นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 12 พ.ค. 2024 10:07 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 27 ก.ค. 2012 6:41 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4556
๑๔. สมุททปัญหา ๘๓

พระราชาตรัสถามว่า "พระผู้เป็นเจ้า คำที่เรียกกันว่าทะเล ๆ ดังนี้ ด้วย
เหตุไร จึงเรียกน้ำว่าทะเล ดังนี้."
พระเถรเจ้าถวายวิสัชนาว่า "ขอถวายพระพร น้ำมีประมาณเท่าใด รส
เค็มก็มีประมาณเพียงเท่านั้น, รสเค็มมีประมาณเพียงเท่าใด น้ำก็มีประมา
เพียงเท่านั้น, เหตุฉะนั้น จึงได้เรียกกันว่าทะเล ดังนี้."
ร. "พระผู้เป็นเจ้าช่างฉลาดจริง ๆ."
พระราชาตรัสถามว่า "พระผู้เป็นเจ้า เพราะเหตุไร ทะเลจึงมีรสเป็นอัน
เดียว คือ มีรสเค็ม."
พระเถรเจ้าถวายวิสัชนาว่า "เพราะเหตุตั้งขังอยู่นาน ขอถวายพระ
พร."
ร. "พระผู้เป็นเจ้าช่างฉลาดจริง ๆ."

๑๕. สุขุมเฉทนปัญหา ๘๔

พระราชาตรัสถามว่า "พระผู้เป็นเจ้า บุคคลอาจตัดของทั้งปวงที่สุขุม
ได้หรือ ?"
พระเถรเจ้าถวายวิสัชนาว่า "ขอถวายพระพร."
ร. "อะไรที่ชื่อว่าของทั้งปวงที่สุขุมนะ พระผู้เป็นเจ้า."
ถ. "ขอถวายพระพร ธรรมชื่อว่าของสุขุมกว่าของทั้งปวง แต่ธรรมเป็น
สภาพสุขุมล้วนหามิได้, คำว่า สุขุมก็ดี หยาบก็ดี เป็นชื่อสำหรับเรียกธรรมทั้ง
หลาย, ของอันใดอันหนึ่งอันบุคคลจะพึงตัด บุคคลย่อมตัดของนั้นได้หมดด้วย
ปัญญา, เครื่องตัดรองปัญญาลงไปมิได้มี."
ร. "พระผู้เป็นเจ้าช่างฉลาดจริง ๆ."

๑๖. ปัญญาวิเสสปัญหา ๘๕
พระราชาตรัสถามว่า “ พระผู้เป็นเจ้า ปัญญาอยู่ที่ไหน ?”
พระเถรเจ้าถวายวิสัชนาว่า “ ปัญญาหาได้อยู่ที่ไหน ๆ ไม่”
ร. “ถ้าอย่างนั้น ปัญญาก็ไม่มีนะซิ”
ถ. “ขอถวายพระพร มหาบพิตรจะทรงหมายเนื้อความข้อนั้นเป็นไฉน :ลมอยู่ที่ไหน ?”
ร. “ลมหาได้อยู่ที่ไหน ๆ ไม่.”
ถ. “ถ้าอย่างนั้น ลมก็ไม่มีนะซิ”
ร. “ พระผู้เป็นเจ้าช่างฉลาดจริง ๆ”

๑๗. วิญญาณาทินานัตถภาวปัญหา ๘๖
พระราชาตรัสถามว่า "พระผู้เป็นเจ้า ธรรมเหล่านี้ คือ วิญญาณก็ดี
ปัญญาก็ดี เจตภูตก็ดี มีอรรถก็ต่างกัน มีพยัญชนะก็ต่างกัน หรือว่ามีอรรถ
เป็นอันเดียวกัน ต่างแต่พยัญชนะ."
พระเถรเจ้าถวายวิสัชนาว่า "ขอถวายพระพร วิญญาณมีอันรู้แจ้งเป็น
ลักษณะ ปัญญามีอันรู้ทั่วถึงเป็นลักษณะ เจตภูตอันบัณฑิตเข้าไปค้นหาไม่ได้
โดยพระปรมัตถ์."
ร. "ถ้าว่าเจตภูตอันบัณฑิตเข้าไปค้นหาไม่ได้ โดยพระปรมัตถ์, เมื่อ
เป็นเช่นนี้ ใครเล่าเห็นรูปด้วยนัยน์ตา ฟังเสียงด้วยหู สูบกลิ่นด้วยจมูก ลิ้มรส
ด้วยลิ้น ต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย รู้ธรรมารมณ์ด้วยใจ."
ถ. "ขอถวายพระพร ถ้าเจตภูตเห็นรูปด้วยนัยน์ตา ฯลฯ รู้แจ้ง
ธรรมารมณ์ด้วยใจ, เจตภูตนั้น เมื่อทวาร คือ จักษุ โสต ฆาน ชิวหา กาย เพิก
ถอนขึ้นเสียให้สิ้นแล้ว จะมิหันหน้าออกภายนอกทางอากาศอันกว้างใหญ่
เห็นรูป ฟังเสียง สูบกลิ่น ลิ้มรส ต้องโผฏฐัพพะชัดเจนดีขึ้นกว่าหรือ."
ร. "หามิได้."
ถ. "ถ้าอย่างนั้น เจตภูตอันบัณฑิตเข้าไปหาไม่ได้ โดยพระปรมัตถ์นะซิ
ขอถวายพระพร."
ร. "พระผู้เป็นเจ้าช่างฉลาดจริง ๆ."

๑๘. อรูปววัตถภาวทุกกรปัญหา ๘๗

พระเถรเจ้ากล่าวขึ้นว่า "ขอถวายพระพร พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรง
กระทำการที่กระทำได้ยากนัก."
พระราชาตรัสถามว่า "การอะไร พระผู้เป็นเจ้า."
ถ. "พระองค์ตรัสจำแนกอรูปธรรม คือ จิตและเจตสิกทั้งหลายเหล่านี้
ที่เป็นไปในอารมณ์อันเดียวกันว่า นี้ผัสสะ นี้เวทนา นี้สัญญา นี้เจตนา นี้จิต
ดังนี้."
ร. "ขอพระผู้เป็นเจ้าจงอุปมาให้ข้าพเจ้าฟัง."
ถ. "ขอถวายพระพร เหมือนอย่างว่า บุรุษผู้หนึ่งหยั่งลงสู่มหาสมุทร
ด้วยเรือแล้ว กอบเอาน้ำขึ้นมาด้วยอุ้งมือแล้ว ชิมรสด้วยลิ้นแล้ว เขาจะพึงรู้ได้
หรือว่า 'นี้น้ำแห่งน้ำแม่คงคา นี้น้ำแห่งแม่น้ำยมุนา นี้น้ำแห่งแม่น้ำอจิรวดี นี้
น้ำแห่งแม่น้ำสรภู นี้น้ำแห่งแม่น้ำมหี' ดังนี้ ฉันใด."
ร. "ยากที่จะรู้ได้."
ถ. "ขอถวายพระพร พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงกระทำการที่กระทำได้
ยากกว่านั้น คือ ตรัสจำแนกอรูปธรรม คือ จิตและเจตสิกทั้งหลายเหล่านี้ ที่
เป็นไปในอารมณ์อันเดียวกันว่า นี้ผัสสะ ฯลฯ นี้จิต ดังนี้."
พระราชาทรงอนุโมทนาว่า "ชอบละ."

๑๙. ทุกกรปัญหา ๘๘

พระเถรเจ้าทูลถามว่า "ขอถวายพระพร พระองค์ทรงทราบอยู่หรือ
เดี๋ยวนี้เวลาเท่าไรแล้ว ?"
พระราชาตรัสบอกว่า "ทราบอยู่ เดี๋ยวนี้ประถมยามล่วงไปแล้วกำลัง
เป็นมัชฌิมยาม, เจ้าพนักงานตามคบสว่าง และสั่งให้ประโคมแตรสี่คัน, พวก
ข้าราชการจักกลับไปจากพระลาน."
พวกโยนกอมาตย์กราบทูลว่า "ขอเดชะ ภิกษุรูปนี้เป็นบัณฑิตแท้."
พระราชาตรัสตอบว่า "เออ พนาย พระเถรเจ้าเป็นบัณฑิตแท้, ถ้า
อาจารย์จะพึงเป็นเหมือนท่าน และอันเตวาสิกจะพึงเป็นเหมือนเราไม่ช้าอันเต
วาสิกจะพึงเป็นบัณฑิตรู้ธรรมทั่วถึง."
พระราชาทรงพระปราโมทย์ ด้วยปัญหาพยากรณ์ของพระนาคเสนเถร
เจ้าแล้ว ทรงถวายผ้ากัมพลราคาแสนกระษาปณ์ให้ครองแล้ว ตรัสปวารณา
ว่า "พระผู้เป็นเจ้านาคเสน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าพเจ้าจะแต่งภัตตาหารไว้
ถวายพระผู้เป็นเจ้าร้อยแปดภาค และสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เป็ฯกัปปิยะอันมีในวังนี้
ข้าพเจ้าปวารณาด้วยสิ่งนั้น."
ถ. "อย่าเลย ขอถวายพระพร อาตมภาพพอเลี้ยงชีพได้."
ร. "ข้าพเจ้าก็ทราบอยู่ว่า 'พระผู้เป็นเจ้าพอเลี้ยงชีพได้' ก็แต่ขอพระผู้
เป็นเจ้าจงรักษาตนด้วย, จงรักษาข้าพเจ้าไว้ด้วย; พระผู้เป็นเจ้าจะรักษาตน
อย่างไร: ความครหาของผู้อื่นจะพึงมีมาว่า 'พระนาคเสนกระทำมิลินทราชา
ให้เลื่อมใสได้แล้ว แต่ก็ไม่ได้อะไรสักหน่อย' ดังนี้, เหตุฉะนั้น ขอพระผู้เป็นเจ้า
จงรักษาตนให้พ้นปรัปปวาทอย่างนี้; พระผู้เป็นเจ้าจะรักษาข้าพเจ้าอย่างไร:
คำครหาของผู้อื่นจะพึงมีมาว่า 'มิลินทราชาเลื่อมใสแล้ว แต่หากระทำอาการ
ของผู้เลื่อมใสไม่' ดังนี้, เหตุฉะนั้น ขอพระผู้เป็นเจ้าจงรักษาข้าพเจ้าให้พ้น
จากปรัปปวาทอย่างนี้."
ถ. "ขอถวายพระพร อย่างนั้นเอาเป็นได้กัน."
ร. "มีอุปมาว่า ราชสีห์อันเป็นพญาเนื้อ แม้ต้องขังอยู่ในกรงทอง ก็หัน
หน้าออกอย่างเดียว ฉันใด, ถึงว่าข้าพเจ้าอยู่ครองเรือนก็จริง แต่ก็อยู่หันหน้า
ออกนอกเป็นนิตย์ ฉันนั้น; ถ้าข้าพเจ้าจะพึงออกบวชบ้าง ก็คงจะมีชีวิตอยู่ได้
ไม่นาน เพราะศัตรูของข้าพเจ้ามีมาก."
ลำดับนั้น พระนาคเสนผู้มีอายุ ครั้นถวายวิสัชนาปัญหาแก่พระเจ้ามิ
ลินท์เสร็จแล้ว ลุกจากอาสน์กลับไปสู่สังฆาราม. และเมื่อพระเถรเจ้าหลีกไป
แล้วไม่ช้า ท้าวเธอทรงพระอนุสรถึงปัญหาที่พระองค์ได้ตรัสถามแล้วเป็นอย่าง
ไร และพระเถรเจ้าถวายวิสัชนาแล้วเป็นอย่างไร. แต่นั้นทรงพระราชดำริเห็น
ว่า "พระองค์ตรัสถามชอบแล้วทุกข้อ และพระเถรเจ้าก็ได้ถวายวิสัชนาชอบ
แล้วทุกข้อ." ฝ่ายพระนาคเสนเถรเจ้า ก็คำนึงถึงและดำริเห็นเหมือนกันเช่น
นั้น. ครั้นล่วงราตรีนั้นแล้วถึงเวลาเช้า พระเถรเจ้าครองผ้าตามสมณวัตรแล้ว
ถือบาตรจีวรเข้าไปสู่พระราชนิเวศน์แห่งพระเจ้ามิลินท์ นั่งบนอาสน์ที่แต่ง
ถวาย. ขณะนั้น ท้าวเธอถวายนมัสการแก่พระเถรเจ้าแล้ว เสด็จพระประทับ ณ
ที่สมควรแห่งหนึ่งแล้ว ตรัสแก่พระเถรเจ้าว่า "ขอพระผู้เป็นเจ้าอย่าได้ดำริเห็น
ว่า 'ข้าพเจ้าดีใจว่า ได้ถามปัญหากะพระผู้เป็นเจ้าแล้วนอนหลับตลอดราตรี
ซึ่งยังเหลืออยู่นั้น, ขอพระเป็นผู้เจ้าอย่าได้เห็นดังนี้เลย; ข้าพเจ้าได้คำนึงถึง
ปัญหาที่ข้าพเจ้าได้ถามเป็นอย่างไร และพระผู้เป็นเจ้าได้วิสัชนาแล้วเป็น
อย่างไร ตลอดราตรีซึ่งยังเหลืออยู่นั้น; เห็นว่าข้าพเจ้าได้ถามชอบแล้วทุกข้อ
และพระผู้เป็นเจ้าก็ได้วิสัชนาชอบแล้วทุกข้อ." แม้พระเถรเจ้าก็ถวายพระพร
ว่า "ขอถวายพระพร ขอพระองค์อย่าได้ทรงพระราชดำริเห็นว่า 'อาตมภาพดี
ใจว่า ได้ถวายวิสัชนาปัญหาแก่พระองค์แล้ว กระทำราตรีซึ่งยังเหลืออยู่นั้นให้
ล่วงไปด้วยความโสมนัสนั้น, ขอพระองค์อย่าได้ทรงเห็นดังนั้นเลย' อาตมภาพ
ก็ได้คำนึงถึงปัญหาที่พระองค์ได้ตรัสถามเป็นอย่างไร และอาตมภาพได้ถวาย
วิสัชนาเป็นอย่างไร ตลอดราตรีซึ่งยังเหลืออยู่นั้น; เห็นว่าพระองค์ตรัสถาม
ชอบแล้วทุกข้อ และอาตมภาพก็ได้ถวายวิสัชนาชอบแล้วทุกข้อ เหมือนกัน."
พระมหานาคทั้งสองนั้นต่างอนุโมทนาสุภาสิตของกันและกัน ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
ปุจฉาวิสัชนา มิลินทปัญหา จบ.


ปรารภเมณฑกปัญหา


พระเจ้ามิลินท์ผู้ช่างตรัส ทรงสันทัดในการเถียงปัญหา ทรงพระ
ปัญญาล่วงสามัญชน มีพระปรีชาญาณลบล้น เห็นแจ้งในเหตุผลเสด็จเข้าไป
หาพระนาคเสนเถรเจ้า เพื่อความแตกฉานแห่งพระปรีชาเสด็จอยู่ในฉายาที่
เป็นร่มเงาของพระเถรเจ้า เฝ้าตรัสถามปัญหา ได้พระปัญญาแตกฉาน ทรง
พระไตรปิฎกธรรมแล้ว ในส่วนแห่งราตรีวันหนึ่ง เสด็จอยู่ ณ ที่สงัด ทรง
พิจารณาถึงนวังคสัตถุศาสนา คือ พระพุทธวจนะมีองค์เก้าประการ ทรงพระ
ญาณเล็งเห็นเมณฑกปัญหา คือ ปริศนาสองเงื่อนดุจเขาแกะ ซึ่งวิสัชนาแก้ได้
เป็นอันยาก และประกอบไปด้วยอุบายเครื่องจะยดโทษขึ้นกล่าวได้ อันมีใน
พระศาสนาของสมเด็จพระธรรมราชา ที่ทรงภาสิตไว้โดยบรรยายก็มี ทรง
หมายภาสิตไว้ก็มีทรงภาสิตไว้ตามสภาพก็ดี. เพราะไม่รู้แจ้งอรรถาธิบายแห่ง
ภาสิตทั้งหลายในเมณฑกปัญหาที่สมเด็จพระชินพุทธเจ้าทรงภาสิตไว้นั้น ใน
อนาคตกาลไกล จักมีความเข้าใจผิดในเมณฑกปัญหานั้นแล้วเถียงกันขึ้น.
เอาเถิดเราจักให้พระธรรมกถึกเลื่อมใสเห็นชอบด้วยแล้ว จักอาราธนาให้ตัด
สินเมณฑกปัญหาทั้งหลายเสีย, ในอนาคตกาล ชนทั้งหลายจักได้แสดงตาม
ทางที่ท่านได้แก้ไว้แล้วนั้น.
ครั้นราตรีสว่าง อรุณขึ้นแล้ว ทรงสนานพระเศียรเกล้าแล้วทรงประณม
พระหัตถ์เหนือพระเศียร ทรงพระอนุสรถึงสมเด็จพระสัมมนาสัมพุทธเจ้า ทั้ง
อดีต อนาคต ปัจจุบันแล้ว ทรงสมาทานพรตบทแปดประการ โดยทรงพระราช
ปณิธานตั้งพระราชหฤทัยว่า "เราจักสมาทานองคคุณแปดประการ บำเพ็ญ
ตบะธรรม คือ จำศีลให้ถ้วนเจ็ดวัน ข้างหน้าแต่วันนี้ไป, ครั้นบำเพ็ญตบะธรรม
ครบกำหนดนั้นแล้ว จักอาราธนาพระอาจารย์ให้เต็มใจแล้ว จักถามเมณฑก
ปัญหาท่าน."
ขณะนั้น ท้ายเธอทรงผลัดคู่พระภูษากาสาวพัสตร์ ทรงสวมลองพระ
สกอันโล้นไว้บนพระเศียร ถือเพศมุนีแล้ว ทรงสมาทานองคคุณแปดประการ
ดังต่อไปนี้ ถ้วนเจ็ดวันนี้.
๑. เราจะหยุดว่าราชการ
๒. เราจะไม่ยังจิตอันประกอบด้วยราคะให้เกิดขึ้น
๓. เราจะไม่ยังจิตยังประกอบด้วยโทสะให้เกิดขึ้น
๔. เราจะไม่ยังจิตอันประกอบด้วยโมหะให้เกิดขึ้น
๕. เราจะเป็นผู้ประพฤติสุภาพ แม้แก่พวกบุรุษชนซึ่งเป็นทาสกรรมกร
๖. เราจักรักษากายกรรมและวจีกรรม ให้บริสุทธิ์ปราศจากโทษ
๗. เราจะรักษาอายตนะทั้งหกไม่ให้มีส่วนเหลือ
๘. เราจะตั้งจิตไว้ในเมตตาภาวนา
ครั้นทรงสมาทานองคคุณแปดประการเหล่านี้แล้ว ทรงตั้งพระหฤทัยอยู่ใน
องคคุณแปดประการนั้นอย่างเดียว ไม่เสด็จออกข้างนอกถ้วนเจ็ดวันแล้ว ใน
วันที่แปด พอเวลาราตรีสว่างแล้ว รีบเสวยพระกระยาหารแต่เช้าแล้ว เสด็จเข้า
ไปหาพระนาคเสนเถรเจ้า มีดวงพระเนตรอันทอดลง ตรัสแต่พอประมาณ มี
พระอิริยาบถสงบเสงี่ยม มีพระหฤทัยแน่วไม่ส่ายไปส่ายมา ทรงพระปราโมทย์
เบิกบานพระราชหฤทัย สดใสชุ่มชื่นแล้วเป็นอย่างยิ่ง ทรงถวายนมัสการแทบ
บาทของพระเถรเจ้า ด้วยพระเศียรเกล้าแล้ว เสด็จยืน ณ ที่สมควรส่วนข้าง
หนึ่งแล้ว ตรัสดังนี้:-
"พระผู้เป็นเจ้า ข้อความบางเรื่องที่ข้าพเจ้าจะต้องหารือกับพระผู้เป็น
เจ้ามีอยู่. ใคร ๆ อื่นไม่ควรปรารถนาให้มาเป็นที่สามในข้อความเรื่องนั้นเข้า
ด้วย, ปัญหานั้นจะต้องถามได้แต่ในป่าอันเป็นโอกาสว่างสงัดประกอบด้วย
องค์แปดประการ เป็นสมณสารูป, ในที่นั้น ข้าพเจ้าไม่ต้องกระทำให้เป็นข้อที่
จะต้องปกปิด ไม่ต้องกระทำให้เป็นข้อลี้ลับซึ่งจะต้องซ่อนเร้น, เมื่อความหารือ
กันด้วยความประสงค์อันดีมีอยู่ ข้าพเจ้าก็คงจะฟังความลับได้. ความข้อนั้น
ควรพิจารณาเห็นโดยข้ออุปมา. เหมือนอะไรเล่า ? เหมือนอย่างมหาปฐพี เมื่อ
การจะต้องผั่งมีอยู่ ก็ควรเป็นที่ผั่ง ฉันใด, ข้อนี้ก็ฉันนั้น."
เสด็จเข้าไปสู่ป่าอันสงัดกับพระอาจารย์แล้ว ตรัสว่า "พระผู้เป็นเจ้า
บุรุษในโลกผู้จะใคร่หารือการณ์ ควรเว้นสถานแปดตำบลเสีย บุรุษผู้เป็นวิญญู
ขน ไม่หารือข้อความในสถานเหล่านั้น, สถานแปดตำบลนั้นเป็นไฉน สถาน
แปดตำบลนั้น คือ :
๑. สถานที่ไม่สม่ำเสมอ ควรเว้นเสีย
๒. สถานที่มีภัย ควรเว้นเสีย
๓. สถานที่ลมพัดจัด ควรเว้นเสีย
๔. สถานที่มีของกำบัง ควรเว้นเสีย
๕. เทวสถาน ควรเว้นเสีย
๖. ทางเปลี่ยว ควรเว้นเสีย
๗. ตะพานที่เดินข้าม ควรเว้นเสีย
๘. ท่าน้ำ ควรเว้นเสีย
สถานแปดตำบลนี้ควรเว้นเสีย."
พระเถรเจ้าทูลถามว่า "มีโทษอะไร ในสถานแปดตำบลนั้น ขอถวาย
พระพร.
ร. "ข้อความที่หารือกันในสถานที่ไม่สม่ำเสมอ ย่อมแพร่งพรายเซ็งแซ่
อื้อฉาวไม่มีดี; ในสถานที่มีภัย ใจย่อมหวาด คนหวาด พิจารณาเห็นความได้
ถูกต้องหามิได้: ในสถานที่ลมพัดจัดนัก เสียงฟังไม่ถนัด: ในสถานที่มีของ
กำบัง คนทั้งหลายไปแอบฟังความได้: ข้อความที่หารือกันในเทวสถาน กาย
เป็นหนักไป: ข้อความที่หารือกันในทางเปลี่ยวเป็นของเสียเปล่า: ที่ตะพาน
เขย่าอยู่เพราะฝีเท้า; ที่ท่าน้ำ ข่าวย่อมปรากฏทั่วไป."
พระราชาตรัสต่อไปว่า "บุคคลแปดจำพวกเหล่านี้ ใครหารือด้วยย่อม
กระทำข้อความที่หารือด้วยให้เสีย, บุคคลแปดจำพวกนั้นเป็นไฉน ?
๑. คนราคจริต
๒. คนโทสจริต
๓. คนโมหจริต
๔. คนมานจริต
๕. คนโลภ
๖. คนเกียจคร้าน
๗. คนมีความคิดแต่อย่างเดียว
๘. คนพาล
บุคคลแปดจำพวกเหล่านี้ ย่อมกระทำข้อความที่หารือด้วยให้เสีย."
ถ. "เขามีโทษอะไร."
ร. "คนราคจริต ย่อมกระทำข้อความที่หารือด้วยให้เสีย ด้วยอำนาจ
ราคะ, คนโทสจริต ด้วยอำนาจโทสะ, คนโมหจริต ด้วยอำนาจโมหะ, คนมาน
จริต ด้วยอำนาจมานะ, คนโลภ ด้วยอำนาจความโลภ, คนเกียจค้าน ด้วย
อำนาจความเกียจคร้าน, คนมีความคิดแต่อย่างเดียวด้วยอำนาจความเป็น
คนมีความคิดแต่อย่างเดียว, คนพาล ด้วยอำนาจความเป็นพาล."
พระราชาตรัสต่อไปว่า "บุคคลเก้าจำพวกเหล่านี้ ย่อมเปิดความลับที่
หารือด้วย หาปิดไว้ไม่, บุคคลเก้าจำพวกนั้นเป็นไฉน?
๑. คนราคจริต
๒. คนโทสจริต
๓. คนโมหจริต
๔. คนขลาด
๕. คนหนักในอามิส
๖. สตรี
๗. คนขี้เมา
๘. บัณเฑาะก์
๙. เด็กเล็ก ๆ."
ถ. "เขามีโทษอะไร."
ร. "คนราคจริต ย่อมเปิดความลับที่หารือด้วย ไม่ปิดไว้ ด้วยอำนาจ
ราคะ, คนโทสจริต ด้วยอำนาจโทสะ, คนโมหจริต ด้วยอำนาจโมหะ, คนขลาด
ด้วยอำนาจความกลัว, คนหนักในอามิส ด้วยเหตุแห่งอามิส, สตรี ด้วยความ
เป็นคนอ่อนความคิด, คนขี้เมา ด้วยความเป็นคนโลเลในสุรา, บัณเฑาะก์
ด้วยความเป็นคนไม่อยู่ในฝ่ายอันเดียว, เด็กเล็ก ๆ ด้วยความเป็นผู้มักคลอน
แคลน."



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ



ขอกราบเรียนเชิญ พี่น้องญาติธรรมผู้มีจิตศรัทธาในการสร้างบุญบารมี
ร่วมทำบุญหล่อพระพุทธรูปทองคำ กับหลวงปู่ทองโต เทพโลกอุดร
สำนักสงฆ์ถ้ำน้ำตาดสุวรรณกัลยาธรรม ต.ทับถุง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี

กำหนดการ

วันที่ 11 สิงหาคม 2555
06.00 น. รวมทองคำลงเตาเผา
15.19 น. ร่วมเทหลอมพระพุทธรูปทองคำ 9 องค์

วันที่ 12 สิงหาคม 2555
ร่วมทุบบล็อกพระพุทธรูปทองคำ 9 องค์ (ประสูติ)

เชิญร่วมทำบุญโดยการโอนเงินมาที่

ธ.กสิกรไทย สาขาเดอะมอลล์ นครราชสีมา
ชื่อบัญชี นางสาวรัติยา คงเนียม
เลขที่บัญชี 433-2-45841-3
กรุณาแจ้งรายนามผู้ร่วมทำบุญมาที่
rattiya_ku@hotmail.com หรือ
แจ้งทางโทรศัพท์ที่หมายเลข 090-3748398
ภายในวันที่ 3 สิงหาคม 2555 เพื่อรวบรวมยอดเงินนำส่งหลวงปู่ต่อไป


ขอเชิญร่วมบุญ "หล่อหลวงพ่อเพชรและรูปเหมือนองค์หลวงปู่จันทา ถาวโร 4 สค.55 นี้
ณ วัดป่าเขาน้อย
อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร

กำหนดการ
วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2555
เวลา 18.00 น. สวดพุทธมนต์เย็น

วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555
เวลา 07.00 น. พระสงฆ์บิณฑบาต
เวลา 08.00 น. ฉันภัตตาหาร
เวลา 14.39 น. เริ่มเททองรูปหล่อหลวงพ่อเพชร และรูปหล่อเหมือนองค์หลวงปู่จันทา ถาวโร ทางวัดแจกพระผง
หลวงปู่จันทา ถาวโร ที่มีส่วนผสมอังคารธาตุองค์หลวงปู่จันทา ถาวโร จึงเรียนมาเพื่อศิษยานุศิษย์ทราบ




หลวงพ่อหนูอินทร์ กาฬสินธุ์ สร้างพระมหามณฑป
________________________________________
โทร.๐๘-๑๒๖๓-๖๗๗๘



ขอเชิญร่วมสร้างสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรฺหมฺรํงสี) องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
081-334-6375


ร่วมบุญคืนชีวิตให้วัดป่าปิยมิตรชื่อวัดป่า แต่อยู่แถวๆ สัตหีบนี่เอง
นายณัฐภูเบศร์ เมธีรัตน์วราการ
เลขที่บัญชี 796-216387-3
สาขาย่อยนิคมอุตรสาหกรรมอมตะนคร
ออมทรัพย์ ไทยพาณิชย์</O >
<O

เชิญร่วมบุญหล่อพระประทานพร
________________________________________
โทร 089-679-5227<O



เชิญท่านทานบดีทุกๆท่านร่วมสร้างกุฏิสงฆ์ของวัดปากเหมือง อ.สารภี
จ.เชียงใหม่ ซึ่งสร้างจำนวน 7 ห้อง บนเนื้อที่ 200 ตารางเมตรซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงก่อสร้างมุงหลังคา จึงเรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธาสร้างบุญกุศลในโอกาสนี้ ตามรายการเจ้าภาพ
1.เจ้าภาพกระเบื่องมุงหลังคา ตารางเมตรละ 500 บาท
2.เจ้าภาพกระเบื้องมุงหลัง แผ่นละ 100 บาท
3.เจ้าภาพระบบไฟฟ้า แสงสว่าง จุดละ 3,000 บาท
4.เจ้าภาพห้องน้ำ สุขา ปลดทุกข์ ห้องละ 10,000 บาท
หรือท่านจะร่วมบริจาคตามกำลังศรัทธา
ร่วมบุญได้ที่ วัดปากเหมือง ต.ขัวมุง อ.สารภี เชียงใหม่
โทร.081-9981552


เชิญทำบุญกระเบื้องมุงหลังคาศาลาการเปรียญ วัดตานีนรสโมสร จ.ปัตตานี


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพจัดซื้อโครงเหล็กหลังคาไม้ตะเคียน 108 ต้น
0870817791


ขอเชิญร่วมบุญสร้างถนน ณ สำนักสงฆ์พระธาตุอรัญวาส(ดอยวังเฮือ) อ.เมือง จ.ลำปาง
โทร. 081-821-6583


เรียนเชิญ ร่วมบุญ สร้างองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ์ ทดแทนคุณ ทั้งแผ่นดิน
087 830 5418


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระหลวงพ่อโต (องค์ขาว) ที่บ้านป่าจี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน

ร่วมวางศิลาฤกษ์ และเททองหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อคง ณ วัดคงสวัสดิ์วัฒนาราม จ.ชัยนาท
โทร. 089-8563135


เชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคสมทบทุนสร้างเจดีย์มหาบูรพาจารย์
http://www.watkoksaard.com/index.php/20 ... 1-08-52-29


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่าสร้างพระเจดีย์เทวธรรมและจัดซื้อที่ดิน 28 กค. 55
หรือสามารถส่งปัจจัยร่วมบุญได้ที่
บัญชีธนาคารกสิกรไทยสาขาร้อยเอ็ด
ชื่อบัญชี : กองทุนสร้างพระเจดีย์เทวธรรม
หมายเลขบัญชี : 329-249-5829
<O </O


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคี

วัดแสงแก้วโพธิญาณ ประจำปี ๒๕๕๕
เพื่อสมทบทุนสร้างหอพระแก้วไม้สัก กุฏิกัมฐาน
ปรับแต่งภูมิทัศน์ รอบรูปเหมือนครูบาศรีวิชัยองค์ใหญ่ที่สุดในโลก
ณ วัดแสงแก้วโพธิญาณ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
ระหว่างวันที่ ๓ – ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ตั้งแต่เวลา ๐๗๐๐ เป็นต้นไป



ร่วมทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา
โทร. 034-324-544

เปลี่ยนของเหลือใช้ที่ท่านมีสร้างบุญเพื่อการศึกษาแก่เด็กกันเถอะ
089-8523498


ผ้าป่าโครงการบูรณะกุฏิ 9 วัด (29 กรกฎาคม 55)
โทร. 081-8696068


เปิดอบรม หลักสูตรครูสมาธิ รุ่นที่ 31 โดย พระอาจารย์วิริยังค์ สิรินธฺโร
085-1452590


ร่วมสร้างบุญเป็นธรรมทานรับวัตถุมงคลเป็นที่ระลึกแห่งการสร้างธรรมทานครั้งนี้
________________________________________
โทร. 089-8523498



ด่วน.วอนผู้ใจบุญเป็นเจ้าภาพหนังสือเรียนธรรมศึกษา
โทร 0862602702


เทศกาลวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ขอเชิญปฏิบัติธรรม เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ที่ วัดบางพาน อ. เมือง จ.สิงห์บุรี ( ตามเขตปกครองสงฆ์ ขึ้นกับ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ) ffice ffice" /><O ></O >
<O ></O >
ดูรายละเอียดได้ที่ http://watbangphan.org โทร 086 - 3077955<O ></O >


เข้าพรรษานี้ เชิญ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ฉลองพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ณ วิทยาลัยทองสุข เขต ทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ทุกวันเสาร์ เวลา 18.00 -20.00 น.
สนใจติดต่อ 081-936-1106



ขอเชิญร่วมทำบุญแห่เทียนเข้าพรรษา วันที่ 3 ส.ค.55 เวลา 06.00 น. วัดพิชัยญาติการาม คลองสาน
02-861-4319



ขอความเมตตาอนุเคราะห์ช่วยเหลือร่วมทำบุญถวายค่าน้ำค่าไฟค่าภัตตาหารแก่วัดขาดแคลน
โทร.089-9555-870


ร่วมกันช่วยเหลือสนัข
http://youtu.be/mRiMr1DGu98


ขอเชิญร่วมบุญมหากุศลครั้งใหญ่ปล่อยสัตว์น้ำ(ที่จะถูกฆ่า) 1 ตัน กลับคืนสู่ธรรมชาติ
โทร 088-4972263


ผ้าป่าสามัคคีเพื่อการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนตาบอด
ในวันที่ 9 สิงหาคม 2555
ณ วัดชากลูกหญ้า ต ห้วยโปร่ง อ เมือง จ ระยอง หรือท่านสามารถร่วมกุศลได้โดยการโอนเงินเข้าบัญชี ดังนี้

ชื่อบัญชี
สมาคมส่งเสริมและพัีฒนาคุณภาพชีวิตคนตาบอดไทย
ธนาคาร กรุงไทย ออมทรัพย์
สาขา ย่อยเซ็นจูรี่
เลขที่บัญชี 481-0-12902-2


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO