นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 11:31 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 13 มิ.ย. 2013 9:35 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4549
การพิจารณา อาการ ๓๒ ประการ ด้วยใช้ปัญญาพิจารณา ย่อมเห็นสิ่งที่เป็นไปตามความเป็นจริงว่า เป็นสิ่งที่เป็นเน่าหม็น เป็นสิ่งที่สกปรก เป็นสิ่งไม่สวยไม่งาม เป็นปฏิกูล ทั้งนั้นที่ประชุมรวมกันอยู่นี้ การเห็นเช่นนี้ เป็นการเห็นกายในกายอยู่ เจริญธัมม์







สมชาย พึ่งตน พึ่งธรรมปุจฉา-วิสัชนา เปิดธรรมที่ถูกปิดด้วย พุทธวจน





ผู้จมมิดในหลุมคูถ



อานนท์ ! ภิกษุรูปนั้นชะรอยจักเป็นพระใหม่ บวชยังไม่นาน หรือว่าเป็นพระเถระผู้พาลผู้เขลา. ข้อที่เราพยากรณ์โดยส่วนเดียวแล้ว จักกลับกลายไปเป็นสองส่วนได้อย่างไร.

อานนท์ ! เรายังมองไม่เห็นคนอื่นแม้สักคนหนึ่งซึ่งเราได้วินิจฉัยประมวลเหตุการณ์ทั้งปวงแล้ว จึงพยากรณ์ไว้อย่างนั้นเหมือนอย่างเทวทัต.



อานนท์ ! ตราบใด เรายังมองเห็นธรรมขาวของเทวทัต แม้เพียงเท่าปลายแหลมสุดแห่งเส้นขน, ตราบนั้นเราก็ไม่พยากรณ์เทวทัตว่า เทวทัตต้องไปเกิดในอบาย เป็นสัตว์นรก ตั้งอยู่ชั่วกัลป์หนึ่ง ช่วยเหลืออะไรไม่ได้ก่อน. อานนท์ ! เมื่อใดแล เรามองไม่เห็นธรรมขาวของเทวทัต แม้เพียงเท่าปลายแหลมสุดแห่งเส้นขน, เมื่อนั้น เราจึงพยากรณ์เทวทัตว่า เทวทัตต้องไปเกิดในอบาย เป็นสัตว์นรก ตั้งอยู่ชั่วกัลป์หนึ่ง ช่วยเหลืออะไรไม่ได้.



อานนท์ ! เปรียบเหมือน หลุมคูถลึกชั่วบุรุษ เต็มไปด้วยคูถจนปริ่ม ขอบหลุม ; บุรุษคนหนึ่งพึงตกลงไปในหลุมคูถนั้นจนมิดทั้งตัว. ยังมีบุรุษบางคนหวังประโยชน์เกื้อหนุน หวังความเกษมสำราญจากสภาพเช่นนั้น หวังจะช่วยยกเขาขึ้นจากหลุมคูถนั้น, บุรุษนี้จึงเข้าไปใกล้ เดินเวียนดูรอบ ๆ หลุมคูถนั้นมองไม่เห็นอวัยวะของคนในหลุมนั้น แม้เพียงเท่าปลายแหลมสุดแห่งเส้นขน ที่ยังที่ยังไม่ได้เปื้อนคูถ ซึ่งตนพอจะจับยกขึ้นมาได้. ข้อนี้ฉันใด ;

อานนท์ ! เมื่อใด เรามองไม่เห็นธรรมขาวของเทวทัต แม้เพียงเท่าปลายแหลมสุดแห่งเส้นขน, เมื่อนั้น เราจึงกล้าพยากรณ์เทวทัตว่า เทวทัตต้องไปเกิดในอบาย เป็นสัตว์นรก ตั้งอยู่ชั่วกัลป์หนึ่ง ช่วยเหลืออะไรไม่ได้ ฉันนั้นแล.



---------------------------------------------------------

๑. บาลี พระพุทธภาษิต ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๕๐/๓๓๓, ตรัสแก่ท่านพระอานนท์ โดยที่มีภิกษุรูปหนึ่งถามท่านว่า “ท่านอานนท์ผู้มีอายุ ! พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงวินิจฉัยประมวลเหตุการณ์ทั้งปวง ครบถ้วนดีแล้วหรือ จึงทรงพยากรณ์ว่าพระเทวทัต ต้องเกิดในอบาย เป็นสัตว์นรก ตั้งอยู่ชั่วกัลป์หนึ่ง ช่วยเหลืออะไรไม่ได้, หรือว่าทรงพยากรณ์โดยปริยายบางอย่างเท่านั้น” ดังนี้แล้ว ท่านพระอานนท์จึงให้คำตอบว่า “ผู้มีอายุ ! คำพยากรณ์ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์แล้ว ย่อมเป็นความจริงเช่นนั้นเสมอ” ดังนี้แล้ว ; พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเรื่องนี้ จึงได้ตรัสพระพุทธวจนะนี้.



แม้พระบรมศาสดาของเราก็เช่นเดียวกัน พระองค์ประทับนั่งอยู่ ณ ควงไม้โพธิพฤกษ์แห่งเดียว เมื่อจะดับโลกสาม ก็มิได้เหาะขึ้นไปในโลกสาม คงดับอยู่ที่จิต"







ทำไมต้องสร้างสมเด็จองค์ปฐม..?



เป็นคำถามที่เจอแล้วต้องค้นหาคำตอบให้กับตัวเอง และผู้ถาม..นับว่าเป็นโชคดีที่ได้เดินทางไปวัดท่าซุง ได้ไปนมัสการสมเด็จองค์ปฐมและได้คำตอบที่น่าสนใจมาฝากกัลยาณธรรมทุกท่าน....



ลองอ่านบทสนทนาธรรมระหว่างพระเดชพระคุณพระราชพรหมยานกับลูกศิษย์ดูก็แล้วกัน



หลวงพ่อ ช่างมาถามเกี่ยวกับลักษณะองค์ปฐม อาตมาบอกสร้างแบบพระพุทธรูปธรรมดา แต่ต้องอ้วนหน่อยนะ คือมีเนื้อมากหน่อย ไม่ใช่อ้วนพุงพลุ้ยนะ และก็เวลาลงไปสอนกรรมฐาน เมื่อเสร็จแล้วก็คุยกันเขาก็ถามปัญหาถามไปถามมา เขาถามถึงพระพุทธเจ้าองค์ปฐมว่า ถ้าจะสร้างจะมีอานิสงค์ยังไง ลุงสองลุง นายบัญชี กับ ลุงพุฒิ ท่านมายืนอยู่นานแล้ว ท่านไม่มีโอกาสคุย เพราะอาตมาขึ้นไปคุยกับพระซะ ท่านบอกว่า การสร้างองค์ปฐมนี่ ท่านเปลี่ยนบัญชีใหม่ เอาบัญชีมาให้ดู บอก นี่... บัญชีเล่มนี้ (คือว่าเป็นอีกเล่มหนึ่งจากที่จดธรรมดา) "บัญชีสีทอง" เป็นทองคำล้วนทั้งเล่มเลย ฉันอยากได้บัญชีเอามาขาย ท่านบอก ถ้าสร้างองค์ปฐมลงบัญชีเล่มนี้โดยเฉพาะ ก็แสดงว่าคนที่จะสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้นี่ ต้องเป็นคนมีบุญมาก...หรือไง?

แต่ ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องเงินมากนะ คือว่าโดยมากเราจะไม่นึกถึงกันใช่ไหม เรานึกถึง พระกกุสันโธ พระโกนาคม พระพุทธกัสสป แต่ยังไม่เคยนึกถึงองค์ปฐม ส่วนใหญ่ไปนึกถึง พระศรีอาริย์ ยังไม่เป็นพระพุทธเจ้าใช่ไหม นี่องค์นี้เป็นองค์แรกก็คุยกันแล้ว ท่านบอกว่า การสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมทำได้ยาก คือว่าเป็นพระพุทธเจ้าต้นพระพุทธเจ้าทั้งหมด ใช่ไหม และการทำบุญเนื่องในการสร้างวิหารก็ดี สถานที่ก็ดี เอาของไปประดับก็ตาม ทีนี้อย่างคนมีเงินน้อยๆ ใช่ไหม ก็มีสตางค์ไม่มาก เอาสตางค์ 9 สตางค์ 10 สตางค์ไปใส่แท่น อย่างนี้ลงบัญชีสีทองหมด คือไม่หมายความต้องมีเงินมากเสมอไปนะ ที่เขามีน้อยๆ บาทสองบาท 10 สตางค์ 20 สตางค์ พวกนี้เอาไปใส่แท่นอย่างนี้ลงบัญชีทองหมด ก็ถามว่า บัญชีทองหมายถึงอะไร ท่านบอกว่า "มันหมายถึงกลับไม่ได้ เพราะว่าพระพุทธเจ้าทุกองค์ต้องโมทนาหมด"



ผู้ถาม "หลวงพ่อครับ การหล่อองค์ปฐมด้วยทองคำนี่อานิสงส์จะเหมือนกับหล่อพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน หรือว่าจะแตกต่างกันอย่างไรครับ ถ้าเป็นทองคำเหมือนกัน?"



หลวงพ่อ "ก็มีอานิสงส์เหมือกัน แต่ว่าต่างกันอยู่นิดหนึ่งที่ไปนิพพานเร็ว ไปนิพพานเร็วมาก เพราะเขาเขา บัญชีสีทอง ใช่ใช่ตัวทอง บัญชีทั้งเล่มเป็นทอง ลงบัญชีเล่มนั้น"



ผู้ถาม "หมายถึงเป็นเจ้าภาพหล่อองค์ปฐมนี่หรือครับ?"



หลวงพ่อ "ใช่ๆ ๆ จะทองคำก็ดี จะเป็นเงินก็ตาม.. เหมือนกันลงบัญชีเล่มเดียวกัน"..





ความแข็งแรงของมือ วัดกันที่ความสามารถในการยึดจับสิ่งที่ควรยึดจับไว้ ความเข้มแข็งของใจ วัดกันที่ความสามารถในการปล่อยวางสิ่งที่ควรปล่อยวางไป



เพื่อนมนุษย์คือ เพื่อนเวียนว่ายในวัฏฏสงสารด้วยกันกับเรา เขาก็ตกอยู่ใต้อำนาจกิเลสเหมือนเรา ย่อมพลั้งเผลอไปบ้าง – พุทธทาส



สิ่งที่ผ่านมาในชีวิต บางทีไม่ใช่มาเพื่อให้ถือครอง แต่ผ่านมาเพื่อให้บทเรียนว่า..ทุกอย่างไม่เที่ยง



ข้อแตกต่างระหว่างศีลห้ากับกรรมบถ ๑๐



ถาม : ศีลห้ากับกรรมบถ ๑๐ ต่างกันอย่างไรครับ?



ตอบ : กรรมบถ ๑๐ จะเน้นเรื่องวาจา ศีลห้าแค่ห้ามโกหก แต่กรรมบถ ๑๐ ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามพูดส่อเสียด (ยุยงให้เขาแตกร้าวกัน) ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามพูดวาจาเพ้อเจ้อไร้ประโยชน์ กลายเป็นบังคับเรื่องวาจา



และเน้นเรื่องใจ ไม่คิดโลภอยากได้จนเกินพอดี ถ้าอยากได้ให้หามาอย่างถูกต้องตามศีลตามธรรม ไม่โกรธเกลียดอาฆาตพยาบาทใคร โกรธแล้วก็ลืม ไม่ผูกโกรธ และ มีสัมมาทิฐิ เห็นว่าที่พระพุทธเจ้าท่านสอนนั้นดีทุกอย่าง เราจะทำตาม



ถาม : ถ้าทำได้ก็ควรทำควบไปด้วยใช่ไหมครับ ?



ตอบ : ใช่..รักษาศีล ๕ ควบกับกรรมบถ ๑๐ ไปด้วย



" ภาวนาแล้วไปต่อไม่ได้ "



ถาม : ภาวนาแล้วไม่รู้จะไปยังไงต่อ



ตอบ : เรื่องของการปฏิบัติถ้าหากเราภาวนาอย่างเดียวมันจะมีจุดสุดท้ายว่าสุดกำลังของตัวเอง ถ้ามันถึงจุดนั้นแล้วมันจะไปต่อไม่เป็น ถ้าหากไปต่อไม่เป็นเขาให้คลายกำลังใจมาพิจารณา ถ้าเราไม่พิจารณามันจะฟุ้งซ่าน คราวนี้มันจะฟุ้งซ่านอย่างดุเดือดมากเพราะมันเอากำลังตอนภาวนาไปฟุ้งซ่าน



ให้พิจารณา จะเป็นไตรลักษณ์เห็นความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความไม่มีอะไรเป็นของเรา หรือพิจารณาตามแบบวิปัสสนาญาณ ๙ หรือพิจารณาตามแบบอริยสัจ ๔ อันใดอันหนึ่งก็ได้ พอพิจารณาไปเรื่อย ๆ จิตมันจะรวมตัวคราวนี้มันจะภาวนา...เราก็ภาวนาใหม่ พอภาวนาไปจนสุด มันไปต่อไม่ได้ มันก็จะเริ่มถอย เราก็มาพิจารณาใหม่ มันต้องสลับอย่างนี้ถ้าไม่อย่างนั้นมันก็จะมีปัญหาอย่างที่คุณเป็น



" ปีติที่เกิดจากการทำบุญ "



ถาม : ปีติที่เกิดจากการทำบุญ ฟังธรรม การนั่งสมาธิ?



ตอบ : ไม่ว่าจะเป็นปีติที่เกิดจากการฟังธรรม การทำบุญ การนั่งสมาธิ เป็นปีติแบบเดียวกัน



แต่ถ้าเป็น ปีติทางโลก ที่ตาได้เห็น หูได้ยิน จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายได้สัมผัส จะเป็นปีติอีกอย่างหนึ่ง เป็นปีติที่ต้องมีสิ่งกระตุ้นจากภายนอกจึงจะเกิดขึ้น ตัวเองจะมีความสุขไปสักพักหนึ่ง พอสิ่งกระตุ้นหมดไป ความสุขก็หายไปด้วย จึงทำให้มีคนประเภทนี้ติดกินติดเที่ยว เพราะเขาทำแล้วเขามีความสุข แต่เป็นความสุขที่ไม่ยั่งยืน



ปีติที่เกิดจากการทำบุญ จากการปฏิบัติธรรม และการนั่งสมาธิภาวนา เป็นปีติที่สร้างขึ้นในใจของเราเองจะยั่งยืน คนที่ไม่เข้าใจจึงเตลิดไปไกล กลายเป็นนักเที่ยวกลางคืนไปเยอะทีเดียว น่าเสียดาย น่าเป็นห่วง การเที่ยวกลางคืนมีแต่เสียมากกว่าดี


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO