นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อังคาร 14 พ.ค. 2024 7:44 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 23 ก.ย. 2012 11:15 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4558
ดูก่อนวาเสฏฐะและภารทวาชะ กษัตริย์แม้บางคนในโลก

นี้ เป็นผู้เว้นขาดจากปาณาติบาต เว้นขาดจากอทินนาทาน เว้นขาดจาก

กาเมสุมิจฉาจาร เว้นขาดจากมุสาวาจา เว้นขาดจากปิสุณวาจา เว้น

ขาดจากผรุสวาจา เว้นขาดจากสัมผัปปลาปะ ไม่เพ็งเล็งอยากได้ของเขา

มีจิตไม่พยาบาท เป็นสัมมาทิฏฐิ. ดูก่อนวาเสฏฐะและภารทวาชะ อย่างนี้

แล ธรรมเหล่านี้เหล่าใด เป็นกุศล นับว่าเป็นกุศล ไม่มีโทษนับว่า

ไม่มีโทษ ควรเสพนับว่าควรเสพ ควรเป็นอริยะนับว่าควรเป็นอริยะ เป็น

ธรรมขาว มีวิบากขาว วิญญูชนสรรเสริญ ธรรมเหล่านั้นย่อมปรากฏ

อย่างชัดเจนในกษัตริย์บางคนในโลกนี้. ดูก่อนเวเสฏฐะและภารทวาชะ

แม้พราหมณ์...ดูก่อนวาเสฏฐะและการทวาชะ แม้แพศย์แล. ดูก่อน

วาเสฏฐะและภารทวาชะ แม้ศูทรแลบางคนในโลกนี้เป็นผู้เว้นขาดจาก

ปาณาติบาต ฯลฯ ไม่เพ่งเล็งอยากได้ของเขา มีจิตไม่พยาบาทเขา มีความ

เห็นถูกต้อง. ดูก่อนวาเสฏฐะและภารทวาชะ อย่างนี้แล ธรรมทั้งหลาย

เหล่านี้เหล่าใดเป็นกุศลนับว่าเป็นกุศล ไม่มีโทษนับไม่มีโทษ ควรเสพ

นับว่าควรเสพควรเป็นอริยะนับว่าควรเป็นอริยะ เป็นธรรมขาว มีวิบากขาว

วิญญูชนสรรเสริญ ธรรมทั้งหลายเหล่านั้นย่อมปรากฏอย่างชัดเจนแม้ใน

ศูทรบางคน. ดูก่อนวาเสฏฐะและภารทวาชะ เมื่อวรรณะทั้ง ๔ เหล่านี้

แลรวมกันเป็น ๒ ฝ่าย คือ พวกที่ตั้งอยู่ในธรรมฝ่ายดำ วิญญูชนติเตียน

พวกหนึ่ง และพวกตั้งอยู่ในธรรมฝ่ายขาว วิญญูชนไม่ติเตียนพวกหนึ่ง

ในเรื่องนี้เหตุไร พวกพราหมณ์ จึงพากันกล่าวอย่างนี้ว่า พราหมณ์เท่านั้น

เป็นวรรณะประเสริฐที่สุด วรรณะเหล่าอื่นล้วนเลวทราม พราหมณ์เท่า

นั้นมีวรรณะขาว วรรณะเหล่าอื่นดำ พราหมณ์เท่านั้นย่อมบริสุทธิ์

หมู่คนที่ไม่ใช่พราหมณ์หาบริสุทธิ์ไม่ พราหมณ์ทั้งหลายเป็นบุตรเกิดแต่

อกเกิดจากปากของพรหม เกิดจากพระพรหมโดยตรง พรหมเนรมิตขึ้น

เป็นทายาทของพรหม ดังนี้. วิญญูชนทั้งหลายย่อมไม่รับรองถ้อยคำของ

พราหมณ์เหล่านั้น. ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร. ดูก่อนวาเสฏฐะและภารทวาชะ

เพราะว่า บรรดาวรรณะทั้ง ๔ เหล่านี้ ผู้ใดเป็นภิกษุผู้ขีณาสพ อยู่จบ

พรหมจรรย์มีกิจที่ควรทำทำเสร็จแล้ว ปลงภาระลงได้แล้ว ตามบรรลุ

ประโยชน์ของตน มีสังโยชน์เครื่องผูกสัตว์ไว้ในภพสิ้นรอบแล้ว หลุดพ้น

ได้เพราะรู้โดยชอบ ผู้นั้นย่อมปรากฏว่าเป็นยอดกว่าคนทั้งหลายโดยธรรม

แท้ หาใช่โดยอธรรมไม่. ดูก่อนวาเสฏฐะและภารทวาชะ ก็ธรรมเท่านั้น

ประเสริฐที่สุดภารทวาชะ โดยบรรยายมานี้ พวกเธอพึงเข้าใจข้อนั้นอย่างนี้

วาเสฏฐะและภารทวาชะ โดยบรรยายมานี้ พวกเธอพึงเข้าใจข้อนั้นอย่างนี้

ว่า ธรรมเท่านั้น ประเสริฐที่สุดในหมู่ชนทั้งในทิฏฐธรรม และใน

อภิสัมปรายภพ.

ธรรมที่ต้องละเหล่าอื่นอีก

ครั้นแสดงโลภะ โทสะ และอุบายเป็นเครื่องละโลภะและโทสะนั้น

ในจำนวนธรรมทั้งหลายที่ต้องละอย่างนี้แล้ว บัดนี้ พระสารีบุตรเถระ

เมื่อจะแสดงธรรมที่ต้องละเหล่าอื่นอีกและอุบายเป็นเครื่องละธรรมเหล่านั้น

จึงกล่าวคำว่า ตตฺราวุโสโกโธจดังนี้เป็นต้น บรรดาธรรมที่ต้องละเหล่านั้น.

(๑) โกธะ มีลักษณะ (เฉพาะ) คือความเดือดดาลหรือความดุร้าย

มีหน้าที่คือผูกอาฆาต (และ) ผลที่ปรากฏออกมาคือ

ความประทุษร้าย

(๒) อุปนาหะ มีลักษณะ (เฉพาะ) คือความผูกโกรธ มีหน้าที่

คือไม่ยอมสลัดทิ้งการจองเวร (และ) ผลที่ปรากฏออกมาคือ

โกรธติดต่อเรื่อยไป

สมด้วยคำที่พระโบราณาจารย์กล่าวไว้อย่างนี้ว่า โกธะเกิด

ก่อน อุปนาหะจึงเกิดภายหลัง เป็นต้น.

(๓) มักขะ มีลักษณะ (เฉพาะ) คือ ลบหลู่คนอื่น หีหน้าที่

คือทำคุณของคนอื่นนั้นให้พินาศ (และ) ผลที่ปรากฏออกมาคือ

การปกปิดคุณของคนอื่นนั้น.

(๔) ปฬาสะ มีลักษณะ (เฉพาะ) คือการถือเป็นคู่แข็ง (ตีเสมอ)

มีหน้าที่คือการทำคุณของตนให้เสมอกับคุณของคนอื่น (และ)

ผลที่ปรากฏออกมาคือ

ความปรากฏโดยการชอบประมาณ (ตีค่า) เทียบคุณของคนอื่น.

(๕) อิสสา มีลักษณะ (เฉพาะ) คือความริษยาต่อสมบัติของ

คนอื่น หรือไม่ก็ทนไม่ได้ต่อสมบัติของคนอื่นนั้น มีหน้าที่คือความไม่

ยินดียิ่ง ในสมบัติของคนอื่นนั้น (และ) ผลที่ปรากฏออกมาคือ

ความเบือนหน้าหนีจากสมบัติของคนอื่นนั้น.

(๖) มัจเฉระ มีลักษณะ (เฉพาะ) คือการซ่อนเร้นสมบัติ

ของตน มีหน้าที่คือความไม่สบายใจ เมื่อสมบัติของตนมีคนอื่นร่วมใช้

สอยด้วย (และ ) ผลที่ปรากฏออกมาคือ

ความเคืองแค้น.

(๗) มายา มีลักษณะ (เฉพาะ) คือปกปิดบาปที่ตนเองกระทำ

แล้ว หน้าที่คือซ่อนเร้นบาปที่ตนเองกระทำแล้วนั้น (และ) ผลที่ปรากฏออกมาคือ

การปิดกั้นบาปที่ตนเองกระทำแล้วนั้น.

( ๘ ) สาเถยยะ มีลักษณะ (เฉพาะ) คือการชอบเปิดเผยคุณ

ที่ตนเองไม่มี มีหน้าที่คือการประมวลมาซึ่งคุณที่ตนเองไม่มีเหล่านั้น

(และ) ผลที่ปรากฏออกมาคือการทำคุณที่ตนเองไม่มีเหล่านั้น

ให้ปรากฏออกมาแม้โดยอาการทางร่างกาย.

( ๙ ) ถัมภะ มีลักษณะ (เฉพาะ) คือความที่จิตผยอง มีหน้าที่

คือพฤติการที่ไม่ยำเกรง ( และ) ผลที่ปรากฏออกมาคือ

ความไม่อ่อนโยน.

( ๑๐ ) สารัมภะ มีลักษณะ (เฉพาะ ) คือการทำความดีให้เหนือไว้

มีหน้าที่คือแสดงตนเป็นข้าศึกต่อคนอื่น ( และ ) ผลที่ปรากฏออกมาคือ

ความไม่เคารพ.

( ๑๑ ) มานะ มีลักษณะ (เฉพาะ) คือความเย่อหยิ่ง มีหน้าที่

คือความถือตัวว่า เป็นเรา (และ ) ผลที่ปรากฏออกมาคือ

ความจองหอง

( ๑๒ ) อติมานะ มีลักษณะ (เฉพาะ) คือความเย่อหยิ่ง มี

หน้าที่คือความถือตัวว่า เป็นเราจัด ( และ) ผลที่ปรากฏออกมาคือ

ความหยิ่งจองหอง.

( ๑๓ ) มทะ มีลักษณะ ( เฉพาะ ) คือความมัวเมา มีหน้าที่คือ

ความยึดถือด้วยการมัวเมา ( และ ) ผลที่ปรากฏออกมาคือ

ความคลั่งไคล้

( ๑๔ ) ปมาทะ มีลักษณะ (เฉพาะ) คือการปล่อยจิตไปในเบญจกามคุณ

มีหน้าที่คือการกระตุ้นให้ปล่อยจิตมากขึ้น (และ) ผลที่ปรากฏออกมาคือ

ความขาดสติ.



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย พิเศษได้ไปปฏิบัติธรรม และได้สร้างห้องน้ำ


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO