นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 5:49 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 04 ธ.ค. 2012 6:36 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4549
..การให้กำลังใจผู้ทำความดี
จะมีอานิสงส์คือ
ทำให้เราเป็นผู้มีกำลังใจสูงส่ง
ไม่มีใครมาตัดรอนกำลังใจได้
จะเป็นที่รักของมนุษย์
และเทวดาทั้งหลาย
สิ่งเหล่านี้จะเกื้อหนุน
ทำให้เราเข้าถึงธรรม
ได้สมหวังดังตั้งใจ

จาก...บทความในหนังสือ...“ในที่สุดคุณก็ชนะ” โดย...ตะวันธรรม



ถึงเป็นเด็กตัวน้อยด้อยเดียงสา
ยังรู้ว่าควรก้มกราบพระองค์ไหน
ถึงเป็นเด็กตัวน้อยใช่ไร้ใจ
ยังรู้ใครคือคนที่ควรบูชา

ถึงเป็นเด็กตัวน้อยเพิ่งเห็นโลก
ยังรู้ว่าเป็นโชคที่ควรรักษา
ถึงเป็นเด็กตัวน้อยยังรู้จักองค์ราชา
ยังรู้ว่าโชคดีนักหนา เกิดเป็นคนไทย

ความสุขก็ ยึดไว้ ไม่ได้ดอก
ความทุกข์ก็ หลอกหลอก จริงที่ไหน
ทุกทุกสิ่ง เพียงผ่านมา แล้วลาไกล
เหลือไว้แต่ ความว่าง อย่างนั้นเอง..


เมื่อเรามี กิเลส ที่เผ็ดร้อน
คอยกัดกร่อน จิตใจ ให้เศร้าหมอง
โลภ โกรธ หลง โลมลวง เป็นบ่วงครอง
อารมณ์ข้อง เกี่ยวอยู่ ไม่รู้ตัว

เผลอในลาภ อาบพิษรัก มักโมโห
คอยผลุบโผล่ เผยอยิ้ม จ่อจิ้มหัว
ถ้าตราบใด ใจนั้น ยังพันพัว
ความเมามัว มาตรเหมือน เป็นเงื่อนทุกข์

จะสลาย คลายกิเลส ด้วยเคล็ดไหน
จนผ่องใส เปรมปรีดิ์ ฤดีสุข
ก็เพียงธรรม นำทาง ช่วยล้างทุกข์
มาเปลื้องปลุก ปัญญา ตัณหาคลาย

ได้ชื่อว่า อรหันต์ วรรณะผ่อง
ความขัดข้อง ขมขื่น ขาดสลาย
เหลือแต่ดวง จิตแก้ว ที่แพรวพราย
สกนธ์กาย ขันธ์ห้า หยุดราวี

หากยังเป็น ปุถุชน ผจญบาป
จิตยังหยาบ เผลอต่ำ ตามวิถี
จึงต้องฝึก ขันติ สติมี
พิจารณา ถ้วนถี่ ทางที่ควร


การปฏิบัติจิตภาวนาจำต้องเป็นผู้ตื่นอยู่เสมอ อารมณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้าออกตามทวารต่างๆ นั้น ต้องได้รับการใคร่ครวญพิจารณาจากสติสัมปชัญญะเสียก่อนทุกครั้ง นอกจากความเป็นผู้มีสติประจำอิริยาบถแล้ว การบริโภคปัจจัย ๔ ก็ต้องพิจารณาโดยอุบายทุกครั้ง การพิจารณาปัจจัย ๔ ก่อนการบริโภคการใช้สอยนั้น เป็นอุบายข่มความทะเยอทะยานอยากของจิตได้ดี

หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ



ไม่อยากเครียดไม่อยากทุกข์ ต้องท่องธัมมะภาวนาไว้

ในยามที่คนเรามีความเครียดเกิดเป็นความทุกข์ใจ ก็เพราะใจของเราหลงอยู่กับความรู้สึกยินดียินร้าย,ความพอใจหรือไม่พอใจ, ที่มีต่อสิ่งที่ผ่านเข้ามาให้รับรู้ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ สิ่งสัมผัสทางตาคือการได้เห็นรูป ทางหูคือการได้ยินเสียง ทางจมูกคือการได้ดมกลิ่น ทางลิ้นคือการได้รับรู้รส ทางกายคือการได้รับสัมผัส มีเย็นหรือร้อนอ่อนหรือแข็ง และทางใจคือการนึกคิด(จากสัญญาขันธ์) ถ้าเราหลงยินดียินร้ายเข้า ก็เป็นเหตุให้ไปกระตุ่นความจำในจิตใต้สำนึกออกมานึกคิดปรุงแต่ง จนเราเกิดความเครียดความทุกข์ใจ เพราะความรู้สึกยินดียินร้ายเป็นอกุศลจิตเป็นเหตุ ทำให้เกิดกิเลสกามตัณหา อุปาทาน และอัตตาอคติ เพราะโลภ โกรธ หลง ครอบงำจิตให้เกิดความเศร้าหมอง

อีกอย่างหนึ่งคือ (รูป เสีย กลิ่น รส สัมผัส ล้วนเป็นวิบากของกรรมเก่า) ที่เราจำต้องได้พบได้เห็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว จึงควรรู้เรื่องของวิบากกรรมนี้ไว้ด้วย จะได้ไม่หลงไปยินดียินร้ายเป็นความยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งเหล่านี้ให้เกิดทุกข์ ความทุกข์ใดๆในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่จะมาแก้ไขได้ นอกจากการประพฤติปฏิบัติธรรม ตามหลักการปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนานี้เท่านั้น อริยะมรรคคือหนทางอันประเสริฐที่จะทำให้เราพ้นจากทุกข์ได้

หัวใจสำคัญของอริยมรรคคือการดำริชอบหรือการคิดไว้ในใจ ได้แก่การท่องบริกรรมธัมมะภาวนาไว้จะช่วยได้ ไม่ทำให้เราหลงเกิดเป็นความทุกข์ ยิ่งได้ท่องภาวนายิ่งจะทำให้เราเกิดความรู้ตัวหรือตัวรู้(คือสัมปชัญญะ) ทำให้เกิดสติรู้สกัดกั้นบาปอกุศลไม่ให้เกิดขึ้น รู้เท่าทันอารมณ์และความรู้สึกยินดียินร้ายได้เอง จึงทำให้จิตเกิดรู้จักการปล่อยวางในอารมณ์ ไม่เอาเก็บเป็นความจำไว้ในใจเป็นสัญญาขันธ์ ความเครียด ความฟุ้งซ่านใดๆ ก็ไม่อาจเกิด เพราะจิตของเราเป็นจิตที่ผ่องใส ถ้าเรามีความตั้งใจจริงในการท่องบริกรรมภาวนาไว้ในใจตลอดเวลา ในทุกๆ อิริยาบถของการดำเนินชีวิตเป็นปัจจุบัน ทำตามอริยะมรรคเป็นเหตุ ผลคือจะทำให้เราเกิดสติ รู้ปล่อยวางอารมณ์หรือความรู้สึก คือความยินดียินร้ายได้ ความเครียดความทุกข์ทั้งหลายก็มลายไป เพราะการมีสติรู้ทันทำให้เกิดกุศลบุญมีความผ่องใสเป็นปัจจุบัน เกิดเป็นสันติสุขคือความสงบสุขในใจ ดังนี้.

คาถาไว้ดำริชอบคือการคิดท่องบริกรรมภาวนาว่า(อย่ายินดียินร้าย.อย่าว่าร้ายใคร.อย่าคิดร้ายใคร.)ท่องไว้นะการท่องไว้เป็นอริยะมรรค สติเกิดเป็นผลของมรรคที่ได้ท่องภาวนาไว้ในใจเปรียบเสมือนมีพระพุทธเจ้ามาเทศน์ให้เราฟังอยู่ในใจเสมอๆ ทำให้จิตผ่องใสมีความสบายใจ.



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO