นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 5:26 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 26 พ.ย. 2012 8:01 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4548
ยํ หิ กิจจํ ตทปวิทฺธํ
อกิจจํ ปน กยีรติ
อุนฺนฬานํ ปมตฺตานํ
เตสํ วฑฺฒนฺติ อาสวา ฯ ๒๙๒ ฯ

สิ่งที่ควรทำไม่ทำ
กลับทำสิ่งที่ไม่ควรทำ
อาสวะย่อมเจริญแก่พวกเขา
ผู้ถือตัวและมัวเมาประมาท

What ought to be done is left undone;
What ought not to be done is done,
For those who are naughty and heedless
Corruptions greatly progress.

พุทธวจนะในธรรมบท หมวดเบ็ดเตล็ด (MISCELLANEOUS)

"บิดา-มารดา คือ พระประจำบ้าน"

...คู่ควรอย่างยิ่งใหญ่แก่บุตร ที่สมควรจะกราบไหว้บูชา
..ให้เสมือนหนึ่งแห่งการไปทำบุญไหว้พระ
..บุตร ทั้งหลาย..ความกตัญญูนั้น..
เราทุกท่านควรมีจงจำไว้เถิด...
เพราะหากเราไม่มี"บิดา-มารดา"

ซึ่งเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่แก่บุตรนี้แล้ว..
เราทั้งหลายคงไม่มีโอกาสที่จะได้กำเนิด
เกิดมาเพื่อสร้างสรรค์โลกใบนี้ได้
อย่างสมบูรณ์และสวยงามได้ดั่งใจปรารถนาเป็นแน่แท้

..บุตรทั้งหลายใครคือผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของท่าน
..ให้โดยไม่หวังสิ่งใดๆตอบแทนนอกจาก..
ความปรารถนาดีที่อยากให้ลูกๆมีความสุข
ความเจริญรุ่งเรืองและเป็นคนดีของโลกใบนี้สืบตลอดไป

...บุตรทั้งหลาย..เราคือ ทายาทของพระในบ้านไม่ใช่หรือ
ท่านอย่าช้าอยู่อีกเลย..สมควรอย่างยิ่งแก่การที่จะมอบความรักและความกตัญญู ดูแลเอาใจใส่ใน คุณบิดา-มารดา..
อย่างรักใคร่และศรัทธาอย่างซาบซึ้งใจและ"อิ่มบุญ"

ในความดีที่บุตรได้ทำหน้าที่ ที่ดีที่สุดของตน..
บุตรทั้งหลาย..พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า
"คุณบิดา-มารดา"นั้นคือเจ้าชีวิตที่แท้จริงของบุตร
ซึ่งไม่ว่าท่านจะกระทำต่อบุตรเช่นไร
ไม่เป็นการสมควรอย่างยิ่งที่บุตรจะถือโทษโกรธ
"บิดา-มารดา"แห่งตนเลยแม้แต่น้อย

ดุจดั่งคำที่ว่า"บิดา-มารดา"นั้นท่านจะทำสิ่งใด
ล้วนไม่เป็นความผิดต่อบุตร..พึงระลึกไว้เถิด..
บุตรทั้งหลายจงหมั่นกราบไหว้บูชา..
ต่อคุณบิดา-มารดา..ปรนนิบัติต่อท่าน
ให้เสมือนกับที่เราเพียรบูชากราบไหว้
และถวายอาหารปลาข้าว ของกำนัลปัจจัย
ทั้งหลายต่อพระพุทธองค์นั้นเถิด..
จงดูแล"บิดา-มารดา"ของท่านเถิด
นั่นคือ บุญอันยิ่งใหญ่แก่บุตรทายาทธรรม..


ลาภและยศเป็น "เหยื่อของโลก..."
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย….
ลาภและยศนั้นเป็น “เหยื่อของโลก” ที่น้อยคนนักจะสละและวางได้ จึงแย่งลาภแย่งยศกันอยู่เสมอ
เหมือนปลาที่แย่งเหยื่อกันกิน แต่หารู้ไม่ว่า เหยื่อนั้น มีเบ็ดเกี่ยวอยู่ด้วย หรือเหมือนไก่ ที่แย่งไส้เดือนกัน จิกตีกัน ทำลายกัน จนพินาถกันไปทั้งสองฝ่าย น่าสังเวชสลดจิตยิ่งนัก ถ้ามนุษย์ในโลกนี้ ลดความโลภลง มีการเผื่อแผ่ เจือจาน โอบอ้อมอารี ถ้าเขาลดโทสะลง มีความเห็นอกเห็นใจกัน มีความเมตตากรุณาต่อกัน และลดโมหะลง ไม่หลงงมงาย ใช้เหตุผลในการตัดสินปัญหาและดำเนินชีวิต “โลกนี้จะน่าอยู่อีกมาก...”
แต่ช่างเขาเถิด...!
หน้าที่โดยตรงและเร่งด่วนของเธอ คือ ลดความโลภ ความโกรธ และความหลงของเธอเอง ให้น้อยลง “แล้วจะประสบความสุข ความเยือกเย็นขึ้นมาก” เหมือนคนลดไข้ได้มากเท่าใด ความสบายกายก็มีมากขึ้นเท่านั้น... (พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน)


ปัจฉิมโอวาท...
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...
บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแห่งเราแล้ว เราขอเตือนเธอทั้งหลายให้จำมั่นไว้ว่า “สิ่งทั้งปวงมีความเสื่อม และสิ้นไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลาย จงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด....” (พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน)


การพ้นจาก "มาร" และ "บ่วงแห่งมาร"
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...
บรรดาทางทั้งหลาย “มรรคมีองค์ ๘” ประเสริฐที่สุด
บรรดาบททั้งหลาย บท ๔ คือ “อริยสัจ” ประเสริฐที่สุด
บรรดาธรรมทั้งหลาย “วิราคะ” คือการปราศจากความกำหนดยินดี ประเสริฐที่สุด
บรรดาสัตว์สองเท้า “พระตถาคตเจ้า” ประเสริฐที่สุด
มรรคมีองค์ ๘ นี้แล... เป็นไปเพื่อทัศนะอันบริสุทธิ์ หาใช่ทางอื่นไม่ เธอทั้งหลายจงเดินไปตามทางมรรคมีองค์ ๘ นี้ อันเป็นทางที่ทำมารให้หลงติดตามมิได้
เธอทั้งหลายจงตั้งใจปฏิบัติ เพื่อทำทุกข์ให้สิ้นไป
ความเพียรพยายามเธอทั้งหลายต้องทำเอง ตถาคตเป็นเพียงแต่ผู้บอกทางเท่านั้น...
เมื่อปฏิบัติตนดังนี้ พวกเธอจะพ้นจาก “มาร” และ “บ่วงแห่งมาร”


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
คนในโลกส่วนใหญ่เต็มไปด้วยความกลับกลอก และหลอกลวง หาความจริงไม่ค่อยได้ แม้แต่ในการนับถือศาสนา
ด้วยอาการดังกล่าวนี้ โลกจึงเป็นเหมือนระงมอยู่ด้วยพิษไข้อันเรื้อรังตลอดเวลา ภายในอาคารมหึมา ประดุจปราสาทแห่งกษัตริย์ มีลมพัดเย็นสบาย แต่สถานที่เหล่านั้น มักบรรจุเต็มไปด้วยคนซึ่งจิตใจเร่าร้อนเป็นไฟอยู่เป็นอันมาก ภาวะอย่างนั้นจะมีความสุขสู้ผู้มีใจสงบอยู่โคนต้นไม้ได้อย่างไร...

ความอดทนที่ "สูงสุด"
ภิกษุทั้งหลาย... จิตใจที่ไม่หวั่นด้วยโลกธรรมคือนินทาสรรเสริญนั้น เป็นจิตที่ประเสริฐยิ่ง
ภิกษุทั้งหลาย... ในหมู่มนุษย์นี้ ผู้ใดฝึกตนให้เป็นคนอดทนต่อคำล่วงเกินของผู้อื่นได้ จัดว่าเป็นผู้ประเสริฐสุด ม้าอัศนัย ม้าสินทก พญาช้างตระกูลมหาราชที่ได้รับการฝึกดีแล้ว จัดเป็นสัตว์ที่ประเสริฐ แต่บุคคลที่ฝึกตนดีแล้ว ยังประเสริฐกว่าสัตว์เหล่านั้น
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย... ผู้อดทนต่อคำล่วงเกินของผู้สูงกว่าก็เพราะความกลัว อดทนต่อคำล่วงเกินของผู้เสมอกันเพราะเห็นว่าพอสู้กันได้ แต่ผู้ใดอดทนต่อคำล่วงเกินของผู้ซึ่งด้อยกว่าตนได้ เราเรียกความอดทนนั้นว่า “สูงสุด”
ผู้มีความอดทน มีเมตตา ย่อมเป็นผู้มีลาภ มียศอยู่เป็นสุข เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เปิดประตูแห่งความสุข ความสงบได้โดยง่าย สามารถปิดมูลเหตุแห่งการทะเลาะวิวาทเสียได้ คุณธรรมทั้งมวลมีศีลและสมาธิเป็นต้นย่อมเจริญงอกงามแก่ผู้มีความอดทนทั้งสิ้น...

เครื่องฟอกจิต…..
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...
อันว่าจิตนี้เป็นธรรมชาติที่ผ่องใสอยู่โดยปกติ แต่เศร้าหมองไปเพราะคลุกเคล้าด้วยกิเลสนานาชนิด
ศีล สมาธิ และปัญญา เป็นเครื่องฟอกจิตให้ขาวสะอาดดังเดิม
จิตที่ฟอกแล้วด้วยศีล สมาธิ และปัญญา ย่อมหลุดพ้นจากอาสวะทั้งปวง....

สังคม...เหตุใดเจ้าจึงกลายเป็นเครื่องจองจำของ "ชีวิต"?
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...ทำไมมนุษย์จึงยอมตัวอยู่ภายใต้ “การจองจำของสังคม” ซึ่งมีแต่ความหลอกหลอน สับปรับ และแปรผัน ทำไมมนุษย์จึงยอมตัวเป็น “ทาษของสังคม” จนแทบจะกระดิกกระเดี้ยตัวไม่ได้ จะทำอะไร จะคิดอะไร ก็ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของสังคมไปเสียหมด “สังคมจึงกลายเป็นเครื่องจองจำชีวิต” ที่มนุษย์ซึ่งสำคัญตัวว่าเจริญแล้วช่วยการสร้างขึ้นเพื่อผูกมัดตัวเองให้อึดอัด รำคาญ มนุษย์ยิ่งเจริญขึ้นก็ดูเหมือนจะมีเสรีภาพน้อยลงทั้งทางกายและทางใจดู ๆ แล้วความสะดวกสบายและเสรีภาพของมนุษย์จะสู้สัตว์เดรัจฉานบางประเภทไม่ได้ ที่มันมีเสรีภาพที่จะทำอะไรตามใจชอบอยู่เสมอ ดูอย่างเช่นฝูงวิหคนกกา มนุษย์เราเจริญกว่าสัตว์ตามที่มนุษย์เราเองชอบพูดกัน แต่ดูเหมือนพวกเราจะมีความสุขน้อยกว่าสัตว์ ภาระใหญ่ที่ต้องแบกไว้คือ เรื่องกาม เรื่องกิน และเรื่องเกียรติ “มันเป็นภาระหนักยิ่งของมนุษยชาติ” สัตว์เดรัจฉานตัดไปได้อย่างหนึ่งคือ เรื่องเกียรติ คงเหลือแต่เรื่องกามและเรื่องกิน นักพรตอย่างพวกเธอนี้ ตัดไปได้อีกอย่างหนึ่งคือ เรื่องกาม คงเหลือแต่เรื่องกินอย่างเดียว ปลดภาระไปได้อีกมาก แต่การกินอย่างนักพรตกับการกินของผู้บริโภคกาม ก็ดูเหมือนจะบริโภคแตกต่างกันอยู่ ผู้บริโภคกามและยังหนาแน่นอยู่ด้วยโลกีย์วิสัย “บริโภคเพื่อยุกามให้กำเริบ” จะต้องกินอย่างมีเกียรติ กินให้สมเกียรติ มิใช่กินเพียงเพื่อให้ร่างกายนี้ดำรงอยู่ได้อย่างสมณะ ความจริงร่างกายคนเรามิได้ต้องการอาหารอะไรมากนัก เมื่อหิวร่างกายก็ต้องการอาหารเพียงเพื่อบำบัดความหิวเท่านั้น แต่เมื่อมีเกียรติเข้ามาบวกด้วย จึงกลายเป็นเรื่อง “กินอย่างเกียรติยศ” และแล้วก็มีภาระตามมาอย่างหนักหน่วง คนจำนวนมากเบื่อเรื่องนี้ แต่จำต้องทำเหมือนโคหรือควายที่เหนื่อยหน่ายต่อแอกและไถ แต่จำใจต้องลากมันไป ลากมันไป อนิจจา...(พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน)

ของบางอย่าง ซื้อไม่ได้ ด้วยเงินทอง
เพราะเป็นของ ไม่มี ราคาขาย
เช่นความรัก ความปราณี มีน้ำใจ
ปลูกฝังให้ คิดชอบ ประกอบกัน
สิ่งเหล่านี้ มีค่า แก่ชีวิต
แต่ว่าเงิน ไม่มีสิทธิ มาจัดสรร
เพียงแต่เรา มอบให้แก่ กันและกัน
ส่วนผู้ให้ ได้รางวัล คืออิ่มใจ





เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO