นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 27 เม.ย. 2024 10:11 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 20 ม.ค. 2012 5:22 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4541
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ประเคน คือ อะไร? ประเคน คือ มอบถวายแก่พระภิกษุ

ประวัติความเป็นมาของการประเคน คือ พระภิกษุรูปหนึ่งเป็นผู้มีปกติประพฤติถือเอา

ทุกอย่างเหมือนผ้าบังสุกุล(ผ้าเปื้อนฝุ่น) คือ ไม่มีความประสงค์ที่จะรับอาหารบิณฑบาต

ที่ชาวบ้านถวาย มีแต่แสวงหาอาหารเครื่่องเซ่นเจ้าที่ชาวบ้านเอาไปวางไว้ที่ป้าช้า

บ้าง ที่โคนต้นไม้ บ้าง ที่ธรณีประตูบ้าง มาฉันเอง เหมือนกับการแสวงหาผ้า

บังสุกุล ชาวบ้านเห็นเข้า ก็กล่าวติเตียน พระภิกษุทั้งหลายได้ยินคำิติเตียนนั้น

จึงกราบทูลให้พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบ พระองค์ทรงตรัสถามความประพฤติ

เป็นไปดังกล่าวนั้น กับภิกษุรูปนั้น ทรงติเตียนว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม ไม่

เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสแห่งชนผู้ยังไม่เลื่อมใส เป็นต้น จึงทรงบัญญัติเป็นสิกขาบท

ว่า ภิกษุใด กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ล่วงช่องปาก เป็นปาจิตตีย์ [ต่อมาทรงบัญญัติ

เพิ่มเติม ว่า ภิกษุใด กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ล่วงช่องปาก เป็นปาจิตตีย์ ยกเ้ว้นน้ำ

และไม้สีฟัน] นี้คือ ประวัติความเป็นมาของการบัญบัติสกขาบทไม่ให้พระภิกษุฉัน

อาหารที่ยังไม่ได้รับประเคนจากชาวบ้าน

สิกขาบทดังกล่าวนี้ เป็นสิกขาบทที่เป็นไปเพื่อการขัดเกลา เพื่อสำรวมระวังให้ไม่

เป็นผู้หยิบฉวยของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้้องได้รับจากมือของผู้อื่นซึ่งเป็นผู้มอบ

ให้ ซึ่งก็คือ การประเคน สำหรับคฤหัสถ์ถ้าได้เข้าใจถึงการประเคนอย่างถูกต้อง

ย่อมเป็นการดีสำหรับคฤหัสถ์ผู้ถวายที่จะกระทำการประเคนได้อย่างถูกต้อง ซึ่งมีพื้น

ฐานมาจากการได้ศึกษาพระวินัยให้เข้าใจอย่างถูกต้องนั่นเอง

ลักษณะของการประเคน ประกอบด้วยองค์ ๕ คือ โดยสรุปจาก

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ - หน้าที่ ๕๖๒

-เป็นวัตถุสิ่งของที่บุรุษผู้มีกำลังปานกลางพอจะยกได้

-หัตถบาสปรากฏ คือ เขาอยู่ในหัตถบาส(บ่วงมือ) ซึ่งเป็นระยะที่ใกล้ อันแสดงถึง

การให้ที่ถูกต้อง คือนับจากด้านหลังของพระภกษุและด้านหน้าของผู้ประเคน ประมาณ

๒ ศอกกับอีกหนึ่งคืบ ทั้งผู้ให้และผู้รับต้องอยู่ในหัตถบาส

-เขาน้อมเข้ามาถวาย

-มีบุคคลผู้ถวาย

-พระภิกษุรับประเคนสิ่งของนั้น ด้วยกาย หรือ ด้วยของที่เนื่องด้วยกาย

การประเคน ย่อมใช้ได้ ด้วยองค์ ๕ ประการ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว

ประเด็นที่จะได้ศึกษาพิจารณาเพิ่มเติม คือ

๑. การนำภาชนะมาต่อกันแล้วยกประเคนเพียงชามเดียวได้หรือไม่

คำตอบ คือ ไม่ได้ การประเคนอย่างนี้ไม่ถูกต้อง ต้องยกถวายทีละชาม แต่ถ้า

วางอาหารหลาย ๆ ชามลงในถาด แล้วยกถวายทั้งถาด อย่างนี้ถูกต้อง

๒. ถ้าถวายอาหารที่อยู่บนโต๊ะจีน ด้วยการประเคนทั้งโต๊ะเลย ได้หรือไม่?

คำตอบ คือ ไม่ได้ การกระทำอย่างนี้ ไม่ถูกต้อง เพราะโต๊ะจีนที่เต็มไปด้วยอาหาร

ไม่ใช่ิสิ่งของที่บุรุษผู้มีกำลังปานกลางพอจะยกได้

๓. ถ้าถวายอาหารให้กับพระภิกษุรูปหนึ่ง แล้วพระภิกษุรูปนั้น ยกอาหารส่งต่อให้

พระภิกษุรูปต่อ ๆ ไป ได้หรือไม่

คำตอบ คือ ได้ เพราะมีการประเคนอย่างถูกต้องแล้ว ไม่ได้มีการหยิบฉวยโดย

ไม่ได้มีผู้ถวาย, มีพระภิกษุผู้รับประเคนเพียงรูปเดียว ก็สามารถแบ่งให้รูปอื่น ๆ ฉันได้

จะฉันกี่รูปก็ได้

๔. เมื่อประเคนอาหารแก่พระภิกษุแล้ว คฤหัสถ์ เข้าไปจัดให้เรียบร้อย จะขาดการ

ประเคนหรือไม่ เพราะหลายคนเข้าใจว่าเมื่อประเคนของแก่พระภิกษุแล้ว คฤหัสถ์จะ

จับต้องไม่ได้



พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ - หน้าที่ ๕๕๕

โภชนวรรค สิกขาบทที่ ๑๐

เรื่องภิกษุรูปหนึ่ง

[๕๒๒] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธ เจ้าประทับอยู่ ณ กูฏาคาร

ศาลาป่ามหาวัน เขตพระนครเวสาลี ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่ง เป็นผู้มีปกติถือ

ของทุกอย่างเป็นบังสกุลที่อยู่ในสุสานประเทศ(ป่าช้า) ท่านไม่ปรารถนาจะรับ

อาหารที่ประชาชนถวาย เที่ยวถือเอาอาหารเครื่องเซ่นเจ้าตามป่าช้าบ้าง

ตามโคนไม้บ้าง ตามธรณีประตูบ้าง มาฉันเอง ประชาชนต่างก็เพ่งโทษติเตียน

โพนทะนาว่า ไฉน ภิกษุนี้จึงได้ถือเอาอาหารเครื่องเช่นเจ้า ของพวกเราไปฉัน

เองเล่า ภิกษุนี้อ้วนล่ำ บางทีจะฉันเนื้อมนุษย์.

ภิกษุทั้งหลายได้ยินประชาชนพวกนั้น เพ่งโทษติเตียนโพนทะนาอยู่

บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย . . . ต่างก็เพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ไฉนภิกษุจึงได้

กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ ล่วงช่องปากเล่า . . . แล้ว กราบทูลเรื่องนั้นแด่

พระผู้มีพระภาคเจ้า.

ทรงสอบถาม

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุรูปนั้นว่า ดูก่อนภิกษุ ข่าวว่า

เธอกลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ ล่วงช่องปาก จริงหรือ.

ภิกษุนั้น ทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท

พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า ทรงติเตียนว่า ดูก่อนโมฆบุรุษ ไฉน เธอจึง

ได้กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ ล่วงช่องปากเล่า การกระทำของเธอนั่น ไม่

เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่ง

ของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว. . .

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้

ว่าดังนี้:-

พระบัญญัติ

อนึ่ง ภิกษุใด กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ล่วงช่องปาก เป็นปาจิตตีย์.

ก็สิกขาบทนี้ ย่อมเป็นอันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติแล้วแก่ภิกษุ

ทั้งหลาย ด้วยประการฉะนี้.

เรื่องภิกษุรูปหนึ่ง จบ.

ทรงอนุญาตน้ำและไม้ชำระฟัน

[๕๒๓] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุพากันรังเกียจน้ำและไม้ชำระฟัน

ภิกษุทั้งหลายได้กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ทรงอนุญาตว่า

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ถือเอาน้ำ และไม้ชำระฟันเองแล้วบริโภคได้.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนั้น

ว่าดังนี้:-
พระอนุบัญญัติ
อนึ่ง ภิกษุใด กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ ล่วงช่องปาก

เว้นไว้แต่น้ำและไม้ชำระฟัน เป็นปาจิตตีย์.

เรื่องทรงอนุญาตน้ำและไม้ชำระฟัน จบ.



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ



ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างศาลาการเปรียญ
โทรศัพท์ 083-959-9820
<O </O


ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญหล่อระฆังและสร้างหอระฆัง
โทร. 089-8523498


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดกประยุกต์ ๓ ธรรมาสน์
โทร.081-0027915


กำหนดการงานแสดงธรรม ต้อนรับปีใหม่และตรุษจีน
วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 55 ณ.หอประชุมทหารอากาศชั้นประทวน
ด้านหลัง ร.พ.ภูมิพล ถ.พหลโยธิน ติดต่อลงทะเบียน 02-9713718


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 5 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO