นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 4:21 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 11 มิ.ย. 2013 5:52 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4548
อุทิศเจาะจง



"ทีนี้การอุทิศส่วนกุศลแก่บุคคลต่างๆที่ตายไปแล้ว

จำเป็นไหมครับว่าะต้องออกชื่อ รู้สึกว่า มีมากเหลือเกิน"



ถ้านึกได้ก็ออกชื่อเขาก็ได้ ถ้าออกชื่อน่ะดีอยู่อย่าง

ถ้ากรรมหนาอยู่นิด ถ้าออกชื่อเจาะจงเขาได้เลยนะ

ถ้านึกไม่ออกก็ว่ารวมๆ ญาติก็ดี ไม่ใช่ญาติก็ดี

เอายังงี้ดีกว่า ถ้าขืนไล่ชื่อไปน่ากลัวจะไม่จบ



มันมีอยู่คราวหนึ่ง ไปเทศน์กัน ๓ องค์

บังเอิญที่ไปก็มีอารมณ์จิตคล้ายคลึงกัน

เวลาเพลเขาก็ถวายอาหาร ก็มีพระอื่นด้วยรวมแล้ว ๕ องค์



ทีนี้ตาทายกเขานำอุทิศส่วนกุศลในวันนั้น แกก็ออกชื่อคนตาย

แล้วก็บรรดาญาติทั้งหลายที่ตายไปแล้ว บอกเท่านั้นแหละ

พวกผีก็เข้ามาเป็นหมื่นล้อมรอบศาลาอยู่

ไอ้คนที่เป็นญาติรับโมทนาแล้วผิวพรรณดีขึ้น

ไอ้พวกที่ไม่ใช่ญาติก็เดินร้องไห้กลับ



พอเขานิมนต์ขึ้นไปเทศน์

ตอนลงท้ายเขาถามกันว่า การอุทิศส่วนกุศลทำยังไง

องค์ที่มีปากร้ายอยู่สักหน่อยบอกว่า

ญาติโยมที่นำอุทิศส่วนกุศล อย่าให้ใจแคบเกินไปนักสิ



อย่าลืมว่า การทำบุญแต่ละคราว

พวกปรทัตตูปชีวีเปรต ก็ดี พวก สัมภเวสี ก็ดี จะมายืนล้อมรอบ



อย่างสวดบท อยัญจะโขฯ น่ะ

พวกบรรดาผีทั้งหลายทั่วบริเวณจะคอยโมทนา

แต่ถ้าเราให้แต่ญาติๆก็จะได้

แต่บุคคลอื่นไม่ใช่ญาติจะไม่ได้



ฉะนั้นก็ควรจะให้ต่อๆกันไป

คือว่า ให้ทั้งหมด ทั้งญาติและไม่ใช่ญาติ



การอุทิศส่วนกุศล โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ





ทุกคนมีดีอยู่ในใจตนเสมอกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะหมั่นกระทำหรือจะสร้างความไม่ดีหรือไม่อย่างไร ถ้าจิตเราเลือกยึดมั่นกระทำแต่ความดี หมั่นสะสมในบุญ จิตย่อมมีสุขพบสุข หากแต่เมื่อใดที่เราหลงในความไม่ดีแต่กลับมองว่าเป็นความดี จิตใจก็มีแต่ร้อนรน จิตอยู่ด้วยความไม่เป็นสุข ไม่สงบ ไม่ว่าจะกระทำสิ่งใด ก็มีแต่จิตที่ไร้ซึ่งความดีเปรียบดั่งมารที่หลอกตนว่าสุขไปวันๆ เท่านั้นเองด้วยความไม่ดีที่ก่อเกิดจนส่งผลกรรมติดตามเรา ให้เป็นกรรมนำทุกข์ พิจารณาให้ดีเถิด ชีวิตไม่มีใครดีมากกว่าหรือน้อยกว่า ใจของเราเท่ากันนะ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตามที่กระทำความดี สร้างบุญ ทุกคนก็มีดีคนละแบบในชีวิตได้เสมอ อย่าได้เปรียบเทียบว่าใครดีมากหรือดีน้อยกันเลยหนอ







"..การทรงสมาธิวิปัสสนานั้น มิใช่การมานั่งหลับตาแต่เพียงอย่าง เดียว เป็นการปฏิบัติ เพื่อให้ใจเรารู้จัก มีสติสัมปชัญญะ คือ สมาธิ มีปัญญา ในการพิจารณา ธรรมะ ที่เกิดขึ้นอยู่ทุกนาที ที่เราได้พบเห็น ได้ยิน ในเหตุการณ์ทั้งปวง จงมุ่งไว้จุดเดียวว่า เราเข้ามาฝึกพระกรรมฐานนี้ เพื่อหวังการไม่เกิด หวังพระนิพพานเป็นจุดหมาย เมื่อรู้ความหวังของเราแล้ว ก็ต้องรู้ว่าทำอย่างไรถึงจะไปพระนิพพานได้.."



พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

(หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)





ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที35พระพุทธเจ้าและพระสาวกอรหันต์เสด็จมาอนุโมทนาหลวงปู่มั่น



พระพุทธเจ้าและพระสาวกอรหันต์เสด็จมาอนุโมทนา



หลังจากท่านเดินทางถึงแดนแห่งวิมุตติแล้ว คืนต่อ ๆ มามีพระพุทธเจ้าพร้อมพระสาวกจำนวนมากเสด็จมาอนุโมทนาวิมุตติธรรมกับท่านเสมอมิได้ขาด



คืนนั้นพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นกับพระสาวกบริวารเป็นจำนวนหมื่นเสด็จมาเยี่ยม



คืนนั้นพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นกับสาวกบริวารจำนวนแสนเสด็จมาเยี่ยม



คืนนั้นพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นมีสาวกเท่านั้นเสด็จมาเยี่ยมอนุโมทนา



จำนวนพระสาวกที่ตามเสด็จพระพุทธเจ้ามาแต่ละพระองค์นั้นมีจำนวนไม่เท่ากัน ทั้งนี้ท่านว่าขึ้นอยู่กับวาสนาของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ไม่เหมือนกัน ที่พระสาวกตามเสด็จมาด้วยแต่ละพระองค์นั้น มิได้ตามเสด็จมาทั้งหมดในบรรดาพระสาวกของแต่ละพระองค์ที่มีอยู่ แต่ที่ตามเสด็จมามากน้อยต่างกันนั้น พอแสดงให้เห็นภูมิพระวาสนาบารมีของแต่ละพระองค์นั้นต่างกันเท่านั้น



บรรดาพระสาวกจำนวนมากของแต่ละพระองค์ที่ตามเสด็จมานั้น มีสามเณรติดตามมาด้วยครั้งละไม่น้อยเลย ท่านสงสัยจึงพิจารณาก็ทราบว่า คำว่าพระอรหันต์ในนามธรรมนั้นมิได้หมายเฉพาะพระ แต่สามเณรที่มีจิตบริสุทธิ์หมดจดก็นับเข้าในจำนวนสาวกอรหันต์ด้วย ฉะนั้นที่สามเณรติดตามมาด้วยจึงไม่ขัดกัน



ในพระโอวาทของพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่ประทานอนุโมทนาแก่พระอาจารย์มั่นนั้น ส่วนใหญ่มีว่า



เราตถาคตทราบว่าเธอพ้นโทษจากอนันตรทุกข์ในที่คุมขังแห่งเรือนจำของวัฏทุกข์ จึงได้มาเยี่ยมอนุโมทนา ที่คุมขังแหล่งนี้ใหญ่โตมโหฬารและแน่นหนามั่นคงมาก และมีเครื่องยั่วยวนชวนให้เผลอตัวและติดอยู่รอบตัวไม่มีช่องว่าง จึงยากที่จะมีผู้แหวกว่ายออกมาได้ เพราะสัตว์โลกจำนวนมากไม่ค่อยมีผู้สนใจกับทุกข์ที่เป็นอยู่กับตัวตลอดมา ว่าเป็นสิ่งที่ทรมานและเสียดแทงร่างกายจิตใจเพียงใด พอจะคิดเสาะแสวงหาทางออกด้วยวิธีต่าง ๆ เหมือนคนเป็นโรคแต่มิได้สนใจกับยา ยาแม้มีมากจึงไม่มีประโยชน์สำหรับคนประเภทนั้น ธรรมของเราตถาคตก็เช่นเดียวกับยา สัตว์โลกอาภัพเพราะโรคกิเลสตัณหาภายในใจเบียดเบียนเสียดแทง ทำให้เป็นทุกข์แบบไม่มีจุดหมายว่าจะหายได้เมื่อไร



สิ่งตายตัวก็คือโรคพรรค์นี้ ถ้าไม่รับยาคือธรรมจะไม่มีวันหายได้ ต้องฉุดลากสัตว์โลกให้ตายเกิดคละเคล้าไปกับความทุกข์กายทุกข์ใจ และเกี่ยวโยงกันเหมือนลูกโซ่ตลอดอนันตกาล ธรรมแม้จะมีเต็มไปทั้งโลกธาตุ ก็ไม่สามารถอำนวยประโยชน์ให้แก่ผู้ไม่สนใจนำไปปฏิบัติรักษาตัวเท่าที่ควรจะได้รับจากธรรม ธรรมก็อยู่แบบธรรม สัตว์โลกก็หมุนตัวเป็นกงจักรไปกับทุกข์ในภพน้อยภพใหญ่แบบสัตว์โลก โดยไม่มีจุดหมายปลายทางว่าจะสิ้นสุดทุกข์กันลงได้เมื่อใด ไม่มีทางช่วยได้ ถ้าไม่สนใจช่วยตัวเองโดยยึดธรรมมาเป็นหลักใจและพยายามปฏิบัติตาม



พระพุทธเจ้าจะมาตรัสรู้เพิ่มจำนวนองค์และสั่งสอนมากมายเพียงไร ผลที่ได้รับก็เท่าที่โรคประเภทคอยรับยามีอยู่เท่านั้น ธรรมของพระพุทธเจ้าไม่ว่าพระองค์ใด มีแบบตายตัวอยู่อย่างเดียวกัน คือสอนให้ละชั่วทำดีทั้งนั้น ไม่มีธรรมพิเศษและแบบสอนพิเศษไปกว่านี้ เพราะไม่มีกิเลสตัณหาพิเศษในใจสัตว์โลกที่พิเศษเหนือธรรมซึ่งประกาศสอนไว้ เท่าที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายประทานไว้แล้วเป็นธรรมที่ควรแก่การรื้อถอนกิเลสทุกประเภทของมวลสัตว์อยู่แล้ว นอกจากผู้รับฟังและปฏิบัติตามจะยอมแพ้ต่อเรื่องกิเลสตัณหาของตัวเสียเอง แล้วเห็นธรรมเป็นของไร้สาระไปเสียเท่านั้น



ตามธรรมดาแล้วกิเลสทุกประเภทต้องฝืนธรรมดาดั้งเดิม คนที่คล้อยตามมันจึงเป็นผู้ลืมธรรมไม่อยากเชื่อฟังและทำตาม โดยเห็นว่าลำบากและเสียเวลาทำในสิ่งที่ตนชอบ ทั้งที่สิ่งนั้นให้โทษ ประเพณีของนักปราชญ์ผู้ฉลาดมองเห็นการณ์ไกล ย่อมไม่หดตัวมั่วสุมอยู่เปล่า ๆ เหมือนเต่าถูกน้ำร้อนไม่มีทางออก ต้องยอมตายในหม้อที่กำลังเดือดพล่าน โลกเดือดพล่านอยู่ด้วยกิเลสตัณหาความแผดเผา ไม่มีกาลสถานที่ที่พอจะปลงวางลงได้ จำต้องยอมทนทุกข์ทรมานไปตาม ๆ กัน โดยไม่นิยมสัตว์น้ำ สัตว์บก สัตว์อยู่บนอากาศและใต้ดิน เพราะสิ่งแผดเผาเร่าร้อนอยู่กับใจ ความทุกข์จึงอยู่ที่นั่น



ที่นี่เธอเห็นพระตถาคตอย่างแท้จริงแล้วมิใช่หรือ?



พระตถาคตแท้คืออะไร คือความบริสุทธิ์แห่งใจที่เธอเห็นแล้วนั้นแล ที่พระตถาคตมาในร่างนี้ มาในร่างแห่งสมมุติต่างหาก เพราะพระตถาคตและพระอรหันต์อันแท้จริงมิใช่ร่างแบบที่มากันนี้ นี่เป็นเพียงเรือนร่างของตถาคตโดยทางสมมุติต่างหาก



ท่านพระอาจารย์กราบทูลว่า



ข้าพระองค์ทราบพระตถาคตและพระสาวกอรหันต์อันแท้จริงไม่สงสัย ที่สงสัยก็คือ พระองค์ทั้งหลายกับพระสาวกท่านที่เสด็จไปด้วยอนุปาทิเสสนิพพานไม่มีส่วนสมมุติยังเหลืออยู่เลย แล้วเสด็จมาในร่างนี้ได้อย่างไร?



พระพุทธเจ้าตรัสว่า



ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งแม้มีความบริสุทธิ์ทางใจด้วยดีแล้ว แต่ยังครองร่างอันเป็นส่วนสมมุติอยู่ ฝ่ายอนุปาทิเสสนิพพานก็ต้องแสดงสมมุติตอบรับกัน คือต้องมาในร่างสมมุติซึ่งเป็นเครื่องใช้ชั่วคราวได้ ถ้าต่างฝ่ายต่างเป็นอนุปาทิเสสนิพพานด้วยกันแล้วไม่มีส่วนสมมุติยังเหลืออยู่ ตถาคตก็ไม่มีสมมุติอันใดมาแสดงเพื่ออะไรอีก ฉะนั้นการมาในร่างสมมุตินี้จึงเพื่อสมมุติเท่านั้น ถ้าไม่มีสมมุติเสียอย่างเดียวก็หมดปัญหา



พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงทราบเรื่องอดีตอนาคตก็ทรงถือเอานิมิต คือสมมุติอันดั้งเดิมของเรื่องนั้น ๆ เป็นเครื่องหมายให้ทราบ เช่น ทรงทราบอดีตของพระพุทธเจ้าทั้งหลายว่าทรงเป็นมาอย่างไรเป็นต้น ก็ต้องถือเอานิมิตของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น และพระอาการนั้น ๆ เป็นเครื่องหมายพิจารณาให้รู้ ถ้าไม่มีสมมุติของสิ่งนั้น ๆ เป็นเครื่องหมาย ก็ไม่มีทางทราบได้ในทางสมมุติ เพราะวิมุตติล้วน ๆ ไม่มีทางแสดงได้ ฉะนั้นการพิจารณาและทราบได้ ต้องอาศัยสมมุติเป็นหลักพิจารณา



ดังที่เราตถาคตนำสาวกมาเยี่ยมเวลานี้ ก็จำต้องมาในรูปลักษณะอันเป็นสมมุติดั้งเดิม เพื่อผู้อื่นจะพอมีทางทราบได้ว่า พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ๆ และพระอรหันต์องค์นั้น ๆ มีรูปลักษณะอย่างนั้น ๆ ถ้าไม่มาในรูปลักษณะนี้แล้ว ผู้อื่นก็ไม่มีทางทราบได้



เมื่อยังต้องเกี่ยวกับสมมุติในเวลาต้องการอยู่ วิมุตติก็จำต้องแยกแสดงออกโดยทางสมมุติเพื่อความเหมาะสมกัน



ถ้าเป็นวิมุตติล้วน ๆ เช่นจิตที่บริสุทธิ์รู้เห็นจิตที่บริสุทธิ์ด้วยกัน ก็เพียงแต่รู้อยู่เห็นอยู่เท่านั้น ไม่มีทางแสดงให้รู้ยิ่งกว่านั้นไปได้ เมื่อต้องการทราบลักษณะอาการของความบริสุทธิ์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก็จำต้องนำสมมุติเข้ามาช่วยเสริมให้วิมุตติเด่นขึ้น พอมีทางทราบกันได้ว่าวิมุตติมีลักษณะว่างเปล่าจากนิมิตทั้งปวง มีความสว่างไสวประจำตัว มีความสงบสุขเหนือสิ่งใด ๆ เป็นต้น พอเป็นเครื่องหมายให้ทราบได้โดยทางสมมุติทั่ว ๆ ไป ผู้ทราบวิมุตติอย่างประจักษ์ใจแล้ว จึงไม่มีทางสงสัยทั้งเรื่องวิมุตติแสดงตัวออกต่อสมมุติในบางคราวที่ควรแก่กรณี และทรงตัวอยู่ตามสภาพเดิมของวิมุตติ ไม่แสดงอาการ



ที่เธอถามเราตถาคตนั้น ถามด้วยความสงสัย หรือถามพอเป็นกิริยาแห่งการสนทนากัน



ท่านกราบทูลว่า



ข้าพระองค์มิได้มีความสงสัยทั้งสมมุติและวิมุตติของพระองค์ทั้งหลาย แต่ที่กราบทูลนั้นก็เพื่อถวายความเคารพไปตามกิริยาแห่งสมมุติเท่านั้น แม้พระองค์กับพระสาวกจะเสด็จมาหรือไม่ก็มิได้สงสัยว่าพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์อันแท้จริงมีอยู่ ณ ที่แห่งใด แต่เป็นความเชื่อประจักษ์ใจอยู่เสมอว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต อันแสดงว่าพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ มีใช่ธรรมชาติอื่นใดจากที่บริสุทธิ์หมดจดจากสมมุติในลักษณะเดียวกันกับพระรัตนตรัย



พระพุทธเจ้าตรัสว่า



การที่เราตถาคตถามเธอ ก็มิได้ถามด้วยความเข้าใจว่าเธอมีความสงสัย แต่ถามเพื่อเป็นสัมโมทนียธรรมต่อกันเท่านั้น



บรรดาพระสาวกที่ตามเสด็จพระพุทธเจ้ามาแต่ละพระองค์และแต่ละครั้งนั้น มิได้กล่าวปราศรัยอะไรกับท่านพระอาจารย์มั่นเลย มีพระพุทธเจ้าประทานพระโอวาทพระองค์เดียว ส่วนพระสาวกทั้งหลายเป็นเพียงนั่งฟังอยู่อย่างสงบเสงี่ยม น่าเคารพเลื่อมใสมากเท่านั้น แม้สามเณรองค์เล็ก ๆ ที่น่ารักมากกว่าจะน่าเคารพเลื่อมใส ก็นั่งฟังอยู่อย่างสงบเสงี่ยม เช่นเดียวกับพระสาวกทั้งหลาย อันเป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสมากและน่ารักมากด้วย ซึ่งยังอยู่ในวัยเล็กมากก็มี อายุราว ๙ ขวบ ๑๐ ขวบ ๑๑





คนที่รู้จักใช้ชีวิต เพียงมีธรรมนำชีวิต ให้เรารู้ว่า สิ่งใดที่จะกระทำผิดหรือถูก เมื่อกระทำถูกก็มีผลดีกับชีวิต เมื่อรู้ว่าจะผิดก็หยุด ปรับเปลี่ยนความคิด หยุดที่จะกระทำ พิจารณามุมมองดีๆ เพียงเท่านี้ชีวิตก็เป็นสุข สุขที่เกิดได้ด้วยรู้เท่าทันใจตน ด้วยสติแลปัญญา พิจารณาให้ดีเถิด ชีวิตทุกชีวิตต้องมีการเรียนรู้ รู้อย่างเข้าใจ





" ตั้งหิ้งพระในห้องนอนกลัวบาป "



ผู้ถาม : อยากเรียนถามหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือว่าลูกมีความจำเป็นจึงต้องทำหิ้งพระไว้ในห้องนอน แต่มีคนบอกว่าการที่ทำหิ้งพระไว้ในห้องนอนจะมีบาปมีกรรม เพราะเวลาผัดหน้าแต่งหน้าหรือนอนทำให้พระพุทธรูปกำลังใจเสีย ทีนี้จะย้ายไปก็ไม่สะดวก จะทำจิตทำใจอย่างไรเมื่อมีความจำเป็นอย่างนี้เจ้าคะ



หลวงพ่อ : ปัดโถ่เอ๋ย ท่านมีเนื้อมีท่านยังไม่เสียเลย ดี เป็นมงคลใหญ่ไม่เป็นไร ทำตามปกติ พระพุทธเจ้าท่านว่าใครล่ะ ดิ้นเป็นเรอะ ถ้าพระพุทธเจ้าดิ้นเป็นสงฆ์ไม่เหลือแล้ว



ดี พระอยู่ในห้องนอนน่ะดี เห็นทุกวัน ตื่นขึ้นมาก็มองเห็น ไปทำงานก็มองเห็น จิตเป็นพุทธานุสสติ อันนี้มันลงนรกไม่ได้อยู่แล้ว จะแก้ผ้าแก้ผ่อนอย่างไรก็ตามเถอะ นิมนต์พระดูด้วยก็ได้ นานๆ ที (หัวเราะ)





" คู่ครอง "



ถาม : ...เราทำบุญหรือทำกรรมอะไรมา ต้องมาผิดหวังในเรื่องของคู่ครอง ?



ตอบ : เรื่องนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าสมัยก่อนไปแย่งของคนอื่นเขาไว้หรือเปล่า ? จริง ๆ แล้วหลวงพ่อท่านบอกว่า “อยู่คนเดียวเปลี่ยวกายแสนสบายแต่ไม่สนุก ถ้าอยู่สองครองทุกข์ถึงสนุกก็ไม่สบาย”



ความจริงเราสบายนะ เราลดทุกข์ลงไปครึ่งหนึ่ง คอยดูคนรอบ ๆ ข้างเราสิ ถึงรักกันปานจะกลืนก็เถอะ ถึงเวลามันก็ต้องทะเลาะเบาะแว้ง กระทบกระทั่งกันอยู่ตลอด ลิ้นกับฟันถึงจะมีลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจก็จริง แต่ถ้าคนเราเวลาเหนื่อยมา เวลาหิวมา เวลาเจ็บไข้ได้ป่วย อารมณ์มันเสียง่ายเดี๋ยวก็ทะเลาะกัน



ดูว่ารอบข้างเรามีคู่ไหนที่เขามีความสุขจริง ๆ มันจ๊ะจ๋าหวานจ๋อยกันได้พักเดียวแล้วหลังจากนั้นก็ทุกข์ล้วน ๆ ถามคนข้าง ๆ สิเขาแต่งมาแล้ว ถามว่าพี่มีความสุขจริง ๆ ไหม ? ไม่มีหรอก ลำบากจะตายชัก เหนื่อยจากข้างนอกมาด้วยกันแท้ ๆ กลับมาบ้านเรายังมีเจ้านายเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง ถ้ามีลูกก็เพิ่มขึ้นอีกสองคน บางครอบครัวเห็นแล้วก็น่าสงสาร





" การทรงฌาน "



ถาม : แล้วมันมีจุดหนึ่งครับในการทำสมาธิ อาการใจมันไม่เคลื่อนเลย มันไม่ต่ำลงไปแล้วก็ไม่สูงขึ้น ?



ตอบ : อันนั้นเป็นการทรงฌาน ถ้าหากว่าทรงฌานตอนแรก ๆ มันไม่เคยชิน มันเหมือนกับเราได้อะไรมหาศาลน่าตื่นเต้นมาก แต่หลังจากที่เราทำไป ๆ สิ่งที่เราคิดว่าได้มากมหาศาลแท้จริงมันมีนิดเดียว มันก็เลยกลายเป็นว่ามันชักเฉย ๆ เหมือนกับตายด้านกับมัน



เพียงแต่ว่าลักษณะนั้นจริง ๆ แล้วก็มีประโยชน์ สามารถรักษาใจของเราไม่ให้ฟุ้งซ่านไปกับรัก โลภ โกรธ หลงได้ นิวรณ์จะกินใจของเราไม่ได้



แต่ว่าให้มีสติอยู่เสมอว่า เราแค่อาศัยมันเท่านั้น มันไม่ใช่ที่พึ่งที่แท้จริงของเรา มันเป็นเพียงเครื่องมือที่จะส่งเราให้ไปถึงจุดหมายเท่านั้นเอง ถ้าหากว่าเราไม่มีสติไปยึดไปเกาะว่ามันเป็นสิ่งที่ดีวิเศษเลิศแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ยังยึดติดอยู่ในรูปราคะอรูปราคะ เป็นสังโยชน์ใหญ่ที่ดึงให้เราอยู่กับวัฏฏะต่อไป







เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


กำหนดการลงมารับสังฆทานและเจริญกรรมฐานของตุ๊พ่อสิงห์เดือนมิถุนายน2556
084-640-1363

เชิญเป็นเจ้าภาพโรงทาน "หล่อพระพุทธมารดา" งานบุญวันอาสาฬหบูชา
โทร: 086-8032001


ร่วมน้อมถวายเครื่องกรองน้ำหลายวัดที่นครพนม
086-1050222

ขอเชิญร่วมบุญถวายเทียนพรรษา ๙ วัด ประจำปี ๒๕๕๖
081-8052466




ขอเชิญสาธุชนผู้ใจบุญร่วมบุญใหญ่สร้างศาลาปฏิบัติธรรม กับหลวงปู่บุญเพ็ง ขันติโก
081-873-8561

ขอเชิญร่วมสร้างศาลาโรงธรรม
๐๘๔๔๐๔๔๖๗๗

ร่วมสร้างบุญ สร้างพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ วัดถ้ำเขามะกา จังหวัดสระแก้ว
081-6294651

ร่วมสร้าง ศาลาการเปรียญ กับ วัดจากแดง
http://www.facebook.com/MATTABUDDHA

หล่อพระเนื้อสำริด วาระที่ ๓ ส่วนพระเศียร
086-378-3401


ขอเชิญร่วมบุญสร้างเครื่องทรงพระพุทธอาภากรมงคลสถิต
โทร 081-2707969


ขอเชิญร่วมปิดทองท่านปู่พระอินทร์_ท่านย่า ที่เรือนท่านปู่ท่านย่าวัดวีระโชติธรรมาราม
https://www.facebook.com/metaya.p?hc_location=stream

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพถวายปัจจัยแด่พระมหาเถระทรงสมณศักดิ์และครูบาอาจารย์
โทร.๐๘๘-๙๙๕-๖๕๙๕ ,๐๘๘-๙๓๒-๖๕๖๓

ขอเชิญร่วมพิธีสมโภช บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เบิกเนตรพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ที่ วัดม่วง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
๒๓ มิ.ย. ๕๖ โดยหลวงปู่คำบุ เป็นประธาน ติดต่อสอบถามได้ที่ พระปลัดไพวัลย์ จิตตคุตโต ๐๘๑ ๙๖๗๘๐๙๔ ได้ทุกวัน


ร่วมทำบุญสมทบ เทพื้นซีเมนต์ ศาลา แทนหลังเก่าที่ทรุดโทรมวัดป่าวิเวก
ธนาคารกรุงไทย สาขามุกดาหาร บัญชีวัดป่าวิเวก เลขที่บัญชี 420-0-22456-9


ถวายตู้+พระไตรปิฏก(ฉบับมหาจุฬา) แด่วัดขาดแคลน 37 วัด
http://www.yantip.com/viewthread.php?ti ... 3D1&page=1

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพหล่อสมเด็จองค์ปฐมเนื้อทองคำ

และสมเด็จองค์ปฐม หน้าตักกว้าง 80 นิ้ว

และเลี้ยงภัตตาหารเพลพระภิกษูสงฆ์ 1,000 รูป

ณ.วัดสระพัง ต.ดอนข่อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม


ในวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ 2556
เวลา 13.49 น. เททองหล่อสมเด็จองค์ปฐม



ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างฉัตรกลางแจ้งถวาย "หลวงพ่อสำเร็จทันใจ"
โทร.084 – 7972215

เชิญจาริกแสวงบุญสู่แดนพุทธภูมิ อินเดีย–เนปาล นมัสการสังเวชนียสถาน 4 ตำบล : 27ธค56-5 มค57
086-100-2195


ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญใหญ่มหากุศลสร้างพระพุทธโสธรจำลองสูง 7 เมตร
081-018-5836

สร้างพระบรมรูปพ่อขุนศรีอินทราทิตย์และพ่อขุนผาเมือง ณ ทุ่งบางงา อ ท่าวุ้ง ลพบุรี
โทร 081 834 1338

ขอเชิญร่วมทำบุญโครงการบูรณะพระพุทธรูปสมัยโบราณ วัดพระเชตุพน (วัดโพธิ์) ให้สวยงามดังเดิม

ร่วมทำบุญได้ที่

ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาปากคลองตลาด 1

ชื่อบัญชี โครงการบูรณะพระพุทธรูปสมัยโบราณ

เลขที่บัญชี 262-300097-8


ร่วมทำบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐม ณ สำนักหินชะโงก จ.กำแพงเพชร
ณ สำนักหินชะโงก ต.วังควง อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร


ร่วมทำบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐม และหล่อพระ กับมูลนิธิเพื่อแผ่นดิน
ร่วมทำบุญสร้างซุ้มเรือนแก้วของสมเด็จองค์ปฐม

และเททองหล่อพระสิวลี และพระมหากัจจายนะ

ในวันอาสาฬหบูชา 2556 (วันที่ 22 กรกฎาคม 2556)

ร่วมทำบุญได้ที่

ธ.กรุงไทย มูลนิธิเพื่อแผ่นดิน 521-0-14153-5

ธ.ไทยพาณิชย์ โครงการสร้างพระฯ 566-4-58568-8


สร้างกุฏีที่พักสำหรับพระภิกษุอาพาธในกรุงเทพฯ
มือถือ 086-1050222

ขอเชิญร่วมบุญผ้าป่าบูรณะซ่อมแซมวัดท่าสองคอนและวัดปัพพตาวาส อ.สังคม หนองคาย
084 6837 580


(ปิดรับ 14 มิ.ย.) แผ่นละ 8 บาทปิดทองพระพุทธชินราช 4 เมตร ณ.วัดจากแดง
085-361-4989

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกระดิ่งช่อฟ้าศาลาการเปรียญ จำนวน ๕ ลูก
โทร. 084 – 7972215


ขอเชิญเป็นเจ้าภาพหล่อเทียนพรรษา ๒๕๕๖ จำนวนทั้งหมด ๓๕ ต้น
โทร.๐๓๕-๘๓๗๕๙๐

ต้องการหาเจ้าภาพสร้างพระประธานประดิษฐานที่ศาลาปฏิบัติธรรม
0868431282


บุญใหญ่ หล่อพระพุทธรูป ร่วมกับ พระครูบาเหนือชัย โฆสิโต(พระขี่ม้า) รวม ๓๒๙ องค์
081-9106286

บุญเร่งด่วน...สร้างแท่นหลวงปู่ทวดปางยืนและป้ายหินอ่อนบูชาพระคาถา
089-6427273

ขอเชิญสร้างสมเด็จองค์ปฐม ๖๐ นิ้วพระประธานโบสถ์และกฐิน ถวาย ๑๖ พย ๒๕๕๖
โทร. 097-172-1557


ลูกหลานหลวงพ่อโสธร ร่วมเป็นเจ้าภาพ.๙,๙๙๙ กองบุญ มหากฐินสามัคคี เททองหล่อพระ กองละ ๙๙ บ
084-7733177


เชิญร่วมพิธียกเสาเอกศาลาหลวงพ่อสุโขทัย
วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2556
ณ วัดสักใหญ่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี ณ สำนักสงฆ์หลังถ้ำ จ.อุบลฯ
081 – 1533091

ขอเชิญร่วมบวชเนกขัมมะปฎิบัติธรรม
ณ สำนักสงฆ์วัดป่าน้ำตกเขมโก
0819812587

ร่วมบุญเป็นเจ้าภาพผ้าป่าสามัคคีสร้างกำแพงวัดป่าดอนหายโศก จ.อุดรธานี


ด่วน ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าหาทุนต่อเติมอาคารแก่ผู้ป่วยพื้นที่สูง(ชาวเขา)โดยกำหนดถวายองค์ผ้าป่าในวันศุกร์ ที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ สถานบริการสาธารณสุขชุมชนบ้านกาหม่าผาโด้ หมู่ ๕ ตำบลแม่หละ อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างองค์พระพุทธโสธร ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดสมุทรสาคร
084-326-7286

โครงการถวายพระไตรปิฎกสืบสานศาสนธรรม ในไทย ลาว พม่า เวียดนาม กัมพูชา จีน !!
086 – 670 – 4579

ขอเชิญร่วม บริจาค ชุดเครื่องเขียน แก่เด็กที่ยากจนแต่มีคุณธรรม
โทร.๐๘๒-๑๑๒๕๙๕๔


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO