นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 11:57 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 19 พ.ย. 2012 8:02 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4549
หาเรือข้ามแม่น้ำโขง

ตอนที่หลวงปู่ตื้อกับหลวงปู่แหวนพบกัน และเริ่มออกธุดงค์ด้วยกันใหม่ๆ ทั้งสององค์ได้มุ่งหน้าข้ามแม่น้ำโขงไปทางสุวรรณเขต ในประเทศลาว

ตอนจะข้ามแม่น้ำโขง หลวงปู่ตื้อได้แสดงอะไรบางอย่างให้หลวงปู่แหวนดู
...
เรื่องมีอยู่ว่าทั้งสององค์หาเรือข้ามฟากไม่ได้ แม่น้ำโขงก็ไหลเชี่ยวจัด เพราะเป็นคุ้งน้ำไหลผ่านช่องเขาค่อนข้างแคบ หมู่บ้านใกล้สุดก็อยู่ห่างออกไปไม่น้อยกว่าหนึ่งกิโลเมตร มองไม่เห็นเรือนแพอยู่แถวนั้นเลย

หลวงปู่ตื้อบอกว่า “ท่านแหวนไม่ต้องวิตก เดี๋ยวก็มีเรือมารับเราข้ามฟากไป” แล้วท่านก็ยืนนิ่งหลับตา บริกรรมคาถา เพียงอึดใจใหญ่ๆ ก็ลืมตาขึ้น พูดยิ้มๆ ว่า “เดี๋ยวเรือจะมารับ”

อีกสักพักก็มีเรือหาปลาพายผ่านมา พอเห็นพระหนุ่มทั้งสองรูปยืนอยู่ที่ท่าน้ำ ก็พายเรือเข้ามารับพาข้ามฟาก

ชายคนนั้นบอกว่า ขณะที่เขาหาปลาอยู่ กลางแม่น้ำรู้สึกสังหรณ์ใจว่ามีพระกำลังรอเรือข้ามฟาก จึงได้พายเรือมาดู ก็พบพระคุณเจ้าทั้งสองจริง นับว่าน่าอัศจรรย์มาก

หลวงปู่ตื้อ พูดยิ้มๆ ว่า “โยมได้บุญกองใหญ่แล้วคราวนี้ ที่เอาเรือมารับเราข้ามฟาก ขอให้หมั่นทำความดีไว้ ถ้าจะเลิกจับปลาฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเลยได้ก็จะดีมาก”

คนหาปลาถามว่า “ถ้าไม่จับปลา แล้วจะให้ข้าน้อยทำมาหากินอะไร?”

หลวงปู่ตื้อ บอกว่า “ทำไร่ทำนาหากินโดยสุจริตก็ดีแล้ว ต่อไปชีวิตครอบครัวจะเจริญรุ่งเรืองอยู่ดีกินดี อาตมาขอให้พร”

คนหาปลามีความศรัทธาพระธุดงค์ทั้งสององค์เป็นอย่างมาก ต่อมาภายหลังทราบว่าเขาได้เลิกหาปลา แล้วหันมาทำนาทำไร่ เลิกการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ชีวิตครอบครัวเขามีความเจริญรุ่งเรืองทำมาค้าขายขึ้นจนมั่งมีเงินทอง สามารถสร้างวัดได้ ๒-๓ แห่ง

ทั้งนี้ คงเป็นด้วยอานิสงส์ผลบุญที่เขาเอาเรือมารับพระภิกษุผู้ครองศีลบริสุทธิ์ข้ามแม่น้ำ ตนเองเชื่อมั่นในพรที่พระท่านให้ และเลิกฆ่าสัตว์ตัดชีวิตโดยแท้จริงดูเพิ่มเติม


อานิสงส์การสร้าง บูรณะซ่อมแซมพระพุทธรูปและโทษของการทำลายพระพุทธรูป
พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) วัดท่าขนุน

ถาม : จะถามเรื่องการทำบุญ ที่ไปหล่อพระพุทธรูปหรือการสร้างพระพุทธรูป บูรณะซ่อมแซมพระพุทธรูป บุญกุศลเหล่านี้จะได้บุญอย่างไรคะ ?
ตอบ : พุทธบูชา มหาเตชวันโต การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดช มีอำนาจมาก ถ้าหากว่าเกิดเป็นเทวดา พรหม ก็จะมีรัศมีกายสว่างมาก ถ้าหากว่าเกิดเป็นคน ส่วนใหญ่ต้องเป...็นผู้นำหมู่ชนเขา และการซ่อมพระพุทธรูป ถ้าหากว่าเกิดใหม่รูปร่างหน้าตาจะสวยงามเป็นพิเศษ ถ้าเป็นสุภาพสตรีจะได้เบญจกัลยาณี หรือไม่ก็อาจจะถึงขนาดอิตถีลักษณะ ๖๔ ประการ ที่เป็นพุทธมารดา อันนั้นหายากสุด ๕ อย่างก็ยากเต็มทีแล้วอันนั้นอีก ๖๔ หัวข้อ

ถาม : แล้วถ้าไม่ได้ซ่อมพระพุทธรูปแต่เป็นฐานพระพุทธรูปละคะ ?
ตอบ : ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งด้วย

ถาม : แล้วถ้าเป็นผู้ชายละครับ จะได้เบญจกัลยาณีหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : มันหวังสูงนะ ...(หัวเราะ)... ตั้งความปรารถนาไว้แล้วกัน ดีไม่ดีได้เกินนั้น

ถาม : ทีนี้ในทางตรงกันข้ามล่ะเจ้าคะ ถ้าทำลาย ?
ตอบ : ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ ลงอเวจีมหานรกเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นก็เคยทำอะไรไว้ ก็ช่วยซ้ำครบทุกขุมเลย

ถาม : มีเพื่อนที่รู้จักเจ้าค่ะ คือเขานำพระพุทธรูปมาองค์หนึ่ง แล้วเขาไม่ทราบว่า เขาคิดว่าพระพุทธรูปองค์นั้นเป็นปูน เขาคิดว่าองค์ท่านควรจะมีน้ำล้อมรอบเขาก็เอาไปแช่น้ำเจ้าค่ะ พอแช่ทิ้งเอาไว้ท่านก็บวมขึ้นเรื่อย ๆ เลยมาทราบทีหลังว่าเป็นขี้เลื่อยอัดกาวค่ะ แล้วอย่างนี้ไม่ทราบว่า...?
ตอบ : จริง ๆ เขาทำโดยเจตนาบริสุทธิ์ ตั้งใจจะถวายเป็นพุทธบูชาด้วย เรื่องเป็นโทษคงจะไม่มี เพียงแต่ว่าพระชำรุด

ถาม : ชำรุดมากเลยค่ะ หลุดเป็นชิ้น ๆ เลยค่ะ
ตอบ : หาองค์ใหม่ให้เขาเอาที่แช่ได้ทน ๆ

ถาม : เนื่องจากว่าเขารักองค์นี้มากเลยค่ะ เขาก็เลยให้ช่างไปซ่อม ทีนี้ช่างบอกซ่อมไม่ไหวแล้ว ต้องทุบท่านทีนี้ไม่ทราบว่า...?
ตอบ : ถ้าลักษณะอย่างนั้นถือว่าทำลายพระพุทธรูป โทษอเวจีเหมือนกัน ลักษณะนั้นควรจะบรรจุไว้ในองค์ที่ใหญ่กว่าแล้วบูชาต่อไป

จำไว้เลยนะ พระที่สร้างขึ้นมาแล้วไม่ว่าองค์ใหญ่องค์เล็กก็ตาม จะชำรุดหรือไม่ชำรุดก็ตาม ถ้าเราเอาไปป่นทำลาย โดยเฉพาะสมัยนี้นิยมกันนัก สร้างเป็นองค์พระขึ้นมาใหม่ มีส่วนผสมของพระเก่า คุยซะดิบดีเลย นั่นเป็นโทษทำลายพระพุทธรูป อเวจีมหานรกรออยู่ รีบ ๆ กราบขอขมาพระรัตนตรัยเสียดี ๆ

ถาม : แล้วจะหายไหมคะ ?
ตอบ : ไม่หายหรอก ขอไปเรื่อย ๆ จนกว่าท่านจะยอม คือจิตของเราจะคลายออกจากจุดนั้นเอง ใช้คำว่าท่านจะยอม ท่านยอมตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเขาทุบไปเรียบร้อยแล้ว

ถาม : มีรูปจิ๊กซอว์เป็นรูปพระค่ะ โรยกากเพชรเอาไว้แล้วฝุ่นจับ เอาไปล้างน้ำทำความสะอาดแล้วหัก จะเอาไปใส่กรอบแล้วกาวหลุดค่ะ ?
ตอบ : อย่างเดียวกัน เป็นเจตนาดีไม่มีโทษ ก็ไปซื้อกาวมาทาใหม่ ขวดละ ๒๐ บาทเอง

ถาม : ติดเสร็จแล้วใส่กรอบแล้วละค่ะ ?
ตอบ : ไม่เป็นไรจ้ะ อันนั้นเจตนาดีเหมือนกัน จะทำความสะอาดพระ แต่ไม่รู้ว่ากาวจะละลาย

ถาม : แล้วไปเจียฐานพระเป็นอะไรไหมคะ ?
ตอบ : ฐานพระ ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ตกแต่งในลักษณะที่เราจะให้สวยงามใช่ไหม ? อย่างนั้นได้บุญด้วย ต่อไปถ้าเกิดมาจะผอมสวยกว่านี้จ้ะ ...(ห้วเราะ)...

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๔

ถาม : ท่านที่เป็นพระอริยะแล้ว จะมีทางที่เขาจะไปสอนให้คนหลงทางได้ไหม ?

ตอบ : จะไม่ผิดไปจากที่พระพุทธเจ้าท่านสอน แต่ในเรื่องของความเป็นพระอริยะ ขอให้ทราบไว้เลยว่า ใครที่บอกว่าตนเองหรือผู้อื่นเป็นพระอริยะอย่าเพิ่งเชื่อ..!

บุคคลที่จะเป็นพระอริยเจ้านั้น

อันดับแรก ญาณคือเครื่องรู้จะปรากฏขึ้น ยืนยันว่าตนเองเป็นพระอริยเจ้าแล้ว

อันดับที่สอง พระพุทธเจ้าเสด็จมาพยากรณ์ให้เอง ถ้าหากว่าเป็นคนอื่นบอก ขอให้รู้ว่าผิดมารยาทอย่างร้ายแรงที่สุด

ถ้าคนอื่นเขาบอกว่าคนนั้นเป็นพระอริยเจ้า คนนี้เป็นพระอริยเจ้า ขอให้รู้ว่าถ้าคุณไม่ใช่พระพุทธเจ้า ไม่ใช่หน้าที่ที่คุณจะไปพูดอย่างนั้น เพราะเราไม่สามารถที่จะรู้ได้ละเอียดขนาดนั้น ว่าเขาเป็นจริงหรือไม่เป็นจริง

ฉะนั้น..ถ้าเป็นพระอริยเจ้าแล้ว จะไม่สอนผิดไปจากที่พระพุทธเจ้าท่านสอนอย่างเด็ดขาด แต่ถ้าหากไม่ใช่จริง ก็จะพาหลงทางไปเลย เรื่องการพยากรณ์ว่าคนไหนเป็นพระอริยเจ้า เป็นหน้าที่ของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ใครให้การพยากรณ์ก็ไปให้ห่างๆ เขาหน่อย เดี๋ยวจะเดือดร้อน

ถาม : มีบางท่านไปอยู่ที่ขุมเก้า

ตอบ : นั่นเรื่องของท่าน

ถาม : แล้วเขาเป็นไหมคะ ?

ตอบ : มีใครคนที่อาตมาได้ยินเขาบอกว่าเป็นพระอรหันต์ แต่ไปเจอท่านอยู่ในโลกันต์..!

ถาม : หนูสงสัยว่า ทำไมเขาไปหลงทาง?

ตอบ : ก็เพราะเป็นไม่จริง ขณะเดียวกันก็ไปคิดว่าตัวเองเป็นแล้วก็หลงไปใหญ่ ไปสอนคนผิดๆ ตามทิฐิ ตามความเห็นของตัวเอง

คิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดว่า..คาดว่า..น่าจะใช่..น่าจะเป็นอย่างนั้น ก็ยิ่งกลายเป็นว่า สอนคนให้หลงทางมากเท่าไร โทษของตัวเองก็หนักมากขึ้นเท่านั้น

ถาม : เหมือนกับเขาเอาวัตถุมงคล..(ไม่ได้ยิน)

ตอบ : ถ้าอย่างนั้นต้องใช้คำว่า ทิฐิวิปลาส มีความเห็นผิดไป แก้ไขยาก ถ้ามีโอกาสก็พูดๆ บ่นๆ ให้เข้าหูเขาหน่อยก็แล้วกัน ถ้าไม่มีโอกาส ก็อย่าเพิ่งไปพูด เดี๋ยวจะพาเราเสียไปด้วย

อาตมาเจออยู่รายหนึ่ง ถึงขนาดให้ลูกศิษย์หลอมพระพุทธรูปไปชั่งกิโลขาย พระพุทธรูปเขาหลอมเป็นแท่งทองเหลือง เอาไปชั่งกิโลขาย เขาบอกว่าพระพุทธรูปทำให้คนยึดติด นั่นเขาหลงไปได้ไกลอย่างนั้น

อย่าลืมว่าการที่เราอยู่ในโลก พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าเราต้องเคารพสมมติทางโลก เพราะสมมติทางโลกคือสมมติสัจจะ ก็คือความจริงอย่างหนึ่ง แต่เป็นความจริงโดยสมมติ ว่านี่คือรูปแทนพระพุทธเจ้า บุคคลที่จิตใจเกาะความดีขั้นแรก ก็เพื่อความปลอดภัยว่าจะไม่ตกไปในทางแห่งความชั่ว หลังจากนั้นค่อยก้าวเข้าทางของความดีสูงขึ้นไป..สูงขึ้นไป จนกระทั่งท้ายสุด เว้นจากการยึดเกาะแล้วก็หลุดพ้น

ไม่ใช่ว่าพอถึงเวลาแล้วเราไม่เกาะอะไรเลย ไม่เกาะอะไรเลยเราจะเอาอะไรมาปล่อย ? อัตตา ความมีตัวตน อนัตตา ความไม่มีตัวตน ถ้าเราไม่ขึ้นด้วยอัตตาคือความมีตัวตนก่อน แล้วเราจะเอาอนัตตามาจากไหน ? สองอย่างนี้เป็นเหรียญสองหน้า อย่างไรก็ต้องไปด้วยกัน

แต่นั่นเขาประเภทโลกช้ำไปเลย แล้วยังมีการรับจ้าง ถ้าบ้านไหนไม่กล้าทำ ขอให้บอก เขาจะส่งลูกศิษย์ไปทำให้เลย เห็นเขาทุบ เห็นเขาเผา เห็นเขาหลอมแล้วอาตมาใจหาย พวกนี้กว่าจะรู้ว่าตัวเองมีโทษก็ต้องรอตอนที่ตายไปแล้ว

ถาม : ห่างๆ ไว้เลยใช่ไหมคะ ?

ตอบ : ประเภทนั้นก็อยู่ห่างๆ ไว้ ไม่น่าเชื่อว่าจะมี และห่มเหลืองเหมือนกับอาตมาเสียด้วย เขาสอนลูกศิษย์ว่านี่เป็นสิ่งที่ทำให้ยึดติด..!


สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔

พระเครื่องที่ชำรุดสามารถนำไปหล่อพระใหญ่ได้หรือไม่ ?

--------------------------------------------------------------------------------

ถาม : พระที่ห้อยคอเอาไปหล่อพระได้ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ได้

อะไรก็ตามที่เป็นรูปพระ ถึงจะแตกหักอย่างไร เราก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำลายเพื่อหลอมใหม่ หรือเพื่อพิมพ์ขึ้นมาใหม่ท่าน ปรับโทษเท่ากับทำลายพระพุทธรูป มีอเวจีมหานรกที่เดียวเป็นที่ไป ถ้าหากว่าแตกหักเสียหายในลักษณะนั้นแล้ว เรารู้สึกไม่สบายใจที่จะติดตัวหรือติดบ้านเอาไว้ ก็ให้บรรจุในพระที่องค์ใหญ่กว่าเพื่อบูชาต่อไป

คนอื่นใครเขาทำ ให้เขาทำไป เราอย่าไปทำก็แล้วกัน โทษทำลายพระพุทธรูปสาหัสสากรรจ์นักแล..!

มีบางคนเอาผ้าเหลืองไปเช็ดเท้า... อย่างนั้นจำไว้ให้แม่นเชียวนะ อย่าทำเป็นอันขาด อย่างน้อย ๆ ผ้าเหลืองก็เป็นธงชัยพระอรหันต์ ถ้าจิตเราหยาบถึงขนาดเอาธงชัยพระอรหันต์มาเช็ดเท้าได้ ต่อไปก็ทำกรรมที่หนักกว่านั้นได้

หลวงปู่มั่นบอกเรื่องบ่อน้ำทิพย์

หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ได้พักบำเพ็ญภาวนาอยู่ภายในถ้ำพระปัจเจกพุทธเจ้า จนครบ ๕ วัน จึงได้พาหมู่คณะเดินทางกลับลงมาทางเดิม

หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ได้ถามคณะที่ไปสำรวจถ้ำว่าเป็นอย่างไร? น่าอยู่จริงไหม?
...
หลวงปู่ตื้อได้กราบเรียนว่า “ในถ้ำสวยงามน่าอยู่จริงๆ แต่ไม่มีบ้านคนเลย พวกกระผมฉันใบไม้ตลอด ๕ วัน บ้านคนไม่มี ไม่รู้จะไปบิณฑบาตที่ไหน อีกประการหนึ่งที่เป็นปัญหาสำคัญ คือลมพัดแรงมาก พัดหูพัดตาอยู่ลำบาก ถ้าหากอยู่ในถ้ำก็สบายดีมากขอรับ”

หลวงปู่มั่น ได้พูดขึ้นว่า “ทำไม่พวกคุณถึงไม่เลยพากันขึ้นไปดูบ่อน้ำทิพย์ ที่อยู่ข้างหลังถ้ำนั้นด้วยละ บ่อน้ำทิพย์ศักดิ์สิทธิ์นั้น ถ้าหากใครได้อาบและดื่มเป็นการชุบตัวแล้ว จะมีอายุยืนถึงห้าพันปี สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ด้วย”

หลวงปู่ตื้อ กราบเรียนท่านพระอาจารย์ว่า “กระผมขึ้นไปเหมือนกันขอรับ แต่พอขึ้นไปบนหลังถ้ำนั้นปรากฏว่าเป็นหน้าผาที่สูงและชันมาก สูงราวๆ ๑๐-๑๕ วา ขึ้นไปมิได้ขอรับ เพราะหน้าผาชันจริงๆ ทางอื่นที่จะขึ้นไปก็ไม่มี กระผมเดินดูรอบๆ ตั้งสองสามรอบ ถ้าหากขึ้นไปได้ ก็คงลงมาไม่ได้”

ท่านพระอาจารย์ใหญ่ จึงตอบว่า “พวกเราคงไม่มีบุญวาสนาบารมีที่จะเหาะได้ละมั้ง จึงได้พากันเดินลงมาจนเท้าแตกหมด ถ้าหากว่าขึ้นไปได้ก็คงลงมาไม่ได้ แต่ขึ้นไปได้และลงมาได้อย่างนี้ก็สามารถมากแล้วละ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุซ่องเสพเมตตาจิต
แม้ชั่วการเพียงลัดนิ้วมือเดียวเท่านั้น
ภิกษุนี้เรากล่าวว่า อยู่ไม่เหินห่างจากฌาน
ทำตามคำสอนของพระศาสดา ปฏิบัติตามโอวาท
ไม่ฉันบิณฑบาตของชาวแว่นแคว้นเปล่า
...ก็จะกล่าวไยถึงผู้ทำเมตตาจิตนั้นให้มากเล่า ฯ

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๐ดูเพิ่มเติม


พุทธานุสสติ ได้แก่การน้อมจิตรำลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า คือ ระลึกถึงความดีอันมีอยู่ในพระองค์ ซึ่งมีอยู่ ๙ ประการ ตามนัยพระบาลี พุทธานุสสติปาฐะ คือ บทสวด อิติปิโส ภควาฯ

อิติปิโส ภควา อรหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจรณสัมปันโน สุคโต

โลกวิทู อนุตตโร ปุริสทัมมสารถิ สัตถาเทว มนุสสานัง พุทโธ ภควา-ติ
...
อิติปิโส ภควา พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

๑. อรหัง ทรงเป็นพระอรหันต์ ห่างไกลจากกิเลส

๒. สัมมาสัมพุทโธ ทรงตรัสรู้เองโดยชอบ

๓. วิชชาจรณสัมปันโน ทรงถึงพร้อมด้วยวิชาและจรณะ

๔. สุคโต ทรงเป็นผู้เสด็จไปดี

๕. โลกวิทู ทรงเป็นผู้รู้แจ้งซึ่งโลก

๖. อนุตตโร ปุริสทัมมสารถิ ทรงเป็นผู้ฝึกคนอย่างยอดเยี่ยม

๗. สัตถา เทวมนุสสานัง ทรงเป็นศาสดาของเทพและมนุษย์ทั้งหลาย

๘. พุทโธ ทรงเป็นผู้ตื่นแล้ว (ทรงเป็นผู้ตื่นแล้ว จากกิเลสนิทรา)

๙. ภควา ทรงเป็นผู้จำแนกธรรม

เมื่อกล่าวโดยย่อ พระองค์ทรงมีพระคุณ ๓ ประการ คือ พระปัญญาคุณ พระกรุณาคุณและพระวิสุทธิคุณ

การระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า จะระลึกตามบทสวดอิติปิโสทั้งหมดนั้นก็ได้ หรือจะระลึกข้อใดข้อหนึ่งก็ได้

ธัมมานุสติ ได้แก่การระลึกถึงคุณของพระธรรม คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งมีอยู่ ๖ ประการ ตามนัยพระบาลีธัมมานุสสติปาฐะ

สวากขาโต ภควาตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อกาลิโก เอหิปัสสิโก

โอปนยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ-ติ
...
ธัมโม พระธรรม

๑. สวากขาโต เป็นธรรมอันพระผู้มีพระภาคตรัสไว้ดีแล้ว

๒. สันทิฏฐิโก เป็นธรรมที่ผู้บรรลุจะพึงเห็นเอง

๓. อกาลิโก ไม่ประกอบด้วยกาลสมัย (ใช้ได้ทุกสมัย)

๔. เอหิปัสสิโก เป็นธรรมที่ควรเรียกกันมาดู (ให้พิสูจน์ดูได้)

๕. โอปนยิโก เป็นธรรมที่ควรน้อมเข้ามาในตน (ดีมีประโยชน์)

๖. ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ เป็นธรรมอันวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตนดูเพิ่มเติม


เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO