นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 7:01 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 27 พ.ย. 2012 10:41 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4549
"รู้ผิด รู้ถูก
รู้ดี รู้ชั่ว
แต่ถ้าไม่"รู้ตัว"
ก็ไม่เกิดประโยชน์"

การบำรุงรักษาสิ่งใดๆ ในโลก
การบำรุงรักษาตน คือ ใจ เป็นเยี่ยม
จุดที่เยี่ยมยอดของโลก คือ ใจ
ควรบำรุงรักษาด้วยดี ....

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

คนที่เจอผีส่วนใหญ่แล้วเพราะผีเขาลำบากเขาต้องการความช่วยเหลือ บุคคลที่เจอผีมี ๒ ประเภท ประเภทแรกคือบุคคลที่เคยมีกรรมอันเนื่องกันมา เขาสามารถไปขอความสงเคราะห์ได้ อย่างเช่นว่า เปรตพระญาติของพระเจ้าพิมพิสารอย่างนี้ ให้คนอื่นสงเคราะห์ กระทั่งพระพุทธเจ้าก็สงเคราะห์ไม่ได้ ต้องเป็นญาติของเขาเองโดยตรง เพราะสร้างบุญสร้างบาปร่วมกันมา อีกประเภทหนึ่งก็คือว่าเป็นบุคคลที่สร้างบุญใหญ่เอาไว้ แล้วบรรดาผีนั้นเขาฉลาด เขารู้ว่าใครบุญมากบุญน้อยยังไง เขาก็ไปปรากฏตัวเพื่ออยากให้ช่วยเหลือ

บรรดาผีน่ะเขาเป็นผู้ที่มีบุญน้อยศักดานุภาพน้อยมันเหมือนกับคนจน มันแต่งตัวมาสวยสุดขีดแล้ว ไอ้ที่เราเห็นแล้ววิ่งน่ะ สงสารมันบ้างเถอะ คราวหน้าเจออย่าไปกลัว เขามาขอความช่วยเหลือ คนที่เจอผีแสดงว่าบุญมากพอไม่ใช่ดวงตกหรือศีลขาดอะไรทั้งนั้น ถ้าเจอให้ตั้งใจเลยว่าผลบุญที่เราทำมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ขออุทิศให้กับเธอ ถ้าเขายืนอยู่ตรงหน้าเห็นรูปก็คือเจ้าของรูปนั้น ถ้ามาแต่เสียงบอกว่าอุทิศให้เจ้าของเสียงนั้น ถ้ามาแต่กลิ่นอุทิศให้เจ้าของกลิ่นนั้น ขอให้เขาโมทนา เราจะได้รับประโยชน์ความสุขเท่าใดขอให้เขาได้รับด้วย แค่นั้นแหละเขาจะไม่กวนอีก เขาโมทนาแล้วจะไปเลย แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเรามันไม่รู้ พอถึงเวลามาก็คลุมโปง กลัวจัด ๆ ขึ้นมาด่ามันส่งไปอีก แทนที่ผีจะได้อานิสงส์ก็เลยกลายเป็นโดนด่าฟรี นั่งร้องไห้ไม่รู้เท่าไหร่แล้วผีนะ

พระอาจารย์เล็ก สุธัมมปัญโญ


พึงชนะความโกรธ ด้วยความไม่โกรธ
พึงชนะคนไม่ดี ด้วยความดี...!!!


ของขวัญ จากความเจ็บปวด คือ บทเรียนอันล้ำค่า
ของขวัญ จากหยดน้ำตา คือ หัวใจที่เติบโตและเข้มแข็ง
ของขวัญจากความเปลี่ยนแปลงคือ ได้เห็นสัจธรรมของชีวิต
ของขวัญจากความยึดติดคือ ได้เรียนรู้ถึงการปล่อยวาง...!


สุทสฺสํ วชฺชมญฺเญสํ
อตฺตโน ปน ทุทฺทสํ
ปเรสํ หิ โส วชฺชานิ
โอปุนาติ ยถา ภุสํ
อตฺตโน ปน ฉาเทติ
กลึว กิตวา สโฐ ฯ ๒๕๒ ฯ

โทษคนอื่นเห็นได้ง่าย
โทษตนเห็นได้ยาก
คนเรามักเปิดเผยโทษคนอื่น
เหมือนโปรยแกลบ
แต่ปิดบังโทษของตน
เหมือนนักเลงเต๋าโกงซ่อนลูกเต๋า

Easy to perceive are others' faults,
One's own, however,are hard to see.
Like chaff one winnows others' faults,
But conceals one's own
Just as a cheating gambler hides
An ill-thrown dice.

พุทธวจนะในธรรมบท หมวดมลทิน (IMPURITY)
โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

กิเลสทั้งหมดเกิดรวมอยู่ที่จิต
ให้เพ่งมองดูที่จิต
อันไหนเกิดก่อน
ให้ละอันนั้นเกิด ...


ทำให้พ่อแม่เสียใจ

ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ การทำให้พ่อแม่เสียใจนี่บาปไหมคะ ?

หลวงพ่อ : เราทำให้ท่านเสียใจ บางครั้งก็ทำด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ บางทีอารมณ์ต่ำไปนิดหนึ่ง ทว่าจิตสบายก็ไปขอขมาท่าน

ผู้ถาม : ถ้าท่านตายละค่ะ

หลวงพ่อ : ตายแล้วก็ไม่เป็นไร ! เราตั้งใจขอขมาท่าน คือว่าตามธรรมดา ตราบใดที่เรายังไม่ใช่พระอริยะ เราก็อดสร้างความกระทบกระทั่งกระเทือนใจไม่ได้ แต่เจตนาน่ะจะร้ายมากเท่าไร

ถ้าไม่มีโมโหโทโสก็ต้องเป็นพระอนาคามี ถ้าเรายังมีกิเลสอยู่ ก็ยังมีการกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา


ดูกร ภิกษุทั้งหลาย
เธอเห็นคนทำการลากกิ่งไม่นั้นไปเผาหรือเปล่า
ภิกษุ "เห็นอยู่พระเจ้าข้า"
ทรงตรัส "แล้วเธอรู้สึกอย่างไร"
ภิกษุ "รู้สึกเฉยๆพระเจ้าข้า"

พุทธองค์จึงตรัสสอนว่า
"นั้น เป็นเพราะเธอเห็นว่า
กิ่งไม้นั้นไม่ใช่ของเรา
ไม่ใช่เป็นเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา"


หลักธรรมชาติอีกอย่างก็คือ เมื่อไหร่ที่ทำเหมือนเดิมซ้ำๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่มีสิ่งใหม่ๆ สิ่งนั้นย่อมจืดชืด และขาดความสนใจในที่สุด

แค่ ” คิดดี ทำดี พูดดี “
ไม่ต้องไปขอพรที่ไหน
ชีวิตเรา ก็จะมีแต่ “ความสุข”


บารมีต้องสร้างเอา เหมือนอยากให้มะม่วงของตนมีผลดกก็ต้องหมั่นบำรุงรักษาเอา ไม่ใช่แห่ไปชื่นชมต้นมะม่วงของคนอื่น ต้องไปปลูก ไปบำรุงต้นมะม่วงของตนเอง การสร้างบารมีก็เช่นกัน ต้องสร้างต้อง ทำเอาเอง.

หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ


หญิงก็ดี ชายก็ดี ถ้าอยากให้วงศ์ตระกูลของตนสูงขึ้น
ต้องการให้คนมากขึ้นมีพวกพ้องวงศ์วานมากขึ้น
ก็อย่าเป็นคนตระหนี่ จงแก้ไขด้วยปัญญาของตน
ถึงคราวให้อาหารก็ให้อาหาร
ถึงคราวให้ผ้าก็ให้ผ้า
ถึงคราวให้ที่หลับนอนก็ให้ที่หลับนอน
ถึงคราวให้ยารักษาโรคก็ให้ยารักษาโรค
ให้ไปตามกาลเวลาอย่างนั้น
ให้เขาเป็นสุขเบิกบานสำราญใจ
หากเราให้อย่างนี้แล้ว วงศ์ตระกูลของเราย่อมสูงขึ้นเป็นลำดับ
เป็นที่สรรเสริญของคนทั่วไป ฯ


สุราพาย่อยยับ
สุรามันเกิดขึ้นในประเทศใด ประเทศนั้นย่อยยับหนา สุรา
มันไปติดอยู่กับคนใดละ คนนั้นย่อยยับหนา หญิงก็ดีชายก็ดีติด
สุราดื่มสุราละก็ย่อยยับหนาเอาตัวรอดไม่ได้ เพราะเหตุใด
เพราะสุราเมื่อดื่มเข้าไปแล้วนะ……….

ทำคนดี ๆ ให้เป็นคนเสีย
ทำคนมีสติให้เป็นไม่มีสติเสีย
ทำคนมีอารมณ์ดีให้เป็นคนมีอารมณ์ฉุนเฉียว
ให้อารมณ์ลอกแลกไปเสียแล้ว
สติดี ๆ ทำให้เผลอตัวไปเสียแล้ว ไม่รู้จักบิดามารดา
ไม่รู้จักสมณพรหามณ์ ไม่รู้จำผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้เฒ่าผู้แก่

ดื่มสุราเข้าไปแล้วเห็นช้างเท่าหมูทีเดียว นี่ร้ายนัก เขา
เรียกว่าฆ่าตัวเองทั้งเป็น ทำลายตัวเองอย่างดื้อ ๆ ฆ่าตัวเองทั้ง
เป็นนะเพราะอะไร ตัวเองดี ๆ ทำให้เป็นคนเสีย ตัวเองบริสุทธิ์
บริบูรณ์ ทำให้ไม่บริสุทธิ์บริบูรณ์ กลายเป็นคนบ้าเสียแล้วนี่
แหละเรียกว่า ดื่มสุราละมีโทษ มากเหลือที่จะคณานับทีเดียว
ควรเว้นขาดจากใจ ฯ

การไม่ประมาท

การไม่ประมาทนั้นจบพระไตรปิฏก
คือ วินัยปิฏก สุตตันตปิฎก ปรมัตถ์ปิฎก
ความดีมีมากน้อยเท่าใดรวมอยู่ในความไม่ประมาททั้งสิ้น
ความชั่วมีมากน้อยเท่าใดรวมอยู่ในความประมาททั้งสิ้น
คำว่าไม่ประมาทคำเดียวเท่านั้นจบสกลพุทธศาสนา ฯ

เหตุนี้ความไม่ประมาทน่ะ ไม่ประมาทในอะไร ไม่ประมาท
ในการรักษาสุจิตและทุจริตเสีย ทำสุจริตให้เกิดมีเสมอไป ไม่
ประมาท ในกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต มีเป็นเนืองนิตย์ไม่
ขาดสาย ไม่ประมาทในกายบริสุทธิ์ ไม่ประมาทเหล่านี้เป็น
ความไม่ประมาทเผิน ๆ เป็นความไม่ประมาทของคนมีปัญญา
ไม่ละเอียดนัก มีปัญญาหยาบ ถ้าว่าไม่ประมาทโดยการทำใจให้
หยุดนิ่ง ทำใจให้หยุดนิ่งอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกาย
มนุษย์ใสบริสุทธิ์ ทำใจให้หยุดนิ่งจนกระทั่งเห็นดวงใสเท่าดวง
จันทร์เท่าดวงอาทิตย์ ถ้าเห็นแล้วไม่ปล่อยละทีนี้ นั่ง นอน กิน
ดื่ม ทำ พูด คิด อุจจาระ ปัสสาวะ ชำเลืองไว้เสมอ มองอยู่
เสมอ ใจจรดอยู่เสมอไม่เผลอกันละ ไม่ให้ใจหลุดทีเดียว ติดที
เดียวถ้าติดได้ขนาดนั้นไม่ให้หลุดเลย นั่ง นอน เดิน ยืน เว้นไว้
แต่หลับ นั่นประพฤติตนเขาเรียกว่า ........

สาตติกา นิจจํ ทฬหปรกกมา
ผู้มีความเพียรก้าวหน้าเป็นนิตย์

มีผลเจริญไปหน้าไม่มีถอยหลังเลย ดังนั้นเรียกว่า คน
ฉลาด นั้นเรียกว่าฉลาดจริง ๆ นะ ไม่เผลอจริง ๆ ละ การไม่
เผลอเช่นนั้นละ จะเข้าถึงดวงธรรมเป็นลำดับไป ฯ


"บุคคลผู้ประสงค์จะแก้บาปนั้น
นอกจากการนั้งสมาธิภาวนาแล้ว
ไม่มีวิธีอย่างอื่นที่จะแก้ได้
...เพราะมีอานิสงส์มาก
เป็นวิธีแก้จิตที่เป็นบาปให้กลับมาเป็นบุญได้
แก้จิตที่เป็นโลกีย์ให้เป็นโลกุตระได้
เมื่อแก้จิตให้บริสุทธิ์ดีแล้ว
บาปอกุศลก็หลุดหายไปเอง
พึงเห็นองคุลิมาลเป็นตัวอย่าง"

-หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม-

อย่าทะนงตน คิดว่าเราเป็นคนดี ถ้าคิดว่าดีเป็นผู้วิเศษเมื่อไร เมื่อนั้นแหละกรรมใหญ่ อันตรายใหญ่จะมาถึงท่าน ที่เราเรียกกันว่าความประมาท .
...หลวงพ่อฤาษีลิงดำ...


มะลิ เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักบริสุทธิ์
ความกตัญญูรู้คุณ พ่อ-แม่ มะลิจึงถูกจัดเป็น
ไม้มงคลประจำบ้าน เป็นเวลาช้านานมาแล้ว
ปลูกเลี้ยงมะลิไว้ในอาณาบริเวณบ้านจะเสริมสิริมงคล
ดลจิตใจให้สงบสุข ให้คุณค่าทาง ความรัก และความดีงาม

ต้นมะลิเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก
สูงได้เกินกว่า 1 เมตร ใบมน ปลายแหลม สีเขียวสด
ดอกสีขาวออกเป็นช่อสวย มีกลิ่นหอมกลุ่น

มะลิที่ถือเป็นไม้มงคล คือ มะลิธรรมดา
มะลิวัลย์ มะลิซ้อน มะลิฉัตร และ มะลิพวง

ควรปลูกเลี้ยงด้วยดินร่วนซุ่ย
ให้ปุ๋ยทุกเดือนครึ่ง รดน้ำทุก 2-3 วัน มะลิถูกแดดได้
แต่ต้องคอยดูแลพุ่มอย่า ให้ทึบจนถูกหนอนเจาะได้ง่าย


เกิดมาทั้งที มีรางวัล คือ "ความแก่" กับวันเกิดของมนุษย์เรา...
..... สิ่งที่มีค่าที่สุดในวันเกิด... คือ
"ประสบการณ์ที่สอนเรามาตลอดชั่วระยะเวลาดำเนินไป"...
..... สิ่งที่ไม่มีค่าที่สุดในวันเกิด... คือ
... "การเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ที่ไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากหายใจ"...
.... ในโอกาสครบวันคล้ายวันเกิดหรืออยากทำวันนี้ให้มีความหมาย...
พีเจว่ามีข้อคิดสะกิดใจมาให้คิดกัน... ดังนี้ คือ
๑.) ๓ สิ่งที่ควรเกลียด คือ
..... ความดุร้าย ความหยิ่ง ความอกตัญญู...
๒.) ๓ สิ่งที่ควรเคารพ คือ
..... ศาสนา ความยุติธรรม ความประพฤติตนเป็นประโยชน์...
๓.) ๓ สิ่งที่ควรหวงแหน คือ
..... ชื่อเสียงยศศักดิ์ บ้านเมืองของตน มิตรสหาย...
. พระมหานวพล กลฺยาณเมธี

ไม่ว่าจะทำสิ่งใดในชีวิต การรู้จักพิจารณาอย่างแยบคายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อเป็นเครื่องมือตรวจตราชีวิต ให้มีแนวทางที่จะนำปสู่ความสุขที่สมดุล เพราะคราใดที่เราใส่ใจด้วยความรัก ชีวิตที่หงอยเหงาย่อมเปลี่ยนเป็นความสดใส และกล้าที่จะลุกขึ้นสู้กับปัญหาต่าง ๆ ที่มารุมเร้า จนทำให้เราไม่ต้องกลัวที่จะอยู่กับมัน แม้สิ่งนั้น ๆ จะทำให้เราเจ็บตัวบ้างก็ตาม..(ที่มา : ชุติปัญโญ)


"ลองลดความคาดหวังดูบ้าง
ยอมรับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
คุณจะพบว่าจิตนิ่งขึ้นและดิ้นน้อยลง
จะว่าไปแล้วความทุกข์นั้นมิได้มาจากไหน
แต่มาจากใจที่ดิ้นรนขัดขืนเพราะไม่ยอมรับ
...ความจริงนั่นเอง"

- พระไพศาล วิสาโล


ความเป็นพระอยู่ที่การละกิเลส
ความเป็นคนอยู่ที่การทำดี
มิใช่อื่นใดเลย....

ในทางอภิธรรม...ขณะที่เห็นสิ่งใด ขณะนั้น"จิต"เห็น หลังจากนั้น ชอบหรือไม่ชอบ เป็น"เจตสิก"เกิดพร้อมจิตดับพร้อมจิต สติระลึกได้ผู้ค้นพบคือ"พุทธะ"


ราตั้งใจแบบเดียวกับพระพุทธเจ้า ท่านตั้งอย่างไร ท่านทำอย่างไร ท่านสอนอย่างไร ท่านก็สอนว่า ท่านสอนพวกเราให้อดใจ ให้อดทนคืออดใจ อดใจเวลาโลภหรืออภิชฌาเกิดขึ้น หยุดนิ่งเสีย รู้นี่รสชาติอภิชฌา อยากจะได้สมบัติของคนอื่นเป็นของ ๆ ตน อยากกว้างขวาง ใหญ่โตไปข้างหน้า ต้องหยุดเสีย อดทนหรืออดใจเสีย ประเดี๋ยวก็ดับไป ดับไปด้วยอะไร ด้วยความอดทน คืออดใจนั่นแหละ ความโกรธประทุษร้ายเกิดขึ้น นิ่งเสีย อดเสีย ไม่ให้คนได้ยิน ไม่ให้คนอื่นรู้กิริยาท่าทางทีเดียว ไม่แสดงกิริยามารยาทให้ทะเลิกทะลัก แปลกประหลาดอย่างผีเข้าทีเดียว ไม่รู้ทีเดียว นิ่งเสีย ประเดี๋ยวหนึ่ง ความโกรธประทุษร้ายหายไป ดับไป พยาบาทนั้นหายไป มิจฉาทิฏฐิเกิดขึ้น มิจฉาทิฏฐินั้นแปลว่าเห็นผิดละ รู้อะไรไม่จริงสักอย่าง เลอะ ๆ เทอะ ๆ เกิดขึ้น หยุดเสีย ไม่ช้าประเดี๋ยวดับไป


การพิจารณาธรรมมี 2 ระดับ

เรื่องการพิจารณานั้นมันมี 2 ระดับ

ระดับแรก เป็นขั้นที่เราจงใจพิจารณา เป็นการน้อมนึกเอา
เช่นน้อมนึกพิจารณากาย เวทนา จิต ธรรม เป็นไตรลักษณ์
หรือพิจารณาลงไปที่สิ่งที่เรายึดถือ ว่าเป็นไตรลักษณ์
ขั้นนี้เป็นอุบายวิธีอบรมจิต ให้รู้จักวางเสียบ้างชั่วขณะ
เพื่อรวมสงบเข้ามาภายใน (เป็นการทำสมถะ)
เมื่อจิตรวมลงแล้ว หากจิตพอใจจะสงบ
มันจะไปสงบตัวอยู่เฉยๆ เป็นการพักผ่อนในภูมิของสมถะ
หรือมันอาจจะดำเนินวิปัสสนาอันเป็นระดับถัดไปก็ได้
แต่หากมันรวมแล้ว ไปค้างคานิ่งเฉยอยู่เพียงนั้นทุกที
ไม่ใช่การพักผ่อนในภูมิสมถะเป็นครั้งคราว
ก็อาจจะต้องพิจารณาจิตและอารมณ์ภายในต่อไปอีก
เพื่อไม่ให้ไปติดอยู่เพียงแค่นั้น

ระดับที่ 2 เป็นการดำเนินเองของจิตที่รวมลงเป็นสัมมาสมาธิแล้ว
คือจิตเขาจะพิจารณาแยกรูปนาม หรืออารมณ์ที่จิตไปรู้ไปเห็นโดยอัตโนมัติ
เหมือนที่จิตผมวิ่งออกไปพิจารณามูลสุนัขจนกระจายออกเป็นอนัตตา
หรือบางครั้งจิตก็รู้อารมณ์ภายใน พิจารณาแยกแยะอารมณ์ภายในลงเป็นไตรลักษณ์
ขอย้ำตรงที่ว่า จิตเขาดำเนินเอง ไม่ใช่เราจงใจพิจารณา
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ท่านจึงสอนว่า
“วิปัสสนาแท้เริ่มที่หมดความจงใจ”
ในขั้นนี้ เราไม่สามารถจงใจกระทำอะไรต่อไปได้หรอก


สติมา..ปัญญาเกิด..ประเสริฐแท้
พุทธวจนะแผ่..แพร่คำสอน
มวลมนุษย์..หลุดพ้นได้..ต้องไถ่ถอน
ละวางก่อน..ถอนหมดสิ้น..จินต์คลายคืน*

เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO