสิ่งที่เป็นเส้น ๆ
กันแล้ว ผ้าเกสกัมพล(ผ้าทอด้วยผมคน) นับว่า
เป็นเลวที่สุด.ผ้าเกสกัมพลนี้ เมื่ออากาศหนาว
มันก็เย็นจัด, เมื่ออากาศร้อน มันก็ร้อนจัด. สีก็
ไม่งามกลิ่นก็เหม็น เนื้อก็กระด้าง;ข้อนี้เป็นฉันใด,

... ภิกษุ ท.! ในบรรดาลัทธิต่าง ๆของเหล่าปุถุสม
ณะแล้วลัทธิมักขลิวาท นับว่าเป็นเลวที่สุด ฉัน
นั้น.ภิกษุ ท.! มักขลิโมฆบุรุษนั้น มีถ้อยคำ
และหลักความเห็นว่า“กรรมไม่มี, กิริยาไม่มี,
ความเพียรไม่มี” (คือในโลกนี้ อย่าว่าแต่จะมีผ
ลกรรมเลยแม้แต่ตัวกรรมเองก็ไม่มี, ทำอะไรเท่า
กับไม่ทำ.กิริยาและความเพียรก็นัยเดียวกัน)

ภิกษุ ท.! แม้พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั
้งหลาย ที่เคยมีแล้วในอดีตกาลนานไกล
ท่านเหล่านั้น ก็ล้วนแต่เป็นผู้กล่าวว่า มีกรรม
มีกิริยามีวิริยะ. มักขลิโมฆบุรุษย่อมคัดค้านพระอร
หันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ว่าไม่มีกรรม ไม่มีกิริยา
ไม่มีวิริยะ ดังนี้.

ภิกษุ ท.! แม้พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั
้งหลาย ที่จักมีมาในอดีตกาลนานไกลข้างหน้า
ท่านเหล่านั้นก็ล้วนแต่เป็นผู้กล่าวว่า
มีกรรมมีกิริยา มีวิริยะ. มักขลิโมฆบุรุษย
่อมคัดค้านพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเหล่านั้น
ว่า ไม่มีกรรม ไม่มีกิริยา ไม่มีวิริยะ ดังนี้.

ภิกษุ ท.! ในกาละนี้ แม้เราเองผู้เป็
นอรหันตสัมมาสัมพุทธะก็เป็นผู้กล่าวว่า มีกรรม
มีกิริยา มีวิริยะ.มักขลิโมฆบุรุษย่อมคัดค้านเราว่า
ไม่มีกรรม ไม่มีกิริยา ไม่มีวิริยะ ดังนี้.ภิกษุ ท.!
คนเขาวางเครื่องดักปลาไว้ที่ปากแม่น้ำ ไม่
ใช่เพื่อความเกื้อกูล, แต่เพื่อความทุกข์
ความวอดวายความฉิบหาย แก่พวกปลาทั้งหล
ายฉันใด; มักขลิโมฆบุรุษเกิดขึ้นในโลก
เป็นเหมือนกับผู้วางเครื่องดักมนุษย์ไว้ ไม่ใช่เพื่อ
ความเกื้อกูล,แต่เพื่อความทุกข์ความวอดวาย
ความฉิบหาย แก่สัตว์ทั้งหลายเป็นอันมาก ฉัน
นั้น.-------------------------------------



ทุกๆ วันคนเราจะทำบุญทำบาป สลับกันไป เช่นตอนเช้า ตักบาตร ซึ่งถือว่าเป็นบุญ พอไปถึงที่ทำงาน ก็ทำให้อารมณ์เสีย กับเพื่อนร่วมงาน กับลูกน้อง กับเจ้านาย ซึ่งเป็นตัวบาป พอเลิกงานขับรถกลับบ้าน มีรถมาปาดหน้า ก็นึกสบถขึ...้นมา ด่าเขา ก็เป็นบาป พอถึงบ้าน เห็นหน้าลูก หน้าเมีย หน้าสามี ทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง จิตใจชุ่มชื่น ก็เป็นบุญ พอสักพัก ลูกเปิดเพลง เสียงดัง หยอกล้อกันเสียงดัง ก็ด่าลูกไป ก็เป็นบาป พอก่อนนอน ไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ ก็เป็นบุญ
......... ดังนั้นจะเห็นว่า วันๆหนึ่ง เราจะทำบุญ ทำบาป สลับกันไปทุกวัน ถ้าตราบใด ยังตามกิเลสอารมณ์ ดูจิตไม่ทัน ยังทำตามกิเลสอยู่มาก เราก็จะได้บาปมากกว่าบุญ พอมาหักลบกลบหนี้กัน อาจจะมีบาป มากกว่าบุญ แต่ถ้าบางคน ทำบุญใหญ่ ทำบาปเล็กน้อย ก็อาจจะมีบุญมากกว่าบาป แต่ขึ้นชื่อว่าบาป ก็ทำให้จิตใจหมองหม่นได้ ไม่ทำเสียดีกว่า ดังนั้น อย่าตามใจกิเลสของเราให้มากนัก เพราะกิเลสของมนุษย์นั้นมากกว่า แม่น้ำ มหาสมุทรเสียอีก ดังธรรมะ จากหลวงปู่ทวดกล่าวไว้

"แม่น้ำทะเล และมหาสมุทร ไม่มีที่สิ้นสุดของน้ำ ฉันใด กิเลสตัณหาของมนุษย์ก็ย่อมไม่มีที่สิ้นสุด ฉันนั้น"



ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ยังต้องอยู่ใต้ฝ่า
เท้ามนุษย์ ที่ไม่ละ "ความเพียร" ….


เมื่อวันที่เราหมด ‘ ลมหายใจ ‘
สิ่งที่เขาจำได้ ไม่ใช่แค่ ‘ หน้าตา ‘
แต่มันคือ ‘ ความดี ‘ ที่มีคุณค่า
แม้แต่กาลเวลา ก็มิอาจพามันหายไป

เราต่างก็มี ‘อดีตที่พลาดพลั้ง‘ ทั้งนั้น
แต่เรา ‘เลือกได้‘
ว่าจะใช้มันเพื่อ ‘ตอกย้ำ‘ หรือเพื่อ ‘เตือนใจ‘ ตัวเอง

จิตคนเราเหมือนแมงมุมที่พ่นใย
เพื่อสร้างใยแมงมุมขึ้น
จากความไม่มีอะไร
แล้วแมงมุมก็ติดอยู่ในใย
ที่ตัวเองสร้างเอง

ธรรมะจะเกิดประโยชน์สูงสุดได้ ก็เมื่อน้อมนำไปประพฤติปฏิบัติ
จนสามารถถอดถอนความทุกข์ออกจากจิตใจได้จริงๆ



เชื่อคนอื่นมาก็เยอะแล้ว..
ทั้งหมอดู...หมอเดา
ผีเจ้า...เข้าทรง..
เซียมซี..หมอพระ..หมอชี.
หมอเทวดา..
เชื่อเขาว่า...
... เชื่อโบราณ..
เชื่อตำนาน..
เชื่อ..เชื่อ..เชื่อ

ไม่ลองจะรู้ได้อย่างไร..เลยลองหมดทุกอย่างแหละ
อย่างอื่นที่ว่า ยังลองมาหมดแล้ว..ไม่เห็นได้เรื่องสักอย่าง
เขาว่าอย่างโน้นดี ก็ทำตาม อย่างนี้ดีก็ทำตาม
เป็นไงกันบ้าง...

ยังทุกข์เหมือนเดิม..
ไม่มีใคร..ทำให้เราพ้นทุกข์ได้สักคน

ลองเชื่อพระพุทธเจ้าดูสักที...ลองสิ
ทำตามที่ท่านบอก..
ไม่ต้องมาก..
แค่ใบไม้กำมือเดียวเอง...

การทำดีบางครั้งอาจเจ็บปวด …
แต่ในที่สุด …
คุณต้องได้รู้ว่าอยู่บนเส้นทางของคนดีจะ
ไม่มีความเสียใจ



..........นิทานเรื่องนางโกสาตกี...........


บัดนี้จะชักนิทานมาเพื่อแสดงถึงอานิสงส์การบูชาพระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมธาตุ ความว่าบุคคลผู้ใดมีความเลื่อมใสได้บูชาซึ่งพระบรมธาตุจะมีผลให้สำเร็จประโยชน์ในกุศลบารมีเป็นที่ยิ่ง ดังวัตถุนิทานว่า เมื่อพร...ะสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าสู่ปรินิพพานแล้ว พระเจ้าอชาตศัตรูได้ไปเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาจากเมืองกุสินารา ด้วยความศรัทธาเลื่อมใส มาก่อเป็นเจดีย์ใหญ่ที่กลางนครราชคฤห์ เพื่อให้เป็นที่กราบไหว้บูชาแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ดังได้ยินมาว่า ยังมีหญิงผู้หนึ่งมีปกติอยู่ในเมืองราชคฤห์มีจิตศรัทธาปรารถนาจะบูชาพระบรมธาตุ ได้เที่ยวแสวงหาดอกไม้ก็เจอดอกโกสาตกีอันมีสีเหลืองสดใส ภาษาไทยแปลว่าดอกบวบ นางก็ชื่นชมโสมนัสหรรษานำดอกไม้นั้นมาออกจากบ้านด้วยความศรัทธาปสาทะที่จะได้บูชาพระพุทธเจดีย์ ครั้งนั้นยังมีวัวแม่ลูกอ่อนพาลูกสัญจรมาตามมรรคาวิถี ก็ขวิดนางกุมารีล้มลงในมรรคา นางก็ทำกาลกิริยาตาย ยังไม่ทันเดินไปถึงทันได้ไหว้พระเจดีย์ ครั้นดับจิตลงด้วยอานิสงส์ที่นางมีเจตนาแก่กล้าจะไปไหว้ทำพุทธบูชาพระมหาเจดีย์ ด้วยกุศลจิตนี้จึงนำให้นางไปอุบัติบังเกิดเป็นนางฟ้าอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีเทพธิดาพันหนึ่งเป็นบริวาร เทพยดาทั้งหลายจึงได้เรียกนางว่า นางโกสาตกีเทพธิดา มีรูปอันงามโสภาน่าพึงชม อุดมไปด้วยสิริลักขณา มีอำนาจวาสนาอยู่ในภูมิอันเป็นทิพย์ ก็ด้วยผลจากที่มีจิตคิดจะไปบูชาพระบรมธาตุเจดีย์
ครั้งนั้นท้าวสักกเทวราช เสด็จไปประภาสสวนนันทวันอุทยาน ก็ได้ทัสนาการเห็นนางโกสาตกีเทพธิดาจึงมีเทวบัญชาไต่ถามว่า ดูกรนางเทพธิดาผู้มีรูปทรงโสภาและเครื่องประดับอันงามทั้งวิมานกาญจนะระยับประดับไปด้วยแก้ว ทั้งรัศมีก็วาวแววไปด้วยแสงสว่าง หมู่เทพธิดาคณานางก็แวดล้อมเป็นบริวาร ท่านได้สร้างกุศลมาเป็นประการใด นางโกสาตกีเทวธิดาจึงได้สำแดงบุพพกุศลของตนถวายโดยบรรยายที่ได้กล่าวมาแล้วแต่หลังพระอินทร์ได้ทรงฟังซึ่งผลแห่งการสักการบูชา อันนางโกสาตกีเทวธิดาแสดงถวายทุกประการ ท้าวมัฆวานก็สรรเสริญผลสักการบูชาแก่มาตลีเทพบุตรว่า ดูกรมาตลี เครื่องบูชาจะน้อยก็ดีจะมากก็ดีไม่เป็นประมาณในการกุศล เพราะว่ากุศลจะมากจะน้อยนั้นขึ้นอยู่กับว่ามีจิตเลื่อมใสมากหรือเลื่อมใสน้อย ฝ่ายว่าพระพุทธเจ้าจะยังทรงพระชนม์อยู่ก็ตามหรือดับขันธ์เข้าสู่พระปรินิพพานไปแล้วก็ตาม เมื่อบุคคลเหล่าใดมามีจิตเลื่อมใสกระทำพุทธบูชาอยู่ย่อมมีผลเสมอกัน เมื่อพระอินทร์มีเทวบัญชาดังนี้แล้วก็บังเกิดจิตศรัทธาน้อมนำเอาเครื่องสักการบูชาอันเป็นทิพย์ไปทำวันทนาการอภิวาทกราบไหว้พระบรมธาตุเกศแก้วจุฬามณีเจดียสถานอันอลังการอยู่เทวสถานสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แล้วจึงได้กลับสู่เวชยันต์วิมานด้วยจิตผ่องใสปรีดาปราโมทย์ในการระลึกถึงพระพุทธคุณ ด้วยประการฉะนี้
อนึ่งพระพุทธเจ้าได้ตรัสบอกถึงบุคคลที่สมควรแก่การนำกระดูกไปบรรจุเจดีย์ คือเมื่อว่าบุคคลเช่นนี้ตายแล้วสมควรก่อเจดีย์บรรจุอัฐิของท่านไว้ที่ทาง ๔ แพร่ง ให้มนุษย์และเทวดาได้กราบไหว้ บุคคลเช่นนั้นมี ๕ ประเภทคือ ๑.พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๒.พระปัจเจกพุทธเจ้า ๓.พระอรหันต์ ๔.พระอนาคามี ๕.พระเจ้าจักรพรรดิ์ผู้ทรงปกครองอาณาประชาราษฎร์โดยธรรม เพราะเหตุว่าบุคคลใดได้มีโอกาสบูชาพระธาตุเจดีย์อันดับ ๑ ถึง ๔ ย่อมได้รับอานิสงส์คือได้เข้าถึงมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ และนิพพานสมบัติ ส่วนการบูชาธาตุเจดีย์อันดับ ๕ นั้น ย่อมเป็นไปเพื่อมนุษย์สมบัติและสวรรค์สมบัติเท่านั้นเพราะว่าพระเจ้าจักรพรรดิ์ท่านยังไม่เข้าสู่โลกุตตรภูมิ


เพชรแท้ ไม่ว่าอยู่บนเรือนแหวนหรืออยู่
ในโคลนตม ก็ยังเป็นเพชรแท้วันยังค่ำ
พระอริยบุคคลไม่ว่าอยู่ที่ใด
จะมีคนเคารพยกย่องหรือสาปแช่งดูถูก
ก็ยังเป็นพระอริยบุคคลวันยังค่ำ



หลวงพ่อฤษีลิงดำ ท่านได้พูดเกี่ยวกับการนั่งสมาธิ ว่า จุดประสงค์หลััก ของการนั่งสมาธิ ไว้ น่าอ่านมากครับ

.....ความประสงค์ที่เจริญสมาธิก็คือ ต้องการให้อารมณ์สงัด และเยือกเย็น ไม่มีความวุ่นวายต่ออารมณ์ที่ไม่ต้องการ และความประสงค์ที่สำคัญกว่านั...้นก็คือ อยากให้พ้นอบายภูมิ คือไม่เกิดเป็นสัตว์นรก เปตร อสุรกาย สัตย์เดียรฉาน อย่างต่ำถ้าเกิดใหม่ขอเกิดเป็นมนุษย์และต้องเป็นมนุษย์ชั้นดีคือ
๑. เป็นมนุษย์ที่มีรูปสวย ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ไม่มีอายุสั้นพลันตาย
๒. เป็นมนุษย์ที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์ ทรัพย์สินไม่เสียหายด้วย ไฟไหม้ โจรเบียดเบียน น้ำท่วม หรือลมพัดทำลายเสียหาย
๓. เป็นมนุษย์ที่มีคนในปกครองอยู่ในโอวาท ไม่ดื้อด้านดันทุรังให้มีทุกข์ เสียทรัพย์สินและเสียชื่อเสียง
๔. เป็นมนุษย์ที่มีวาจาไพเราะ เมื่อพูดออกไปเป็นที่พอใจของผู้รับฟัง
๕. เป็นมนุษย์ที่ไม่มีอาการปวดประสาท คือปวดศรีษะมากเกินไป ไม่เป็นโรคประสาทไม่เป็นบ้าคลั่งเสียสติ
..............รวมความว่าโดยย่อก็คือ ต้องการเป็นมนุษย์ที่มีความสงบสุขทุกประการ เป็นมนุษย์ที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สินทุกประการ ทรัพย์สินไม่เสียหายจากภัย ๔ ประการคือ ไฟไหม้ ลมพัด โจรรบกวน น้ำท่วม และเป็นมนุษย์ที่มีความสงบสุข ไม่เดือดร้อนด้วยเหตุทุกประการ

บุญที่ได้ทำไว้ในโลกนี้
ย่อมต้อนรับผู้ที่จากไป
เหมือนญาติที่รักมาจากที่ไกล
ฝูงชนย่อมเต็มใจต้อนรับ


"ผู้ปฏิบัตินั้นใครทำเรา เราให้อภัยไป ไม่ผูกเวรผูกกรรม
ขอให้ต่างอยู่เย็นเป็นสุข รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด
ทำอย่างนี้ รักษาบุญไว้ในใจ บุญก็รักษาใจเราให้ไม่ดุร้าย
จิตใจก็สม่ำเสมอ เบิกบานด้วยบุญกุศล
ไม่อ่อนแอท้อแท้ จากหนุ่มตราบเฒ่าชรา"




เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO