นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 28 เม.ย. 2024 12:25 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 18 ม.ค. 2012 6:07 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
Aj JAYASARO.jpg


โดย พระอาจารย์ชยสาโร

คำสอนของพระพุทธศาสนาเราอาจจะแบ่งออกได้เป็นสองส่วน คือ

ส่วนที่พิสูจน์ได้ง่าย และ ส่วนที่พิสูจน์ได้ยาก คือบางคำสอนฟังหรืออ่านแล้วประทับใจรู้สึกว่าใช่ได้ทันที เช่นเรื่องโทษของกิเลส เรื่องความทุกข์ที่เกิดจากการละเมิดศีล เรื่องความสุขที่เกิดจากการให้ทานอย่างไม่หวังสิ่งตอบแทน เป็นต้น แต่บางคำสอนฟังยาก เข้าใจยาก และถึงจะพิสูจน์ได้จิตใจเราคงยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะพิสูจน์ เช่น เรื่องภาวะจิตในฌาน และเรื่องข้ามภพข้ามชาติ

ปัญหาก็คือ เราควรจะวางใจอย่างไรต่อคำสอนต่าง ๆ เช่น เรื่องภพชาติที่เรายังไม่อาจจะพิสูจน์ได้ บางคนอาจจะไม่สนใจไปเลย โดยถือว่า เรื่องลี้ลับไม่ต้องสนใจก็ได้ แต่อาตมาเห็นว่าสิ่งใดอยู่ในพระสูตร สิ่งนั้นต้องนับอยู่ในใบไม้ในกำมือของพระพุทธองค์ พูดง่าย ๆ คือ ถ้าพระพุทธเจ้ากล่าวถึงเรื่องไหน แสดงว่าพระพุทธองค์ทรงกลั่นกรองและเลือกแล้วว่าเหมาะสมที่จะเปิดเผยให้มนุษย์ทราบ ซึ่งก็ปรากฏว่าพระองค์ทรงสอนเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร และเรื่องภพชาติต่าง ๆ อยู่บ่อย ๆ อาตมาจึงสรุปว่า พระพุทธองค์ทรงต้องการให้เราได้รับรู้เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่พระองค์ทรงเห็นว่าพวกเราต้องสนใจศึกษา เพราะเป็นประโยชน์ ...จะขออุปมาดังนี้

เหมือนเรากำลังเดินทางในประเทศที่เราไม่เคยไปมาก่อน มีแผนที่ที่ผู้หวังดีฝากมา ในระหว่างการเดินทางเราดูแผนที่เป็นระยะๆ เทียบเคียงกับสิ่งที่เราเห็นรอบตัว ซ้ายมือมีหมู่บ้านมีป่าไม้ ดูในแผนที่ก็มีหมู่บ้านและป่าไม้ ข้างขวามีแม่น้ำมีเนิน มองไปก็ใช่อีก เดินไปดูไป รู้สึกว่าแผนที่นี้ตรงกับความจริงดีมาก ไม่มีผิดเลย

บัดนี้เรานั่งพัก กางแผนที่เอาไว้ ปรากฏว่าในแผนที่บอกว่า ข้างหน้ามีภูเขาสูงถึง ๕,๐๐๐ ฟุต เรางง ใช่หรือเปล่า คือเรามาจากประเทศที่ไม่มีภูเขา มีแต่ที่ราบ ไม่เคยเห็นภูเขาสูงเกินร้อยฟุตในชีวิตแม้แต่ครั้งเดียว สามัญสำนึกจึงบอกว่า “เป็นไปไม่ได้หรอก” เป็นเรื่องงมงาย เชื่อได้อย่างไร มันเหลือเชื่อ อยู่ในโลกมาหลายปีก็ยังไม่เคยเห็น สูงแค่ ๕๐๐ ฟุตก็ยังไม่เคยเห็น ไม่ต้องพูดถึง ๕,๐๐๐ ฟุตหรอก

ใจหนึ่งมีสามัญสำนึกบอกว่า “แผนที่คงผิด” แต่อีกใจหนึ่งค้านว่า “จะเป็นไปได้หรือที่แผนที่ในส่วนที่ผ่านมาถูกต้องแม่นยำหมด ขณะที่แผนที่อีกส่วนหนึ่งผิดหมด” ทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในใจ แต่สรุปว่ามันน่าจะมีโอกาสเป็นจริงมากกว่า เพราะเราถือว่าความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของแผนที่น่าจะไว้ใจได้มากกว่าประสบการณ์ส่วนตัวในอดีต แต่เตือนสติตัวเองว่ายังไม่ได้พิสูจน์นะ ยังไม่รู้จริง เพียงแค่เชื่อด้วยเหตุผลไว้ก่อน สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือ เดินไปเรื่อยๆเพื่อดูกับตา อาตมาว่านี่คือท่าทีที่เหมาะสมต่อคำสอนเรื่องสวรรค์นรก เรื่องต่างๆ ที่เรายังมองไม่เห็นและยังเข้าไม่ถึง เราเชื่อไว้ก่อนดีไหม เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าในส่วนที่เราพิสูจน์ได้ปรากฏว่าถูกต้องหมดทุกข้อ

ฉะนั้นให้เราลองถามตัวเองดูว่า เป็นไปได้ไหมว่าสิ่งที่เราผ่านมาแล้วถูกหมด แต่สิ่งที่เรายังเข้าไม่ถึงนี้ผิดหมด หรือว่าผิดในเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญ

พระพุทธเจ้าไม่บังคับเรื่องความเชื่อ เรามีสิทธิที่จะเชื่อว่ามีหรือไม่มี แต่ขอให้เราใช้สติปัญญาพิจารณาให้ดีก่อนเชื่อก็แล้วกัน เหตุผลในความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดมีมากพอสมควร ​

ข้อ​หนึ่ง​ คือหลักฐานในพระไตรปิฎก ซึ่งปรากฏอยู่มากมาย​

ข้อ​ที่​สอง คือผู้ที่ระลึกชาติได้โดยธรรมชาติซึ่งส่วนมากมักเป็นเด็กอายุ ๓-๔ ขวบ Dr. Ian Stevenson ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียที่สหรัฐฯ ใช้เวลากว่า ๒๐ ปีทำการวิจัยเรื่องนี้และได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยออกมาหลายเล่ม เป็นที่ยอมรับตามหลักวิทยาศาสตร์หลักวิชาการว่า

ข้อ​ที่​สาม มีผู้ที่ระลึกชาติได้โดยการสะกดจิต และ​

ข้อ​ที่​สี่​ มีผู้ที่ระลึกชาติได้โดยการทำสมาธิถึงขั้นฌาน

สี่ข้อนี่ นับเป็นหลักฐานที่สนับสนุนความเชื่อในการเวียนว่ายตายเกิด หลักฐานในพระไตรปิฎก และหลักฐานจากผู้ที่ระลึกชาติได้ของเด็กบ้าง ของผู้ที่ถูกสะกดจิตบ้าง ของผู้ทำสมาธิขั้นสูงบ้าง แต่ก็ยังไม่ใช่การพิสูจน์เป็นแค่สิ่งที่ชวนให้เชื่อ

จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็สำคัญ เพราะมีผลต่อการกระทำ เช่น

คนที่ทำบุญเพื่อหวังว่าตายแล้วจะขึ้นสวรรค์ งมงายไหม ?
ถ้าสวรรค์ไม่มีจริงก็งมงาย ถ้าสวรรค์มีจริงก็ไม่งมงาย

เหมือนกับว่าเราสะสมเงินไว้ใช้สำหรับชีวิตช่วงหลังเกษียณ งมงายไหม ?
ถ้าถึงเวลาเกษียณแล้วยังไม่ตาย ก็ไม่งมงายใช่ไหม

แต่ถ้าชีวิตหลังเกษียณไม่มีจริงเพราะตายเสียก่อน จะเรียกว่างมงายไหม ?

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 18 ม.ค. 2012 6:13 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 22 มิ.ย. 2009 10:19 am
โพสต์: 536
ผมเชื่อครับ :shhy: :shhy:

_________________
085-8433717
https://www.facebook.com/BuMEvE


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 18 ม.ค. 2012 10:51 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
:grt: :grt: :grt:

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO