นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 28 เม.ย. 2024 11:36 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 25 ม.ค. 2012 4:40 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4542
จากเรื่องที่ผู้กล่าวถึง อดีตชาตินานมาแล้ว ของท่านองคุลิมาลที่เกิดเป็น พระราชา

ชอบกินเนื้อ นาม ว่า โปริสารท และท่านก็ฆ่าคน กินเนื้อมนุษย์ ผู้ถามก็สงสัยว่า ทำไม

ไม่ตกนรก เพราะเกิดมา เป็นท่านพระองคุลิมาลในสมัยพระพุทธเจ้าอุบัติ ซึ่งในความ

เป็นจริง ชาดกที่กล่าวมานั้น ตอนที่ท่านองคุลิมาล เป็นพระยาโปริสารท ฆ่ามนุษย์กิน

เนื้อมนุษย์นั้น ในความเป็นจริง ไม่ใช่ เป็นชาติที่แล้ว ที่ต่อจาก การเกิดเป็นท่านพระอง

คุลิมาล ทันทีนะครับ เพราะแสดงระยะเวลาอยู่ในช่วงที่ว่างพระศาสนา ซึ่ง ก่อนจะถึง

การจะมาเกิดในสมัยพุทธกาล เป็นท่านพระองคุลิมาลนั้น หลังจาก พระยาโปริสารท

ที่เป็นอดีตชาติของท่านองคุลิมาล สิ้นชีวิตลง ก็ต้องเกิดอีกนับชาติไม่ถ้วน เพราะ เป็น

ระยะเวลาอีกนานมาก กว่าจะถึง สมัยพุทธกาล และจะได้เกิดเป็นท่านองคุลิมาลครับ

เพราะฉะนั้น หลังจากชาติที่เป็นพระยาโปริสารท ท่านก็เกิดอีกนับชาติไม่ถ้วน วนเวียน

ไป สุคติภูมิ และ ก็อาจไปทุคติภูมิ มี อบาย และตกนรกได้ เป็นธรรมดา เพราะยังไม่ใช่

พระโสดาบัน ก็ยังไม่พ้นจากการเกิดในอบาย เพราะฉะนั้น กรรมชั่วที่ทำไว้ในอดีต ก็

สามารถให้ผลได้ ในระหว่างที่เกิด หลังจากการสิ้นชีวิตของ พระยาโปริสารทแล้วครับ

ไม่ใช่ว่า พอสิ้นชีวิต จากพระยาโปริสารทแล้ว ชาติต่อไปจะเป็นท่านองคุลิมาลเลยครับ

ดังนั้น ระหว่างชาติที่ท่านต้องเกิดอีกนับไม่ถ้วน ก่อนจะเป็นท่านพะองคุลิมาล จึงไป

อบาย มีนรก เป็นต้นได้ เป็นธรรมดาครับ เมื่อ อกุศลกรรมให้ผล มีการฆ่าสัตว์ เป็นต้น

เพราะยังไม่ใช่พระโสดาบัน ที่จะพ้นจากการเกิดในอบายภูมินั่นเอง ส่วนการทำความดี

ที่เคยทำไว้ เมื่อกรรมนั้นให้ผล ก็ทำให้เกิดในสุคติ ตามสมควรแก่กรรมครับ เพราะฉะนั้น

การเกิดใหม่ เปรียบเหมือนท่อนไม้ ที่โยนไปในอากาศ ไม่แน่เลยที่จะด้านหัว หรือ ด้าน

หาง หรือตรงกลางจะมากระทบพื้น เพราะ มีการกระทำทั้งที่เป็นกุศลกรรม และ อกุศล

กรรม ก็สามารถให้ผลได้ ทั้งสองอย่าง คติ(การเกิด)ของผู้ที่เป็นปุถุชนจึงไม่แน่นอนครับ
พระวินัยบัญญัติทุกสิกขาบท พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติด้วยพระองค์เอง

เพื่อให้พระภิกษุ ได้ศึกษาให้เข้าใจ เพื่อจะได้สำรวมระวัง ไม่ล่วงละเมิดในส่วนที่

พระองค์ทรงห้าม และน้อมประพฤติปฏิบัติในส่วนที่พระองค์ทรงอนุญาต ตามสมควร

แก่เพศบรรพชิตอันเป็นเพศที่จะต้องขัดเกลากิเลสเป็นอย่างยิ่ง เนื้อที่ทรงห้ามสำหรับ

พระภิกษุมี ๑๐ ชนิด คือ เนื้อมนุษย์ เนื้อช้าง เนื้อม้า เนื้อสุนัข เนื้อราชสีห์

เนื้องู เนื้อหมี เนื้อเสือโคร่ง เนื้อเสือดาว เนื้อเสือเหลือง ซึ่งมีเหตุผลในการ

ทรงบัญญัติไว้ด้วย


พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ หน้าที่ 97

พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อมนุษย์

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บรรดาคนที่มีศรัทธาเลื่อมใสมีอยู่ เขาสละเนื้อ

ของเขาถวายก็ได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อมนุษย์ รูปใดฉัน

ต้องอาบัติถุลลัจจัย อนึ่ง ภิกษุยังมิได้พิจารณา ไม่พึงฉันเนื้อ รูปใดฉัน

ต้องอาบัติทุกกฏ.

พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อช้าง

[ ๖๐] ก็โดยสมัยนั้นแล ช้างหลวงล้มลงหลายเชือก สมัยอัตคัตอาหาร

ประชาชนพากันบริโภคเนื้อช้าง และถวายแก่พวกภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต ภิกษุ

ทั้งหลายฉันเนื้อช้าง ประชาชนจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระ-

สมณะเชื้อสายศากยบุตรจึงได้ฉันเนื้อช้างเล่า เพราะช้างเป็นราชพาหนะ ถ้า

พระเจ้าอยู่หัวทรงทราบ คงไม่ทรงเลื่อมใสต่อพระสมณะเหล่านั้นเป็นแน่ ภิกษุ

ทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าๆ ทรงบัญญัติห้ามภิกษุทั้ง

หลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อช้าง รูปใดฉัน ต้องอาบัติ

ทุกกฏ.

พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อม้า

สมัยต่อมา ม้าหลวงตายมาก สมัยนั้นอัตคัดอาหาร ประชาชนพากัน

บริโภคเนื้อม้า และถวายแก่ภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต ภิกษุทั้งหลายฉันเนื้อม้า

ประชาชนจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระสมณะเชื้อสายศากย

บุตรจึงได้ฉันเนื้อม้าเล่า เพราะม้าเป็นราชพาหนะ ถ้าพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบ

คงไม่ทรงเลื่อมใสต่อพระสมณะเหล่านั้นเป็นแน่ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้น

แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ทรงบัญญัติห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อม้า รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.

พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อสุนัข

สมัยต่อมา ถึงคราวอัตคัดอาหาร ประชาชนพากันบริโภคเนื้อสุนัข

และถวายแก่พวกภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต ภิกษุทั้งหลายฉันเนื้อสุนัข ประชาชน

จึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระสมณะเชื้อสายศากยบุตรจึงได้

ฉันเนื้อสุนัขเล่า เพราะสุนัขเป็นสัตว์น่าเกลียด น่าชัง ภิกษุทั้งหลายกราบทูล

เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ทรงบัญญัติห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อน

ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อสุนัข รูปใดฉัน ต้องอาบัติ ทุกกฏ.

พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อราชสีห์

สมัยต่อมา พวกพรานฆ่าราชสีห์แล้วบริโภคเนื้อราชสีห์ และถวายแก่

พวกภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต พวกภิกษุฉันเนื้อราสีห์แล้วอยู่ในป่า ฝูงราชสีห์ฆ่า

พวกภิกษุเสีย เพราะได้กลิ่นเนื้อราชสีห์ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่

พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ทรงบัญญัติห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อราชสีห์ รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.

พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้องู

สมัยต่อมา ถึงคราวอัตคัดอาหาร ประชาชนพากันบริโภคเนื้องู และ

ถวายแก่พวกภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต ภิกษุทั้งหลายฉันเนื้องู ประชาชนจึงเพ่ง

โทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระสมณะเชื้อสายศากยบุตรจึงได้ฉันเนื้องู

เล่า เพราะงูเป็นสัตว์น่าเกลียดน่าชัง แม้พระยานาคชื่อสุปัสสะก็เข้าไปใน

พุทธสำนัก ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง

ได้กราบทูลคำนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า พระพุทธเจ้าข้า บรรดานาคที่ไม่มี

ศรัทธา ไม่เลื่อมใสมีอยู่ มันคงเบียดเบียนพวกภิกษุจำนวนน้อยบ้าง ขอประ-

ทานพระวโรกาส พระพุทธเจ้าข้า ขอพระคุณเจ้าทั้งหลายโปรดกรุณาอยู่ฉัน

เนื้องู ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงชี้แจงให้พระยานาคสุปัสสะเห็นแจ้ง

สมาทาน อาจหาญ ร่าเริงด้วยธรรมีกถา ครั้นพระยานาคสุปัสสะอันพระผู้มี

พระภาคเจ้าทรงให้เห็นแจ้งสมาทาน อาจหาญ ร่าเริงด้วยธรรมีกถาแล้วถวาย

บังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าทำประทักษิณกลับไป.

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็น

เค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุ

ทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้องู รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.

พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อราชสีห์

สมัยต่อมา พวกพรานฆ่าราชสีห์แล้วบริโภคเนื้อราชสีห์ และถวายแก่

พวกภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต พวกภิกษุฉันเนื้อราสีห์แล้วอยู่ในป่า ฝูงราชสีห์ฆ่า

พวกภิกษุเสีย เพราะได้กลิ่นเนื้อราชสีห์ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่

พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ทรงบัญญัติห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อราชสีห์ รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.

พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อเสือโคร่ง

สมัยต่อมา พวกพรานฆ่าเสือโคร่งแล้วบริโภคเนื้อเสือโคร่งและถวาย

แก่พวกภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต พวกภิกษุฉันเนื้อเสือโคร่งแล้วอยู่ในป่า เหล่าเสือ

โคร่งฆ่าพวกภิกษุเสียเพราะได้กลิ่นเนื้อเสือโคร่ง ภิกษุทั้งหลายก็กราบทูลเรื่องนั้น

แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ทรงบัญญัติห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อเสือโคร่ง รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.

พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อเสือเหลือง

สมัยต่อมา พวกพรานฆ่าเสือเหลือง แล้วบริโภคเนื้อเสือเหลืองและ

ถวายแก่พวกภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต พวกภิกษุฉันเนื้อเสือเหลืองแล้วอยู่ในป่า

เหล่าเสือเหลืองฆ่าพวกภิกษุเสีย เพราะได้กลิ่นเนื้อเสือเหลือง ภิกษุทั้งหลาย

กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ทรงบัญญัติห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดู

ก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉัน เนื้อเสือเหลือง รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.

พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อหมี

สมัยต่อมา พวกพรานฆ่าหมีแล้วบริโภคเนื้อหมี และถวายแก่พวก

ภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต พวกภิกษุฉันเนื้อหมีแล้วอยู่ในป่า เหล่าหมีฆ่าพวกภิกษุ

เสียเพราะได้กลิ่นเนื้อหมี ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าๆ

ทรงบัญญัติห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อหมี

รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.

พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อเสือดาว

สมัยต่อมา พวกพรานฆ่าเสือดาวแล้วบริโภคเนื้อเสือดาว และถวาย

แก่พวกภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต พวกภิกษุฉันเนื้อเสือดาวแล้วอยู่ในป่า เหล่า

เสือดาวฆ่าพวกภิกษุเสีย เพราะได้กลิ่นเนื้อเสือดาว ภิกษุทั้งหลายกราบทูล

เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ทรงบัญญัติห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุ

ทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อเสือดาว รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ





เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO