นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 6:27 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 07 มิ.ย. 2013 4:55 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4549
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ทุกสิ่งหนา ใช่ของเรา ซะที่ไหน
ตถาคต เฝ้าตรัสบอก อยู่ร่ำไป
อย่าอยากใน สิ่งที่"ไม่ใช่ของเรา"



จะละอะไรมันต้องค่อย ๆ ไป ถ้าจะละทีเดียวแบบที่เขาเรียกว่า หักด้ามพร้าด้วยเข่า
กำลังใจมันต้องสูง ต้องตั้งสัจจะ จะตั้งสัจจะต้องดูกำลังบุญ กำลังกุศลด้วย


พูดมาก เสียมาก
พูดน้อย เสียน้อย
ไม่พูด ไม่เสีย
นิ่งเสีย โพธิสัตว์

“มนุษย์ผู้ใดเห็นแก่งานส่วนตัว…
…มนุษย์ผู้นั้นจะไม่มีงานทำในไม่ช้า
มนุษย์ผู้ใดเห็นแก่ทรัพย์ส่วนตัว
…มนุษย์ผู้นั้นจะไม่มีทรัพย์ครองในไม่ช้า
มนุษย์ผู้ใดเห็นแก่นอนมาก
... …มนุษย์ผู้นั้นจะไม่ได้นอนในไม่ช้า”

“นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา”

สมเด็จพระสังฆราชคุรูปาจารย์ หลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด) พระเถระสมัยกรุงศรีอยุธยา



การปฏิบัติต้องเอาให้มันจริงจัง เวลาหัวเราะก็หัวเราะไป เวลาสนุกก็สนุกไป แต่ไม่หลง
ไม่ใช่ไปนั่งทื่อ.. เพื่อนหัวเราะกัน แต่เรามัวคิดว่า "ไม่ได้ ๆ" อันนี้มันมีอารมณ์อวด
อยากให้เขารู้ว่า ฉันกำลังปฏิบัติ


วิธีคิดแบบรวบรัดเพื่อตัดตรงไปพระนิพพานได้ง่ายที่สุด
“เจ้าจงใคร่ครวญอย่างนี้ จงคิดว่าเราเป็นผู้ไม่มีอะไรเลย ทรัพย์สินไม่มี ญาติ เพื่อน ลูก หลาน เหลนไม่มี แม้ร่างกายเราก็ไม่มี เพราะทุกอย่างที่กล่าวมามีสภาพพังหมด เราจะทำกิจที่ต้องทำตามหน้าที่ เมื่อสิ้นภาระคือร่างการพังแล้ว เราจะไปนิพพาน เมื่อความป่วยไข้ปรากฏจงดีใจว่าวาระที่เราจะมีโอกาสเข้าสู่พระนิพพานมาถึงแล้ว เราสิ้นทุกข์แล้ว คิดไว้อย่างนี้ทุกวัน จิตจะชิน จะเห็นเหตุผล เมื่อจะตายอารมณ์จะสบายแล้วก็จะเข้านิพพานได้ทัน”





การถวายที่ดินไว้ในบวรพุทธศาสนานั้นนับว่าเป็นการทำบุญในฝ่ายวัตถุทานที่มี อานิสงส์มาก และผู้ที่ทำบุญถวายที่ดินนี้นับว่า เป็นผู้ที่โชคดีเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเพราะผลทุกอย่างที่จะบังเกิดขึ้นหลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็น กุฏิ โบสถ์ วิหาร หรือแม้แต่พระพุทธรูปทุกๆองค์ในวัด ตลอดจนผลแห่งธรรมทั้งปวงที่จะเกิดขึ้นในศาสนสถานหลังจากที่ได้ซื้อที่ดิน ถวายนี้ ผู้นั้นจะได้รับผลแห่งกุศลดังกล่าวทั้งหมด เพราะทุกอย่างล้วนปลูกสร้างหรือบังเกิดมีขึ้นได้ก็ด้วยผืนแผ่นดินที่เราได้ เป็นผู้สร้างถวาย

โดยเฉพาะเมื่อสถานที่แห่งนั้นได้เป็นสถานที่เป็นเหตุปัจจัยแห่งการสร้าง สาธุชน และเป็นเหตุให้บังเกิดพระอริยะบุคคล อันมีพระโสดาบันเป็นต้น ตลอดจนถึงพระอรหันต์เป็นที่สุดแล้วนั้น ผู้ที่มีส่วนร่วมในการซื้อที่ดินถวายในบวรพุทธศาสนาแห่งนั้นก็จักได้รับ อานิสงส์ดังกล่าวด้วย ยังจะเป็นบุญหนุนนำทำให้ผู้นั้นเจริญด้วยทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้นไป หากจักปรารถนาพระนิพพานในปัจจุบันชาติ หากผู้นั้นสามารถทำกำลังใจเต็มบริบูรณ์ทั้ง 10 ประการแล้ว การหวังซึ่งพระนิพพานในปัจจุบันชาติก็มิใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้

ขอกล่าวอานิสงส์ส่วนหนึ่ง อันจะบังเกิดจากการได้ถวายที่ดินเพื่อสร้างวัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติธรรม ให้สาธุชนทั้งหลายได้มาทำความดี ทั้งการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา เพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน

1. จักได้เกิดในถิ่นที่สบาย เหมาะแก่การทำความดี สร้างบุญบารมีให้ยิ่งๆขึ้นไป

2. ทำให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง ไม่มีตกต่ำ

3. มีความรื่นรมย์ทั้งในโลกมนุษย์และเทวโลก

4. ปรารถนาสิ่งใดที่เป็นบุญกุศล ย่อมสำเร็จได้โดยง่าย เป็นอัศจรรย์

5. ได้รูปกายที่สวยงาม เพียบพร้อมบริบูรณ์ด้วย
รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ
6. ได้เป็นเทวดาที่มีศักดิ์ยิ่งใหญ่ มีทิพยสมบัติที่รุ่งเรือง ตลอดจนมีทิพยวิมานอันใหญ่โต และมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล

7. มีความสง่างามเป็นที่เคารพนับถือศรัทธาของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย

8. มีพร้อมด้วยสุข 3 ประการเข้าถึงพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าได้โดยง่ายและมีพระนิพพานเป็นที่ตั้งโดยไม่เนิ่นช้า

9. จะได้เป็นใหญ่เป็นโต เป็นผู้ปกครองแผ่นดินหรือผู้บริหารประเทศ เกิดในภายภาคหน้าจะมีที่ดินเป็นของตนเอง และเป็นที่ดินที่มีทำเลดี เป็นที่ต้องการของคนทั้งหลาย เราจะไม่ต้องเร่ร่อน ไม่อดอยาก

10. ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนแผ่นดินนั้นก็จะเจริญงอกงาม เหมาะแก่การประกอบสัมมาชีพตามปรารถนา เป็นทำเลดีค้าขายก้าวหน้า ปลูกพืชให้ดอกให้ผลงอกงามกว่าที่ใดๆ

11. เป็นกุศลหนุนนำทำให้เกิดการบรรเทากรรมให้กับในผู้ที่ไม่มีที่ดินทำกิน ต้องเช่าเขา ถูกเขาโกงที่ หรือเกิดมาชาตินี้ต้องมาอยู่ที่แออัดคับแคบ แย่งกันอยู่ แย่งกันใช้ กรรมเหล่านี้จะได้เบาเทาเบาบางลง หากมีกรรมนี้เพียงเล็กน้อยติดมาก็จะหมดกรรมได้โดยเร็ว









ถาม : โต๊ะหมู่บูชาที่บ้าน ควรหันไปด้านไหน?



ตอบ : ถ้าตามตำรา หลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านบอกว่าโต๊ะหมู่บูชาหรือหิ้งพระควรหันไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือเท่านั้น ถ้าหันไปทิศอื่น ต่อให้ทำมาหากินเก่ง มีเงินคล่องตัวขนาดไหน ก็มีอันต้องใช้จนหมด



ถ้าต้องการในเรื่องของลาภผลก็หันไปทิศตะวันออก ถ้าต้องการในเรื่องของยศของตำแหน่ง ก็ให้หันไปทางทิศเหนือ



ถาม : ลำดับของพระที่เราจะเรียง ?



ตอบ : พระพุทธเจ้าไว้บนสุด ลำดับถัดลงมาก็เป็นพระสงฆ์ หลังจากนั้นก็เป็นบรรดาเทวรูปหรือเจ้าแม่กวนอิม



ถาม : เจ้าแม่กวนอิมเอาไว้ด้วยกันได้ไหม ?



ตอบ : ได้..แต่ให้ต่ำกว่าพระ
เพราะว่าคนที่ไม่เข้าใจจะหาว่าวางผู้หญิงไว้สูงกว่าพระ


ถาม : เจ้าแม่กวนอิมเป็นผู้หญิงหรือคะ มีคนบอกว่าเป็นผู้ชาย ?



ตอบ : รูปท่านเป็นผู้หญิง ในเมื่อรูปท่านเป็นผู้หญิง เราต้องยอมรับว่าคนทางโลกเขานิยมให้ผู้หญิงอยู่ต่ำกว่าพระ







อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ทุกสิ่งหนา ใช่ของเรา ซะที่ไหน

ตถาคต เฝ้าตรัสบอก อยู่ร่ำไป

อย่าอยากใน สิ่งที่"ไม่ใช่ของเรา"





" รากเหง้าของความโกรธ "



ถาม : รากเหง้าของความโกรธ มีอะไรบ้างคะ แล้วจะแก้ หรือจะขุดรากอย่างไร ?



ตอบ : ถ้าจะขุดนะ ก็ควักลูกตา แล้วก็อุดหู แค่นั้นก็โกรธยากแล้ว เพราะว่าความโกรธเข้าง่ายที่สุดก็ทางตากับทางหู



ตาเห็นเก็บเข้าไปสู่ใจ ไม่พอใจ หูได้ยิน เก็บเข้าไปสู่ใจ ไม่พอใจ ไม่พอใจกับถูกใจ แย่ทั้งคู่ ถูกใจแสดงว่าชอบใจ ไม่พอใจแสดงว่าไม่ชอบ ใช่ไหม ? โบราณเขาบัญญัติคำศัพท์ดีจังเลย ถูกใจ ถ้าถูกก็เจ๊งเลย



เราต้องสักแต่ว่าเห็น สักแต่ว่าได้ยิน รับรู้เอาไว้แล้วรักษาใจให้ดี อย่าให้เข้ามาในใจได้ ฟังแล้วก็ไม่ยากนะ ใช่ไหม ?



ถาม : แต่ทำยากจัง

ตอบ : ค่อย ๆ ทำ ถ้าสติตามทันแล้ว เรื่องอื่น ๆ ไม่ยาก



ตามลมหายใจเข้า-ออกให้ทัน ถ้าตามทัน ต่อไปก็จะค่อย ๆ ไล่กิเลสทัน



คราวนี้ของเราไล่หมายังไม่ค่อยจะทันเลย หมาวิ่งเร็วกว่า...



ถาม : ถูกใจกับไม่ถูกใจ อย่างไหนยากกว่าคะ ?

ตอบ : ถูกใจแกะยาก ไม่ถูกใจเดินหนีได้ง่ายกว่า ใช่ไหม ? แต่ก็เป็นอารมณ์ที่ใช้ไม่ได้ทั้งคู่











" กำลังใจที่เห็นได้จากตอนป่วย "



การเจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าเป็นหนัก ๆ กำลังใจที่เราสร้างไว้ตั้งแต่ต้นมันจะรวมกันหมด ถ้าใครมีประสบการณ์ตรงนี้ ถึงเวลาป่วยก็น่าดีใจ มันเห็นต้นทุนของตัวเองว่ามีเท่าไหร่ แต่ถ้าหากกำลังใจไม่พอ ต้นทุนไม่พอ เจ็บป่วยขึ้นมาก็จะไปโอดโอยอยู่กับมัน แล้วถ้าตายตอนนั้นจิตเศร้าหมองก็อาจจะไปไม่ดีด้วย



ถ้าเป็นนักปฏิบัติจริง ๆ จะไม่ห่วงร่างกาย ถึงเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยก็ป่วยไปเถอะ ไม่ได้ว่าอะไร ถ้ารักษาหาย...ก็หาย ถ้าไม่หายก็เรื่องของมัน แต่ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยทีหนึ่ง คนรู้ทั่วประเทศไทยละก็ อันนั้นแสดงว่ายังรักตัวเองมาก ต้องรีบประกาศบอกให้ชาวบ้านเขารู้







" นอนไม่หลับเพราะถูกทดสอบ "



ถาม : ไปวัดท่าขนุน ...โดนทั้งคืน ทำให้ผมตื่นทุกชั่วโมงเลย ?



ตอบ : ยังดี..บางคนไม่ให้หลับเลย พอเคลิ้ม ๆ จะหลับก็มีคนกระตุกขาให้ตื่น



ถาม : กลับบ้านมานอนอีก ๓ วันก็ไม่ได้หลับเลย ?



ตอบ : แล้วตอนนี้หลับได้หรือยัง ?



ถาม : ตอนนี้ก็หลับแต่ไม่สนิทครับ ?



ตอบ : มา...เดี๋ยวจะช่วยตีให้สลบเลย ก้มหัวมา



ถาม : เป็นทุกข์จริง ๆ (เสียงตีหัว) ?



ตอบ : เอาให้แตกกระจายไปเลย



มีสาวบ้านอู่ล่องคนหนึ่งชื่อบัวเงิน ไม่ได้นอนมา ๔ เดือนกว่าแล้ว หน้าเหี่ยวมาเชียว มาบวชชี เขามาถึงก็.. "หลวงพ่อช่วยหนูด้วยค่ะ หนูโดนไสยศาสตร์มา"

อาตมาถามว่า "รู้ได้อย่างไรวะ ?" บัวเงินตอบว่า "มีคนเขาตั้งใจทำ"



อาตมาเองตั้งใจไว้แล้วว่า ถ้าไม่มาดิ้นพราด ๆ อยู่ตรงหน้าก็ไม่ช่วยหรอก แต่ดันมาแล้วก็จำเป็น ก็ใช้วิธีนี้แหละ ตีหัวไปครั้งหนึ่ง นอนไป ๒ วันกับ ๒ คืนถึงตื่น คุ้มกับที่ไม่ได้นอนมา ๔ เดือน ตอนแรกใคร ๆ ก็นึกว่าตายไปแล้ว นอนได้นานขนาดนั้น...



ถาม : บุญที่สามารถส่งเสริมให้ผู้ชายก็ดี ผู้หญิงก็ดี เข้าถึงธรรม คือผมไม่ทราบว่า ในชาติหน้าเราจะได้เกิดเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ต้องทำบุญอย่างไร ?



ตอบ : ทาน ศีล ภาวนา สามสิ่งนี้เป็นบุญใหญ่ที่สุดในพระศาสนา



ท่านบอกว่าบุญกริยาวัตถุ คือ การกระทำที่เป็นบุญ มี ๑๐ ประการ

ทานมัย การให้ทาน

ศีลมัย การรักษาศีล

ภาวนามัย การปฏิบัติภาวนา สามอย่างนี้ใหญ่ที่สุด

ถัดจากนั้นก็เป็น อปจายนมัย คือ การนอบน้อมถ่อมตน

เวยยาวัจมัย คือ การช่วยเหลืองานบุญของคนอื่นให้สำเร็จลง

ปัตติทานมัย การทำบุญและอุทิศส่วนกุศลให้เขา

ปัตตานุโมทนามัย เห็นเขาทำดีแล้ว โมทนากับเขา

ธัมมัสวนมัย ฟังธรรมแล้วนำไปปฏิบัติ

ธัมมเทสนามัย ปฏิบัติได้แล้วไปสอนคนอื่นต่อ

แล้วตัวสุดท้าย ทิฏฐุชุกัมม์ มีความเห็นถูกว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนมานั้นถูก เราจะปฏิบัติตาม



" อย่าไปดูถูกใครเขานะลูก "



อย่าไปดูถูกใครเขา ให้คิดเสียว่าดวงจิตทุกดวงจิตมีพระนิพพานเป็นที่ไปสุดท้าย

ทุกดวงจิตต่างลงมาบำเพ็ญเพียรเพื่อเป็นพระอรหันต์กันทั้งสิ้น

แต่ในระหว่างทางที่จะไปถึงพระนิพพานได้นั้น

ดวงจิตแต่ละดวงจิตก็ต้องเผชิญการทดสอบ

การบำเพ็ญเพียรที่แตกต่างออกไปตามกรรมของแต่ละดวงจิต



เวลาที่เราเห็นใครทำดี เราก็โมทนาในความดีของท่านทั้งหลายนั้น

หากเห็นเขาทำอะไรไม่ดี ก็ให้สงสารเขา แล้วถ้าพอจะช่วยเขาได้ ก็ช่วยตามกำลังของเรา

แต่หากช่วยไม่ได้ ก็ให้ถืออุเบกขา เพราะเราไม่สามารถจะช่วยเขาทั้งหลายได้ทั้งหมด



แล้วให้คิดเสียว่า ดวงจิตนั้นได้กระทำการที่เสี่ยงต่อการไปนรกให้เราได้เห็น ได้เรียนรู้

เขาได้เสียสละตนเอง แสดงเหตุที่เสี่ยงต่อการไปนรกให้เราได้เห็น และอย่าไปทำตามเขา



" หนี้ที่หลวงตาเต็มใจรับสภาพ "



ในชีวิตของหลวงตาเป็นหนี้มาโดยตลอด มีทั้งหนี้ที่ใช้ให้หมดสิ้นไปได้ คือ หนี้สิน และมีทั้งหนี้ที่ไม่มีวันจะใช้ได้หมด คือ "หนี้น้ำใจ" อย่างแรกน่ะ! พยายามชดใช้ ก็ค่อย ๆ หมดไป แต่หนี้อย่างหลังคือน้ำใจความดีของผู้คน มีแต่พอกพูนจนหัวใจหลวงตาเต็มล้น จนระเบิดกระจายออกมาเป็นตัวอักษรเต็มหน้าเต็มตาผู้อ่านอยู่ขณะนี้



ท่านผู้มีคุณทุกท่าน และลูกหลานทุกคนเอย ทุกคนคงเข้าใจ น้ำใจที่หลวงตารู้คุณความดีของทุกท่านซึ่งมากมายหลายหลาก และคงไม่น้อยใจที่หลวงตาจะไม่เขียนเจาะจงบ่งถึง และคงจะสะเทือนใจไปกับหลวงตาเมื่อได้อ่านในขณะนี้ว่า หลวงตากำลังเขียนถึงหนี้น้ำใจครั้งล่าสุด ที่เล็กน้อยแต่ยิ่งใหญ่ที่สุดจนหลวงตาขอเขียนสัญญายอมรับสภาพหนี้นี้โดยเฉพาะ...



วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) สร้างสรรค์พัฒนาขึ้นมาด้วยแรงงานของช่างรับเหมา พระภิกษุสงฆ์ และชาวเขาเผ่าม้ง ค่ารับเหมา ค่าแรงงานก็มาจากน้ำใจน้ำเงินจากศรัทธาบริสุทธิ์ของทุกท่าน แต่เมื่อวานนี้ (๘ ก.ย. ๔๕) เงินที่จ่ายค่าซ่อมรถที่ขนดินให้ม้งทำงานมันไม่มี พระดอกรักผู้มีหน้าที่คุมม้งก็บอกให้ม้งฟังว่าจะต้องหยุดทำงานก่อนเพราะไม่มีเงิน ๖,๐๐๐ บาท สำหรับซ่อมรถ



รุ่งขึ้น ม้งก็มาทำงานขนดินอย่างเดิม แต่ยื่นมือส่งเงินให้พระดอกรัก ๖,๐๐๐ บาท บอกว่าให้ยืมไปซ่อมรถ รวมมาได้ ๕ คน เขาเก็บกันไว้จากค่าแรงที่ได้จากวัดนี่แหละ



แม่คุณเอย... แม่เป็นคนที่ทางราชการไม่ยอมให้ความเป็นมนุษย์ คือไม่ยอมรับว่าเป็นคนไทย ไม่ออกบัตรประชาชนให้ ถูกรถชนตายก็ไม่มีการบันทึกทำคดี เหมือนชนหมาตัวหนึ่ง แม่มาทำงานหนักที่วัดนี้ไม่เคยบ่นพ้อต่อคำ มีแต่ยิ้มรับชะตากรรมตลอดมา จนวันนี้แม่ก็มาหยิบยื่นเงินจากหยาดเหงื่อให้พระยืมทำงาน ซ้ำคนที่เหนื่อย ลาหยุดงานก็ขอมายื่นเงินให้ด้วยตัวเอง หลวงตาขอรับน้ำใจแม่ไว้ ขอแจ้งให้แม่ทราบว่า จะใช้บำรุงจรรโลงพระพุทธศาสนา หลวงตาและคณะสงฆ์วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) เป็นหนี้แม่ ๖,๐๐๐ บาท (หกพันบาทถ้วน) และยินดีชดใช้คืนให้เร็วที่สุด แต่สิ่งหนึ่งซึ่งจะไม่ยอมคืน ไม่ยอมให้มันหายไปจากใจพระ ก็คือหนี้น้ำใจนี้ คือพระจะตั้งใจทำความดีให้สมกับที่แม่ส่งเสริม จะไม่ยอมโกงศรัทธาประสาคนป่าดอยของแม่ ตราบท้าวเข้าสู่พระนิพพาน







" ภาวนาเพื่อหนีความทุกข์ "



ถาม : มีอยู่วันหนึ่ง มีความรู้สึกว่าไม่สบาย เวียนหัว แล้วพอไปเข้าห้องน้ำ แล้วรู้สึกหน้ามืด พอหน้ามืดตอนนั้น จิตฉุกคิดขึ้นมาว่า ที่เราเป็นอย่างนี้ เพราะมีร่างกาย พอคิดอย่างนี้แล้วรู้สึกมืดไปหมดเลย ไม่รู้ตัว ?



ตอบ : อย่างนั้นแสดงว่ากำลังใจของเราใช้ได้จ้ะ เวลาเกิดเวทนา เกิดความเจ็บไข้ได้ป่วยกับร่างกายขึ้นมา เราสามารถนึกถึงข้อธรรมคำสอนได้อะไรได้ ตอนนั้นถ้าตั้งใจหน่อยเดียวว่า ถ้าตายตอนนี้เราขอไปพระนิพพาน ก็สบายเลย



แบบนี้แสดงว่าลูกพ่อจริง ๆ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านก็ไปหน้ามืดอยู่ในห้องน้ำ แล้วท่านไม่ได้หน้ามืดเฉย ๆ แต่หล่นจากโถส้วมไปกองกับพื้นเลย เสร็จแล้วท่านก็อุตส่าห์พยายามทรงตัวถอดกลอนออกมา แล้วมาหมอบอยู่หน้าห้องน้ำ ท่านบอกว่า เดี๋ยวคนไปลือว่าข้าตายคาโถส้วม ลูกศิษย์จะขายหน้าเขา ก็เลยตะกายออกมาตายข้างนอก หมดลมอยู่พักหนึ่ง พระท่านไล่กลับมา ก็เลยต้องฟื้นใหม่



ถาม : แล้วตอนนั้นที่รู้สึกว่ามืดไปนั้นเป็นอย่างไรคะ ?



ตอบ : มีอยู่สองอย่างจ้ะ คือ สติขาดไป เพราะเวทนาที่เกิดขึ้นบีบคั้น อีกอย่างหนึ่งก็คือ พอเป็นฌานอยู่บ้าง แต่ว่าสติตามไม่ทัน ก็ตัดไปเฉย ๆ ลักษณะนั้นเหมือนกับวูบไป อาการใกล้เคียงกันมาก ต้องสังเกตดูให้ดี แต่ว่าถ้าทำในลักษณะนั้นได้ก็สบายใจได้เลยว่า อย่างน้อยกำลังใจของเราน่าจะเกาะความดีได้อยู่บ้าง แต่อย่าไปประมาทนะ หมั่นทำบ่อย ๆ



อาตมาตอนป่วยหนักคราวก่อนนี้ เกาะไม่ปล่อยเลย เขาจะหามไปเผาทิ้งเสียแล้ว ถึงเวลาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยเกิดขึ้นหนัก ๆ ถึงเวลาก็จับอารมณ์ภาวนาเพื่อหนีความทุกข์ของร่างกาย ปรากฏว่าจับแน่นไป เขาจะเอาไปเผาเสียแล้ว อย่าพยายามเลียนแบบจ้ะ คนไม่เข้าใจเขาเอาไปเผาแล้วจะยุ่ง



ถาม : แต่ก่อนที่จะวูบไป จิตรู้ตัวว่าเวียนหัว แต่ไม่มีความทุกข์ ?



ตอบ : จ้ะ เรารู้เท่าทัน แต่ขณะเดียวกัน จิตก็พร้อมที่จะรับ ตอนนั้นนึกถึงพระได้เลยจ้ะ ถ้าหากว่าเราตายตอนนี้ ขอไปอยู่กับพระที่พระนิพพานกับท่านแล้วกัน ทำอารมณ์ใจสบาย ๆ จะเป็นจะตายก็ปล่อยไป ถ้าลืมตาตื่นขึ้นมา เราก็ทุกข์ต่อไป ถ้าไม่ลืมตาตื่นขึ้นมาเราก็สบายไปเลย อาตมาพยายามทำหลายครั้งแล้ว ตื่นทุกครั้งเลย





การตรวจสอบไม่ใช่การลบหลู่ดูหมิ่น หรือเป็นเรื่องของการจับผิดการที่เราเห็นอะไรที่ผิดพลาดไม่สมควร เราชาวพุทธก็ กล่าวตักเตือนกันได้ด้วยความเมตตาสงสาร แต่ไม่ควรไปติฉินนินทาเพราะจะเป็นบาป ส่วนการตักเตือนครูบาอาจารย์ หรือผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ควรไปตักเตือนโดยตรง ควรใช้วิธีถามปัญหา พระทำอย่างนั้นๆผิดหรือเปล่า ถ้ามันตรงกับความประพฤติของท่าน ถ้าท่านหวังดีต่อพระธรรมวินัย ท่านรู้สึกเอง คือความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ นี่ไม่ว่ามนุษย์ปุถุชน พระอรหันต์ก็สามารถผิดพลาดได้ คงมีแต่พระพุทธเจ้าองค์เดียวเท่านั้น เช่นมีอยู่ครั้งหนึ่ง พระสารีบุตรอรหันต์เดินตามหลังพระพุทธเจ้าไป ทุกองค์เขาเดินลุยน้ำไป แต่ร่องน้ำมันพอกระโดดข้ามได้ พอถึงพระสารีบุตรกระโดดข้ามปั๊บ พระภิกษุกระโดดนี่เป็นอาบัติทุกกฎ ทีนี้พระพุทธเจ้าหันมาทัก สารีบุตรนี่เคยเป็นลิงมาแต่ชาติปางก่อน นิสัยยังติดอยู่ ท่านก็เทศน์ว่า นิสัยวาสนา พระสาวกละไม่ได้เด็ดขาด มีพระพุทธเจ้าองค์เดียวเท่านั้น



เราจะถอนตัวออกมาจากสิ่งทั้งหลายที่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ได้อย่างไร.

คำตอบก็คือจะต้องศึกษาว่าอะไรเป็นเหตุให้เราอยากจนไปยึดติดแต่สิ่งนั้นเมื่อรู้ต้นเหตุก็อาจจะตัดการยึดติดเสียได้



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO