นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 05 พ.ค. 2024 3:28 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 06 พ.ย. 2012 5:26 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4548
+++ดูคนให้ดูนานๆ อย่าเพิ่งด่วนสรุป ตัดสินคนที่ความคิดเรา เพราะความคิดเราก็ไม่น่าเชื่อถือ เช่นกัน+++
+++มีหลายคน ตัดสินผู้อื่นผิดๆ แล้วเกิดปมในใจ ทำให้เกิดอาการผิดปกติทางจิต เวลากล่าวถึงบุคคลคนนั้นได้^_^"
+++ดังนั้น ทำใจให้เป็น กลางกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ดีนักแล ..เพราะทุกสิ่งมันผ่านมา แล้วมันย่อมผ่านไป ตามกฎไตรลักษณ์

คนเราดูยากมากๆนั่งอยู่ติดกันก็ไม่รู้ใจยั่งไม่ถึงไม่ว่าเขามีจิตใจเป็นอย่างไร ถ้าจะตัด
สินบุคลคนนั่นต้องตัดสินในการกระทํา ทำดีทําชั่ว ( นํ้าทะเลยังยั่งถึง โลกพระจันทร์นักอาวกาศขึ้นไปถึง แต่ยั่งจิตใจของคนมันลําบาก) เรามาตัดสินตัวของเราเองดีกว่าจะได้
สบายใจ.


อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย
ยาจายํ อิตรา ปชา
อตฺตทนฺตสฺส โปสสฺส
นิจฺจํ สญฺญตจาริโน
เนว เทโว น คนฺธพฺโพ
...น มาโร สห พฺรหฺมุนา
ชิตํ อปชิตํ กยิรา
ตถารูปสฺส ชนฺตุโน ฯ ๑๐๔-๕* ฯ

เอาชนะตนได้นั้นแล ประเสริฐ
ผู้ที่ฝึกตนได้ ระวังระไวตลอดเวลา
ถึงเทวดา คนธรรพ์ มาร และพระพรหม
ก็เอาชนะไม่ได้

Better indeed is it to conquer oneself,
Neither a god nor a Gandharva
Neither Mara nor Brahma
Could turn into defeat the victory of one
Who is self-mastered and self-controlled.

พุทธวจนะในธรรมบท หมวดพัน (THE THOUSANDS)
โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

เมตตาธรรม...ค้ำจุล...เกื้อหนุนโลก
ให้สิ้นโศก...สิ้นทุกข์...เป็นสุขสี
ริษยา...คือไฟ...ไหม้โลกีย์
เมตตาคือ...วารี...ที่ดับไฟ


...ถ้าทำอะไรดีๆแล้ว คนมองว่าสร้างภาพ
ก็ช่างเขา อย่างน้อยเราก็ได้ทำดี
ไม่เหมือนเขา ที่แค่คิดดี ยังทำไม่ได้เลย...

คำนินทา … พูดออกมา ก็หายไปในอากาศ
อย่าคิดมาก … กับคำพูด ที่ว่างเปล่า ไม่มีตัวตน


การตื่นอยู่ในโลก
ไม่ยาก ...
แค่เข้าไปตื่น..
ตรงต่อจิตหนึ่งแห่งตน..
ของท่านเอง...
...ต่อไปเท่านั้นเอง ...
เท่านี้แล ...
ตื่นต่อไปเท่านั้นเอง ...
ตื่นอย่างเป็นธรรมชาติ ...
ตรงต่อจิตหนึ่งเอง ..
เท่านี้เอง ...
เท่านี้พอ ...

อย่าไปเสียใจกับสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้ว
แต่จงภูมิใจว่าเราสามารถผ่านพ้นมาได้
และทำให้เราเข้มแข็งได้ในทุกวันนี้ ”


เมื่อเครียดมากๆ ด้วยเรื่องใดก็ตาม …
ถ้าเรามองตนเองเทียบกับคนที่สูงกว่า ….
เราจะรู้สึกแย่มากที่สู้เขาไม่ได้

… แต่ถ้ามองเทียบกับคนที่ต่ำกว่า
...เราจะรู้สึกลำพองอหังการ …

… ขณะเดียวกันถ้าเรามองตัวเองเทียบกับ คนทั่วไป
ก็จะพบว่ายังมีคนอีกมากมายที่เขาก็พบกับปัญหา ….
มีความทุกข์มากมายในชีวิตเหมือนกันกับเรา …

และนั่นจะทำให้เราค้นพบความจริงที่ว่า …
เรายังคงมี … ‘ เพื่อนทุกข์ ‘ อีกมากมายในโลกใบนี้ …


ปัญหา นิครนถนาฏบุตร ศาสนาแห่งศาสนาเซนเห็นว่าสุขทุกข์ หรืไม่สุขไม่ทุกข์ที่มนุษย์ได้รับอยู่ในปัจจุบัน ย่อมเป็นผลของกรรมเก่าที่ตนทำไว้ในอดีตทั้งสิ้น ฉะนั้นทุกคนจึงตกเป็นทาสของกรรมอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง วิธีแก้ต้องบำเพ็ญตบะ กำจัดกรรมเก่าและไม่ทำกรรมใหม่ เมื่อเป็นผู้ไม่มีกรรมอย่างสิ้นเชิงแล้ว จึงจะพ้นทุกข์ได้เด็ดขาดดังนี้ พระพุทธองค์ทรงมีทรรศนะอย่างไร ?

พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราเข้าไปหานิครนถ์ผู้มีวาทะ....... ทิฐิ อย่างนี้แล้วถามว่า ดูก่อนนิครนถ์ผู้มีอายุ จริงหรือที่มีข่าวว่า พวกท่านมีวาทะอย่างนี้...... ว่า ปุริสบุคคลนี้ย่อมเสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสุขก็ดีเป็นทุกข์ก็ดี มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ดี ข้อนั้นทั้งหมดเป็นเพราะเหตุแห่งกรรมที่ตนทำไว้ก่อน....... พวกนิครนถ์นั้น ถูกเราถามอย่างนี้แล้วย่อมยืนยัน เราจึงถาม..... อย่างนี้ว่า...... พวกท่านทราบละหรือว่า เราทั้งหลายได้มีแล้วในก่อนมิใช่ไม่ได้มีแล้ว ? นิครนถ์เหล่านั้นตอบว่า ไม่ทราบ เราถามว่า พวกท่านทราบละหรือว่า เราทั้งหลายได้ทำบาปกรรมไว้ในก่อน มิใช่ได้ทำไว้ พวกนิครนถ์ตอบว่า ไม่ทราบ เราถามว่า พวกท่านทราบละหรือว่า เราทั้งหลายได้ทำบาปกรรมอย่างนี้ พวกนิครนถ์ตอบว่า ไม่ทราบ เราถามว่าพวกท่านทราบละหรือว่า ทุกข์เท่านี้เราสลัดได้แล้ว หรือว่าทุกข์เท่านี้เรายังจะต้องสลัดเสีย หรือว่าเมื่อทุกข์เท่านี้ เราสลัดแล้ว จักเป็นอันว่าเราสลัดทุกข์ได้หมด ? พวกนิครนถ์ตอบว่า ไม่ทราบ เราถามว่า พวกท่านทราบการละอกุศลธรรม การบำเพ็ญกุศลธรรมในปัจจุบันละหรือ ? พวกนิครนถ์ตอบว่าไม่ทราบ
“เรากล่าวว่า ดูก่อนนิครนถ์ผู้มีอายุ...... เมื่อเป็นเช่นนี้ นิครนถ์ผู้มีอายุไม่บังควรจะพยากรณ์ว่า ปุริสบุคคลนี้ย่อมเสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง....... ข้อนั้นทั้งหมดเป็นเพราะเหตุแห่งกรรมที่ตนทำไว้ในก่อน
“ดูก่อนนิครนถ์ผู้มีอายุ...... สมัยใด พวกท่านมีความพยายามแรงกล้า มีความเพียรแรงกล้า สมัยนั้นพวกท่านย่อมเสวยเวทนาอันเป็นทุกข์กล้าเจ็บแสบอันเกิดแต่ความพยายามแรงกล้า แต่สมัยใด พวกท่านไม่มีความพยายามแรงกล้า....... สมัยนั้นพวกท่านย่อมเสวยเวทนาอันเป็นทุกข์กล้า..... อันเกิดแต่ความพยายามแรงกล้า...... เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกนิครนถ์ผู้มีอายุไม่บังควรจะพยากรณ์ว่า...... ข้อนั้นทั้งหมดเป็นเพราะเหตุแห่งกรรมที่จนทำไว้ก่อน
“...... ถ้าสมัยใด พวกท่านมีความพยายามแรงกล้า..... สมัยนั้นเวทนาอันเป็นทุกข์กล้า..... พึงหยุดได้เอง... เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกนิครนถ์ผู้มีอายุก็ควรจะพยากรณ์ได้ว่า....... ข้อนั้นทั้งหมดเป็นเพราะเหตุแห่งกรรมที่จนทำไว้ก่อน
“ดูก่อนนิครนถ์ผู้มีอายุ...... ก็เพราะเหตุที่สมัยใด พวกท่านมีความพยายามแรงกล้า.... สมัยนั้นพวกท่านจึงเสวยเวทนาอันเป็นทุกข์กล้า พวกท่านนั้นเสวยเวทนาอันเป็นทุกข์กล้า...... อันเกิดแต่ความเพียรเองทีเดียว....
“ดูก่อนนิครนถ์ผู้มีอายุ......พวกท่านจะพึงปรารถนาไม่ได้ดังนี้ว่า กรรมใดเป็นของให้ผลในปัจจุบัน ขอกรรมนั้นจงเป็นของให้ผลในชาติหน้า..... กรรมใดเป็นของให้ผลในชาติหน้า ขอกรรมนั้นจงเป็นของให้ผลในปัจจุบัน....... กรรมใดเป็นของให้ผลเป็นทุกข์ ขอกรรมนั้นจงเป็นของให้ผลเป็นสุข...... กรรมใดเป็นของให้ผลเป็นสุข ขอกรรมนั้นจงเป็นของให้ผลเป็นทุกข์..... กรรมใดเป็นของให้ผลเสร็จสิ้นแล้ว ขอกรรมนั้นจงเป็นของให้ผลเสร็จสิ้น..... ด้วยความพยายามหรือด้วยความเพียรเถิด เมื่อเป็นเช่นนั้น ความพยายามของพวกนิครนถ์ผู้มีอายุก็ไร้ผล ความเพียรก็ไร้ผล.....
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หมู่สัตว์ย่อมเสวยสุขและทุกข์ เพราะเหตุแห่งกรรมที่ตนทำไว้ในก่อน พวกนิครนถ์ก็เป็นผู้ได้ทำกรรมชั่วไว้ในก่อนแน่ ในบัดนี้ พวกเขาจึงได้เสวยเวทนาอันเป็นทุกข์กล้าเจ็บแสบเห็นปานนี้ ถ้าหมู่สัตว์ย่อมเสวยสุขและทุกข์เพราะเหตุที่อิศวร (เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่) เนรมิตให้พวกนิครนถ์ก็ต้องเป็นผู้ถูกอิศวรชั้นเลวเนรมิตมาแน่....... ถ้าหมู่สัตว์ย่อมเสวยสุขและทุกข์ เพราะเหตุที่มีความบังเอิญ พวกนิครนถ์ก็ต้องเป็นผู้มีความบังเอิญชั่วแน่..... ถ้าหมู่สัตว์ย่อมเสวยสุขและทุกข์เพราะอภิชาติ พวกนิครนถ์ก็ต้องเป็นผู้มีอภิชาติเลวแน่... ถ้าหมู่สัตว์ย่อมเสวยสุขและทุกข์เพราะความพยายามในปัจจุบัน พวกนิครนถ์ต้องเป็นผู้มีความพยายามในปัจจุบันเลวแน่ ในบัดนี้พวกเขาจึงได้เสวยเวทนาอันเป็นทุกข์กล้า เจ็บแสบเห็นปานนี้......
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อย่างไรความพยายามจึงจะมีผล ความเพียรจึงจะมีผล ? ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ไม่เอาทุกข์ทับถมจนที่ไม่มีทุกข์ทับถม ๑ ไม่สละความสุขที่เกิดโดยธรรม ๑ ไม่มีผู้หมกมุ่นในความสุขนั้น ๑ เธอย่อมทราบชัดอย่างนี้ว่า ถึงเรานี้จะยังมีเหตุแห่งทุกข์ เมื่อเริ่มตั้งความเพียร วิราคะย่อมมีได้ด้วยการตั้งความเพียร...... เมื่อวางเฉยบำเพ็ญอุเบกขาอยู่ วิราคะก็ย่อมมีได้...... เธอจึงเริ่มตั้งความเพียร..... และบำเพ็ญอุเบกขา..... แม้อย่างนี้ ทุกข์นั้นก็เป็นอันเธอสลัดได้แล้ว.......”
บุคคลซึ่งออกบวชแล้วประพฤติตนเป็นผู้ไม่มีเรือนเรียกว่า ได้ชักกายออกห่างจากกามราคะ แต่ถ้าใจยังหมกมุ่นพัวพันอยู่ในกามก็หาสำเร็จประโยชน์แห่งการบวชไม่ คือเขาไม่สามารถจะทำที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบได้ อุปมาเหมือนไม้สดชุ่มอยู่ด้วยยาง แม้จะวางอยู่บนบก บุคคลผู้ต้องการไฟก็ไม่อาจนำมาสีให้เกิดไฟได้ เพราะฉะนั้น ภิกษุ ภิกษุณีผู้ชักกายออกจากกามแล้วพยายามชักใจออกจากกามความเพลิดเพลินหลงใหลเสียด้วย

ใครตั้งใจทำความดี หันเข้าหาธรรมะ อย่าไปกังวลเรื่องปากโลก ให้เราดีขนาดไหน หากไม่ถูกกิเลสเขา เขาไม่ชอบ เขาไม่เข้าใจ เขาก็ตำหนิ เราทำอะไร เรารู้ด้วยตนเอง ดีหรือชั่ว ไม่ได้อยู่ที่เขาว่า อยู่ที่เราทำเองทั้งหมด เรารู้ของเราเอง บริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ เป็นของจำเพาะตน ใครจะทำให้ตนบริสุทธิ์ไม่ได้ ตนทำเองทั้งสิ้น

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม


อยู่ที่ใจ..เท่านั้นเอง

แม้ทำอะไรไม่ได้ดังใจ
จงภูมิใจในสิ่งที่ได้ทำ

...แม้ไม่ได้เป็นภูเขาอันสูงใหญ่
เป็นเนินดินก็ได้ให้เด็กเล่น

แม้ไม่ได้เป็นวันพระจันทร์เพ็ญ
เป็นหิ่งห้อยให้คนเห็นก็คล้ายกัน

แม้ไม่ได้เป็นไก่ KFC ที่ขึ้นห้าง
เป็นไก่ย่างข้างถนนก็สุขสันต์

เป็นอะไรก็ได้ไม่สำคัญ
เ ป็ น ค น ดี ทุ ก วั น เท่านั้นพอ

.พระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณฺโณ.

เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO